เที่ยวสวิส ไปกับทัวร์ : ตอนที่ 3 น้ำตกไรน์ - ลูเซิร์น – อินเทอร์ลาเค่น >> Rhein Fall – Luzern – Interlaken
ติดตามตอน 2 ได้ที่นี่นะคะ
https://ppantip.com/topic/36518170
มาต่อกันวันที่ 2 ดีกว่านะคะ วันนี้เที่ยวกันแบบยาว ๆ เลย
(ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง.... บางคนอาจจะชอบแบบมาถึงเช้าแล้วเที่ยวต่อเลย จะได้ประหยัดเวลาไป 1 วัน ค่าทัวร์อาจจะถูกลงนิดหน่อย แต่บางคนอาจจะชอบแบบมาถึงแล้วได้พัก ได้ปรับตัว ได้นอนเอาแรงก่อน ตื่นมาจะได้มีแรงเที่ยว ไม่เพลีย ไม่ง่วง อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ แล้วแต่สะดวกนะคะ สำหรับเราได้นอนพักก็ถือว่าดี เพราะนั่งเครื่อง 11 ชั่วโมงนี่ เล่นเอาเพลียเหมือนกัน)
เมื่อคืนกว่าจะหลับก็ปาเข้าไป 5 ทุ่ม (บ้านเราก็ตี 4) ไม่เท่านั้น ตี 3 กว่า ตื่นแล้วค่ะ นอนต่อก็ไม่หลับ
เล่นโทรศัพท์ ดูละครย้อนหลังไปเรื่อย จน 6 โมงเช้าก็อาบน้ำเตรียมตัว ลงไปทานอาหารเช้าตอน 7 โมง
มีอาหารให้เลือกเยอะ กาแฟสดจากเครื่องก็หอม เข้มข้น จัดว่าผ่านค่ะ น้องเชฟที่ทำไข่ดาว ออมเร็ตให้เป็นคนไทยด้วยนะคะ ตอนแรกก็ speak English พอรู้ว่าเป็นคนไทยก็จัดเต็มเลยค่ะ
8 โมง เริ่มออกเดินทาง ตอนแรกอากาศดีเลยค่ะ แต่พอนั่งรถมาได้ซักพัก เริ่มออกนอกเมือง หมอกลงซะงั้น
แต่วิวข้างทางก็ยังสวยอยู่ เนินเขา สลับทุ่งดอกคาโนล่าสีเหลือง
(คุณไกด์บอกว่าเมล็ดของคาโนล่าเอามาใช้เป็นวัตถุดิบทำน้ำมัน) สวยจนหลับไม่ลงเลยค่ะ ตาสว่าง เพลินไปกับวิว 2 ข้างทางมาก ๆ
รูปเบลอไปหน่อย ถ่ายตอนรถวิ่งค่ะ
เราเริ่มต้นจากซูริค มุ่งหน้าไปเมืองซอฟฮาวเซ่น (Schaffhausen) ที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine fall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ใช้เวลาเดินทางแค่ 45 นาที
ตอนแรก ยังไม่รู้สึกว่าอากาศหนาวเท่าไหร่ เพราะออกจากโรงแรมก็ขึ้นรถโค้ชเลย ในรถก็อุ่นดี พอลงจากรถเท่านั้นแหละ แม่เจ้า!!!! หนาวอย่างนี้นี่เอง มือเย็น หูเย็นแทบหลุดเลย ถ่ายรูปกันซักพัก ก้อแอบเข้าไปหลบในร้านขายของที่ระลึก แล้วก็ออกมาสัมผัสความหนาวและไอหมอกใหม่
หมอกลงเยอะไปหน่อย เลยถ่ายรูปไม่ค่อยสวย ถ้าอากาศดี ๆ ที่นี่คงจะสวยมาก ๆ เลยล่ะ
มีเก้าอี้สีแดงตัดกับสีเขียวของต้นไม้และสายน้ำ ดูขัดกันอย่างลงตัว ถ้าอากาศดี ๆ ได้นั่งมองน้ำตกจากตรงนี้ คงจะฟินนะคะ
ที่น้ำตกไรน์มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างนะ อยู่ทั้งวันยังได้ สามารถเดินเล่นได้หลายจุดจากด้านบนน้ำตกลงด้านล่าง ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่ทัวร์พาพวกเราไปถ่ายรูปจะมีปราสาทเวิร์ท (Schloss Worth) สามารถนั่งเรือข้ามไปได้ หรือถ้าใครอยากเห็นน้ำตกไรน์ใกล้ ๆ ก็มีเรือบริการแบบแนบชิดติดน้ำตกเลยนะคะ
