คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 34
2560-06-09 อัพเดตต่อเลยนะคะ
ขออภัยหากบางข้อความด้านล่างอาจจะทำให้ผู้อ่านงงๆ เพราะจขกท.พิมพ์ตามความเข้าใจของตัวเอง (ซึ่งไม่แน่ใจว่าศัพท์ทางการก่อสร้างถูกทั้งหมดหรือไม่นะคะ)
วันนี้มีไปคุยกับทางโครงการและผู้รับเหมารวมถึงวิศวกรที่ดูแลงาน เค้าแจ้งว่าผู้รับเหมาก่อนหน้านี้ที่รับผิดชอบทำกำแพงรั้วนั้นได้ทำการยึดสะเตไว้ก่อนหน้านี้โดยเสาเข็มลึก 9 เมตรและทำผนังกั้นให้แต่หมุดสะเตหลุดหมดเลย สาเหตุที่พังอาจจะเกิดจากน้องผนังเค้ารับน้ำหนักดินไม่ไหว
และด้านล่างเป็นส่วนน้ำกัดเซาะเว้าลึกทางผู้รับเหมากับวิศวกรขอไปเจรจากับทางที่ดินข้างบ้านว่าขออนุญาตถมดินและวางท่อน้ำให้ไหลผ่านเพราะบ้านเราหลังเดียวที่รั้วเกิดเหตุเอนออกมา จากนั้นทางวิศวกรและผู้รับเหมาจะยึดสะเตกับเสาเข็มให้ถี่ขึ้นพร้อมทำผนังกันและโบกปูน
ซึ่งเราเองไม่สามารถให้คำปรึกษาหรือกล้าออกความเห็นเพราะไม่มีความรู้ค่ะ จึงขอให้ทางโครงการและวิศวกรขึ้นแบบที่ทำกำแพงพร้อมเซ็นรับรองไว้ให้เราค่ะ (เอกสารคาดว่าจะได้เป็นอาทิตย์หน้า) อย่างไรแล้วเดี๋ยวหากทางเอกสารออกมา เราจะรีบนำไปปรึกษากับวิศวกรกับผู้รับเหมาที่เราเคยทำงาน(ที่ไม่ใช่คนจากทางโครงการ) ช่วยออกความเห็นด้วยอีกแรงค่ะ
ทั้งนี้อยากขอบคุณและขอโทษทุกความคิดเห็นจริงๆ ค่ะ ทุกคนน่ารักมากๆ เลยค่ะ ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนก็พยายามมาช่วยเสนอวิธีต่างๆ ทั้งให้คำแนะนำ ตักเตือน และเม้นขำๆ ทำให้จขกท. หายเป็นบ้าเป็นหลังได้จริงๆ ค่ะ โดยรวมเราเริ่มรู้สึกว่าทั้งผู้รับเหมาวิศวกร โครงการ เพื่อนบ้านค่อนข้างให้ความร่วมมือ มีแต่เราเองเนี่ยแหละค่ะนิสัยไม่ดีไปโทษเค้าสะน่าเกลียดจริงๆ ขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ขออภัยหากบางข้อความด้านล่างอาจจะทำให้ผู้อ่านงงๆ เพราะจขกท.พิมพ์ตามความเข้าใจของตัวเอง (ซึ่งไม่แน่ใจว่าศัพท์ทางการก่อสร้างถูกทั้งหมดหรือไม่นะคะ)
วันนี้มีไปคุยกับทางโครงการและผู้รับเหมารวมถึงวิศวกรที่ดูแลงาน เค้าแจ้งว่าผู้รับเหมาก่อนหน้านี้ที่รับผิดชอบทำกำแพงรั้วนั้นได้ทำการยึดสะเตไว้ก่อนหน้านี้โดยเสาเข็มลึก 9 เมตรและทำผนังกั้นให้แต่หมุดสะเตหลุดหมดเลย สาเหตุที่พังอาจจะเกิดจากน้องผนังเค้ารับน้ำหนักดินไม่ไหว
