คิดจะเปลี่ยนงานตอนอายุ 36 แต่ด้วยประสบกาณ์ทำบัญชีเฉพาะด้านมา

ก่อนอื่นเลย ต้องขอบอกก่อนว่า จขกท.ทำงานในหน่วยงานบัญชีของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ที่ทำธุรกิจด้านอาหารแปรรูป และมีบริษัทในเครือหลายกลุ่ม ซึ่งผมทำงานที่นี่เป็นปีที่  11 ปีแล้ว ตั้งแต่เรียนจบ ไม่เคยหางานใหม่ มีเพียงแต่ย้ายที่ทำงานจากโรงงานไปที่สำนักงานใหญ่ และย้ายจากสำนักงานใหญ่ไปที่โรงงาน งานหลักๆบัญชีที่ทุกบริษัทต้องมีคือ บัญชีลูกหนี้  บัญชีเจ้าหนี้ บัญชีทรัพย์สิน บัญชีทั่วไป และบัญชีต้นทุน ผมเองไม่ได้ทำบัญชีครบทุกด้าน เพราะเนื่องจากเป็นองค์กรใหญ่ จะมีการแบ่งหน้าที่งานกันชัดเจน จึงทำให้เจ้าหน้าที่บัญชีที่นี้มีความถนัดในสายงานเฉพาะด้านจริงๆ ไม่เหมือนกับบริษัทเล็กๆที่ให้บัญชีทำครบทุกด้าน เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ผมคิดจะเปลี่ยนงาน จึงได้ไปฝากประวัติที่ Jobthai เพื่อต้องการจะหางานใหม่ที่อยู่ใกล้ๆบ้าน ผมเป็นคนต่างจังหวัดที่มาทำงานต่างจังหวัดตัวเอง เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทผลิตน้ำตาลยี่ห้อหนึ่ง ทางบริษัทโทรมาหาผมวันอังคารและต้องการสัมภาษณ์ผมในวันศุกร์ เนื่องจากผมไม่สามารถไปได้ตามวันที่กำหนด จึงขอเลื่อนไปเป็นวันจันทร์แทน เมื่อถึงวันที่ไปสัมภาษณ์ผมต้องออกจากที่พักตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อเดินทางไปอีกจังหวัดหนึ่ง จากการเตรียมตัวของผม ต้องบอกก่อนเลย ใช้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก แต่พอไปถึงที่บริษัทฯ จนท.สรรหา ให้ทำข้อสอบจิตวิทยาและให้สอบ TOEIC พระเจ้า!!!!! ผมไม่คิดว่าข้อสอบภาษาอังกฤษจะเยอะขนาดนี้ จำได้ว่าให้สอบ reading ประมาณ 120 ข้อ และ Listening อีกประมาณ 140 ข้อ บอกเลยว่าข้อสอบยากพอสมควร แต่โชคดีหน่อยที่มีช้อยให้เลือก พอช่วงบ่ายให้สอบข้อเขียนที่เป็นข้อสอบบัญชี ด้วยเป็นวิชาชีพแล้ว จึงทำข้อสอบได้ทุกข้อ อีกอย่างข้อสอบถามตรงกับงานที่ทำอยู่ด้วย หลังจากสอบข้อเขียนเสร็จ ก็ต่อด้วยสอบสัมภาษณ์กับผู้จัดการฝ่ายบัญชี และผู้จัดการแผนกบัญชี มี 4 ท่านสัมภาษณ์ผม ใช้เวลา 1 ชม.ในการพรีเซ้น ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน และถามความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี แต่มีอยู่คำถามหนึ่งที่คนสัมภาษณ์ถามว่า ทำไมคิดอยากจะเปลี่ยนงานตอนอายุ 36 ปี ผมเองได้เตรียมคำตอบนี้ไปแล้ว จึงตอบว่าต้องการย้ายกลับไปทำงานที่อยู่ใกล้บ้าน อีกอย่างคุณพ่อคุณแม่ก็อายุเยอะแล้ว อย่างน้อยๆ ถ้าได้ทำงานใกล้บ้านจะได้มีโอากสกลับบ้านไปดูแลท่านได้ หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จ ผมเสียเวลาไป 1 วัน แต่ก็ถือว่าคุ้มมาก เพราะว่าไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านการสัมภาษณ์งานมานานมากๆ จากการที่ได้ไปสัมภาษณ์งานในครั้งนี้ทำให้ผมรู้ตัวเองเลย ว่าด้วยวิชาชีพบัญชีและประสบการณ์ในการทำบัญชี เราสามารถแข่งขันกับเพื่อนร่วมวิชาชีพด้วยกันได้ แต่ถ้าจะให้ดีไปกว่านี้ ภาษาอังกฤษคุณก็ต้องดีด้วย เนื่องจากภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆก็เป็นใบเบิกทางในการเข้าทำงานในทุกวันนี้ ที่มีการแข่งขันกันสูงมาก

             หลังจากผ่านไปได้ 1 สัปดาห์ วันนี้ตอนประมาณ 1 ทุ่ม มีเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่มีชื่อที่ผมบันทึกไว้โทรมา ตอนแรกผมจะไม่รับสาย เพราะว่าเป็นเบอร์แปลกๆ คิดว่าเป็นบริษัทประกันโทรมาด้วยซ้ำ ในที่สุดก็ตัดสินใจรับสาย ปรากฎว่าเป็นผู้บริหารของบริษัทน้ำตาลที่ผมไปสัมภาษณ์มา โทรมาสัมภาษณ์ผมทางโทรศัพท์ ใช้เวลาในการสัมภาษณ์ประมาณ 45 นาที (ทุกวันนี้เค้าใช้วิธีการสัมภาษณ์โดยใช้โทรศัพท์แทนตั้งแต่เมื่อไหร่ งงเหมือนกัน)  แต่ผมก็สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จนจบ สิ่งที่ได้จากประสบการณ์ในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า การที่บริษัทจะหาคน 1 คน มาทำงานเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครเป็นอย่างมาก ตำแหน่งที่ผมสมัครไปคือตำแหน่งผู้จัดการแผนกบัญชี

            ท้ายนี้ผมจึงอยากฝากเพื่อนร่วมวิชาชีพบัญชีที่คิดจะเปลี่ยนงานขอให้เตรียมตัวให้พร้อมในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางด้านวิชาชีพบัญชีและความสามารถทางด้านใช้คอมพิวเตอร์ ทักษะภาษาต่างๆ จะต้องมี ถ้าหากคุณมีครบ โอกาสที่จะได้เข้าทำงานก็มีสุงเช่นกัน เขียนมาตั้งเยอะแยะ ไม่รู้ว่าเขียนบ่นหรือเล่าอะไร  ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์นะครับ ขอบคุณนะครับที่อ่าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่