รีวิวนี้เราจะพาหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่น ไปตะลอนอีกสองเมืองเล็กน่ารัก ที่เราทั้งคู่ และชาว Pantip อีกเพียบหลงรัก
Shirakawa-go หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ น่ารัก ตะมุตะมิ
Takayama เมืองที่มีเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นยุคเก่าหลงเหลืออยู่ และโด่งดังเรื่อง เนื้อฮิดะ หนึ่งในเนื้อที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น แบบว่านุ่มมมมละลายในปาก ที่ไทยขายกันสามสี่พัน แต่ที่นี่สามสี่ร้อยบาทก็ฟินได้แล้วเด้อออ บอกเลยว่า สายเนื้อ ห้ามพลาด!
ภาพในกระทู้ถ่ายด้วยกล้อง Sony A5100 เลนส์คิต และเลนส์มือหมุน Fujian ราคาไม่กี่ร้อยบาท ขออภัยถ้าบางรูปโบเก้จะวนจนปวดหัว หรือหลุดโฟกัสไปบ้างนะคะ
แพลน 3 วัน 2 คืน แบบสโลว์ไลฟ์ ไปเรื่อยๆ แพลนไม่แน่น ไม่เน้นเก็บทุกอย่าง แต่ครบเครื่อง
Tokyo-Takayama-Shirakawago-Osaka
Day 1: Tokyo-Takayama
17:05 - Nohi Bus to Takayama from Shinjuku Expressway Bus Terminal [JPY6,690 / person]
22:35 - Arrive at Takayama Bus Station Takayama Bus Station
23:00 - Check-in at hotel J-Hoppers Hida Takayama [JPY11,187 / 2 nights]
Day 2: Takayama
- Lunch at Kotaro Restaurant [Hida Beef]
- Takayama Jinya
- Nakabashi Bridge
- Takayama Old Town
- Kokubun-ji Temple
Day 3: Takayama-Shirakawago-Osaka
08:10-12:10 - Shirakawa-go Half Day Bus Tour with J-Hoppers [JPY3,900 / person]
16:50 - Nohi Bus to Osaka [JPY4,700 / person]
ถ้าสนใจชมรีวิวแบบวิดีโอสั้นๆ ตามไปได้ที่นี่เลยจ้า > www.facebook.com/bestiewanderer
รีวิวทริปญี่ปุ่นเมืองอื่นๆ
เติมเต็มทริปญี่ปุ่นโซน Kansai ที่ "Kinosaki Onsen" : กินปู ดูหิมะ ใส่ยูกาตะ แช่ออนเซ็น
https://ppantip.com/topic/36409282
พาชมโรงแรม Courtyard by Marriott Shin-Osaka Station มีดีที่เชื่อมกับสถานีรถไฟ
https://ppantip.com/topic/36495750
พาชิมซูชิร้อยเยน & ซูชิหน้าล้น – 2 ร้านซูชิอร่อยเด็ดต้องลอง ที่ “โอซาก้า”
https://ppantip.com/topic/36529985
01. ออกเดินทางไป Takayama จาก Tokyo โดย Nohi Bus
การเดินทางไปทาคายาม่าจากโตเกียวมีทั้งแบบนั่งรถบัสและรถไฟ เราไม่อยากไปเปลี่ยนขบวน เปลี่ยนรถหลายรอบเลยเลือกเดินทางด้วยรถบัส Nohi Bus โดยซื้อตั๋วมาแล้วผ่านทางเว็บไซต์ www.nouhibus.co.jp/english/ และปริ้นท์ตั๋วไปจากบ้านเลย ราคาคนละ 6,690 เยน ไปขึ้นรถที่ชินจูกุตรง Shinjuku Expressway Bus Terminal เราเลือกรถรอบ 17:05 น. จะไปถึงทาคายาม่าตอน 22:35 น. ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง มีแวะจุดพักรถระหว่างทางบ้าง 3-4 ครั้ง
ดูตารางเวลารถออกได้ที่เว็บไซต์เลยจ้า
ก่อนขึ้นรถบัส เราเอากระเป๋าเดินทางไปฝากไว้ที่ Tourist Information Center เพื่ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกแป้บนึงค่ะ จะมีเค้าเตอร์ของ Sagawa Cloak & Delivery ให้บริการรับฝากอยู่ค่ะ (เสียค่าใช้จ่าย) จริงๆแล้วในสถานีจะมีล็อกเกอร์ให้ฝากด้วย แต่ช่วงที่เราไปดันปิดปรับปรุงพอดีเลย
