การเดินทางของ เดอะแก๊ง ที่รวมตัวกันหลังจากสอบไฟนอลเสร็จ...
.Day1.
The gang ของเรามีทั้งหมด 9 คนนะครับ
เริ่มเดินทางจาก สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ โดยขึ้นรถบัสปรับอากาศเพื่อเดินทางไปกาญจนบุรี ค่าตั๋วคนละ 100 บาท
ไปถึง บขส.กาญจนบุรี เราก็เหมารถคุณลุงไปสะพานข้ามแม่น้ำแควค่ารถ9คน ตกคนละประมาณ 20 บาท
#(ลืมบอกไป คนที่นี่พูดดีมาก ๆ เท่าที่เจอนะ )
หลังจากนั้นก็เริ่มการถ่ายรูปสถานที่แรกของทริปนี้นะครับ..
ภาพของตากล้องหายากหน่อยนะครับ ส่วนใหญ่จะเน้น GROUP SHOT
#แต่วันแรกก็เจอเรื่องพีคกันเลย
บังเอิญเพื่อนของผมทำโทรศัพท์หล่นตอนที่กำลังถ่ายรูปเดี่ยวๆให้เพื่อนๆอยู่
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีซ่อนอยู่ตรงที่พี่ที่เห็นเหตุการณ์ได้ให้คำปรึกษาว่าให้ไปแจ้งตำรวจท่องเที่ยว..
ด้วยความที่ตกใจหนักมาก5555 เราก็วิ่งปรือเข้าไปแจ้งตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้เขาประสานงานให้มูลนิธิพิทักษ์มาช่วยงมหา..
สภาพเครื่องขึ้นจากน้ำใช้งานได้ปกติ เพราะ Iphone7 กันน้ำได้ไง ถือว่าใช้งานได้คุ้มมาก55555
..จะบอกว่าไม่ใช่ทุกคนนะครับที่สามารถงมหาแล้วเจอ อันนี้ถือว่าพึ่งดวง
หลังจากนั้นก็ทานข้าวเที่ยงแถวๆนั้น พอเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อไปยังที่พักคืนแรกของเรา นั่นคือ "บ้านริมแคว แพริมน้ำ"
การเดินทางจากสะพานข้ามแม่น้ำแควไปยังที่พัก ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. นะครับ
นี่ไงถึงที่พักก็เริ่มเล่นน้ำกัน ฮู้เย้ !!!
ตรงข้ามแพจะเป็นทางรถไฟสายมรณะซึ่งถ้ามาแบบแพ๊คเกจ ก็จะได้ล่องแพ
แต่กลุ่มเราไม่ได้ซื้อเป็นแพ๊คเกจเลยได้เล่นน้ำอย่างเดียว
ตกค่ำก็สั่งอาหารทางที่พักเฉลี่ยแล้วตกคนละ 100 บาท อิ่มแปล้ครับ (อาหารถือว่าคุ้มกับราคานะ)
การนอนก็จะมีวงดนตรีซึ่งทางรีสอร์ทได้จัดหาไว้ให้..มีร๊อคบ้าง ช้าบ้างตามประสาคนเหงา
วงดนตรีก็จะเป็นวงตุ๊กแกนะครับ 555555 อั๊บแอ.. อั๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แอออออออ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
.Day2.
ตื่นเช้าขึ้นมา ก็รับประทานอาหารโดยทางที่พักจะเตรียมไว้ให้อร่อยมาก
ขอบอกที่นี่มีให้ยิงปืนแบบตุ๊กตาตัวเล็กๆ ปืนยาวอะครับ ฟาดไปสิครับชุดละ20บาท ไม่ได้สักตัว 555555555
หลังจากนั้น เตรียมตัวเก็บสัมภาระเดินทางอีกครั้ง เพื่อไปขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟถ้ำกระแซ ไปยังสถานีรถไฟน้ำตก
#เรื่องพีคในวันที่2ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งคือระหว่างทานข้าวเสร็จไปเอาของ พนักงานก็ตะโกนมาว่ารถไฟมาแล้ว
ซึ่งพวกเราจะต้องนั่งเรือข้ามไป รออะไรละครับ วิ่งสิวิ่งงงง !!!!!
