[SR] BROMO-IJEN "The ring of Fire" สูดกำมะถันร่ายเวทมนต์บนคาวาอีเจี้ยน<<16-20 พ.ค. 2560>>ละเอียดยิบแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน!!!

โฮะๆๆๆ มาแล้วๆ กระทู้แรกของพวกเราชาวแก๊งส์  ใจเต้นรัวสำหรับการเดินทางครั้งนี้ เพราะคิดว่าการเดินทางแต่ละครั้งมันน่ากลัว(คิดไปเอง) 5555555 ยิ่งเราจะไปอินโดนีเซียอีก คิดดู้ววว เมืองภูเขาไฟเอย อะไรเอย ไปละมันจะระเบิดตอนเราไปมั้ย คิดในใจมันคงไม่ซวยอะไรขนาดนั้นม๊างงง  ไปละจะกินอะไรได้มั้ย กังวลไปหมด  สำหรับทริปนี้เราวางแผนกันข้ามปีเลยทีเดียวมีเวลาทำการบ้านกันเยอะ และมีเวลาหาพวกไปเป็นเหยื่อการเดินทางกันอีกครึ่งปี 5555  มามามาเช็คตั๋วกันนี๊ดดสนึงก่อนจะจองตั๋วบิน สำหรับช่วงเวลาที่เราจะบินทางสายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพ-สุราบายา เราก็เลยต้องนั่งเช็คว่าเราจะเลือกเดินทางวิธีไหนที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย(แหะๆเรียกอีกอย่างว่างกก็ได้ 555) ลองกดๆดู กรุงเทพ- บาหลี บาหลี-สุราบายา ก็ปาไปเกือบหมื่น กรุงเทพ-สิงคโปร์ สิงคโปร์-สุราบายา ก็แพงอี๊ก อะๆ ได้ละ กรุงเทพ-จาการ์ต้า จาการ์ต้า-สุราบายา นี่แหละดีสุดละสำหรับเรา
สำหรับไฟท์บินเราเลือกสายการบินแอร์เอเชียหมดทุกไฟท์ที่เดินทาง
ไฟท์ไป
วันที่ 16-05-2017  ดอนเมือง 20.55 น. >> จาการ์ต้า 00.25 น. ราคาตั๋ว 1,990 บาท
วันที่ 17-05-2017  จาการ์ต้า 05.55 น.  >> สุราบายา 07.15 น. ราคาตั๋ว 1,255.23 บาท
ไฟท์กลับ
วันที่ 20-05-2017 สุราบายา 12.10 น. >> กัวลาลัมเปอร์ 15.45 น. ราคาตั๋ว 1,587.17 บาท
กัวลาลัมเปอร์ 18.40 น. >> ดอนเมือง 19.50 น. ราคาตั๋ว 1,102.31 บาท
สิริรวมแล้ว ไม่เกิน 6 พันค่าตั๋ว ถือว่าดี
มาๆเดินทางกันเถอะ วันที่ 16-05-2560 เรานัดชาวแก๊งส์เราที่สนามบินดอนเมือง 18.00 น. เตรียมตัวเดินทาง แต่เอ๊มีประกาศเลื่อนไฟท์บิน อาร๊าย ดึกไปอี๊ก เปลี่ยนจาก 20.50 น.เป็น 21.25 น.
เราก็นั่งเล่นรอไป เพราะกว่าจะถึง สนามบิน จาการ์ต้าก็ตี 1  ง่วงไปสิ ปกติเป็นคนนอนเร็วมาก 3-4 ทุ่มนี่นอนละ 555555
หึยยยยยย แนะนำอีกอย่างใครไปเป็นแก๊งส์แนะนำจองที่นั่งไปนั่งด้วยกันทั้งแก๊งส์นะ 5555 (กลิ่นดี) Facepalm
ถึงสนามบินจาการ์ต้าก็ประมาณตี 1 ระหว่างนี้ก็นั่ง นอน รอ เพื่อที่จะบินต่อเครื่องไปสุราบายาต่อ ก็รอประมาณ 3-4 ชั่วโมงเอง แป้บนึงๆ แต่ด้วยความเงียบเหงาของสนามบินที่นี่เหมือนนาน 5555 ระหว่างนี้ก็เจอแก๊งส์คนไทยด้วยกันจ้า หูยมาเป็น 10 คน เด็กๆ เข้ามาพูดคุยทักทายกับเรา พี่จะไปไหนกันค่ะ พวกเราก็บอกไปโบรโม่จ้า ละก็คุยแพลนกัน..หึย คล้ายกันมาก คิดในใจเหมือนจะได้เจอกันทุกวัน ระหว่างก็รอเวลาเปิดให้เช็คอินก็ตี 3 เอาวะทนอีกนิดอย่าเพิ่งง่วงง อย่าเพิ่งง่วงงง ZzZz  ตี 3 แล้ววว รีบเข้าไปเช็คอินเถอะละไปหาที่นอนรอจะบินกันชั้นไม่ไหวแล้ววว เช็คอินเสร็จรอไรละวิ่งไปหาเก้าอี้ว่างเหอะ โคตรง่วง จะนอนอย่างเดียว ชั่วโมงนึงก็จะนอน นอนเหอะไม่สนไม่ต้องกลัวใครละมากันตั้ง 6 คน น้องๆ อีก 10 คนที่เพิ่งเจอ อย่าไปกลัว 555555  ถึงเวลา ตี 5 นิดๆละ เรียกให้ไปขึ้นเครื่องเพื่อเตรียมบินไปสุราบายาต่อ อีกชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสนามบินสุราบายา ประมาณ 7.15 น.ก็ถึงสนามบินสุราบายาแล้ว เวลาที่อินโดนีเซียเหมือนบ้านเรา ถึงปุ๊บมีไกด์มารอรับพวกเราอยู่แล้ว ก่อนบินมาพวกเราได้เช็คไกด์หลายคนมาก เปรียบเทียบราคาหลายคนมาก ก็จากอ่านพันทิปนี่แหละ เอาวะไกด์พวกเรา เลือกคนที่อ่านไว ตอบไว เปรียบเทียบราคาแล้วถูกกกก ถูกที่แล้ว555 พวกเราเลยตกลงใช้บริการอำนวยความสะดวกจาก Arif พวกเราก็ส่งแพลนว่าเราอยากไปไหน ยังไงไปกันกี่คน