แต่เรามากับทัวร์ เวลาอาจจะไม่เอื้อให้ทำอะไรมากนัก
เดินเล่นรอบ ๆ ซักพัก ทนหนาวไม่ไหว พากันเดินกลับรถกันหมดเลยจ้า 555 คุณไกด์คงงง กรุ๊ปนี้ มาไวไปไวจิง ๆ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเร่งเลย หุหุ
ออกจากซอฟฮาวเซ่น เราไปต่อกันที่ลูเซิร์น ระหว่างนั่งรถ อากาศก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ หมอกเริ่มหาย แดดเริ่มออก คราวนี้มองเห็นภูเขาสูงตระหง่าน ที่มีหิมะปกคลุม สลับกับทุ่งสีเขียว สีเหลือง สวยยังกับภาพวาด
คุณไกด์บอกว่าที่ลูเซิร์นมีเวลาให้ช็อป มีร้านเพียบ พร้อมดูดเงินในกระเป๋า อยากซื้ออะไรซื้อเลย เพราะอีก 3-4 วันข้างหน้าตามโปรแกรม เราจะออกไปนอกเมืองเป็นชนบท ธรรมชาติ เมืองเล็ก ๆ อาจจะมีร้านให้ช็อปไม่เยอะ
ใจคิดว่าเมืองนี้คงไม่ใช่ทางเรา เพราะเราชอบแบบธรรมชาติ ไม่ใช่สายช็อป.... แต่ที่ไหนได้ มาถึงลูเซิร์น ละลายเลย ไม่เป็นอย่างที่คิด เป็นไงตามไปดูค่ะ
นั่งรถชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงลูเซิร์น
คุณไกด์พาไปดู Lion Monument สิงโตร้องไห้ก่อน
เดินไปไม่ไกล ผ่านสี่แยก ผ่านร้านค้า ร้านอาหาร คนที่นี่ชอบมานั่งทานอะไร กันกลางแดด เรางี้เดินหลบแดดกันแทบตาย 555
สิงโตตัวนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย
ใช้เวลาที่จุดนี้ไม่นานค่ะ ถ่ายรูปกันนิดๆ หน่อย ๆ แล้วก็เดินกลับมาที่รถ เพื่อไปทานข้าวกลางวัน
ขากลับเดินผ่านร้านนี้ค่ะ.... Old Swiss House" ภัตตาคารเก่าแก่สไตล์สวิสชาเล่ต์ อาหารสวิสแบบต้นตำรับอายุยาวนานกว่า 160 ปี
ก่อนจะเดินไปร้านอาหาร คุณไกด์นัดแนะก่อนว่า ทานอาหารเสร็จ มีเวลาให้เดินเล่น ถ่ายรูป shopping แล้วให้กลับมาเจอกันตรงไหน เวลากี่โมง
เสร็จแล้วก็พาเดินไปร้านอาหาร พร้อมกับชี้เป้าทั้งร้านขายนาฬิกาแบรนด์เนม อย่าง "Bucherer" ร้านนาฬิกาหรู ขายแต่แบรนด์ดัง ๆ ราคาแพงๆ และยังเป็นตัวแทนจำหน่าย ROLEX อย่างเป็นทางการด้วย รับรองของแท้แน่นอน
นอกจากนาฬิกาแล้วก็มีร้านขายของที่ระลึก ขายมีดพับแบรนด์ดังอย่าง Victorinox แล้วก็ร้านอื่น ๆ อีกเพียบ...ระหว่างทางละลานตาไปหมด กว่าจะเดินถึงร้านอาหารเกือบตะบะแตกหลายรอบเลย
วันนี้อาหารกลางวันเป็นอาหารจีน ในร้านคนยังไม่เยอะ เรามาเป็นกรุ๊ปแรก ๆ รสชาติอาหารโอเค ปริมาณใช้ได้ พวกเราทานกันเหลือเฟือทุกมื้อเลยค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เกรงใจเพื่อนร่วมทริปเพราะยังไม่สนิทกันเท่าไหร่ แฮร่...
ทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาเดินเล่นสำรวจลูเซิร์น จากร้านอาหาร เราเลือกเดินไปทางขวา ไม่ได้ย้อนกลับมาทางเดิม จนไปเจอแม่น้ และสะพานที่คล้าย ๆ สะพานไม้ชาเปล (Kapelbruck หรือ Chapelbridge) แต่สั้นกว่า ชื่อสะพาน Spreuerbrücke วิวตรงนี้สวยมาก
เดินตามริมน้ำไปเรื่อย ๆ แล้วก็เดินวกกลับมา ข้ามสะพาน Spreuerbrücke
ภาพที่ถ่ายได้จากบนสะพาน ด้านขวา
และด้านซ้ายค่ะ
เดินวนซ้ายไปเรื่อย ๆ จนมาเจอ สะพานไม้ชาเปล (Kapelbruck หรือ Chape Bridge) เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เจอสะพานนี้แสดงว่าเรามาถึงลูเซิร์นแล้ว ^_^
ชัด ๆ อีกซักรูป
จากสะพานเราเดินย้อนไปทางถนน Kornmarkt กำลังมีเทศกาลอะไรซักอย่าง คนเเยอะมาก ดูสนุกกันมากเลย
เดินมาเรื่อย ๆ ผ่านถนน Kapellgasse ที่มีร้านขายของเรียงราย 2 ข้างทาง เส้นเดียวกับร้านอาหารที่เราทานเมื่อกลางวัน
ลูกชายอยากกินเฟรนส์ฟราย จัดไปค่ะ อันนี้ 5.5 ฟรังส์....อร่อยค่ะ
เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงทะเลสาบลูเซิร์น นึกถึงวิวด้านหน้าเป็นทะเลสาบ ด้านหลังเป็นทิวเขา ในวันฟ้าใส.... สวย สวยจนใจละลายเลยค่ะ
เดินถ่ายรูป กินไอติม shopping รอเวลานัด คุณไกด์ให้เวลาเหลือเฟือเลยค่ะ
พร้อมเดินทางต่อแล้ว วันนี้เราพักกันที่อินเทอร์ลาเค่น Interlaken จากลูเซิร์นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที แต่วิวดีงามเหลือหลาย ผ่านทุ่ง ผ่านทะเลสาบ ภูเขา หลับไม่ได้เลย ไม่งั้นพลาด
ใกล้ถึงแล้วค่ะ
อินเทอร์ลาเค่น Interlaken เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวไปพัก เพื่อใช้เป็นจุดเรื่มต้นการเดินทางขึ้นจุงเฟรา เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทะเลสาบเปรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) โอบล้อมด้วยขุนเขา ดอกไม้สวย มีสนามให้นั่งเล่น พักผ่อน
มาถึงก็เข้าเช็คอิน โรงแรมที่เราพักอยู่ในเมืองเลยค่ะ
(คุณไกด์บอกว่า...ถ้าโรงแรมในเมืองเต็มก็ต้องออกไปพักนอกเมือง บรรยากาศก็จะออกแนว cottage ชนบทหน่อย ๆ บรรยากาศดีคนละแบบ แต่จะเดินเล่นในเมืองลำบาก ก็แล้วแต่ชอบหรือแล้วแต่ทัวร์นะคะว่าจะจองแบบไหนให้)
โรงแรม CITY OBERLAND ที่เราพัก โอเคนะคะ ห้องอาจจะดูเรียบ ๆ ไปหน่อย ไม่มีวิวสวย ๆ นอกหน้าต่าง แต่อยู่กลางเมือง สะดวกมาก เดินช้อป เดินเล่น ได้ถึง 3 ทุ่มเลย
ตัวโรงแรมด้านนอกค่ะ
ได้เวลาตะลุยเมืองแล้วค่ะ ก่อนจะถึงเวลาอาหารเย็น....