บรรยากาศตรงที่ขึ้นรถ จริงๆแล้วภายในจะมีที่งนั่งรอ มีมินิมาร์ท แต่เสียดายที่ไม่มีมุมให้ชาร์ทแบต (แต่บนรถบัสมีช่องให้เสียบชาร์ทแบตจ้า)
02. เข้าพักที่ J-Hoppers Hida Takayama 2 คืน
หลังจากที่เรานั่งรถมาถึง Takatama เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง ก็แวะซื้อเสบียงกันก่อนเข้าที่พัก เราจองห้องไว้กับ J-Hoppers Hida Takayama Guesthouse จองทางเว็บไซต์โรงแรมโดยตรง ถ้าจะมาเช็คอินหลัง 4 ทุ่มต้องอีเมลแจ้งทางโรงแรมก่อนนะคะ เพราะหลังสี่ทุ่มบางทีเค้าไม่มีพนักงานรออยู่ เค้าจะเตรียมกุญแจห้องไว้ให้เรา และให้พาสเวิร์ดเข้าโรงแรมมาค่ะ
เราเลือกเป็นห้องส่วนตัวสำหรับ 2 คน ราคา 11,187 เยน 2 คืน หารกันก็คนละห้าพันเยนนิดๆ โดยรวมถือว่าโอเคมาก ในเรื่องทำเล ราคา ฟูกก็นุ่มอยู่นะคะ ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้าใหญ่พอที่จะใส่กระเป๋าเดินทาง 30 นิ้ว สองใบได้ มีโต๊ะนั่งทานอะไรได้นิดหน่อย มีฮีตเตอร์
ห้องน้ำในแต่ละชั้นคือเป็นแบบส่วนรวม ห้องอาบน้ำจะอยู่ที่ชั้นล้อบบี้ แยกชาย/หญิง มีเครื่องซักผ้า มีไดร์เป่าผมให้ยืม
พื้นที่ส่วนรวมจะมีโซฟาให้นั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือได้ มีห้องครัว มีตู้เย็นส่วนรวม มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ และมีรองเท้าบู๊ทให้ยืมใส่ด้วยนะคะ
ถ้าใครตั้งใจจะไป Shirakawa-go อยู่แล้ว เราว่าซื้อทัวร์กับทางโรงแรมก็สะดวกดีนะคะ เค้าลดราคาให้แขกของโรงแรมอีก 500 เยนด้วย จ่ายค่าทัวร์ไปคนละ 3,900 เยน เป็นทัวร์แบบครึ่งวัน เลือกได้ว่าเช้าหรือบ่าย ได้รถไป-กลับจาก ทาคายาม่า-ชิราคาวาโก และรถก็พาขึ้นมาจุดชมวิวของหมู่บ้านด้วยนะคะ
บรรยากาศด้านหน้าโรงแรม ช่วงต้นมีนา หิมะละลายจะหมดแล้ว แต่ยังหนาวอยู่นะคะ ตอนเราไปอากาศประมาณ 5-10 องศา
เซเว่นอยู่ห่างจากที่โรงแรมประมาณ 5-10 นาที
03. เดินเล่นในเมือง Takayama และชิม เนื้อฮิดะ ในตำนาน
วันรุ่งขึ้นหลังจากมาถึง เราเลือกที่จะพักก่อน ยังไม่ไปไหนไกลอีก เพราะเมื่อคืนนั่งรถมาไกล ยังเพลียกันอยู่ เลยขอตื่นสายๆแล้วไปเดินเล่นสโลว์ไลฟ์กันในหมู่บ้าน ยอมรับเลยว่าก่อนมาถึง เราแพลนกันเยอะมากเพราะนี่คือทริปญี่ปุ่นครั้งแรกของพวกเรา ว่าจะไปเล่นสกีเอย ไปแช่ออนเซ็นเอย ไปเดินตลาดเช้าเอย แต่พอจริงๆทั้งหนาวทั้งเหนื่อย แพลนแน่นไปมันไม่ไหวจริงๆ เราเลยปรับกันตรงนั้นเลยเอาให้สบายๆ ไม่หนักไปดีกว่า เดี๋ยวจะพาลป่วยกันซะตั้งแต่วันแรกๆ
เริ่มจากที่แรกเลยละกันนะคะ เราออกจากโรงแรมกันประมาณเกือบ 11 โมง และเดินตามหาร้านเนื้อฮิดะ แบบมั่วๆ เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอ
ร้านเนื้อฮิดะชื่อ kotaro เป็นร้านเล็กๆ มีโต๊ะอยู่ประมาณ 4 โต๊ะ และหน้าบาร์นั่งได้อีก 5-6 คน มีคุณลุงกะคุณป้าชาวญี่ปุ่นช่วยกันทำช่วยกันเสิร์ฟ
