สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เราชอบความรักของคู่นี้นะคะ มันค่อย ๆ เริ่ม ค่อย ๆ ผูกพันธ์
คุณกรรณบอกว้าถ้าเธอไม่แต่งงานกับคูณเถกิง โยก็คงจะไม่ต้องเจอกับชัช
แต่ในความเป็นจริง โยและชัช เจอกันมาก่อนแล้ว และต่างประทับใจในกันและกันตั้วแต่แรกเริ่ม
เราชอบที่ละครนำเสนอสิ่งนี่ มันดูแบบธรรมดามาก ก็แค่คนมาชอบกันธรรมดา
แต่แล้วมันก็เริ่มไม่ธรรมดา มีปมเรื่อง ชัชกับอคติที่มีต่อคุณกรรณ เข้ามา
แต่แทนที่พระนางจะตีกันอย่างไม่ฟังเหตุผลเหมือนละครหลาย ๆ เรื่อง เรื่องนี้กลับให้พระนางพูดกันด้วยเหตุผล เราประทับใจมาก
พระเอกเหวี่ยงเยอะในทีแรกอย่างมีที่มา เก็บกด เกลียดพ่อ ยังไงก็ต้องฟังยายคนที่เลี้ยงเรามาก่อนอยู่แล้ว
แต่พระเอกก็เหวี่ยงไม่นาน ทุกครั้งที่นางเอกอธิบายพระเอกก็รับฟังแล้วเอากลับไปคิดเสมอ
แม้จะยังละอคติได้ไม่หมดแต่ก็มีระดับของการยอมรับที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ปุบปับเปลี่ยนไป
มีการนำเสนอช่วงเปราะบาง ช่วงที่กำลังจะเปิดใจแล้วก็เข้าด้านมืดอีก (ตอนที่ชัชจูบโยครั้งแรกแล้วโดนตบ)
ละครเล่าละเอียดมากที่ความเปลี่ยนแปลงพวกนี้ จนเห็นเป็นสเต็ปว่ามันไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง
แต่สุดท้ายนางเอกก็สามารถเปลี่ยนพระเอกได้ และเวลาคนเราอนู่ในกรอบมาตลอด
พอแหกกรอบออกมาได้ก็ไม่แปลกเลยที่พระเอกจะทำอะไรสุดโต่งและต่อสู้อย่างไม่ลดละ
ดื้อดึง พยายามจะรั้งนางเอกไว้ให้สุดชีวิต
ทางด้านโยทกาเธอประทับใจชัชรัณก่อนแล้ว ก็ลองถามตัวเองตอนมีความรักกันดู มันไม่ง่ายเลยที่จะห้ามตัวเอง
โยก็แค่หญิงสาวคนหนึ่ง อายุยังน้อย เธอเป็นคนตรง ๆ ชัดเจน เธอชอบเขาเธอก็เข้าหา เธอมองเห็นว่าชัชรัณเป็นคนมีเหตุผล
เธอรู้ว่าเขาไม่ชอบแม่เธอ แต่เธอพยายามจะเปลี่ยนเขา และเธอเชื่อว่าจะทำได้ จึงพยายามเดินหน้าต่อไป
แต่มันค่อนข้างยากนำไปสู่เหตุการณ์นั้นที่เธอกับเขาแตกกันในทีแรก โยเสียใจที่ไม่สามารถเปลี่ยนชัชรัณได้
และเสียใจที่ไปรักผู้ชายที่เกลียดแม่ตัวเอง สำหรับโยแม่คือทุกสิ่ง สุดท้ายโยจึงเลือกแม่
แต่ยังไงเสียโยกับชัชก็ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันแล้ว สุดท้ายไม่ว่าจะยังไงความรักก็เป็นสิ่งที่ยากจะห้ามแม้จะพยานามตัดแล้ว
มันเป็นความรู้สึก ความผูกพัน ความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างมั่นคง ในขณะเดียวกันสถานการณ์มากมายก็ยิ่งทำให้
ความรักของพวกเขาตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากมากขึ้น