Bucherer ก็มีนะคะ
โรงแรม Grand Hotel Victoria Jungfrau โรงแรมระดับห้าดาวที่สวย ใหญ่ และแพงที่สุดในอินเทอร์ลาเค่น
ร้านช็อคโกแลตที่เขาว่าอร่อยของที่นี่ "Swiss Chocolate Chalet"
กีฬายอดนิยม “พารามอเตอร์” คนเล่นเยอะมาก นั่งดูเพลินเลยค่ะ
คุณไกด์นัดทานอาหารเย็นตอน 6 โมงเย็น เดินจากโรงแรมไปไม่ไกล อากาศ...หนาวเลยค่ะ ไปถึงก่อน ทานก่อน กรุ๊ปทัวร์ยังไม่เยอะ ได้นั่งในร้าน มาทีหลังนั่งด้านนอก หนาวยะเยือกแน่เลยค่ะ
มื้อเย็นวันนี้เป็น ฟองดู สไตล์สวิส เอาหมู ไก่ ลงไปทอดในน้ำมัน คุณไกด์เตรียมน้ำจิ้มแจ่วไปให้ เราชอบนะ อร่อย แล้วก็แปลกดี มีอุปกรณ์ให้คนละชุด ตามภาพเลยจ้า...
ทานไปก็จะมีพนักงานในร้านมาเอนเตอร์เทน ชวนพวกเราเล่น ร้องเพลง เป็นระยะ ๆ จุดขายของร้านเลยค่ะ สนุกดี
ทานเสร็จก็ฟรีไทม์แล้ว จะเดินเล่นหรือพักผ่อน ตามอัธยาศัย บอกแล้วว่ามีเวลาให้เหลือ ๆ จริง ๆ ค่ะ
เราเดินไปซื้อน้ำ
(อย่างที่เคยบอกไว้ว่าโรงแรมที่นี่ ไม่มีน้ำดื่มให้นะคะ) และขนมที่ COOP ซักพักก็เข้าห้องพักผ่อนค่ะ เก็บแรงไว้พรุ่งนี้
(ทิปเล็กๆ เวลาเลือกซื้อน้ำ จะมีฝา 3 สี เขียว แดง น้ำเงิน >> น้ำเปล่าฝาสีแดงนะคะ ถ้าสีเขียวหรือน้ำเงินจะเป็นน้ำแบบโซดาบ้านเรา ส่วนน้ำแร่ราคก็จะแพงขึ้นมาอีกนิดค่ะ)
ที่โรงแรมมี wifi แต่ต้องมีรหัสซึ่งไม่ได้ให้ลูกค้าทุกคน ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกรุ๊ปทัวร์จะไม่ให้ แต่....คุณไกด์ใช้วิชามารไปขอมาให้ได้ค่ะ
กว่าจะหลับ เหมือนเดิมค่ะ 5 ทุ่ม ตื่นตี 4 แต่ยังไหวค่ะ สบายมาก พรุ่งนี้จะพาไปขึ้นจุงเฟรา (๋Jungfrau - Top of Europe) หนึ่งในไฮไลท์ของทริปนี้เลยค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพนี้นะคะ
link ตอนที่ 4 ค่ะ
https://ppantip.com/topic/36527804
[CR] เที่ยว "สวิส" ไปกับทัวร์ ....บางทีอาจจะดีกว่าที่คิด ^_^ (3)
ติดตามตอน 2 ได้ที่นี่นะคะ
https://ppantip.com/topic/36518170
มาต่อกันวันที่ 2 ดีกว่านะคะ วันนี้เที่ยวกันแบบยาว ๆ เลย
(ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง.... บางคนอาจจะชอบแบบมาถึงเช้าแล้วเที่ยวต่อเลย จะได้ประหยัดเวลาไป 1 วัน ค่าทัวร์อาจจะถูกลงนิดหน่อย แต่บางคนอาจจะชอบแบบมาถึงแล้วได้พัก ได้ปรับตัว ได้นอนเอาแรงก่อน ตื่นมาจะได้มีแรงเที่ยว ไม่เพลีย ไม่ง่วง อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ แล้วแต่สะดวกนะคะ สำหรับเราได้นอนพักก็ถือว่าดี เพราะนั่งเครื่อง 11 ชั่วโมงนี่ เล่นเอาเพลียเหมือนกัน)