ร้านเปิดสองช่วงเวลา ตอน 11.30 - 14.00 และ 17.00 - 20.30
จากที่เราเดินๆสำรวจมา ร้านนี้ถือว่าราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ มีชาเขียวให้ดื่มฟรี ส่วนเมนูอาหาร ดูตามด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เมนูแรกที่เราเลือกสั่งคือ เนื้อฮิดะย่างบนใบมิโสะ ราคา 2400 เยน เสิร์ฟมาพร้อมซุป สลัด และข้าว
เซตนี้ สุกี้ยากี้เนื้อฮิดะ 1700 เยน
บอกตามตรงว่าตอนแรกที่เคยอ่านๆมาก็ไม่ค่อยเชื่อว่าจะอร่อยอะไรขนาดนั้น แต่พอได้มาชิมเองจริงๆ คำแรกที่เข้าปากไปก็ประทับใจมากกกก มันนุ่ม มุนละลายในปากอย่างบอกไม่ถูก มีความละมุนในตัวของมันเอง ใครชอบทานเนื้อต้องไม่พลาดเลยจริงๆนะคะ!
หลังจากทานอิ่มแล้วเราจะเดินเล่นในเมืองทาคายาม่ากันต่อ จุดหมายแรกคือสะพานแดงนากาบาชิ แบบเดินไปเรื่อยๆ เจอจุดไหนสวยก็หยุด แล้วค่อยไปต่อ อากาศดีเย็นสบาย ให้เดินทั้งวันก็ไหวเนาะ ^^
ระหว่างทาง เราเจอ
อาคารทาคายาม่าจินยะ(Takayama Jinya) ลองหาข้อมูลดูแล้วเจอว่า เป็นที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะ เป็นเวลากว่า 176 ปี จะมีเอกสารเก่า อาวุธ ชุดของข้าราชการสมัยโบราณ จัดแสดง
ค่าเข้าชม: 430 เยน เวลาเปิด-ปิด: 08:45 - 17:00
รอบๆอาคารทาคายาม่าจินยะ มีต้นไม้และสวนสวยๆ น่าถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ถ้าไม่ได้เข้าไปในส่วนที่จัดแสดงก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ใกล้กับสะพานแดงจะมีร้านขายแป้งญี่ปุ่นปิ้งแบบนี้อยู่ ไม้ละ 80 เยน เราลองซื้อมาชิมกัน 1 ไม้ รสชาติจะเค็มๆซอส และแป้งจะเหนียวๆนิดๆ
หลังจากเดินๆแวะๆกันมาพักนึง เราก็ถึงจุดแลนด์มาร์กของทาคายาม่ากันสักทีจ้า นี่เลยค่ะ
สะพานแดงนากาบาชิ
สะพานแดงนากาบาชิที่ข้ามแม่น้ำมิยาคาวาเชื่อมไปยังย่านเมืองเก่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทะคะยามา เดินจากสถานี JR มาประมาณ 10 นาที สะพานนี้ถูกล้อมรอบด้วยต้นหลิวและดอกซากุระทำให้ดูสวยงามจากสีที่ตัดกันระหว่างสีแดงและสีเขียว ในฤดูใบไม้ผลิที่นี่มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับดอกซากุระและในเวลากลางคืนจะสวยงามเป็นพิเศษเนื่องจากมีการประดับต้นไม้ด้วยแสงไฟ เราไปกันช่วงปลายฤดูหนาวแล้ว หิมะละลายหมด และดอกไม้ก็ยังไม่ออก เลยดูเหงาๆหน่อยนึง แถวสะพานจะมีรถลากสไตล์ญี่ปุ่นคอยให้บริการลากชมเมืองด้วยค่ะ ราคาประมาณ 5000 เยน
[CR] พาเดินสโลว์ไลฟ์ ชิมเนื้อฮิดะ เล่นหิมะต้นเดือนมีนา ที่ Takayama-Shirakawago
Shirakawa-go หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ น่ารัก ตะมุตะมิ
Takayama เมืองที่มีเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นยุคเก่าหลงเหลืออยู่ และโด่งดังเรื่อง เนื้อฮิดะ หนึ่งในเนื้อที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น แบบว่านุ่มมมมละลายในปาก ที่ไทยขายกันสามสี่พัน แต่ที่นี่สามสี่ร้อยบาทก็ฟินได้แล้วเด้อออ บอกเลยว่า สายเนื้อ ห้ามพลาด!
