สวัสดีครับวันนี้ผมจะมารีวิวรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ ทรัคตันอาร์ถึงข้อดี/ข้อเสียครับ

        ก่อนหน้าที่ผมจะซื้อเจ้า thruxton R ผมลังเลอยู่สองยี่ห้อระหว่าง Thriumph thruxton R กับ HONDA CB1100ex ในความเป็นจริงผมชอบทาง CB1100exมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ตอนผมจะไปจองเซลล์บอกว่ารถเหลือคันเดียว(สีออกน้ำตาลไหม้ๆ)ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของผม(ผมชอบสีขาว) ถ้าจะเอาสีขาวต้องรอเพราะรถน่าจะมาพร้อมกับ CB1100rs ซึ่งตอนนั้นผมไม่ต้องการรอเพราะคิดว่าคงนานแน่ๆ (ณ ตอนเขียนวีวิว CB1100rs เข้ามาแล้ว เจ็บใจจี๊ดดดดดด) เลยกลับไปมองหาอันดับสองในใจอย่างไทรอัมพ์
        ตอนวันไปจองไทรอัมพ์ด้วยความที่ผมขี่ทัวร์ริ่งมาก่อน (มีรหัส CVT กับเขาด้วยนะ ) ผมเลยขอลองขับเจ้า T120 ก่อนเพราะเห็นว่าเป็นแฮนด์บาร์น่าจะขับสบาย แต่......พอขับไปสักพักลองเบรคดู เสียงเบรคดังมากกกกกกก ดังจนผมตกใจนึกว่ารถมันเบรคไม่อยู่ใจหายมาก สอบถามเซลล์ไทรอัมพ์ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ เซลล์บอกว่า"มันเป็นซิกเนเจอร์ดังทุกคัน ถ้าเบรคไม่ดังไม่ใช่ไทรอัมพ์" ผมเลยไม่เอาแล้วไปเอา thruxton R แทน ทั้งที่ไม่เคยลองขับแต่คิดว่าเบรคแบรมโบ้ไม่น่าจะเป็นน่าาาาาเลยตัดสินจองไป (ซึ่งพอได้มาครอบครองทำให้รู้ว่า " มันดังเหมือนกัน ")

      ด้วยรูปลักษณ์ทรงคาเฟ่ทำให้ต้องก้มเวลาขี่ทำให้ thruxton R สำหรับผมค่อนข้างเมื่อยนิดหน่อยแต่ไม่มากเท่าที่คิด


      เบาะของ Thruxton R เป็นเบาะนั่งคนเดียวแบบตูดมดมีแฟริ่งครอบตูดมดอีกทีซึ่งนั่งไม่ได้ เมื่อเป็นเบาะแบบนั่งคนเดียวแน่นอนมันไม่มีพักเท้าหลังมาให้ แต่ในภาพผมได้ทำการเปลี่ยนเบาะมาเป็นแบบซ้อนสองและซื้อพักเท้ามาติดเพิ่มเติมจากศูนย์ไทรอัมพ์ (เบาะราคา 17,900 บาท , พักเท้าราคา 3,990 บาท)

           ไมล์รถแบบอนาล็อกและดิจิตอลบอกข้อมูลต่างๆ
ด้านขวาจะเป็นวัดรอบ ในส่วนของสัญญาณไฟต่างไล่จากซ้ายไปขวาประกอบไปด้วย   /    ในส่วนของดิจิตอลประกอบไปด้วย
- สัญญาณไฟระบบกันขโมย (ต้องซื้อเพิ่ม)                                                             - จอแสดงผลระยะทางที่ขับขี่ได้ก่อนน้ำมันหมด
- สัญญาณไฟแสดงตำแแหน่งเกียร์ว่าง                                                                  - จอแสดงผลระดับน้ำมันแบบขีด
- สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย                                                                                        - จอแสดงผลโหมดการขับขี่
- สัญญาณไฟเลี้ยวขวา
- สัญญาณไฟแสดงระดับน้ำมันต่ำ
- สัญญาณไฟสูง
- สัญญาณไฟเดย์ไลท์

ด้ายซ้ายจะเป็นวัดความเร็ว ในส่วนของสัญญาณไฟต่างไล่จากซ้ายไปขวาประกอบไปด้วย   /    ในส่วนของดิจิตอลประกอบไปด้วย
- สัญญาณไฟระบบ TC                                                                                          - วัดระยะทาง ฯลฯ เลือกดูได้โดยกดปุ่ม"i"
- สัญญาณไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น (สูง)                                                            - สัญญาณเตือนเมื่อถึงระยะเซอวิท
- สัญญาณไฟ ABS                                                                                                - สัญญาณแสดงตำแหน่งเกียร์
- สัญญาณไฟเมื่อเครื่องทำงานผิดปกติ
- สัญญาณไฟเตือนแรงดัน้ำมันเครื่อง (ต่ำ)
- สัญญาณไฟการปิดระบบยึดเกาะถนน