และด้านล่างเป็นส่วนน้ำกัดเซาะเว้าลึกทางผู้รับเหมากับวิศวกรขอไปเจรจากับทางที่ดินข้างบ้านว่าขออนุญาตถมดินและวางท่อน้ำให้ไหลผ่านเพราะบ้านเราหลังเดียวที่รั้วเกิดเหตุเอนออกมา จากนั้นทางวิศวกรและผู้รับเหมาจะยึดสะเตกับเสาเข็มให้ถี่ขึ้นพร้อมทำผนังกันและโบกปูน
ซึ่งเราเองไม่สามารถให้คำปรึกษาหรือกล้าออกความเห็นเพราะไม่มีความรู้ค่ะ จึงขอให้ทางโครงการและวิศวกรขึ้นแบบที่ทำกำแพงพร้อมเซ็นรับรองไว้ให้เราค่ะ (เอกสารคาดว่าจะได้เป็นอาทิตย์หน้า) อย่างไรแล้วเดี๋ยวหากทางเอกสารออกมา เราจะรีบนำไปปรึกษากับวิศวกรกับผู้รับเหมาที่เราเคยทำงาน(ที่ไม่ใช่คนจากทางโครงการ) ช่วยออกความเห็นด้วยอีกแรงค่ะ
ทั้งนี้อยากขอบคุณและขอโทษทุกความคิดเห็นจริงๆ ค่ะ ทุกคนน่ารักมากๆ เลยค่ะ ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนก็พยายามมาช่วยเสนอวิธีต่างๆ ทั้งให้คำแนะนำ ตักเตือน และเม้นขำๆ ทำให้จขกท. หายเป็นบ้าเป็นหลังได้จริงๆ ค่ะ โดยรวมเราเริ่มรู้สึกว่าทั้งผู้รับเหมาวิศวกร โครงการ เพื่อนบ้านค่อนข้างให้ความร่วมมือ มีแต่เราเองเนี่ยแหละค่ะนิสัยไม่ดีไปโทษเค้าสะน่าเกลียดจริงๆ ขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ช่วยด้วยค่ะ!! เราคิดว่าบ้านเรากำลังจะพัง เพราะเกิดจากที่ดินเพื่อนบ้านค่ะ T 0 T
ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกในชีวิตที่คนอย่างเราอยากหาให้ครอบครัวอยู่อย่างเป็นสุขกันค่ะ ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวจัดสรรแบรนด์ธรรมดาๆ ค่ะ ซึ่งมีรั้วรอบบ้านเป็นปกติค่ะ และส่วนหลังบ้านเอง เป็นพื้นที่ที่ติดกับที่ดินของคนอื่นค่ะไม่ใช่ของโครงการ
ตอนซื้อบ้าน ด้วยความเขลา คือเราก็ไม่ได้ไปสังเกตว่าที่ดินหลังบ้านนั้นมีลักษณะดินเป็นอย่างไร เราอยู่เป็นปกติจนกระทั่งซื้อมาได้ 5 เดือนค่ะ เรื่องที่ไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดค่ะ จู่ๆ รั้วหลังบ้านจะทำท่าเอนลงไปซึ่งตอนนั้นเห็นผิดสังเกตจึงให้คุณพ่อปีนรั้วข้างบ้านดู ปรากฏว่ารั้วหลังบ้านของเราดันติดกับคูน้ำของที่ดินคนอื่นค่ะ!!