เมื่อคืนกว่าจะหลับก็ปาเข้าไป 5 ทุ่ม (บ้านเราก็ตี 4) ไม่เท่านั้น ตี 3 กว่า ตื่นแล้วค่ะ นอนต่อก็ไม่หลับ
เล่นโทรศัพท์ ดูละครย้อนหลังไปเรื่อย จน 6 โมงเช้าก็อาบน้ำเตรียมตัว ลงไปทานอาหารเช้าตอน 7 โมง
มีอาหารให้เลือกเยอะ กาแฟสดจากเครื่องก็หอม เข้มข้น จัดว่าผ่านค่ะ น้องเชฟที่ทำไข่ดาว ออมเร็ตให้เป็นคนไทยด้วยนะคะ ตอนแรกก็ speak English พอรู้ว่าเป็นคนไทยก็จัดเต็มเลยค่ะ
8 โมง เริ่มออกเดินทาง ตอนแรกอากาศดีเลยค่ะ แต่พอนั่งรถมาได้ซักพัก เริ่มออกนอกเมือง หมอกลงซะงั้น
แต่วิวข้างทางก็ยังสวยอยู่ เนินเขา สลับทุ่งดอกคาโนล่าสีเหลือง (คุณไกด์บอกว่าเมล็ดของคาโนล่าเอามาใช้เป็นวัตถุดิบทำน้ำมัน) สวยจนหลับไม่ลงเลยค่ะ ตาสว่าง เพลินไปกับวิว 2 ข้างทางมาก ๆ
รูปเบลอไปหน่อย ถ่ายตอนรถวิ่งค่ะ
เราเริ่มต้นจากซูริค มุ่งหน้าไปเมืองซอฟฮาวเซ่น (Schaffhausen) ที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine fall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ใช้เวลาเดินทางแค่ 45 นาที
ตอนแรก ยังไม่รู้สึกว่าอากาศหนาวเท่าไหร่ เพราะออกจากโรงแรมก็ขึ้นรถโค้ชเลย ในรถก็อุ่นดี พอลงจากรถเท่านั้นแหละ แม่เจ้า!!!! หนาวอย่างนี้นี่เอง มือเย็น หูเย็นแทบหลุดเลย ถ่ายรูปกันซักพัก ก้อแอบเข้าไปหลบในร้านขายของที่ระลึก แล้วก็ออกมาสัมผัสความหนาวและไอหมอกใหม่
หมอกลงเยอะไปหน่อย เลยถ่ายรูปไม่ค่อยสวย ถ้าอากาศดี ๆ ที่นี่คงจะสวยมาก ๆ เลยล่ะ
มีเก้าอี้สีแดงตัดกับสีเขียวของต้นไม้และสายน้ำ ดูขัดกันอย่างลงตัว ถ้าอากาศดี ๆ ได้นั่งมองน้ำตกจากตรงนี้ คงจะฟินนะคะ
ที่น้ำตกไรน์มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างนะ อยู่ทั้งวันยังได้ สามารถเดินเล่นได้หลายจุดจากด้านบนน้ำตกลงด้านล่าง ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่ทัวร์พาพวกเราไปถ่ายรูปจะมีปราสาทเวิร์ท (Schloss Worth) สามารถนั่งเรือข้ามไปได้ หรือถ้าใครอยากเห็นน้ำตกไรน์ใกล้ ๆ ก็มีเรือบริการแบบแนบชิดติดน้ำตกเลยนะคะ
แต่เรามากับทัวร์ เวลาอาจจะไม่เอื้อให้ทำอะไรมากนัก
