ตอนที่1 เมื่อ กรกฎาปี 2556 ค่ะ
https://ppantip.com/topic/30713314
ตอนที่ 2 เมื่อมิถุนา ปี 2557
https://ppantip.com/topic/32252672
ล่าสุดค่ะ 31 พฤษภาคม 2560
•ผ่าก้อนซีสต์ ครั้งที่9
•บริเวณร่างกาย -กลางแผ่นหลัง
•ผ่าตัด 31/5/60 •ตัดไหม 8/6/60
•ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1x,xxxบาท (เบิกประกันได้ทั้งหมด)
•ผลการส่งตรวจชิ้นเนื้อ >> ไม่มีเชื้อร้าย เป็นเพียงถุงไขมันใต้ผิวหนัง
....... #กายเป็นของเรา #เราต้องดูแลเองให้ดีที่สุด .....
ไม่เคยบ่นหรือคิดว่าตัวเองโชคร้าย คิดเสมอว่าเป็นบ่อยแค่ไหนก็รักษาได้
...ทำประกันรายปีไว้ ไม่ต้องกังวลเริ่องค่าใช้จ่าย
....ฝึกสังเกตุร่างกายตัวเอง ถึงเวลามีอาการปวด บวม ก็ ไปรพ.หาหมอ
....ชินแล้วกับห้องผ่าตัดสีขาวสว่างโล่งช่างตัดกับผ้าสีเขียวเข้ม แถมไม่ต้องมีญาติมาเสียเวลานั่งรอหน้าห้องผ่าตัด
เพราะได้กำลังใจมาแล้วจากที่บ้านก่อนที่จะมารักษาทุกครั้ง
....ขึ้นเขียง นอนสบายๆ ไม่ต้องอายใครแม้จะต้องเปิดตรงไหนของร่างกายให้พยาบาลเห็น ให้หมอรักษา ถูกมัดแขนขา
มีเสียงคลื่นหัวใจกับเส้นกราฟชีพจรให้ดูเพลินๆ หมอกรีด ควัก ก็รู้สึกตัวตลอด แค่ไม่เจ็บเพราะฤทธิ์ยาชา
คิดถึงคนที่เรารักทั้งพ่อ แม่ สามี และลูกที่สุด ในช่วงเวลาผ่าตัดทุกๆครั้ง
....คุ้นเคยกับคุณหมอศัลยกรรม ที่เราจะพูดติดตลกับหมอว่า "ขอยาชาเยอะๆ ของแผลเล็กๆ หายเร็วๆนะคะ"
....ผ่าเสร็จ ขอดูชิ้นเนื้อ ขนาดเท่าปลายหัวนิ้วโป้ง สภาพเหมือน ไขมันตรงปลายเนื้อสะเต๊ะ
(เวลากินอะไรเจอไขมันก้อนๆ จิตตกต้องเขี่ยทิ้งตลอด) ทุกทีจะเอากลับมาฝังดินที่บ้าน แต่ครั้งนี้ต้องส่งตรวจ
....เสร็จขั้นตอน ก็ขับรถไปช้อปปิ้งซื้อกับข้าว ขับกลับบ้านเองชิวๆ หลังผ่าก็เอาหมอนรองคอมารองหลังขณะขับรถ
นอนหงายไม่ได้ ก็ตะแคงๆเอา อาบน้ำก็ต้องเบาๆกลัวน้ำเข้าแผล ลักไก่แค่เช็ดตัวก็มีบ้างเป็นบางครั้ง
.....หลังผ่าตัดดูแลตัวเอง ด้วยการดื่มน้ำจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว กินยาแก้อักเสบให้ครบ
อัดฉีดด้วยแบนเนอร์โปรตีนวันละ4เม็ด เพื่อซ่อมแซมและเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอให้แผลสมานเร็ววัน
....เจ็บก็พัก โอดครวญกับคนที่บ้านแบบขำๆ พอเป็นกระษัย ขอแค่กำลังใจจากลูก จากสามีก็พอ
....อะไรที่ทำให้เครียด ใจหดหู่ ตัดทิ้งไปให้หมด กายและใจเป็นของคู่กัน รักตัวเอง ก็อย่าเอาความทุกข์มาแบกไว้
....รักษาตัวให้หาย หายดีก็ใช้ชีวิตให้คุ้ม ออกกำลังกาย หาเงิน ทำงาน ทำหน้าที่แม่บ้าน ไปเที่ยวๆๆๆ คิดว่าเป็นวัฎจักรของตัวเอง
.....กายเจ็บ ระหว่างที่รอผลชิ้นเนิ้อก็กังวล แต่ไม่เคยหดหู่ใจ ให้กำลังใจ ภาวนากับตัวเอง ว่าหากเราคิดดี ทำดี ไม่เคยทำร้ายใคร
ผลที่ออกมาต้องดีดังที่เราหวังไว้ พอได้ยินจากหมอแล้ว โล่งอกที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่คุ้มครองข้าพเจ้าในครั้งนี้..