เราจึงรีบแจ้งกับทางโครงการให้ดำเนินการแก้ไข ซึ่งเขาก็ให้ทางวิศวกรและผู้รับเหมามาดูให้ จากนั้นวิศวกรกับผู้รับเหมาก็แจ้งกับเราว่า เค้าจะทำการสกัดยึดรั้วหลังบ้านกับรั้วข้างซ้ายขวาของบ้านเราไว้ให้ค่ะ ซึ่งเราก็ไม่มีความรู้ค่ะเข้าใจว่ามันคงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ช่วยได้แบบถาวร (โง่มากเลยเรา TT)
ผ่านมาประมาณ 5-6 เดือนค่ะ ช่วงเดือนพฤษภา-มิถุนา 60 ฝนตกหนักทุกวัน ความจริงก็เริ่มกลับมาเยือนเราอีกครั้งค่ะ รั้วหลังบ้านของเราที่ทางโครงการให้วิศวกรและผู้รับเหมามายึดสกัดไว้นั้นกำลังจะเอนและพังลงไปอีกครั้งค่ะ!!! เราก็เลยรีบถ่ายรูปเก็บไว้และคิดว่าวันรุ่งขึ้นจะรีบแจ้งกับทางโครงการทันที
ซึ่งวันต่อมาเรากำลังอยู่ที่ทำงาน ทางโครงการโทรมาบอกว่าวันนี้ทางวิศวกรกับผู้รับเหมาขอมาดูรั้วหลังบ้านเราหน่อย ซึ่งเรายินดีค่ะ ไม่ถึง 10 นาทีทางโครงการก็โทรมาแจ้งอีกครั้ง ว่าขออนุญาตรื้อรั้วเราและจะสร้างกำแพงบ้านให้ใหม่ซึ่งตอนนั้นเราก็ตอบตกลงไปค่ะ และพอตกเย็นเรารีบกลับจากที่ทำงานมาดูบ้านว่าสภาพเป็นอย่างไร คือ ทางโครงการก็ทุบกำแพงบ้านเราออกทั้งหมดค่ะ
คราวนี้คุยกับคุณพ่อคุณพ่อบอกว่ารั้วบ้านของเราต้องเอนอยู่ตลอดและมีสิทธิพังลงไปอีกแน่ หากอีกฝั่งยังเป็นคูที่น้ำเซาะเข้ามาใต้ดินและรั้วหลังบ้านเราอย่างนี้ เพราะตอนนี้รั้วทั้งสองด้านซ้ายขวาของเราก็ถูกดึงร้าวไปด้วยแล้ว TT 0 TT
คือ เรากังวลใจมากค่ะ อยากปรึกษาคนในพันทิปมากๆ เลยค่ะ เพราะเราคิดว่า
1. ทางโครงการไม่เจรจาให้ที่ดินที่ติดกันกับเราเค้าถมดินแน่นอนเพราะเค้าบอกกับผู้รับเหมาเองว่าไม่อยากมีปัญหา
2. ทางโครงการเลือกที่จะซ่อมรั้วให้เราเพราะว่า อยากแก้ปัญหาที่ง่ายกับทางโครงการมากที่สุดเนื่องจากบ้านยังขายไม่หมดค่ะเหลืออีก 10 หลัง
3. เนื่องจากบ้านที่โครงการนี้ยังขายไม่หมดดังนั้นเราคิดว่า หากบ้านขายหมดเค้าจะปล่อยให้เราลอยแพผจญกับปัญหานี้เองซ่อมรั้วไม่มีที่สิ้นสุดแน่ๆ กลัวซ้ำร้ายตัวบ้านจะพังลงไปด้วย
4. เราไม่มีความรู้เรื่องการแก้ปัญหาต่อจากนี้ว่า เราควรเจรจากับโครงการให้เจรจากับที่ดินติดกัน หรือเราต้องเจรจากับที่ดินติดกันเอง
5. หากสมมติว่าเกิดมีการเจรจาแล้วเรามีสิทธิฟ้องร้องอะไรได้ไหมคะ TT
6. ท่านใดพอจะมีทนายเกี่ยวกับเรื่องการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยรบกวนแนะนำเรา (หลังไมค์มาได้เลยค่ะ)
ขอขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านและแนะนำเราด้วยนะคะ เราเป็นคนคนนึงที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายหรือเรื่องโครงสร้างเลยค่ะ TT TT เราเลยไม่รู้จะเริ่มจากทำอะไรก่อนดีค่ะ
ปล. ขอเข้ามา EDIT เพิ่มข้อความค่ะ จากที่หลายๆ ท่านแนะนำมาว่า จขกท. จริงๆ แล้วไม่ควรไปโทษที่ดินฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ เขาไม่ได้ผิดอะไร สิ่งที่จขกท.ควรทำคือต้องตั้งสติดีๆ และเจรจากับทางโครงการเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหา เพราะสาเหตุรั้วพังน่าจะมาจากการสร้างรั้วไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นค่ะ จขกท.ยอมรับผิดจริงๆ เลยค่ะว่านิสัยไม่ดีกังวลจนเสียสติและโยนความผิดไปที่ที่ดินติดกันโดยที่ไม่ได้ดูที่มาที่ไปเสียก่อน ขอขอบคุณทุกท่านที่ทั้งให้คำแนะนำและตักเตือนค่ะ
EDIT 2 : จขกท.มีเขียนอัพเดตใน คห.ที่ 34 และ คห.ที่ 46 เพิ่มเติมค่ะ ทุกท่านสามารถตามไปอ่านได้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ^^