เดินเล่นรอบ ๆ ซักพัก ทนหนาวไม่ไหว พากันเดินกลับรถกันหมดเลยจ้า 555 คุณไกด์คงงง กรุ๊ปนี้ มาไวไปไวจิง ๆ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องเร่งเลย หุหุ
ออกจากซอฟฮาวเซ่น เราไปต่อกันที่ลูเซิร์น ระหว่างนั่งรถ อากาศก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ หมอกเริ่มหาย แดดเริ่มออก คราวนี้มองเห็นภูเขาสูงตระหง่าน ที่มีหิมะปกคลุม สลับกับทุ่งสีเขียว สีเหลือง สวยยังกับภาพวาด
คุณไกด์บอกว่าที่ลูเซิร์นมีเวลาให้ช็อป มีร้านเพียบ พร้อมดูดเงินในกระเป๋า อยากซื้ออะไรซื้อเลย เพราะอีก 3-4 วันข้างหน้าตามโปรแกรม เราจะออกไปนอกเมืองเป็นชนบท ธรรมชาติ เมืองเล็ก ๆ อาจจะมีร้านให้ช็อปไม่เยอะ
ใจคิดว่าเมืองนี้คงไม่ใช่ทางเรา เพราะเราชอบแบบธรรมชาติ ไม่ใช่สายช็อป.... แต่ที่ไหนได้ มาถึงลูเซิร์น ละลายเลย ไม่เป็นอย่างที่คิด เป็นไงตามไปดูค่ะ
นั่งรถชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงลูเซิร์น
คุณไกด์พาไปดู Lion Monument สิงโตร้องไห้ก่อน
เดินไปไม่ไกล ผ่านสี่แยก ผ่านร้านค้า ร้านอาหาร คนที่นี่ชอบมานั่งทานอะไร กันกลางแดด เรางี้เดินหลบแดดกันแทบตาย 555
สิงโตตัวนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย
ใช้เวลาที่จุดนี้ไม่นานค่ะ ถ่ายรูปกันนิดๆ หน่อย ๆ แล้วก็เดินกลับมาที่รถ เพื่อไปทานข้าวกลางวัน
ขากลับเดินผ่านร้านนี้ค่ะ.... Old Swiss House" ภัตตาคารเก่าแก่สไตล์สวิสชาเล่ต์ อาหารสวิสแบบต้นตำรับอายุยาวนานกว่า 160 ปี
ก่อนจะเดินไปร้านอาหาร คุณไกด์นัดแนะก่อนว่า ทานอาหารเสร็จ มีเวลาให้เดินเล่น ถ่ายรูป shopping แล้วให้กลับมาเจอกันตรงไหน เวลากี่โมง
เสร็จแล้วก็พาเดินไปร้านอาหาร พร้อมกับชี้เป้าทั้งร้านขายนาฬิกาแบรนด์เนม อย่าง "Bucherer" ร้านนาฬิกาหรู ขายแต่แบรนด์ดัง ๆ ราคาแพงๆ และยังเป็นตัวแทนจำหน่าย ROLEX อย่างเป็นทางการด้วย รับรองของแท้แน่นอน
นอกจากนาฬิกาแล้วก็มีร้านขายของที่ระลึก ขายมีดพับแบรนด์ดังอย่าง Victorinox แล้วก็ร้านอื่น ๆ อีกเพียบ...ระหว่างทางละลานตาไปหมด กว่าจะเดินถึงร้านอาหารเกือบตะบะแตกหลายรอบเลย
วันนี้อาหารกลางวันเป็นอาหารจีน ในร้านคนยังไม่เยอะ เรามาเป็นกรุ๊ปแรก ๆ รสชาติอาหารโอเค ปริมาณใช้ได้ พวกเราทานกันเหลือเฟือทุกมื้อเลยค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เกรงใจเพื่อนร่วมทริปเพราะยังไม่สนิทกันเท่าไหร่ แฮร่...
ทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาเดินเล่นสำรวจลูเซิร์น จากร้านอาหาร เราเลือกเดินไปทางขวา ไม่ได้ย้อนกลับมาทางเดิม จนไปเจอแม่น้ และสะพานที่คล้าย ๆ สะพานไม้ชาเปล (Kapelbruck หรือ Chapelbridge) แต่สั้นกว่า ชื่อสะพาน Spreuerbrücke วิวตรงนี้สวยมาก
เดินตามริมน้ำไปเรื่อย ๆ แล้วก็เดินวกกลับมา ข้ามสะพาน Spreuerbrücke
ภาพที่ถ่ายได้จากบนสะพาน ด้านขวา
และด้านซ้ายค่ะ
เดินวนซ้ายไปเรื่อย ๆ จนมาเจอ สะพานไม้ชาเปล (Kapelbruck หรือ Chape Bridge) เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เจอสะพานนี้แสดงว่าเรามาถึงลูเซิร์นแล้ว ^_^
ชัด ๆ อีกซักรูป
จากสะพานเราเดินย้อนไปทางถนน Kornmarkt กำลังมีเทศกาลอะไรซักอย่าง คนเเยอะมาก ดูสนุกกันมากเลย
เดินมาเรื่อย ๆ ผ่านถนน Kapellgasse ที่มีร้านขายของเรียงราย 2 ข้างทาง เส้นเดียวกับร้านอาหารที่เราทานเมื่อกลางวัน
ลูกชายอยากกินเฟรนส์ฟราย จัดไปค่ะ อันนี้ 5.5 ฟรังส์....อร่อยค่ะ
เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงทะเลสาบลูเซิร์น นึกถึงวิวด้านหน้าเป็นทะเลสาบ ด้านหลังเป็นทิวเขา ในวันฟ้าใส.... สวย สวยจนใจละลายเลยค่ะ
เดินถ่ายรูป กินไอติม shopping รอเวลานัด คุณไกด์ให้เวลาเหลือเฟือเลยค่ะ
พร้อมเดินทางต่อแล้ว วันนี้เราพักกันที่อินเทอร์ลาเค่น Interlaken จากลูเซิร์นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที แต่วิวดีงามเหลือหลาย ผ่านทุ่ง ผ่านทะเลสาบ ภูเขา หลับไม่ได้เลย ไม่งั้นพลาด
ใกล้ถึงแล้วค่ะ
อินเทอร์ลาเค่น Interlaken เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวไปพัก เพื่อใช้เป็นจุดเรื่มต้นการเดินทางขึ้นจุงเฟรา เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทะเลสาบเปรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) โอบล้อมด้วยขุนเขา ดอกไม้สวย มีสนามให้นั่งเล่น พักผ่อน
มาถึงก็เข้าเช็คอิน โรงแรมที่เราพักอยู่ในเมืองเลยค่ะ
(คุณไกด์บอกว่า...ถ้าโรงแรมในเมืองเต็มก็ต้องออกไปพักนอกเมือง บรรยากาศก็จะออกแนว cottage ชนบทหน่อย ๆ บรรยากาศดีคนละแบบ แต่จะเดินเล่นในเมืองลำบาก ก็แล้วแต่ชอบหรือแล้วแต่ทัวร์นะคะว่าจะจองแบบไหนให้)
โรงแรม CITY OBERLAND ที่เราพัก โอเคนะคะ ห้องอาจจะดูเรียบ ๆ ไปหน่อย ไม่มีวิวสวย ๆ นอกหน้าต่าง แต่อยู่กลางเมือง สะดวกมาก เดินช้อป เดินเล่น ได้ถึง 3 ทุ่มเลย
ตัวโรงแรมด้านนอกค่ะ
ได้เวลาตะลุยเมืองแล้วค่ะ ก่อนจะถึงเวลาอาหารเย็น....