ภาพในกระทู้ถ่ายด้วยกล้อง Sony A5100 เลนส์คิต และเลนส์มือหมุน Fujian ราคาไม่กี่ร้อยบาท ขออภัยถ้าบางรูปโบเก้จะวนจนปวดหัว หรือหลุดโฟกัสไปบ้างนะคะ
แพลน 3 วัน 2 คืน แบบสโลว์ไลฟ์ ไปเรื่อยๆ แพลนไม่แน่น ไม่เน้นเก็บทุกอย่าง แต่ครบเครื่อง
Tokyo-Takayama-Shirakawago-Osaka
Day 1: Tokyo-Takayama
17:05 - Nohi Bus to Takayama from Shinjuku Expressway Bus Terminal [JPY6,690 / person]
22:35 - Arrive at Takayama Bus Station Takayama Bus Station
23:00 - Check-in at hotel J-Hoppers Hida Takayama [JPY11,187 / 2 nights]
Day 2: Takayama
- Lunch at Kotaro Restaurant [Hida Beef]
- Takayama Jinya
- Nakabashi Bridge
- Takayama Old Town
- Kokubun-ji Temple
Day 3: Takayama-Shirakawago-Osaka
08:10-12:10 - Shirakawa-go Half Day Bus Tour with J-Hoppers [JPY3,900 / person]
16:50 - Nohi Bus to Osaka [JPY4,700 / person]
ถ้าสนใจชมรีวิวแบบวิดีโอสั้นๆ ตามไปได้ที่นี่เลยจ้า > www.facebook.com/bestiewanderer
รีวิวทริปญี่ปุ่นเมืองอื่นๆ
เติมเต็มทริปญี่ปุ่นโซน Kansai ที่ "Kinosaki Onsen" : กินปู ดูหิมะ ใส่ยูกาตะ แช่ออนเซ็น
https://ppantip.com/topic/36409282
พาชมโรงแรม Courtyard by Marriott Shin-Osaka Station มีดีที่เชื่อมกับสถานีรถไฟ
https://ppantip.com/topic/36495750
พาชิมซูชิร้อยเยน & ซูชิหน้าล้น – 2 ร้านซูชิอร่อยเด็ดต้องลอง ที่ “โอซาก้า”
https://ppantip.com/topic/36529985
01. ออกเดินทางไป Takayama จาก Tokyo โดย Nohi Bus
การเดินทางไปทาคายาม่าจากโตเกียวมีทั้งแบบนั่งรถบัสและรถไฟ เราไม่อยากไปเปลี่ยนขบวน เปลี่ยนรถหลายรอบเลยเลือกเดินทางด้วยรถบัส Nohi Bus โดยซื้อตั๋วมาแล้วผ่านทางเว็บไซต์ www.nouhibus.co.jp/english/ และปริ้นท์ตั๋วไปจากบ้านเลย ราคาคนละ 6,690 เยน ไปขึ้นรถที่ชินจูกุตรง Shinjuku Expressway Bus Terminal เราเลือกรถรอบ 17:05 น. จะไปถึงทาคายาม่าตอน 22:35 น. ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง มีแวะจุดพักรถระหว่างทางบ้าง 3-4 ครั้ง ดูตารางเวลารถออกได้ที่เว็บไซต์เลยจ้า
ก่อนขึ้นรถบัส เราเอากระเป๋าเดินทางไปฝากไว้ที่ Tourist Information Center เพื่ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกแป้บนึงค่ะ จะมีเค้าเตอร์ของ Sagawa Cloak & Delivery ให้บริการรับฝากอยู่ค่ะ (เสียค่าใช้จ่าย) จริงๆแล้วในสถานีจะมีล็อกเกอร์ให้ฝากด้วย แต่ช่วงที่เราไปดันปิดปรับปรุงพอดีเลย
