[CR] เที่ยว "สวิส" ไปกับทัวร์ ....บางทีอาจจะดีกว่าที่คิด ^_^ (4) : ตะลุยจุงเฟรา

เที่ยวสวิส ไปกับทัวร์ : ตอนที่ 3 น้ำตกไรน์ - ลูเซิร์น – อินเทอร์ลาเค่น >> ตะลุยจุงเฟรา Jungfrau - Top of Europe

ใครที่เพิ่งเข้ามา สามารถย้อนกลับไปดูตอนที่ 1-3 ได้ที่ link นี้นะคะ
https://ppantip.com/topic/36514722
https://ppantip.com/topic/36518170
https://ppantip.com/topic/36521840

วันนี้เราจะไปเที่ยวไฮไลท์ของสวิตเซอร์แลนด์กัน มาสวิสต้องไม่พลาดไป check-in ที่นี่ค่ะ "จุงเฟรา Jungfrau - Top of Europe"

วันนี้คุณไกด์นัด 6 7 8 ต้องตรงเวลานะเพราะวันนี้ต้องไปขึ้นรถไฟ (บ.ทัวร์จองไว้แล้ว) ถ้าเลท เดี๋ยวรถไฟไม่รอ
แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ กรุ๊ปเรารักษาเวลาเกินร้อย วันนี้ไม่ต้องเก็บกระเป๋าด้วยเพราะเรานอนที่โรงแรมนี้ 2 คืน

สายฝนมาทักทายพวกเราแต่เช้าเลยค่ะ ใจคอไม่ดี กลัวผิดหวังกับ Hi-light ของทริปถ้าพระพิรุณไม่หยุดตก

แต่คุณไกด์บอกว่า... “เช็คพยากรณ์อากาศแล้วครับ เดี๋ยวแดดก็ออก รับรองได้เห็นจุงเฟราสวย ๆ แน่นอน แถมอากาศข้างบนจุงเฟราอยู่ที่ -10 องศา”

เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม เอาแบบเหลือ ๆ ไม่งั้นจะไม่สนุกเพราะมัวแต่กังวลว่าหูจะหลุดรึป่าว เม่าหนาว
แต่ถ้าแดดออก…บนจุงเฟราจะอุ่นขึ้นเพราะเราอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ แดดจะช่วยคลายหนาวไปได้เยอะค่ะ

ห้องอาหารที่นี่ไม่ใหญ่ จึงต้องแจ้งเวลาที่แน่นอนให้แต่ละกรุ๊ปทัวร์ มาตามเวลาที่ทางโรงแรมกำหนด ถ้ามาก่อนเวลามากเกินไป ก็ไม่ให้เข้านะต้องรอ

อาหารเช้าก็มาตรฐานยุโรปค่ะ มีกาแฟ วางไว้ให้ที่โต๊ะ ออมเล็ต แฮม ฮ็อทด็อก ซุป ขนมปัง และอื่น ๆ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือ ไข่ต้ม ไข่ลวก มีทุกโรงแรมเลยค่ะ

ทานอาหารเสร็จก็เตรียมตัวเดินทาง ขึ้นรถแล้ว คุณฝนเธอก็ยังไม่หยุดตก พาพันเศร้า

พวกเราจะไปขึ้นรถไฟเพื่อไปพิชิตจุงเฟราที่เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) ระยะทางจากโรงแรมไปกรินเดอวาลล์ประมาณ 20 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

นั่งรถมาไม่ถึง 10 นาที ฝนหยุด แดดเริ่มออก

วิวข้างทางเริ่มสวยขึ้นเรื่อย ๆ

ร้านข้างทาง ดูดีเชียว

(รถไฟขึ้นจุงเฟราสามารถขึ้นได้ 2 เส้นทางค่ะ คือจากสถานี Interlaken OST เลี้ยวซ้ายไปทางเมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) หรือ เลี้ยวขวาไปทางเมืองเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen)
แต่พวกเราไม่ได้ขึ้นรถไฟที่อินเทอร์ลาเค่นนะคะ เราไปตั้งต้นที่เมืองกรินเดอร์วาลด์ ส่วนขากลับเราลงทางเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen) แบบนี้จะได้ดูวิวทั้ง 2 เส้นทางเลยค่ะ)


วงกลมสีเขียวคือเมืองอินเทอลาเค่น ที่เราพัก
สีแดงคือเมืองกรินเดอวาลด์ที่เราขึ้นรถไฟตอนเช้า สีแดงอีกอันคือเมืองเลาเทอร์บรุนเนน ปลายทางที่เราลงมาจากจุงเฟราตอนบ่าย
สีเหลือง คือสถานี Klein Scheidegg จุดเปลี่ยนสายรถไฟ
สีชมพูคือ จุงเฟรา จุดหมายปลายทางของพวกเรา

อากาศที่กรินเดอวาลด์วันนี้ประมาณ 3-4 องศา พอลงจากรถเท่านั้นแหละหาผ้าพันคอ ถุงมือ กันให้วุ่นเลยค่ะ 5555