     ประกับด้านขวา ปุ่มต่างๆประกอบไปด้วยสวิตซ์สตาร์ท/ดับเครื่องยนต์ และ สวิตซ์ไฟฉุกเฉิน
     ประกับด้านซ้าย ปุ่มต่างๆประกอบไปด้วย
- ปุ่ม "i" ใช้ในการดำเนินการต่างๆของแต่ละฟังก์ชั่นในหน้าปัด เช่นจับทริป ลบระยะทริป ดูเวลา เป็นต้น
- ปุ่มแตร
- สวิตซ์ไฟเลี้ยว
- ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ ซึ่งมีด้วยกัน 3 โหมดคือ Rain , Road , Sport
- สวิตซ์ควบคุมไฟเดย์ไลท์
- สวิตซ์ไฟสูง (ในภาพอยู่ด้านหลังมองไม่เห็นครับ)


     โช๊คหน้าคู่แบบ USD สีทองของ SHOWA ขนาด 43mm แบบปรับได้ แต่เท่าที่ลองใช้มาผมว่าค่าที่โรงงานปรับมาให้มันแข็งเกินไป ถึงแม้จะปรับระดับที่ผมปรับเองไม่เป็น


     มือเบรคแบบปรับระยะได้และกระปุกน้ำมันเบรคหน้าใช้ของ Brembo


     มือครัชธรรมดาแบบปรับระยะได้ ส่วนกระจกเป็นกระจกปลายแฮนด์แบบกลม
กระจกแบบปลายแฮนด์ทำให้ผมมีปัญหามากกับการซอกแซกในเมืองทำอย่างไรก็ไม่ชินเสียทีกลัวไปเกี่ยวหูช้างเขา ด้านการมองเห็นระยะแรกอาจแปลกตาแต่ในเวลาต่อมาก็ชินไปเอง ส่วนมือครัชต้องบอกว่านิ่มพอสมควรไม่ต้องใช้แรงกดเยอะ แต่มีปัญหาที่สายครัชเวลาหักคอรถสุดมันจะตึงมาก วิธีการแก้ไขก็คือเลื่อนประกับมือครัชให้ไปชิดด้านในมากที่สุด


     ไฟหน้ามีไฟเดย์ไลท์ในตัวสามารถปิด-เปิดได้ เมื่อเราปิดไฟเดย์ไลท์ไฟต่ำจะสว่างขึ้นเป็นการเปิดไฟต่ำไปในตัว
ไฟหน้าสว่างมากแต่แรกๆมีปัญหาคือมันสูงเกินไปแยงตาชาวบ้าน ซึ่งวิธีการตั้งไฟหน้าก็แสนง่ายเพียงคลายน็อตของขาจับยึดไฟหน้าให้หลวมแล้วกดไฟหน้าลงเท่านั้นก็เรียบร้อย


     เบรคคู่หน้าใช้คาลิปเปอร์ของ Brembo  , ปัญหาคือเสียงเบรคอย่างที่บอกไปข้างต้น สำหรับ Thruxton r ก็เจอเหมือนกันแต่จะเบากว่ารุ่นที่ใช้คาลิปเปอร์ของ Nissin นั้นดังมาก ซึ่งในตัวรถของ Thruxton R มีคาลิปเปอร์ทั้ง 2 ยี่ห้อคือ Brembo คู่หน้า และของ Nissin สำหรับเบรคหลัง (มี ABS ทั้งหน้าและหลัง) ทำให้ผมรู้ว่าคาลิปเปอร์ของ Nissin นั้นดังมาก เวลาเหยียบเบรคหลังจะดังมากจนบางทีไปออกทริปเพื่อนๆที่ขี่ตามหลังถามว่ารถเราเป็นอะไร ส่วนต้นตอของปัญหาบ้างก็ว่าเกิดมาจากผ้าบเรค แต่เหนือสิ่งอื่นใดไทรอัมพ์เขาตอบคำถามนี้มาว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเขา ราคาผ้าเบรคหน้าแท้ซื้อศูนย์ไทรอัมพ์อยู่ที่ 5,620 บาท/คู่ (ผมอยากทราบว่าใช้ของอะไรใส่แทนได้บ้างครับ หรือเปลี่ยนศูนย์ดีกว่าครับ)


