Good governance การปกครองที่ดี หรือการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี หรือการบริหารจัดการองค์กรที่ดี
มีหลักการอยู่ 10 หลัก ได้แก่
หลักการตอบสนอง (Responsiveness)
หลักประสิทธิผล (Effectiveness)
หลักประสิทธิภาพ/คุ้มค่า (Efficiency/Value for money)
หลักความเสมอภาค (Equity)
หลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented)
หลักการตรวจสอบได้/มีภาระรับผิดชอบ (Accountability)
หลักเปิดเผย/โปร่งใส (Transparency)
หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
หลักการมีส่วนร่วม (Participation)
หลักนิติธรรม (Rule of Law)
ประเด็นคือ ประเทศนี้ มักหลงทางไปว่า ธรรมาภิบาล คือพระอินทร์ตัวเขียว ๆ
หากได้คนที่มีคุณสมบัติเหมือนพระอินทร์ นั่นแหละคือบ้านเมืองมีธรรมาภิบาล
วิธีการก็คือ อ้างคำว่า "คนดี" เพื่อสร้างมโนคติเทียม ๆ ว่านั่นคือพระอินทร์มาโปรด
แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เลย
ง่าย ๆ หากได้ "คนดี" เข้ามาปกครองประเทศ ไม่โกงไม่กิน มีจริยธรรม คุณธรรมยิ่งกว่าอรหันต์
แต่บริหารงานไม่เป็น
ก็ไม่ธรรมาภิบาลแล้วครับ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คนดีทั้งหลายที่ไม่เคารพกฎหมาย อยู่เหนือกฎหมาย กฎหมายแตะต้องไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้
อย่างนี้ จะมี จะเป็น จะคือธรรมาภิบาลได้อย่างไร ?
เลิกหลงทาง เลิกติดดี หยุดหลงดีกันซะที
เลือกคนเก่ง เอาคนเก่งมาปกครอง มาบริหารจัดการบ้านเมือง
บ้านเมืองเป็นนิติรัฐ หากคนเก่งทำผิดกฎหมาย ก็ช่วยกันตรวจสอบ ใช้กฎหมายจัดการ
หากคนเก่งทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่เก่งจริง ดีแต่พูด ก็เลิกเลือก
หากคนเก่งทำผิดหลักนิติธรรม ก็ช่วยกันวิจารณ์ ติติง
ทุกคนในบ้านเมืองนี้ต้องมีส่วนร่วม ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ ไม่มีกฎเหนือความรับผิดที่ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ
การมีส่วนร่วม ก็ต้องกระจายอำนาจ ไม่ใช่อำนาจรวมศูนย์
ทุกคนเสมอภาคกัน อาศัยฉันทามติเป็นเครื่องมือ
นั่นแหละ เมื่อมีกลไกตามระบบควบคุม ก็คือหนทางไปสู่ประสิทธิผล
การหลงทาง ยึดติดแค่ว่า คนดี ไม่โกง บลา ๆ ๆ ๆ
มีอะไรเป็นหลักประกัน ?
โลกพัฒนามาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะระบบ เพราะมีการแก้ไขปรับปรุงกลไกในระบบให้ดีขึ้น สอดคล้องกับยุคสมัย
ไม่ใช่เพราะ "คนดี"
ดีได้ ก็ไม่ดีได้ ไม่ดีได้ ก็ดีได้
นั่นแหละ โลกจึงคิดค้นระบบขึ้นมาเพื่อควบคุมทั้งคนดี และคนไม่ดี
คนทำงานธนาคาร ไม่ใช่เทวดา ที่ไม่โลภ
อยู่กับเงินทั้งวัน แต่ไม่โกง นั่นเพราะมีระบบที่ดีในการควบคุม
ทั้งการจ้างที่คุ้มค่าพอเพียง ทั้งการตรวจสอบ
แม้โกงได้ แต่หนีไม่รอดสักราย
การโกงก็ไม่เกิด
ไม่ใช่แค่แบงค์เอา "คนดี" เข้าทำงานแล้วคือหลักประกันว่า ไม่มีการโกงแน่ ๆ
แน่ล่ะ "คนดี" ย่อมถูกเห็นว่าเหมาะในทุกเรื่อง เหมาะในทุกอย่าง
แต่ทุกเรื่อง ทุกอย่าง นั้น ไม่ได้มีแค่มิติเดียว ทุกเรื่องและทุกอย่าง มีความหลากหลายทั้งในด้านมิติ และการเปลี่ยนแปลง
เหตุและปัจจัย สภาพแวดล้อม ผลกระทบ ฯลฯ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
คนดีในเรื่องหนึ่ง อาจไม่ดีในเรื่องหนึ่ง คนไม่ดีในเรื่องหนึ่ง อาจดีในเรื่องหนึ่ง
นี่คือความหมายของคำว่า "คนดี" ไม่ใช่การถือศีลห้าศีลพัน
โดยเฉพาะ "คนดี" ในรูปแบบกลวิธีเข้าสุ่อำนาจและตำแหน่งทางการเมือง
นี่ควรระวังที่สุด เพราะเป็น "ดีปลอม" มีตำแหน่งมีอำนาจ ก็แต่งตั้งลูกมาเพราะเก่งภาษาอังกฤษซะงั้น
ธรรมาภิบาล จะเข้มแข็ง ก็ต่อเมื่อมีจุดเริ่มต้นจากธรรมาธิบาล
เริ่มต้นอาจไม่ครบถ้วน เต็มร้อย แต่ก็ค่อย ๆ แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาสู่ธรรมาภิบาลในขั้นมากที่สุดได้
ประเภทแค่กฎหมายยังไม่เคารพ แล้วมาตะโกนปฏิรูป ๆ ๆ มาร้องหาธรรมาภิบาล
จะเป็นไปได้อย่างไร
ทำไมมีคนเชื่อ ?
อ๋อออ.... เพราะเป็นสลิ่มนั่นเอง
จบ
ธรรมาภิบาล คืออะไร ? ต้องยังไงถึงเรียกว่ามีธรรมาภิบาล ประเทศนี้หลงทางในเรื่องธรรมาภิบาลหรือไม่ ?
มีหลักการอยู่ 10 หลัก ได้แก่
หลักการตอบสนอง (Responsiveness)
หลักประสิทธิผล (Effectiveness)
หลักประสิทธิภาพ/คุ้มค่า (Efficiency/Value for money)
หลักความเสมอภาค (Equity)
หลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented)
หลักการตรวจสอบได้/มีภาระรับผิดชอบ (Accountability)
หลักเปิดเผย/โปร่งใส (Transparency)
หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
หลักการมีส่วนร่วม (Participation)
หลักนิติธรรม (Rule of Law)
ประเด็นคือ ประเทศนี้ มักหลงทางไปว่า ธรรมาภิบาล คือพระอินทร์ตัวเขียว ๆ
หากได้คนที่มีคุณสมบัติเหมือนพระอินทร์ นั่นแหละคือบ้านเมืองมีธรรมาภิบาล
วิธีการก็คือ อ้างคำว่า "คนดี" เพื่อสร้างมโนคติเทียม ๆ ว่านั่นคือพระอินทร์มาโปรด
แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เลย
ง่าย ๆ หากได้ "คนดี" เข้ามาปกครองประเทศ ไม่โกงไม่กิน มีจริยธรรม คุณธรรมยิ่งกว่าอรหันต์
แต่บริหารงานไม่เป็น
ก็ไม่ธรรมาภิบาลแล้วครับ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คนดีทั้งหลายที่ไม่เคารพกฎหมาย อยู่เหนือกฎหมาย กฎหมายแตะต้องไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้
อย่างนี้ จะมี จะเป็น จะคือธรรมาภิบาลได้อย่างไร ?