พนักงานก็ขับเร็วเต็มพิกัด พอถึงท่าเทียบ ก็รีบกระโดดขึ้นฝั่งเพื่อให้รถไฟหยุดรอ ที่ยากกว่านั้นคือการวิ่งขึ้นบรรไดที่ชันแบบ อห. แทบจะอวสานอาหารเช้ากันเลย 5555555 สุดท้ายก็ทันนะครับ
แต่ก็นั่งพักเหนื่อยอยู่นานหน่อยกว่าจะเริ่มถ่ายรูปกันต่อ (ปกติรถไฟจะมาเช้าๆประมาณ 7.50 น.ไม่เกินนะครับ รถไฟตรงเวลามาก และรถไฟจะไม่หยุดรอนะครับ ถ้าหากไม่มีคนคอยอยู่ที่สถานี)
หลังจากหายเหนื่อยตากล้องก็อยากมีรูปบ้างง
ชอบมุมนี้ เผื่อเป็นมุมในการถ่ายรูปให้คนที่จะท่องเที่ยว
คนนี้จะถ่ายยากหน่อย กว่าจะได้มุมเผลอที่ออกมาโอเค 555555
ถึงแล้วสถานีรถไฟน้ำตก มาแค่จะนั่งรถไฟเล่นกันเฉยๆ
หลังจากนั้นก็เหมารถสองแถวไปยังน้ำตกเอราวัณ ค่ารถ 900บาท ตกคนละ 100บาทอีกเช่นเคย..
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชม. ค่าเข้าอุทยานปกติ 100บาท ถ้ามีบัตรนักศึกษาจะลดเหลือคนละ 50บาทนะครับ
พอมาถึงก็ฝากกระเป๋ากับ จนท. ที่อุทยาน แต่ถ้าหายเขาจะไม่รับผิดชอบ (เพราะเขาไม่มีบริการรับฝากกระเป๋า)
GROUP SHOT ก่อนออกเดินทาง...
นี่ระหว่างทางเดินไป ชั้นที่1 *ระหว่างทางเดินจะมีหมูป่าออกมาวิ่งเล่นด้วย
แต่ละชั้นก็จะมีชื่อ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน ซึ่งตั้งตามลักษณะของน้ำตกในชั้นนั้น ๆ
แน่นอนครับ มาทั้งทีต้องพิชิตชั้น 7ซะหน่อยครับ
ก็เดินต่อไป เรื่อยๆ ทางยิ่งทรหดขึ้นเรื่อยๆ (นี่มาเข้าค่าย หรือมาเที่ยววว เริ่มสงสัยตัวเองเล็กน้อย)
และแล้วก็ปีนป่ายเดินวิ่งกัน จนมาถึงชั้นที่7 We are the Winner!!!! ใช้เวลาประมาณเกือบ 2ชม.
แนะนำให้เตรียมน้ำดื่มด้วยนะครับ แต่ว่าต้องมีค่าประกันขวดละ 20บาท เขาจะเก็บประมาณชั้นที่ 2-3 (ไม่แน่ใจ)
#มีแนะนำอีกอย่างนึง ลงไปแล้วทนปลาตอดเท้ากันหน่อยนะ 555555 สะดุ้งกันเป็นแถวววว
และ ๆ ๆ ๆ ยังมีอีกอย่าง อย่าลืมไปลอดถ้ำเล็กๆ ในชั้นที่7 ด้วยนะ น้ำเย็นสบายยยยมาก
หลังจากจบการพิชิตน้ำตกเอราวัณทั้ง 7ชั้นก็มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านล่าง
แล้วก็หาอะไรทานแถวนั้น จัดเต็มทุกมื้อ ตกคนละอีก 100บาทเช่นเคย
สถานีต่อไปของเราคือ "บ้าน กก กอด"
จากนั้นไปรอรถบัสสีแดง สายเอราวัณ-กาญจนบุรี ขึ้นรถประมาณบ่ายสอง ไปลงแยกโป่งปัดค่ารถคนละ 30บาท(ถ้านั่งไปสุดสายคนละ 50บาท)
พอไปถึงโทรหาพี่เจ้าของรีสอร์ทเพื่อให้ออกมารับ..
มาถึงแว้วววว บ้าน กก กอด วิวสวยมาก
ที่นี่บรรยากาศดีมาก สัญญาว่าจะกลับไปอีกครั้ง 555555
บรรยากาศรอบๆ ก็จะเป็นประมาณนี้นะ...
แล้วยังมีน้องห่านมาวิ่งเล่นอีกด้วยนะ ลองไปเล่นกับมันดูสิ ยกพวกมาเป็นโขยง 5555555
อีกทั้งยังมีกิจกรรมพายเรือให้ได้ชมธรรมชาติกันอีกด้วย เรือจะมีทั้งหมด 3ลำ มีชูชีพกับไม้พายพร้อม..