Bucherer ก็มีนะคะ
โรงแรม Grand Hotel Victoria Jungfrau โรงแรมระดับห้าดาวที่สวย ใหญ่ และแพงที่สุดในอินเทอร์ลาเค่น
ร้านช็อคโกแลตที่เขาว่าอร่อยของที่นี่ "Swiss Chocolate Chalet"
กีฬายอดนิยม “พารามอเตอร์” คนเล่นเยอะมาก นั่งดูเพลินเลยค่ะ
คุณไกด์นัดทานอาหารเย็นตอน 6 โมงเย็น เดินจากโรงแรมไปไม่ไกล อากาศ...หนาวเลยค่ะ ไปถึงก่อน ทานก่อน กรุ๊ปทัวร์ยังไม่เยอะ ได้นั่งในร้าน มาทีหลังนั่งด้านนอก หนาวยะเยือกแน่เลยค่ะ
มื้อเย็นวันนี้เป็น ฟองดู สไตล์สวิส เอาหมู ไก่ ลงไปทอดในน้ำมัน คุณไกด์เตรียมน้ำจิ้มแจ่วไปให้ เราชอบนะ อร่อย แล้วก็แปลกดี มีอุปกรณ์ให้คนละชุด ตามภาพเลยจ้า...
ทานไปก็จะมีพนักงานในร้านมาเอนเตอร์เทน ชวนพวกเราเล่น ร้องเพลง เป็นระยะ ๆ จุดขายของร้านเลยค่ะ สนุกดี
ทานเสร็จก็ฟรีไทม์แล้ว จะเดินเล่นหรือพักผ่อน ตามอัธยาศัย บอกแล้วว่ามีเวลาให้เหลือ ๆ จริง ๆ ค่ะ
เราเดินไปซื้อน้ำ (อย่างที่เคยบอกไว้ว่าโรงแรมที่นี่ ไม่มีน้ำดื่มให้นะคะ) และขนมที่ COOP ซักพักก็เข้าห้องพักผ่อนค่ะ เก็บแรงไว้พรุ่งนี้
(ทิปเล็กๆ เวลาเลือกซื้อน้ำ จะมีฝา 3 สี เขียว แดง น้ำเงิน >> น้ำเปล่าฝาสีแดงนะคะ ถ้าสีเขียวหรือน้ำเงินจะเป็นน้ำแบบโซดาบ้านเรา ส่วนน้ำแร่ราคก็จะแพงขึ้นมาอีกนิดค่ะ)
ที่โรงแรมมี wifi แต่ต้องมีรหัสซึ่งไม่ได้ให้ลูกค้าทุกคน ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกรุ๊ปทัวร์จะไม่ให้ แต่....คุณไกด์ใช้วิชามารไปขอมาให้ได้ค่ะ
กว่าจะหลับ เหมือนเดิมค่ะ 5 ทุ่ม ตื่นตี 4 แต่ยังไหวค่ะ สบายมาก พรุ่งนี้จะพาไปขึ้นจุงเฟรา (๋Jungfrau - Top of Europe) หนึ่งในไฮไลท์ของทริปนี้เลยค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพนี้นะคะ
link ตอนที่ 4 ค่ะ
https://ppantip.com/topic/36527804