เมื่อเรามีความคิดว่า อยากให้ภาพวิวสวยๆนั้นมีเราทั้งคู่อยู่ในวิวนั้นด้วยคงจะดีมาก การตามล่าหามุมสวยๆ ไม่ว่าไทยหรือตปท.จึงเกิดขึ้น เมื่อการถ่ายภาพคือการเล่าเรื่องที่ดีที่สุด เมื่อการถ่ายภาพคือความทรงจำหรือบันทึกที่ดีและมีความหมายสำหรับเรา จุดเริ่มต้นการเดินทางจึงเกิดขึ้น และนี่เป็นอีกที่ ที่เรารู้สึกประทับใจ

หลังจากจองตั๋วเครื่องบินไว้ยาวนาน ในราคาโปรโมชั่นอีกตามเคย การแพลนจึงเกิดขึ้น จะมีอะไรดีไปกว่าการหาข้อมูลที่เที่ยวต่างๆจาก พี่ Google ของเรา เริ่มจากแพลนก่อนว่าอยากให้ตัวเราไปยืนอยู่ในมุมไหนบ้างของภาพ ก็แพลนๆ และแพลน ดูทิศทางตะวันขึ้น ตะวันตกให้เรียบร้อย

ในการวางแพลนถ่ายรูปของเราหลักๆจะถ่ายช่วงเช้าและเย็น ส่วนช่วงเวลาที่เหลือหมดไปกับการหลบพักความร้อนที่ตามห้าง หรือที่พัก ช่วงเช้า จะอยู่ในช่วง 6.00-9.30 น. ช่วงเย็น จะอยูในช่วง 17.30-21.30 น. โดยประมาณ

ตอนแรกที่คิดว่าจะไปสิงคโปร์ เราเองรู้สึกเฉยๆ เพราะว่าเคยไปมาแล้วเมื่อตอนเด็ก และคิดว่า ก็แค่สิงคโปร์ ไม่คาดหวังอะไรมากมาย แต่พอมาครั้งนี้ได้ไปเที่ยวด้วยตัวเองแบบไม่ได้ไปทัวร์ คือมันดีเวอร์ จะรอถ่ายรูปตอนไหนก็ได้ รอนานแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องรีบๆเหมือนครั้งสมัยไปทัวร์ตอนเด็กๆ ทำให้รู้ว่าจิงๆ แล้วสิงคโปร์ก็มีมุมสวยๆ หลายๆที่ เยอะมากจิงๆ เราเลยคิดว่ามาทริปนี้เรามัน สายแชะจิงจัง แชะไปเรื่อย หึหึ

มาในส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆกันบ้าง

ทริปนี้ ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ราคา 11,000 บาท / คน (โดยประมาณ) เดินทาง 7 June - 10 June 2017

>> ตั๋วเครื่องบิน ✈️ Airasia รวมกระเป๋า 20 โลแล้ว ตก 5,000 กว่าบาท (ตกคนละไม่ถึง 3 พันบาท)

เมื่อมาถึงสนามบินแล้ว จะลงที่  Terminal 1 พอออกจาก ตม.มา ให้มองหาป้าย Skytrain To Terminal 2 เราจะไปขึ้น Mrt ที่นั่น
และหลังจากมาถึง Terminal 2 ให้มองหาป้าย Train to city เพื่อขึ้น Mrt เข้าตัวเมือง

>> ที่พัก พักที่ Nuve Hotel
ราคา 3 คืน ประมาณ 6,100 บาท (ตกหารกันคนละ 3,000บาทกว่าบาท)

ด้านหน้าที่พัก

ห้องที่เราจอง เป็นห้องถูกที่สุด เพราะไม่มีหน้าต่างค่ะ แต่อันนี้เราไม่ซีเรียส แค่เป็นห้องน้ำในตัวก็โอเคแล้ว ถ้าผ่านการพักที่ญี่ปุ่นมาได้ ห้องเล็กไม่ใช่ปัญหา อิอิ

สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องห้องเล็ก แนะนำที่นี่ ห้องน้ำในตัว แถมมี Handy Phone ให้เราใช้งานฟรีด้วย คือไม่ต้องหาซื้อเน็ตที่ไหน ใช้มือถือของที่รร พกพาไปกับเราเล่นเน็ต FB Google Map ได้หมดแถมโทรกลับไทยได้ฟรี

Handy Phone ของโรงแรมที่ให้ใช้ระหว่างอยู่ที่สิงคโปร์  

>> ให้คะแนนที่พัก ความสะดวกสบาย ไม่ได้ไกลจากสถานีมากและก็ราคาไม่แพงจากที่ดูมาหลายๆที่ แต่ยังมีในส่วนที่ไม่ค่อยโอเค คือห้องพักด้วยความที่ห้องพักเล็กและติดๆกัน ห้องอาจจะมีเสียงรบกวนบ้าง แต่ถ้าถามเราว่ามาสิงคโปร์อีกจะกลับมาที่นี่ไหม คงตอบว่าคงพักที่นี่อีก อันนี้ให้หลายๆคนลองพิจารณากันดูนะคะ ถ้าเป็นคนที่ต้องการความเงียบความสงบสูง ที่นี่อาจจะไม่ใช่คำตอบค่ะ

ตรงท้ายซอยจะตรงกลับ Masjid Sultan เลย จิงๆ การเดินมาจะเดินจากท้ายซอย หรือ ต้นซอยก็ได้