เราก็ส่งแพลนไปจน arif ตกลงราคา ราคาที่ตกลงกันก็ 12,000,000 IDR / 6 ก็ตกละคนละ 2,000,000 IDR ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ตกลงคนละประมาณ 5,200 บาททั้ง 5,200 บาทนี่ รวมค่าโรงแรม 2 คืนที่ไปโบรโม่และคาวาอีเจี้ยน พร้อมรถตู้ พร้อม Jeep แต่พวกเราขอให้ไม่รวมค่าอาหารแต่ละมื้อ เพราะพวกเราให้เขาแวะร้านอาหาร Local ละกันแบบไปถึงบ้านเมืองอินโดละก็ควรกิน Local เนาะ 5555 ก็ด้วยความที่เราถามจากคนที่เคยไปแล้วบ้าง อ่านพันทิปเยอะเหมือนกัน เราเลยเลือกที่จะจ่ายเอง  พอตกลงคุยกันเรียบร้อย อรีฟก็ให้โอนเงินมัดจำไปก่อน 1,000,000 IDR อีก 11 ล้าน IDR ไว้จ่ายตอนจบทริป นี่ๆๆๆ หน้าตาไกด์อรีฟ

ก่อนวันจะบิน อรีฟ ก็ไลน์มาแจ้งว่าจะให้ไกด์ทีมงานอีกคนมารับพวกเราที่สนามบิน พวกเราก็คิดในใจหูย จะเทพวกเรามั้ยเน้อ ไปถึงละถ้าไกด์ไม่มารับพวกเราจะต้องทำยังไง เอาวะขึ้นเครื่องละนิ ทำไงได้ ถึงสนามบินสุราบายาละค่อยว่ากัน พอพวกเราถึงสนามบินสุราบายาก็รีบไลน์หาไกด์คนที่อรีฟฝากให้มารับพวกเรา ไกด์ชื่อ DIAN (ไดแอน)  ซึ่งตอนนั้นไดแอนก็มายืนรอรับพวกเราอยู่แล้ว เย้ พวกเรารอด 5555 พอเจอกันทักทายกับไกด์เรียบร้อยระหว่างนั้นพวกเราก็ขอไปเปลี่ยนชุด ล้างหน้า แปรงฟัน เสร็จแล้วพวกเราก็บอกไดแอนว่าเราอยากแลกเงิน อยากได้ซิม อยากทานอาหารเช้า สารพัดสิ่ง555555 ออกจากสนามบินสุราบายาไดแอนก็พาพวกเราไปแลกเงิน เพราะพวกเราไม่สามารถหาแลกเงิน IDR ไปจากไทยได้เพราะซุปเปอร์ริชหมดเกลี้ยง เราเลยแลกเป็นเงิน  US ไป พวกเราแลกกันไปคนละ 10,000 บาท เพราะคิดว่าเหลือแน่นอน ไม่รู้จะใช้อะไรนอกจากการค่าทริปส่วนต่างอีกคนละ 5,000 บาทไทยนิดๆ ค่ากินอีกนิดหน่อย อะๆๆ แลกเงินเสร็จไปซื้อซิมต่อ ซิมที่นี่ไม่ต้องห่วง 70,000 IDR ราคาเกือบ 200 บาท คุ้ม 20 gb 4G เล่นไปเถอะ อยู่กันแบบสบายแน่นอน
ได้ซิมละ ไปแวะมินิมาร์ทต่อ ซื้อขนม ซื้อน้ำตุนไว้เพราะพวกเราต้องใช้ชีวิตบนรถอีกยาวๆๆๆ จนจบทริป 555