ส่วนด้านบนของลานรับประทานอาหาร มีเปลรังนกไว้ให้นั่งเล่นอีกด้วยย..
ที่ขาดไม่ได้ก็คือ GROUP SHOT ของพวกเรา
ป.ล.อาหารเย็นก็สั่งจากทางที่พักเฉลี่ยคนละ 100เหมือนเดิม
แนะนำเมนู...*ยำปลากระดูกอ่อนทอดกรอบ *ปลาทับทับราดพริก
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
.Day3.
เริ่มต้นอาหารเช้า ทางที่พักก็จะจัดเตรียมไว้ให้ มีทั้ง ABF(American Breakfast) และข้าวต้ม พร้อมกาแฟ-โอวัลตินร้อนๆ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวเพื่อเดินทางไปยังอ.สังขละบุรี
โดยให้ทางที่พักติดต่อเหมารถให้ ราคาตกคนละ 300บาท
ใช้เวลาในการเดินทาง 3-4 ชม.
ซึ่งที่พักที่จะไปก็คือ "สามประสบ รีสอร์ท" (ห้องพักสามารถมองเห็นวิวของสะพานมอญได้ชัดเจน)
หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จ ก็เริ่มเดินข้ามสะพานมอญ ก็มีของติดไม้ติดมือกันมาคนละเล็ก ละน้อย
ป.ล.วันที่ 3 จะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร เพราะใช้เวลากับการนั่งรถนานมาก
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
.Day4.
ตื่นเช้าตั้งแต่ตี 5 ขึ้นมาเตรียมตัวเพื่อไปตักบาตร ถ้าจะไปใส่บาตรให้ทันต้องรีบไปนะครับ พระจะมาเร็วมาก.
ส่วนของตักบาตรแนะนำให้ไปซื้อฝั่งมอญ เพราะคนที่นี่จะนิยมตักบาตรกับอาหารแห้ง...
พอซือของตักบาตร เขาก็จะให้ยืมชุดฟรีเพื่อมาตักบาตรประมาณนี้ครับ
วิวตอนเช้าระหว่างทางเดิน..
จากนั้นเราก็เดินไปตักบาตรฝั่งมอญ
โฉมหน้าผู้รอดชีวิต 555555
พอตักบาตรเสร็จ ก็กลับมารับประทานอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งอาหารจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์..
มีต่อในคอมเมนต์นะครับ
[CR] แบกเป้ ไปเที่ยวกาญ(จนบุรี) 4วัน 3คืน
The gang ของเรามีทั้งหมด 9 คนนะครับ
เริ่มเดินทางจาก สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ โดยขึ้นรถบัสปรับอากาศเพื่อเดินทางไปกาญจนบุรี ค่าตั๋วคนละ 100 บาท
ไปถึง บขส.กาญจนบุรี เราก็เหมารถคุณลุงไปสะพานข้ามแม่น้ำแควค่ารถ9คน ตกคนละประมาณ 20 บาท
#(ลืมบอกไป คนที่นี่พูดดีมาก ๆ เท่าที่เจอนะ )
หลังจากนั้นก็เริ่มการถ่ายรูปสถานที่แรกของทริปนี้นะครับ..
ภาพของตากล้องหายากหน่อยนะครับ ส่วนใหญ่จะเน้น GROUP SHOT
#แต่วันแรกก็เจอเรื่องพีคกันเลย
บังเอิญเพื่อนของผมทำโทรศัพท์หล่นตอนที่กำลังถ่ายรูปเดี่ยวๆให้เพื่อนๆอยู่
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีซ่อนอยู่ตรงที่พี่ที่เห็นเหตุการณ์ได้ให้คำปรึกษาว่าให้ไปแจ้งตำรวจท่องเที่ยว..
ด้วยความที่ตกใจหนักมาก5555 เราก็วิ่งปรือเข้าไปแจ้งตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้เขาประสานงานให้มูลนิธิพิทักษ์มาช่วยงมหา..
สภาพเครื่องขึ้นจากน้ำใช้งานได้ปกติ เพราะ Iphone7 กันน้ำได้ไง ถือว่าใช้งานได้คุ้มมาก55555
..จะบอกว่าไม่ใช่ทุกคนนะครับที่สามารถงมหาแล้วเจอ อันนี้ถือว่าพึ่งดวง
หลังจากนั้นก็ทานข้าวเที่ยงแถวๆนั้น พอเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อไปยังที่พักคืนแรกของเรา นั่นคือ "บ้านริมแคว แพริมน้ำ"
การเดินทางจากสะพานข้ามแม่น้ำแควไปยังที่พัก ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. นะครับ
นี่ไงถึงที่พักก็เริ่มเล่นน้ำกัน ฮู้เย้ !!!