บันทึกเรื่องราวชีวิต #ชีสต์..อีกหนึ่งในกายของฉันตลอดไป
ซีสต์ อีกหนึ่งในกายของฉันตลอดไป ตอนที่3 ครั้งที่9 ประสบการณ์จริงที่เป็นจนชิน
https://ppantip.com/topic/30713314
ตอนที่ 2 เมื่อมิถุนา ปี 2557
https://ppantip.com/topic/32252672
ล่าสุดค่ะ 31 พฤษภาคม 2560
•ผ่าก้อนซีสต์ ครั้งที่9
•บริเวณร่างกาย -กลางแผ่นหลัง
•ผ่าตัด 31/5/60 •ตัดไหม 8/6/60
•ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1x,xxxบาท (เบิกประกันได้ทั้งหมด)
•ผลการส่งตรวจชิ้นเนื้อ >> ไม่มีเชื้อร้าย เป็นเพียงถุงไขมันใต้ผิวหนัง
....... #กายเป็นของเรา #เราต้องดูแลเองให้ดีที่สุด .....
ไม่เคยบ่นหรือคิดว่าตัวเองโชคร้าย คิดเสมอว่าเป็นบ่อยแค่ไหนก็รักษาได้
...ทำประกันรายปีไว้ ไม่ต้องกังวลเริ่องค่าใช้จ่าย
....ฝึกสังเกตุร่างกายตัวเอง ถึงเวลามีอาการปวด บวม ก็ ไปรพ.หาหมอ
....ชินแล้วกับห้องผ่าตัดสีขาวสว่างโล่งช่างตัดกับผ้าสีเขียวเข้ม แถมไม่ต้องมีญาติมาเสียเวลานั่งรอหน้าห้องผ่าตัด
เพราะได้กำลังใจมาแล้วจากที่บ้านก่อนที่จะมารักษาทุกครั้ง
....ขึ้นเขียง นอนสบายๆ ไม่ต้องอายใครแม้จะต้องเปิดตรงไหนของร่างกายให้พยาบาลเห็น ให้หมอรักษา ถูกมัดแขนขา
มีเสียงคลื่นหัวใจกับเส้นกราฟชีพจรให้ดูเพลินๆ หมอกรีด ควัก ก็รู้สึกตัวตลอด แค่ไม่เจ็บเพราะฤทธิ์ยาชา
คิดถึงคนที่เรารักทั้งพ่อ แม่ สามี และลูกที่สุด ในช่วงเวลาผ่าตัดทุกๆครั้ง
....คุ้นเคยกับคุณหมอศัลยกรรม ที่เราจะพูดติดตลกับหมอว่า "ขอยาชาเยอะๆ ของแผลเล็กๆ หายเร็วๆนะคะ"
....ผ่าเสร็จ ขอดูชิ้นเนื้อ ขนาดเท่าปลายหัวนิ้วโป้ง สภาพเหมือน ไขมันตรงปลายเนื้อสะเต๊ะ
(เวลากินอะไรเจอไขมันก้อนๆ จิตตกต้องเขี่ยทิ้งตลอด) ทุกทีจะเอากลับมาฝังดินที่บ้าน แต่ครั้งนี้ต้องส่งตรวจ
....เสร็จขั้นตอน ก็ขับรถไปช้อปปิ้งซื้อกับข้าว ขับกลับบ้านเองชิวๆ หลังผ่าก็เอาหมอนรองคอมารองหลังขณะขับรถ
นอนหงายไม่ได้ ก็ตะแคงๆเอา อาบน้ำก็ต้องเบาๆกลัวน้ำเข้าแผล ลักไก่แค่เช็ดตัวก็มีบ้างเป็นบางครั้ง
.....หลังผ่าตัดดูแลตัวเอง ด้วยการดื่มน้ำจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว กินยาแก้อักเสบให้ครบ
อัดฉีดด้วยแบนเนอร์โปรตีนวันละ4เม็ด เพื่อซ่อมแซมและเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอให้แผลสมานเร็ววัน
....เจ็บก็พัก โอดครวญกับคนที่บ้านแบบขำๆ พอเป็นกระษัย ขอแค่กำลังใจจากลูก จากสามีก็พอ
....อะไรที่ทำให้เครียด ใจหดหู่ ตัดทิ้งไปให้หมด กายและใจเป็นของคู่กัน รักตัวเอง ก็อย่าเอาความทุกข์มาแบกไว้
....รักษาตัวให้หาย หายดีก็ใช้ชีวิตให้คุ้ม ออกกำลังกาย หาเงิน ทำงาน ทำหน้าที่แม่บ้าน ไปเที่ยวๆๆๆ คิดว่าเป็นวัฎจักรของตัวเอง
.....กายเจ็บ ระหว่างที่รอผลชิ้นเนิ้อก็กังวล แต่ไม่เคยหดหู่ใจ ให้กำลังใจ ภาวนากับตัวเอง ว่าหากเราคิดดี ทำดี ไม่เคยทำร้ายใคร
ผลที่ออกมาต้องดีดังที่เราหวังไว้ พอได้ยินจากหมอแล้ว โล่งอกที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่คุ้มครองข้าพเจ้าในครั้งนี้..
บันทึกเรื่องราวชีวิต #ชีสต์..อีกหนึ่งในกายของฉันตลอดไป