ให้ดูหน้าตารถโค้ชของพวกเรา ที่มี Background เป็นเมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) กะพริบตากะพริบตา

ที่สถานีรถไฟกรินเดอวาลด์มีจุดให้ชมวิว ถ่ายรูปด้วยนะคะ พวกเราก็มีหน้าที่เดินชมวิว ส่วนคุณไกด์ก็ไปจัดการเรื่องตั๋วรถไฟให้พวกเรา อมยิ้ม16

อีกซักรูป

ถ่ายรูปกันเสร็จ พวกเราก็มาซื้อโค้กเตรียมไว้ดื่มบนจุงเฟรา
จะบอกว่าขนม เครื่องดื่ม ถ้าซื้อได้ให้ซื้อที่ COOP หรือ MIGROS ราคาจะถูกกว่ามาซื้อตามสถานีรถไฟหรือสถานที่ท่องเที่ยวเยอะเลยค่ะ บางที่ต่างกัน 2-3 เท่าเลย
(ตอนที่นั่งรถมา คุณไกด์แนะนำว่าให้พกช็อคโกแลตและโค้ก ขึ้นไปบนจุงเฟราด้วย เพราะด้านบน อากาศเบาบางมาก อาจเกิดอาการวูบเพราะขาดออกซิเจนได้ เวลาเดินให้เดินช้า ๆ หายใจลึก ๆ กินช็อคโกแลค จิบน้ำอัดลมหรือลูกอมหวาน ๆ จะช่วยได้)


ซื้อของกันเรียบร้อยก็มายืนรอรถไฟ ...หันหน้าสู้แสงสุดฤทธิ์

หน้าตาตั๋วรถไฟ

มาแล้วค่ะ รถไฟสายสีเหลือง ที่จะพาเราไปหาจุงเฟรา จะ fix ว่ากรุ๊ปเราขึ้นโบกี้ไหน

ระหว่างทางค่ะ หิมะขาวๆ บนยอดเขาตัดกับฟ้าใสๆ


(จากกรินเดอวาลด์ เส้นทางนี้ แนะนำให้นั่งด้านขวา วิวจะสวยกว่าค่ะ แต่พอขากลับถ้าลงทาง เลาเทอร์บรุนเนน ให้นั่งด้านซ้ายค่ะ วิวสุดยอดเลย)

นั่งเพลิน ๆ มาได้ 30 นาที มาถึงสถานี Klein Scheidegg ก็ต้องลงมาเปลี่ยนรถไฟเป็นสายสีแดงขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch)

จากสถานี Klein Scheidegg รถไฟเริ่มแล่นเข้าอุโมงค์ระยะทางยาวกว่า 7 กม. รถไฟจะจอดแวะให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวในอุโมงค์ ประมาณ 5 นาที โดยต้องลงไปมองผ่านกระจกบานโตตามช่องจัดไว้
ใช้เวลาทั้งหมดซัก 20 นาที รถไฟก็พาเรามาถึงสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป

คุณไกด์ก็ทำหน้าที่แนะนำจุดสำคัญ ๆ บนจุงเฟรา พร้อมชี้เป้าต่าง ๆ รวมทั้งพาไปดูร้านอาหารมื้อกลางวันที่เป็นจุดนัดพบ
จุดประทับตราพาสปอร์ต (ที่คุณไกด์แจกให้ก่อนขึ้นรถไฟ) ว่า เราคือผู้พิชิตจุงเฟรา

บนนี้มีไปรษณียบัตรให้ส่งจากตู้ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป และได้ประทับว่าส่งมาจาก Jungfraujoch - Top of Europe ด้วยนะคะ ต้องลองนะ เก็บไว้เป็นที่ระทึก หัวเราะหัวเราะ

คุณไกด์ก็จะพาพวกเราไปปล่อยไว้ที่หอคอย Sphinx ก่อนจะให้เราเดินเที่ยวกันตามชอบ
จากจุดที่เป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เราต้องขึ้นลิฟท์ไปค่ะ

อุโมงค์ทางเดินไปลิฟท์

ระหว่างทางจะผ่าน Jungfrau Panorama เป็นเหมือนหนัง 360 องศา แนะนำให้เรารู้จัก Jungfrau

(การเดินเที่ยวบนจุงเฟรา ให้ง่ายและไม่งง แนะนำว่าให้เดินตามป้าย Tour ไปเรื่อยๆ ค่ะ)


หลัก ๆ ก็จะเริ่มจากสถานีรถไฟ ออกไปสู่ Jungfrau Panorama(3) - ชมวิวหอคอย Sphinx(4) - Aletsch Glacier(5) - Alpine Sensation(7) - Ice Palace(8) – Plateau(9)

ถึงแล้วค่ะหอคอย Sphinx
(หอคอย Sphinx - จุดชมที่สูงที่สุดของ Jungfraujoch มีความสูง 3,571 เมตร มีระเบียงเปิดกว้างไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวโดยรอบ)


ออกไปรับลมหนาวกันดีกว่า หนาวแบบมือชา ถ่ายรูปได้แป๊บดียว มือไม่มีความรู้สึกเลยค่ะ ซีดแบบออกเขียวเลย ส่วนปากเหมือนทาลิปสติกสีม่วง อมยิ้ม16อมยิ้ม16