ตรงข้ามแพจะเป็นทางรถไฟสายมรณะซึ่งถ้ามาแบบแพ๊คเกจ ก็จะได้ล่องแพ
แต่กลุ่มเราไม่ได้ซื้อเป็นแพ๊คเกจเลยได้เล่นน้ำอย่างเดียว
ตกค่ำก็สั่งอาหารทางที่พักเฉลี่ยแล้วตกคนละ 100 บาท อิ่มแปล้ครับ (อาหารถือว่าคุ้มกับราคานะ)
การนอนก็จะมีวงดนตรีซึ่งทางรีสอร์ทได้จัดหาไว้ให้..มีร๊อคบ้าง ช้าบ้างตามประสาคนเหงา
วงดนตรีก็จะเป็นวงตุ๊กแกนะครับ 555555 อั๊บแอ.. อั๊บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แอออออออ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ตื่นเช้าขึ้นมา ก็รับประทานอาหารโดยทางที่พักจะเตรียมไว้ให้อร่อยมาก
ขอบอกที่นี่มีให้ยิงปืนแบบตุ๊กตาตัวเล็กๆ ปืนยาวอะครับ ฟาดไปสิครับชุดละ20บาท ไม่ได้สักตัว 555555555
หลังจากนั้น เตรียมตัวเก็บสัมภาระเดินทางอีกครั้ง เพื่อไปขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟถ้ำกระแซ ไปยังสถานีรถไฟน้ำตก
#เรื่องพีคในวันที่2ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งคือระหว่างทานข้าวเสร็จไปเอาของ พนักงานก็ตะโกนมาว่ารถไฟมาแล้ว
ซึ่งพวกเราจะต้องนั่งเรือข้ามไป รออะไรละครับ วิ่งสิวิ่งงงง !!!!!
พนักงานก็ขับเร็วเต็มพิกัด พอถึงท่าเทียบ ก็รีบกระโดดขึ้นฝั่งเพื่อให้รถไฟหยุดรอ ที่ยากกว่านั้นคือการวิ่งขึ้นบรรไดที่ชันแบบ อห. แทบจะอวสานอาหารเช้ากันเลย 5555555 สุดท้ายก็ทันนะครับ
แต่ก็นั่งพักเหนื่อยอยู่นานหน่อยกว่าจะเริ่มถ่ายรูปกันต่อ (ปกติรถไฟจะมาเช้าๆประมาณ 7.50 น.ไม่เกินนะครับ รถไฟตรงเวลามาก และรถไฟจะไม่หยุดรอนะครับ ถ้าหากไม่มีคนคอยอยู่ที่สถานี)
หลังจากหายเหนื่อยตากล้องก็อยากมีรูปบ้างง
ชอบมุมนี้ เผื่อเป็นมุมในการถ่ายรูปให้คนที่จะท่องเที่ยว
คนนี้จะถ่ายยากหน่อย กว่าจะได้มุมเผลอที่ออกมาโอเค 555555
ถึงแล้วสถานีรถไฟน้ำตก มาแค่จะนั่งรถไฟเล่นกันเฉยๆ
หลังจากนั้นก็เหมารถสองแถวไปยังน้ำตกเอราวัณ ค่ารถ 900บาท ตกคนละ 100บาทอีกเช่นเคย..
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชม. ค่าเข้าอุทยานปกติ 100บาท ถ้ามีบัตรนักศึกษาจะลดเหลือคนละ 50บาทนะครับ
พอมาถึงก็ฝากกระเป๋ากับ จนท. ที่อุทยาน แต่ถ้าหายเขาจะไม่รับผิดชอบ (เพราะเขาไม่มีบริการรับฝากกระเป๋า)
GROUP SHOT ก่อนออกเดินทาง...
นี่ระหว่างทางเดินไป ชั้นที่1 *ระหว่างทางเดินจะมีหมูป่าออกมาวิ่งเล่นด้วย
แต่ละชั้นก็จะมีชื่อ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน ซึ่งตั้งตามลักษณะของน้ำตกในชั้นนั้น ๆ
แน่นอนครับ มาทั้งทีต้องพิชิตชั้น 7ซะหน่อยครับ
ก็เดินต่อไป เรื่อยๆ ทางยิ่งทรหดขึ้นเรื่อยๆ (นี่มาเข้าค่าย หรือมาเที่ยววว เริ่มสงสัยตัวเองเล็กน้อย)
และแล้วก็ปีนป่ายเดินวิ่งกัน จนมาถึงชั้นที่7 We are the Winner!!!! ใช้เวลาประมาณเกือบ 2ชม.