บรรยากาศตรงที่ขึ้นรถ จริงๆแล้วภายในจะมีที่งนั่งรอ มีมินิมาร์ท แต่เสียดายที่ไม่มีมุมให้ชาร์ทแบต (แต่บนรถบัสมีช่องให้เสียบชาร์ทแบตจ้า)
02. เข้าพักที่ J-Hoppers Hida Takayama 2 คืน
หลังจากที่เรานั่งรถมาถึง Takatama เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง ก็แวะซื้อเสบียงกันก่อนเข้าที่พัก เราจองห้องไว้กับ J-Hoppers Hida Takayama Guesthouse จองทางเว็บไซต์โรงแรมโดยตรง ถ้าจะมาเช็คอินหลัง 4 ทุ่มต้องอีเมลแจ้งทางโรงแรมก่อนนะคะ เพราะหลังสี่ทุ่มบางทีเค้าไม่มีพนักงานรออยู่ เค้าจะเตรียมกุญแจห้องไว้ให้เรา และให้พาสเวิร์ดเข้าโรงแรมมาค่ะ
เราเลือกเป็นห้องส่วนตัวสำหรับ 2 คน ราคา 11,187 เยน 2 คืน หารกันก็คนละห้าพันเยนนิดๆ โดยรวมถือว่าโอเคมาก ในเรื่องทำเล ราคา ฟูกก็นุ่มอยู่นะคะ ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้าใหญ่พอที่จะใส่กระเป๋าเดินทาง 30 นิ้ว สองใบได้ มีโต๊ะนั่งทานอะไรได้นิดหน่อย มีฮีตเตอร์
ห้องน้ำในแต่ละชั้นคือเป็นแบบส่วนรวม ห้องอาบน้ำจะอยู่ที่ชั้นล้อบบี้ แยกชาย/หญิง มีเครื่องซักผ้า มีไดร์เป่าผมให้ยืม
พื้นที่ส่วนรวมจะมีโซฟาให้นั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือได้ มีห้องครัว มีตู้เย็นส่วนรวม มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ และมีรองเท้าบู๊ทให้ยืมใส่ด้วยนะคะ
ถ้าใครตั้งใจจะไป Shirakawa-go อยู่แล้ว เราว่าซื้อทัวร์กับทางโรงแรมก็สะดวกดีนะคะ เค้าลดราคาให้แขกของโรงแรมอีก 500 เยนด้วย จ่ายค่าทัวร์ไปคนละ 3,900 เยน เป็นทัวร์แบบครึ่งวัน เลือกได้ว่าเช้าหรือบ่าย ได้รถไป-กลับจาก ทาคายาม่า-ชิราคาวาโก และรถก็พาขึ้นมาจุดชมวิวของหมู่บ้านด้วยนะคะ
บรรยากาศด้านหน้าโรงแรม ช่วงต้นมีนา หิมะละลายจะหมดแล้ว แต่ยังหนาวอยู่นะคะ ตอนเราไปอากาศประมาณ 5-10 องศา
เซเว่นอยู่ห่างจากที่โรงแรมประมาณ 5-10 นาที
03. เดินเล่นในเมือง Takayama และชิม เนื้อฮิดะ ในตำนาน
วันรุ่งขึ้นหลังจากมาถึง เราเลือกที่จะพักก่อน ยังไม่ไปไหนไกลอีก เพราะเมื่อคืนนั่งรถมาไกล ยังเพลียกันอยู่ เลยขอตื่นสายๆแล้วไปเดินเล่นสโลว์ไลฟ์กันในหมู่บ้าน ยอมรับเลยว่าก่อนมาถึง เราแพลนกันเยอะมากเพราะนี่คือทริปญี่ปุ่นครั้งแรกของพวกเรา ว่าจะไปเล่นสกีเอย ไปแช่ออนเซ็นเอย ไปเดินตลาดเช้าเอย แต่พอจริงๆทั้งหนาวทั้งเหนื่อย แพลนแน่นไปมันไม่ไหวจริงๆ เราเลยปรับกันตรงนั้นเลยเอาให้สบายๆ ไม่หนักไปดีกว่า เดี๋ยวจะพาลป่วยกันซะตั้งแต่วันแรกๆ
เริ่มจากที่แรกเลยละกันนะคะ เราออกจากโรงแรมกันประมาณเกือบ 11 โมง และเดินตามหาร้านเนื้อฮิดะ แบบมั่วๆ เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอร้านเนื้อฮิดะชื่อ kotaro เป็นร้านเล็กๆ มีโต๊ะอยู่ประมาณ 4 โต๊ะ และหน้าบาร์นั่งได้อีก 5-6 คน มีคุณลุงกะคุณป้าชาวญี่ปุ่นช่วยกันทำช่วยกันเสิร์ฟ