>> การเดินทาง Mrt Bugis Exit B


>> ว่าด้วยเรื่องการซื้อซิมการ์ดใช้ในสิงคโปร์ คืออันนี้พอดีที่ รร. มีให้ใช้มือถือ เลยไม่ได้ซื้อซิม แต่จะบอกว่าถ้าจะซื้อซิม เห็นเค้าจะนิยมซื้อซิมของค่าย singtel อย่าเพิ่งรีบซื้อที่สนามบินเพราะราคาสูงกว่าซื้อตาม 7-Eleven เยอะ เราเห็นที่สนามบินราคา 30-50 กว่าเหรียญ แต่เห็นที่ 7-Eleven ขายกันในราคา 15 เหรียญเอง

>> ปลั๊กไฟที่สิงคโปร์ รูปลั๊กไฟของสิงคโปร์จะเป็นปลั๊กเป็นเหลี่ยม 3 ขา แต่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 230V / 50Hz สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจากบ้านเราได้



>> ต่อมาเป็น App ที่ใช้ช่วยเหลือต่างๆ ที่เราพกไว้ ไม่ต้องใช้เน็ตก็ดูได้ (2 ตัวที่วงกลมสีส้มนะคะ)

App ตัวแรก ชื่อ Singaporego เป็นตัวที่ใช้ดูแผนที่ Mrt และคำนวนระยะเวลาการเดินทางและค่าใช้จ่ายทั้งหมด


อันนี้ยกตัวอย่าง เราเลือกเส้นทางต้นทาง และปลายทาง


มันก็จะบอกเส้นทางมาเลย ว่าเราต้องไปเปลี่ยนสายที่ไหน และ ราคาเท่าไร ระยะเวลาการเดินทางกี่นาที

พิมพ์ชื่อสถานที่ ที่เราจะไป

หลังจากนั้นมันจะบอกมาว่าเราต้องลง Mrt ที่สถานีไหน Exit เท่าไร หรือถ้าต้องต่อรถเมล์ ต้องนั่งสายไหน หรือถ้าเดิน ต้องเดินไปถนนเส้นไหน

คราวนี้มาที่การแลกเงิน เราแลกไป 2 คน รวม 400 เหรียญเท่านั้น สำหรับค่ากิน ค่าเดินทางต่างๆ แต่ถ้าต้องการซื้อของเพิ่มเติม จะใช้เป็นรูดบัตรมากกว่า เพราะที่นี่เราไม่ได้เน้นช๊อปปิ้งอะไร เลยแลกไปไม่เยอะ

** เครดิตรูป Ez linkจาก jalanjajansingapura

>> บัตร Ez Link บัตร Ez Link นี้ใช้ได้ทั้ง Mrt รถประจำทาง และร้านสะดวกซื้อต่างๆ ในส่วนของเราเติมคนละ 25 เหรียญ ( ตีเป็นเงินไทย 25 X 24.6 = 615บาท) ** ไม่เสียค่ามัดจำบัตรเพราะยืมเพื่อนมา

** แต่ถ้าในกรณีที่ยังไม่มีบัตรเค้าจะคิดค่ามัดจำบัตรคนละ 5 เหรียญ สามารถซื้อได้เลยที่สถานี Changi Airport
** การเดินทางส่วนใหญ่ ใช้รถ Mrt เป็นหลัก และอาศัยเดินเยอะหน่อยเพราะสถานที่แต่ละที่จะสามารถเดินถึงกันซะส่วนใหญ่


>> ค่ากิน คือส่วนที่เหลือ 350 เหรียญ (ประมาณ 8,610 บาท) หารจำนวนวันที่ 4 วันเอา กะให้พอดีในแต่ละวัน ** ติดไว้ก่อนเด่วจะมาสรุปเรื่องของกินให้อีกที

คราวนี้มาที่สถานที่ต่างๆที่ไปกันก่อน แล้วในส่วนท้ายสุดเราจะสรุปแพลนให้ในแต่ละวันว่าไปไหนบ้าง

Merlion Park เป็นสถานที่ขึ้นชื่อที่สุดในสิงคโปร์ คือใครมาสิงคโปร์ต้องมาถ่ายรูปที่นี่แน่ๆ และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
มารอถ่ายตั้งแต่เช้ามืด
รูปนี้เราถ่ายกันตอนประมาณ 6 โมงเช้า สักเกตุได้ว่า น้ำพุยังไม่ได้เปิด
น้ำพุจะเปิดประมาณช่วงเวลา 7 โมงเป็นต้นไป
แนะนำให้ไปแต่ละที่ในช่วงเช้า เพราะคนจะไม่มี เราอยู่ที่นี่ถึงประมาณ 8 โมงนิดๆ ก็เริ่มมีทัวร์มาลง หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปไม่ได้แล้วสะพานที่เชื่อมต่อกับ Merlion

การเดินทาง  Mrt Raffles Place Exit H เดินมาตามถนน Battery Road ตรงมาเรื่อย เดินลอดใต้สะพานก็จะมาถึง Merlion

วิวตึกบริเวณ Louis Vuitton Island Maison
>> รูปด้านบนนี้ถ่ายช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ

>> รูปด้านบนนี้ถ่ายช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม

เก็บภาพวีดีโอมาฝากสั้นๆค่ะ
>> การแสดงไฟตรงอ่าว วันอา - วันพฤ 20.00 / 21.00 และ วันศ กับ ส. 20.00 / 21.00 / 22.00 การแสดงชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ

บันไดสีๆ อยู่ในตรง Bugis Village หาไม่ยากค่ะ หัวมุมซอยจะเป็น KFC