ต้องเข้าข้างในเอามือซุกก้น 555 จะได้อุ่น พอเริ่มมีสีเลือด ก็ออกไปอีกรอบ ซึมซับบรรยากาศ เก็บไว้ในความทรงจำให้มากที่สุด

คราวนี้มือเริ่มไม่มีความรู้สึกอีกรอบ ก็ต้องขอตัวไปจุดอื่นแล้วค่ะ อยู่ต่อมีแข็งแน่ ๆ หนาว

จาก หอคอย Sphinx ก็ลงลิฟท์กลับมา แล้วเดินไปตามป้าย Tour เลยค่ะ เราไม้ได้ไปหมายเลข 5 เลี้ยวมาทาง Alpine Sensation (หมายเลข 7) ก่อน

อุโมงค์โลกอัลไพน์ แสดงวิธีชีวิต วัฒนธรรม ธรรมชาติ ของสวิส

ถัดจากตรงนี้ไปจะเป็น Ice Palace - ถ้ำที่ทำจากน้ำแข็งธรรมชาติ มีรูปปั้นแกะสลักจากน้ำแข็งและจุดถ่ายรูปสวยๆ ถ้ำและรูปปั้นเหล่านี้จะสามารถอยู่ได้ทั้งปีโดยไม่ละลายเลยนะคะ แต่ต้องเดินระวัง ๆ เพราะลื่นมากๆ ค่ะ

เลือดเย็นจัง จับดอกไม้แช่แข็งด้วย

Top of Europe

น่ารัก เอาใจเด็ก ๆ ก้อมา

ไปต่อกันที่ Plateau (จุดที่ 9) จุด check in ที่บอกว่า เรามาเหยียบจุงเฟราแล้วนะ และที่ขาดไม่ได้ จุดนี้ ต้องถ่ายรูปกับธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ

ระวังด้วยนะคะ ลื่นมาก เราลื่นมาแล้ว แหะ ๆ

ตรงนี้ไม่หนาวเท่า หอคอย Sphinx ลมก็ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ เดินถ่ายรูปได้สบายกว่าเยอะ เดินทั่วเลยค่ะ สวยทุกมุม และจะบอกว่า ท้องฟ้าเป็นใจมาก ๆ ฟ้าแบบนี้ แสงแบบนี้ ถ่ายรูปยังไงก็สวย ^_^

จบจากตรงนี้ ก็ได้เวลาที่คุณไกด์นัดทานข้าวกลางวัน ต้องตรงเวลานะคะ เพราะคนเยอะ ร้านอาหารจะ book เวลาไว้ให้ทัวร์แต่ละกรุ๊ป ไม่สายจะได้ไม่เบียดเวลากรุ๊ปอื่น
เดินลงบันไดไปร้านอาหารที่คุณไกด์นัดไว้เลยค่ะ

มายุโรปที่ขาดไม่ได้ก็ขนมปังกับซุปนี่แหละ

อาหารกลางวัน วันนี้เป็นอาหารพื้นเมือง ให้ผ่านค่ะ อร่อย ^_^

ตบท้ายด้วยไอศครีม ยังไม่วายเป็นสัญลักษณ์ของสวิส เยี่ยม

ทานอาหารเสร็จถ้าใครยังไม่จุใจ มีเวลาให้เที่ยวต่อค่ะ ใครยังเก็บไม่ครบ ต่อได้เลย แต่เรากับลูกชายขอนั่งพักก่อนค่ะ รู้สึกเหนื่อย หายใจไม่เต็มปอด หาที่นั่งเล่นโทรศัพท์ เดินดูของที่ระลึกดีกว่า

แต่...จะบอกว่าเราพลาด พี่กรุ๊ปเดียวกันบอกว่าอีกด้านมีลานกว้างให้ถ่ายรูป (หมายเลข 5 -Aletsch Glacier) และก็มีเครื่องเล่น Adventure รถเลื่อนไถลลงมาตามลานหิมะ สโนบอร์ด สกี ให้เล่นด้วย อดไปตามระเบียบค่ะไม่เป็นไร

ดื่มด่ำกับจุงเฟราจนหนำใจก็ได้เวลากลับ อย่างที่บอกว่า ขากลับเราจะลงอีกทางนะคะ

จากจุงเฟรา เรามาเปลี่ยนรถไฟเป็นสายสีเหลืองที่สถานี Klein Scheidegg
อย่าลืมนะคะต้องนั่งฝั่งซ้าย

นักท่องเที่ยวเดินลงเขา รึป่าว?? พาพันสงสัย

วิวดีงามมาก จะคนละอารมณ์กับเมื่อเช้า

เส้นทางนี้จะผ่านหุบเขา หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า

แดดเริ่มแรง จนร้อนแล้วค่ะ
ชื่อสินค้า:   Switzerland Trip 28 April – 5 May 2017 >> เที่ยวสวิส ไปกับทัวร์ : ตอนที่ 4 ตะลุยจุงเฟรา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่