     จานบรคคู่หน้าใช้ของ Brembo เหมือนกัน


     ถังน้ำมันมีขนาดเรียวยาวความจุ 14L มีสายคาดถังมาให้เลยแต่ไม่มีกันลอยข้างถังมาให้ , เรื่องอันตราการบริโภคน้ำมันผมจับได้ที่ 22 กม./ลิตร และในเมืองรถติดอยู่ที่ 17 กม./ลิตร แต่....ระบบการวัดน้ำมันของ Thruxton R เป็นอะไรที่ห่วยสุดๆ หากคุณเติมน้ำมัน คุณต้องขี่รถไปสัก 3-4 กิโลเมตรขีดน้ำมันถึงขึ้นให้ หรือเมื่อคุณเริ่มสตาร์ทรถระยะทางที่สามารถใช้ได้ก่อนหมดมันจะบอกไม่ตรงกับความเป็นจริงเช่นน้ำมันใช้ได้อีก 100 กม.จะหมด เมื่อคุณขี่ไปสักพักตัวเลขจะดีดกลับขึ้นมาเป็น 100+ หรือ...เมื่อน้ำมันคุณใกล้หมดไฟเตือนขึ้น มาตราวัดบอกว่าจะวิ่งได้อีก 50 กม.แต่ในความเป็นจริงมันวิ่งไม่ถึง 50 กม. ตัวเลขที่เห็นจะลดลงแบบฮวบๆลดลงไวมาก ผมว่าตัวเลขจริงน้ำมันคงวิ่งได้ไม่ถึง 30 กม.มากกว่า ในบางครั้งสัญญาณไฟเตือนน้ำมันใกล้หมดจะแจ้งที่ -50 กม.ลงมา แต่ในบางครั้ง 80 กม. ก็แจ้งแล้ว เรียกได้ว่ามั่วมากๆ แต่ทั้งนี้ตอนออกรถเซลล์ก็ได้เตือนผมมาแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้

    ใช้วิธีกดแล้วฝาถังน้ำมันจะเด้งออกมา จากนั้นใช้กุญแจปิดเพื่อปลดล็อกแล้วหมุนๆๆๆๆเพื่อนำออก

     ฝาด้านข้างทั้งสองด้านเปิดออกมาโดยการใช้มือดึงออกมาได้ง่ายๆไม่มีน็อตยึด ด้านในมีอุปกรณ์เบื้องต้นให้ 1 ชิ้นดังภาพ


     ใต้เบาะมีที่หัวปลั๊กสามารถชาร์ตโทรศัพท์มือถือได้


     ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีการ์ดหม้อน้ำมาให้เลยไม่ต้องไปติดเพิ่ม


     โช๊คคู่ด้านหลังใช้ของ Ohlins สีเหลืองทองแบบมีซับแท๊งค์


     ยางหลังขนาด 160/60 ยางหน้าขนาด 120/70 รัดด้วยยาง Pirelli ที่สำคัญมียางใน ราคายางในยางหน้า 680บาท ยางหลัง 800 บาท ผมได้เบิกมาใช้เรียบร้อยยยยย


     เครื่องยนต์ 2 สูบ 1200cc วางเครื่อง 270° แบบ parrellel twin


     โดยสรุปแล้ว Thruxton R เป็นรถที่ดีครับแต่ก็ไม่ได้ดีเกินไปจนไม่มีข้อเสีย ความเร็วอยู่ในเกณฑ์เยี่ยมแต่ขี่ไวมากๆไม่ได้เพราะลมปะทะตัวแรงมาก เกิน 100 สำหรับตัวผมก็แทบปลิว เกียร์ 6 นี่ผมนับครั้งได้เลยที่จะใส่มันเพราะส่วนใหญ่ผมขี่เกียร์ 4 เท่านั้น (ที่ 3,000 รอบ คิดดูเอาครับว่าช้าแค่ไหน เพื่อนผมแซวตลอดว่าขี่แค่นี้จะอัพเป็นตัวพันทำไม) และสำหรับผมมันเป็นรถที่ขี่ได้อีกสิบปีโดยที่ไม่เก่ามาก หากผมแก่ตัวไปอยากมีโมเมนต์ที่ว่าหลานอยากได้รถมอเตอร์ไซค์ แล้วผมชี้ไปในโรงรถ หลานเปิดผ้าคลุมออกมาเป็นไทรอัมพ์เก่ากึ๊กก์สุดแนว .....ครับ

ปล.รูปรถของ Clubmoto เป็นรถผมครับ ผมเอารถไปใส่ปลอกแฮนด์เขาถ่ายมาลงหน้าเพจ เห็นสวยดีเลยเอามาลงครับ
อีกอย่างผิดพลาดประการใดผมขออภัยด้วยนะครับ