ร้านเปิดสองช่วงเวลา ตอน 11.30 - 14.00 และ 17.00 - 20.30
จากที่เราเดินๆสำรวจมา ร้านนี้ถือว่าราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ มีชาเขียวให้ดื่มฟรี ส่วนเมนูอาหาร ดูตามด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เมนูแรกที่เราเลือกสั่งคือ เนื้อฮิดะย่างบนใบมิโสะ ราคา 2400 เยน เสิร์ฟมาพร้อมซุป สลัด และข้าว
เซตนี้ สุกี้ยากี้เนื้อฮิดะ 1700 เยน
บอกตามตรงว่าตอนแรกที่เคยอ่านๆมาก็ไม่ค่อยเชื่อว่าจะอร่อยอะไรขนาดนั้น แต่พอได้มาชิมเองจริงๆ คำแรกที่เข้าปากไปก็ประทับใจมากกกก มันนุ่ม มุนละลายในปากอย่างบอกไม่ถูก มีความละมุนในตัวของมันเอง ใครชอบทานเนื้อต้องไม่พลาดเลยจริงๆนะคะ!
หลังจากทานอิ่มแล้วเราจะเดินเล่นในเมืองทาคายาม่ากันต่อ จุดหมายแรกคือสะพานแดงนากาบาชิ แบบเดินไปเรื่อยๆ เจอจุดไหนสวยก็หยุด แล้วค่อยไปต่อ อากาศดีเย็นสบาย ให้เดินทั้งวันก็ไหวเนาะ ^^
ระหว่างทาง เราเจอ อาคารทาคายาม่าจินยะ(Takayama Jinya) ลองหาข้อมูลดูแล้วเจอว่า เป็นที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะ เป็นเวลากว่า 176 ปี จะมีเอกสารเก่า อาวุธ ชุดของข้าราชการสมัยโบราณ จัดแสดง
ค่าเข้าชม: 430 เยน เวลาเปิด-ปิด: 08:45 - 17:00
รอบๆอาคารทาคายาม่าจินยะ มีต้นไม้และสวนสวยๆ น่าถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ถ้าไม่ได้เข้าไปในส่วนที่จัดแสดงก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ใกล้กับสะพานแดงจะมีร้านขายแป้งญี่ปุ่นปิ้งแบบนี้อยู่ ไม้ละ 80 เยน เราลองซื้อมาชิมกัน 1 ไม้ รสชาติจะเค็มๆซอส และแป้งจะเหนียวๆนิดๆ
หลังจากเดินๆแวะๆกันมาพักนึง เราก็ถึงจุดแลนด์มาร์กของทาคายาม่ากันสักทีจ้า นี่เลยค่ะ สะพานแดงนากาบาชิ
สะพานแดงนากาบาชิที่ข้ามแม่น้ำมิยาคาวาเชื่อมไปยังย่านเมืองเก่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทะคะยามา เดินจากสถานี JR มาประมาณ 10 นาที สะพานนี้ถูกล้อมรอบด้วยต้นหลิวและดอกซากุระทำให้ดูสวยงามจากสีที่ตัดกันระหว่างสีแดงและสีเขียว ในฤดูใบไม้ผลิที่นี่มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับดอกซากุระและในเวลากลางคืนจะสวยงามเป็นพิเศษเนื่องจากมีการประดับต้นไม้ด้วยแสงไฟ เราไปกันช่วงปลายฤดูหนาวแล้ว หิมะละลายหมด และดอกไม้ก็ยังไม่ออก เลยดูเหงาๆหน่อยนึง แถวสะพานจะมีรถลากสไตล์ญี่ปุ่นคอยให้บริการลากชมเมืองด้วยค่ะ ราคาประมาณ 5000 เยน