สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ๆ สถานที่สวย ๆ อากาศดี ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นทะเล
ทริปนี้ไปคนเดียวก็คงจะเหงาเกินไปครับ ปฝแฟนก็ไม่มี ก็เลยต้องไปกับเพื่อน ผมไปกับเพื่อนอีก
สองคน
เอาล่ะครับ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เราเดินทางโดยรถตู้ มีให้เลือก 2 ที่ คือที่หมอชิตและสถานี
ขนส่งผู้โดยสารเอกมัย
เริ่มจากพวกผมขึ้นรถตู้ที่เอกมัย ราคาคนละ 120 บาท โดยเลือกรถตู้ที่ผ่านโรบินสันศรีราชา ใช้เวลา
เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ลงรถที่โรบินสันศรีราชา นั่งวินมอเตอร์ไซต์หรือสามล้อที่หน้าโรบินสัน ไปลงที่ท่าเรือเกาะสีชัง ค่า
ตั๋วคนละ 40 บาท แต่ถ้าใครอยากไปถึงเร็วก็ไปสปีดโบ๊ท คนละ 150 บาท
ถึงเกาะสีชังแล้ว ก็หาที่พัก มีทั้งแบบติดหาดและไม่ติดหาด พวกผมเลือกที่พักติดหาด เพราะจะได้
ลงไปเล่นน้ำได้สะดวกสบาย พัก 1 คืน 3 คน ราคา 1500 บาท (เตียงคู่) เป็นแบบห้องแอร์ มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบแอร์กับพัดลม บนเกาะจะมีบริการให้เช่ามอเตอร์ไซต์ พวกผมเช่ามอเตอร์ไซต์ 1 คน ๆ ละ 300 บาท
พอเก็บของเสร็จเราก็ขับมอเตอร์ไซต์ไปถ่ายรูปกัน 10.00-12.00 น. ไปถ่ายรูปกันที่สะพาน
วชิราวุธ (ช่องเขาขาด) เป็นจุดชมวิวที่สวยมาก เหมาะสำหรับถ่ายรูปสวยๆ เราไปหน้าฝน วันนั้นไม่มีแดด อากาศดีมาก
ต่อด้วยไปเล่นน้ำกันที่หาด 13.00-14.30 น. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเล่นน้ำที่สุด ถ้าเป็นช่วง
หัวค่ำน้ำทะเลจะขึ้นสูง คลื่นซัดแรง ถ้าลงเล่นอาจเกิดอันตรายได้
หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็พากันขึ้นไปบนห้อง อาบน้ำนอนพักผ่อน
เวลา 17.30-18.30 น. ขับมอเตอร์ไซต์ไปที่พระราชวังริมทะเล ซึ่งเป็นที่ประทับตากอาศเก่าของ ร.5
ไปถ่ายรูปที่สะพานอัษฏางค์ เป็นสะพานที่ทอดออกไปในทะเล ตอนเย็น ๆ อากาศจะดีมาก และเราสามรถเดินชมภายในพระราชวังได้ พระราชวังจะปิด 1 ทุ่ม
กลับที่พัก รับประทานอาหารเย็น โดยที่รีสอร์ทจะมีร้านอาหาร เราสามารถสั่งอาหารได้เลย หรือไม่
ก็สามารถขับมอเตอร์ไซต์หาซื้ออาหารตามร้านต่าง ๆ ที่เกาะได้ตามใจเราเลย
เช้าวันต่อมา เราออกมากินข้าวเช้าที่ร้านของรีสอร์ท อาหารก็ไม่ค่อยแพง เป็นอาหารตามสั่ง จานละ
50-60 บาท (ข้าวต้มก็มี) กินข้าวเสร็จก็ไปถ่ายรูปกันที่โขดหินต่อ ตอนเช้าอากาศเย็นสะบาย 10 โมงก็ไปเก็บของ ต้องไปที่ท่าเรือก่อน 11.00 น. เราเช็คเอาท์เวลา 10.30 น. ถึงท่าเรือก็ซื้อตั๋วกลับ คนละ 40 บาท
ขึ้นสามล้อกลับไปที่โรบินสัน ขึ้นรถตู้กลับ กทม. บ๊ายบาย…เกาะสีชัง
[CR] รีวิวเกาะสีชัง 2 วัน 1 คืน