เลิกหลงทาง เลิกติดดี หยุดหลงดีกันซะที
เลือกคนเก่ง เอาคนเก่งมาปกครอง มาบริหารจัดการบ้านเมือง
บ้านเมืองเป็นนิติรัฐ หากคนเก่งทำผิดกฎหมาย ก็ช่วยกันตรวจสอบ ใช้กฎหมายจัดการ
หากคนเก่งทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่เก่งจริง ดีแต่พูด ก็เลิกเลือก
หากคนเก่งทำผิดหลักนิติธรรม ก็ช่วยกันวิจารณ์ ติติง
ทุกคนในบ้านเมืองนี้ต้องมีส่วนร่วม ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ ไม่มีกฎเหนือความรับผิดที่ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ
การมีส่วนร่วม ก็ต้องกระจายอำนาจ ไม่ใช่อำนาจรวมศูนย์
ทุกคนเสมอภาคกัน อาศัยฉันทามติเป็นเครื่องมือ
นั่นแหละ เมื่อมีกลไกตามระบบควบคุม ก็คือหนทางไปสู่ประสิทธิผล
การหลงทาง ยึดติดแค่ว่า คนดี ไม่โกง บลา ๆ ๆ ๆ
มีอะไรเป็นหลักประกัน ?
โลกพัฒนามาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะระบบ เพราะมีการแก้ไขปรับปรุงกลไกในระบบให้ดีขึ้น สอดคล้องกับยุคสมัย
ไม่ใช่เพราะ "คนดี"
ดีได้ ก็ไม่ดีได้ ไม่ดีได้ ก็ดีได้
นั่นแหละ โลกจึงคิดค้นระบบขึ้นมาเพื่อควบคุมทั้งคนดี และคนไม่ดี
คนทำงานธนาคาร ไม่ใช่เทวดา ที่ไม่โลภ
อยู่กับเงินทั้งวัน แต่ไม่โกง นั่นเพราะมีระบบที่ดีในการควบคุม
ทั้งการจ้างที่คุ้มค่าพอเพียง ทั้งการตรวจสอบ
แม้โกงได้ แต่หนีไม่รอดสักราย
การโกงก็ไม่เกิด
ไม่ใช่แค่แบงค์เอา "คนดี" เข้าทำงานแล้วคือหลักประกันว่า ไม่มีการโกงแน่ ๆ
แน่ล่ะ "คนดี" ย่อมถูกเห็นว่าเหมาะในทุกเรื่อง เหมาะในทุกอย่าง
แต่ทุกเรื่อง ทุกอย่าง นั้น ไม่ได้มีแค่มิติเดียว ทุกเรื่องและทุกอย่าง มีความหลากหลายทั้งในด้านมิติ และการเปลี่ยนแปลง
เหตุและปัจจัย สภาพแวดล้อม ผลกระทบ ฯลฯ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
คนดีในเรื่องหนึ่ง อาจไม่ดีในเรื่องหนึ่ง คนไม่ดีในเรื่องหนึ่ง อาจดีในเรื่องหนึ่ง
นี่คือความหมายของคำว่า "คนดี" ไม่ใช่การถือศีลห้าศีลพัน
โดยเฉพาะ "คนดี" ในรูปแบบกลวิธีเข้าสุ่อำนาจและตำแหน่งทางการเมือง
นี่ควรระวังที่สุด เพราะเป็น "ดีปลอม" มีตำแหน่งมีอำนาจ ก็แต่งตั้งลูกมาเพราะเก่งภาษาอังกฤษซะงั้น
ธรรมาภิบาล จะเข้มแข็ง ก็ต่อเมื่อมีจุดเริ่มต้นจากธรรมาธิบาล
เริ่มต้นอาจไม่ครบถ้วน เต็มร้อย แต่ก็ค่อย ๆ แก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาสู่ธรรมาภิบาลในขั้นมากที่สุดได้
ประเภทแค่กฎหมายยังไม่เคารพ แล้วมาตะโกนปฏิรูป ๆ ๆ มาร้องหาธรรมาภิบาล
จะเป็นไปได้อย่างไร
ทำไมมีคนเชื่อ ?
อ๋อออ.... เพราะเป็นสลิ่มนั่นเอง
จบ