55555555555 เมื่อมนุษย์เพื่อนบอกอยากได้ผ้าคลุมไหล่นางก็เลือกสีสันสวยงามดี พอจ่ายเงินเสร็จก็พากันมาแกะดู มาดูว่ามันคืออะไร "พรมเช็ดเท้าจ้า" ไม่มีภาษาอังกฤษเนาะ อินโดล้วนๆๆๆ ไม่เป็นไรเอามาเช็ดเท้าที่บ้านต่อ 55555555
shop เสร็จไปทานข้าวเช้ากัน ไดแอนพาเราแวะ Local จริงๆๆ แวะทาน SATO AYAM มันเหมือนซุปไก่ และกินกับข้าวเปล่า จบแค่นี้ ฮะกับข้าวมีแค่นี้หรอ คนที่นี่กินกันแค่นี้จริงๆหรอ เอาตรงๆ เราไม่อิ่ม 5555555 ละก็มาเจอแก๊งส์น้องๆ ที่เจอกันมาตั้งแต่สนามบินอี๊กกกกนั่งทานข้าวอยู่ด้านหลังพวกเรา หูยทริปนี้เราเจอกันทุกที่แน่นอน
มื้อนี้เราหมดไป 114,000 IDR ก็ตกละคนละ 50 บาทไทย เสร็จภาระกิจเช้านี้แล้วประมาณ 10 โมงเราก็เดินทางกันต่อตามแพลนที่เราส่งให้อรีฟดู เรากำลังจะเดินทางไปน้ำตก MADAKARIPURA ซึ่งระยะทาง 100 กว่ากิโลนิดๆจากสนามบินสุราบายา ใช้เวลาประมาณในการเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง นี่ๆ ละรถที่ไดแอนพามารับพวกเราสะดวกสบายเหมาะกับพวกเรา 6 คนมาก รถต้องสบายเพราะส่วนมากเราใช้ชีวิตบนรถเยอะมากๆ สำหรับในการเดินทางไปในแต่ละที่ ระยะทางไม่ได้ไกลนะสำหรับพวกเรา แต่ทำไมนาน เพราะต้องใช้สกิลในการขับรถที่เก่งมาก เพราะการจราจรเมืองนี้หูยวิ่งทุกเลน แซงก็ทุกเลนเช่นกัน ทางก็แคบ เปรียบเทียบบ้านเมืองเรานะบ้านเราสบายกว่าเย๊อะ 55555
ระยะทางเดินทาง 3 ชั่วโมงกว่าจะถึงน้ำตก MADAKARIPURA พวกเราก็ไม่รออะไร นอนสิคะ รอไร พอมาถึงน้ำตกไกด์ก็แนะนำเราก่อน ไกด์บอกไม่ต้องจ่ายอะไรใดๆทั้งสิ้นถ้ามีคนมาเรียกเก็บค่าอะไร ไม่ต้องจ่าย โอเค๊ เชื่อไกด์จ้า พร้อมเดินทางลงไปน้ำตกแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมคือเสื้อกันฝน ถ้าไม่พกมาที่นี่มีขายนะฮะ พอเราลงจากรถตู้ก็จะมีแก๊งส์มอเตอร์ไซค์มารอรับพวกเราไปส่งที่ทางเข้าน้ำตก