ทำให้แม้จะรู้สึกเหมือนกันใจตรงกันแต่ก็เหมือนคนละฟากฟ้าที่บรรจบกันไม่ได้
พอในภายหลังที่ทั้งสองคนไม่อาจฝืนความรู้สึกตัวเองได้ พยายามจับมือกัน เป็นฟ้าเดียวกัน แต่คนรอบข้างก็เข้ามาขวางไว้
ทำให้พวกเขาไม่อาจจะเป็นฟ้าเดียวกันได้แม้จะยอมรับซึ่งกันและกันแล้วก็ตาม ก็ยังคงเป็น เหมือนคนละฟากฟ้า อยู่ดี
บางคนบอกว่านางเอกปากบอกไม่อยากทำผิดกับกิ่ง แต่การกระทำก็ดูอ่อยพระเอก
ก็อย่างที่เราบอกข้างบน ก็คนมันรักอ่ะ ความรักมันห้ามกันลำบาก ในเรื่องของความรักมันไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีคำว่ามาก่อนหรือมาหลัง
หลายครั้งเราไม่อยากทำตัวงี่เง่า ไม่อยาทำอะไรไม่ดี แต่ความรู้สึกมันควบคุมกันไม่ได้ง่าย ๆ ชีวิตผู้คนถึงได้วุ่นวาย
เราชอบการลงรายละเอียด การไต่ระดับความสัมพันธ์ในเรื่องนี้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ง่าย ๆ
เธอ รัก เขา เรารักกัน แต่ไม่อยากทำผิดกับอีกคน ไม่มีใครผิดหรือถูก ตัวละคร คสพ มีมิติ ดูแล้วเชื่อว่าเป็นคนจริง ๆ
ความรักมีหน้าตาหลายแบบ ทั้งการเสียสละ และ เห็นแก่ตัว // ไม่อยากทำร้ายอีกคนแต่ก็ปล่อยมือจากอีกคนไม่ได้ // รู้ว่าอีกคนรักเราแต่ไม่อาจตอบสนองได้ และไม่อยาทำร้ายเขา มันอึมครึมไปหมด สมจริงดี เพราะในความจริงมันไม่ง่าย ไม่ใช่แค่ให้ ชัชเดินไปบอกกิ่งว่ารักโยไม่ใช่กิ่ง แบบเนี้ยในชีวิตจริงทำกันได้ง่าย ๆ ที่ไหน พระกิ่งก็ดีกับเรามาตลอดและยังเป็นเพื่อนของเรา มันต้องใช้ความใจแข็งมากเลยนะที่จะทำร้ายจิตใจคนแบบนี้ (และชัชกับโยไม่ใช่คนแบบนั้น)
แต่ในขณะที่ทุกคิดแทนกิ่ง ห่วงกิ่งคนดีไม่อยากให้บอบช้ำเสียใจ ไม่กล้าทำใจดำด้วย แต่จริง ๆ กิ่งก็อยากจะได้ยินชัด ๆ ให้เจ็บทีเดียวรู้เรื่องเหมือนกัน แต่ในความเด็ดเดี่ยวนั้นบางจังหวะของเรื่องก็จะเล่าให้เห็นถึงความลังเลเปราะบางไม่กล้ารับความจริงอยู่บ้างเช่นเดียวกัน ไม่ได้แทงทื่อ ๆ เข้ามาทีเดียว
เราชอบที่ละครลงรายละเอียดเยอะและค่อย ๆ เล่ามันออกมา มันสมจริงดี จับต้องได้มาก แต่เพราะลงรายละเอียดเยอะมากเลยต้องแลกมากับการเล่าประเด็นบางประเด็นซ้ำแต่ถ้าคิดตาม ดูละเอียดมันก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง ความเชื่อมโยงกัน แต่คงไม่ใช่แบบที่ใครหลายคนชอบดู
จนมาถึงตอนนี้เรื่องมาถึงส่วนท้ายที่สำหรับชัชแล้ว โยคือโลกทั้งใบของเขา ในขณะที่สำหรับโยนั้นโลกของเธอมีทั้ง ชัช แม่ เซม เจน และ กิ่ง
ก็อยากจะโอบกอดพวกเขาไว้ ความรักนี้เริ่มต้นอย่างไร้เดียงสา คล้ายกับโรมิโอและจูเลียต