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ๆ สถานที่สวย ๆ อากาศดี ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นทะเล
ทริปนี้ไปคนเดียวก็คงจะเหงาเกินไปครับ ปฝแฟนก็ไม่มี ก็เลยต้องไปกับเพื่อน ผมไปกับเพื่อนอีก
สองคน
เอาล่ะครับ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เราเดินทางโดยรถตู้ มีให้เลือก 2 ที่ คือที่หมอชิตและสถานี
ขนส่งผู้โดยสารเอกมัย
เริ่มจากพวกผมขึ้นรถตู้ที่เอกมัย ราคาคนละ 120 บาท โดยเลือกรถตู้ที่ผ่านโรบินสันศรีราชา ใช้เวลา
เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ลงรถที่โรบินสันศรีราชา นั่งวินมอเตอร์ไซต์หรือสามล้อที่หน้าโรบินสัน ไปลงที่ท่าเรือเกาะสีชัง ค่า
ตั๋วคนละ 40 บาท แต่ถ้าใครอยากไปถึงเร็วก็ไปสปีดโบ๊ท คนละ 150 บาท
ถึงเกาะสีชังแล้ว ก็หาที่พัก มีทั้งแบบติดหาดและไม่ติดหาด พวกผมเลือกที่พักติดหาด เพราะจะได้
ลงไปเล่นน้ำได้สะดวกสบาย พัก 1 คืน 3 คน ราคา 1500 บาท (เตียงคู่) เป็นแบบห้องแอร์ มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบแอร์กับพัดลม บนเกาะจะมีบริการให้เช่ามอเตอร์ไซต์ พวกผมเช่ามอเตอร์ไซต์ 1 คน ๆ ละ 300 บาท
พอเก็บของเสร็จเราก็ขับมอเตอร์ไซต์ไปถ่ายรูปกัน 10.00-12.00 น. ไปถ่ายรูปกันที่สะพาน
วชิราวุธ (ช่องเขาขาด) เป็นจุดชมวิวที่สวยมาก เหมาะสำหรับถ่ายรูปสวยๆ เราไปหน้าฝน วันนั้นไม่มีแดด อากาศดีมาก
ต่อด้วยไปเล่นน้ำกันที่หาด 13.00-14.30 น. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเล่นน้ำที่สุด ถ้าเป็นช่วง
หัวค่ำน้ำทะเลจะขึ้นสูง คลื่นซัดแรง ถ้าลงเล่นอาจเกิดอันตรายได้
หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็พากันขึ้นไปบนห้อง อาบน้ำนอนพักผ่อน
เวลา 17.30-18.30 น. ขับมอเตอร์ไซต์ไปที่พระราชวังริมทะเล ซึ่งเป็นที่ประทับตากอาศเก่าของ ร.5
ไปถ่ายรูปที่สะพานอัษฏางค์ เป็นสะพานที่ทอดออกไปในทะเล ตอนเย็น ๆ อากาศจะดีมาก และเราสามรถเดินชมภายในพระราชวังได้ พระราชวังจะปิด 1 ทุ่ม
กลับที่พัก รับประทานอาหารเย็น โดยที่รีสอร์ทจะมีร้านอาหาร เราสามารถสั่งอาหารได้เลย หรือไม่
ก็สามารถขับมอเตอร์ไซต์หาซื้ออาหารตามร้านต่าง ๆ ที่เกาะได้ตามใจเราเลย
เช้าวันต่อมา เราออกมากินข้าวเช้าที่ร้านของรีสอร์ท อาหารก็ไม่ค่อยแพง เป็นอาหารตามสั่ง จานละ
50-60 บาท (ข้าวต้มก็มี) กินข้าวเสร็จก็ไปถ่ายรูปกันที่โขดหินต่อ ตอนเช้าอากาศเย็นสะบาย 10 โมงก็ไปเก็บของ ต้องไปที่ท่าเรือก่อน 11.00 น. เราเช็คเอาท์เวลา 10.30 น. ถึงท่าเรือก็ซื้อตั๋วกลับ คนละ 40 บาท
ขึ้นสามล้อกลับไปที่โรบินสัน ขึ้นรถตู้กลับ กทม. บ๊ายบาย…เกาะสีชัง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น