ก่อนถึงทางเข้าน้ำตกก็จะมีรูปปั้นคนค้นพบน้ำตกอยู่ทางเข้า พวกเราก็ไหว้ขอพรซักนิดละกันก่อนเดินทางเข้าไป

ระยะทางจากตรงนี้เข้าไปใช้เดินเท้าเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร

เข้าไปถึง หูววว นี่แค่น้ำตกนะสวยมาก คุ้มค่าการเดินทางจริงๆ ม่านน้ำตกสวยจริงๆ ตกลงมาจากที่สูง คนก็ไม่เยอะ น้ำก็เย็น ชอบมาก
มาเจอแก๊งส์เด็กๆทีเจอกันมาตั้งแต่สนามบินอีกพวกน้องๆมีความเป็นสีสัน น่ารักกันเชียว

ภาระกิจการเดินถ่ายรูป ชมความงามของน้ำตก MADAKARIPURA เสร็จสิ้น ก็บ่าย 3.20 น.แล้ว พวกเราก็ออกเดินทางจากน้ำตก เพื่อไปที่พักที่จะไปภูเขาไฟโบรโม่ต่อ ระหว่างทางไกด์ก็พาเราแวะทานข้าว ไกด์พาพวกเราไปทานสะเต๊ะ บ้านเมืองนี้ไม่มีหมูนะฮะ มีแต่ไก่ มีแต่แพะ เราก็ด้วยความหิวสั่งสะเต๊ะไก่ สะเต๊ะแพะ สั่งไป 8 ชุดชุดละ 10 ไม้ มากัน 6 คนสั่งไป 80 ไม้ 5555 นี่กินกันรึว่าอะไร มีความรสชาติดี

ก่อนกลับอะๆเจออีกละกะแก๊งส์มะกี้ กินข้าวด้วยกัน ถ่ายรูปด้วยกันซะเลย 5555
สิริรวมมื้อนี้ 238,000 IDR ก็ประมาณคนละ 100 บาท กินเสร็จเราก็ออกเดินทางอีกประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อไปยัง หมู่บ้านที่เราจะไปพักเพื่อที่จะเตรียมเดินทางไปยังโบรโม่ คืนนี้ไกด์จองที่พักชื่อ Hotel bromo permai1 ไว้ให้ อากาศบนเขานี่ดีจริงๆ โรงแรมไม่มีแอร์อากาศเย็นสบายมากๆ 10 องศานิดๆ
โรงแรมที่เราพักเห็นวิวภูเขาไฟโบรโม่เลยจากที่พักดีจริงๆ วันนี้เรามาถึงก็ฟ้ามืดแล้ว ที่นี่มืดเร็วสว่างเร็ว

กว่าจะจัดของ อาบน้ำเตรียมตัวนอนก็เกือบ 3 ทุ่มละ พวกเราต้องรีบนอนเพราะพวกเราต้องรีบตื่นเพราะเรานัดไกด์ให้มารับเราตอนตี 2 เพื่อที่จะเตรียมเดิมขึ้นไปจุดชมวิวเพื่อที่จะชมภูเขาไฟโบรโม่ตอนเช้า แต่เพื่อนด้วยความที่ชอบถ่ายรูป 5 ทุ่มตื่นมารอถ่ายทางช้างเผือก ที่นี่ดาวเยอะมากๆ  ไอเราก็ด้วยความที่ไม่เคยเห็นทางช้างเผือกชัดๆกับตาซักที เลยตื่นเดินไปดูด้วย สวยงามมากจริงๆ แป้บๆตี 2 ละไกด์ก็ตรงเวลามากมารอเราละ ส่วนมากไกด์จะพาไปจุดชมวิวปินาจากัน 1 แต่เราทราบมาว่า มีปินาจากัน 2 เราขอเลือก2 ละกัน ขอไปที่คนไม่เยอะ
ชื่อสินค้า:   อินโดนีเซีย โบรโม่(Bromo) อีเจี้ยน(Ijen)
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่