แนะนำให้เตรียมน้ำดื่มด้วยนะครับ แต่ว่าต้องมีค่าประกันขวดละ 20บาท เขาจะเก็บประมาณชั้นที่ 2-3 (ไม่แน่ใจ)
#มีแนะนำอีกอย่างนึง ลงไปแล้วทนปลาตอดเท้ากันหน่อยนะ 555555 สะดุ้งกันเป็นแถวววว
และ ๆ ๆ ๆ ยังมีอีกอย่าง อย่าลืมไปลอดถ้ำเล็กๆ ในชั้นที่7 ด้วยนะ น้ำเย็นสบายยยยมาก
หลังจากจบการพิชิตน้ำตกเอราวัณทั้ง 7ชั้นก็มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านล่าง
แล้วก็หาอะไรทานแถวนั้น จัดเต็มทุกมื้อ ตกคนละอีก 100บาทเช่นเคย
สถานีต่อไปของเราคือ "บ้าน กก กอด"
จากนั้นไปรอรถบัสสีแดง สายเอราวัณ-กาญจนบุรี ขึ้นรถประมาณบ่ายสอง ไปลงแยกโป่งปัดค่ารถคนละ 30บาท(ถ้านั่งไปสุดสายคนละ 50บาท)
พอไปถึงโทรหาพี่เจ้าของรีสอร์ทเพื่อให้ออกมารับ..
มาถึงแว้วววว บ้าน กก กอด วิวสวยมาก
ที่นี่บรรยากาศดีมาก สัญญาว่าจะกลับไปอีกครั้ง 555555
บรรยากาศรอบๆ ก็จะเป็นประมาณนี้นะ...
แล้วยังมีน้องห่านมาวิ่งเล่นอีกด้วยนะ ลองไปเล่นกับมันดูสิ ยกพวกมาเป็นโขยง 5555555
อีกทั้งยังมีกิจกรรมพายเรือให้ได้ชมธรรมชาติกันอีกด้วย เรือจะมีทั้งหมด 3ลำ มีชูชีพกับไม้พายพร้อม..
ส่วนด้านบนของลานรับประทานอาหาร มีเปลรังนกไว้ให้นั่งเล่นอีกด้วยย..
ที่ขาดไม่ได้ก็คือ GROUP SHOT ของพวกเรา
ป.ล.อาหารเย็นก็สั่งจากทางที่พักเฉลี่ยคนละ 100เหมือนเดิม
แนะนำเมนู...*ยำปลากระดูกอ่อนทอดกรอบ *ปลาทับทับราดพริก
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เริ่มต้นอาหารเช้า ทางที่พักก็จะจัดเตรียมไว้ให้ มีทั้ง ABF(American Breakfast) และข้าวต้ม พร้อมกาแฟ-โอวัลตินร้อนๆ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวเพื่อเดินทางไปยังอ.สังขละบุรี
โดยให้ทางที่พักติดต่อเหมารถให้ ราคาตกคนละ 300บาท
ใช้เวลาในการเดินทาง 3-4 ชม.
ซึ่งที่พักที่จะไปก็คือ "สามประสบ รีสอร์ท" (ห้องพักสามารถมองเห็นวิวของสะพานมอญได้ชัดเจน)
หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จ ก็เริ่มเดินข้ามสะพานมอญ ก็มีของติดไม้ติดมือกันมาคนละเล็ก ละน้อย
ป.ล.วันที่ 3 จะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร เพราะใช้เวลากับการนั่งรถนานมาก
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ตื่นเช้าตั้งแต่ตี 5 ขึ้นมาเตรียมตัวเพื่อไปตักบาตร ถ้าจะไปใส่บาตรให้ทันต้องรีบไปนะครับ พระจะมาเร็วมาก.
ส่วนของตักบาตรแนะนำให้ไปซื้อฝั่งมอญ เพราะคนที่นี่จะนิยมตักบาตรกับอาหารแห้ง...
พอซือของตักบาตร เขาก็จะให้ยืมชุดฟรีเพื่อมาตักบาตรประมาณนี้ครับ
วิวตอนเช้าระหว่างทางเดิน..
จากนั้นเราก็เดินไปตักบาตรฝั่งมอญ
โฉมหน้าผู้รอดชีวิต 555555
พอตักบาตรเสร็จ ก็กลับมารับประทานอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งอาหารจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์..
มีต่อในคอมเมนต์นะครับ