แต่แล้วก็ต้องมาเผชิญกับอะไรอีกร้อยพันก็หวังว่าพวกเขาจะผ่านมันไปได้
ละครเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องความรักของคนสองคนที่มั่นคงชัดเจนเหมือนท้องฟ้าที่มองเห็นชัดทว่ากลับลาวเลือนในหนทางที่จะรักกัน
เหมือนคนละฟากฟ้านั่นเอง
คุณกรรณบอกว้าถ้าเธอไม่แต่งงานกับคูณเถกิง โยก็คงจะไม่ต้องเจอกับชัช
แต่ในความเป็นจริง โยและชัช เจอกันมาก่อนแล้ว และต่างประทับใจในกันและกันตั้วแต่แรกเริ่ม
เราชอบที่ละครนำเสนอสิ่งนี่ มันดูแบบธรรมดามาก ก็แค่คนมาชอบกันธรรมดา
แต่แล้วมันก็เริ่มไม่ธรรมดา มีปมเรื่อง ชัชกับอคติที่มีต่อคุณกรรณ เข้ามา
แต่แทนที่พระนางจะตีกันอย่างไม่ฟังเหตุผลเหมือนละครหลาย ๆ เรื่อง เรื่องนี้กลับให้พระนางพูดกันด้วยเหตุผล เราประทับใจมาก
พระเอกเหวี่ยงเยอะในทีแรกอย่างมีที่มา เก็บกด เกลียดพ่อ ยังไงก็ต้องฟังยายคนที่เลี้ยงเรามาก่อนอยู่แล้ว
แต่พระเอกก็เหวี่ยงไม่นาน ทุกครั้งที่นางเอกอธิบายพระเอกก็รับฟังแล้วเอากลับไปคิดเสมอ
แม้จะยังละอคติได้ไม่หมดแต่ก็มีระดับของการยอมรับที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ปุบปับเปลี่ยนไป
มีการนำเสนอช่วงเปราะบาง ช่วงที่กำลังจะเปิดใจแล้วก็เข้าด้านมืดอีก (ตอนที่ชัชจูบโยครั้งแรกแล้วโดนตบ)
ละครเล่าละเอียดมากที่ความเปลี่ยนแปลงพวกนี้ จนเห็นเป็นสเต็ปว่ามันไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง
แต่สุดท้ายนางเอกก็สามารถเปลี่ยนพระเอกได้ และเวลาคนเราอนู่ในกรอบมาตลอด
พอแหกกรอบออกมาได้ก็ไม่แปลกเลยที่พระเอกจะทำอะไรสุดโต่งและต่อสู้อย่างไม่ลดละ
ดื้อดึง พยายามจะรั้งนางเอกไว้ให้สุดชีวิต
ทางด้านโยทกาเธอประทับใจชัชรัณก่อนแล้ว ก็ลองถามตัวเองตอนมีความรักกันดู มันไม่ง่ายเลยที่จะห้ามตัวเอง
โยก็แค่หญิงสาวคนหนึ่ง อายุยังน้อย เธอเป็นคนตรง ๆ ชัดเจน เธอชอบเขาเธอก็เข้าหา เธอมองเห็นว่าชัชรัณเป็นคนมีเหตุผล
เธอรู้ว่าเขาไม่ชอบแม่เธอ แต่เธอพยายามจะเปลี่ยนเขา และเธอเชื่อว่าจะทำได้ จึงพยายามเดินหน้าต่อไป
แต่มันค่อนข้างยากนำไปสู่เหตุการณ์นั้นที่เธอกับเขาแตกกันในทีแรก โยเสียใจที่ไม่สามารถเปลี่ยนชัชรัณได้
และเสียใจที่ไปรักผู้ชายที่เกลียดแม่ตัวเอง สำหรับโยแม่คือทุกสิ่ง สุดท้ายโยจึงเลือกแม่
แต่ยังไงเสียโยกับชัชก็ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันแล้ว สุดท้ายไม่ว่าจะยังไงความรักก็เป็นสิ่งที่ยากจะห้ามแม้จะพยานามตัดแล้ว
มันเป็นความรู้สึก ความผูกพัน ความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างมั่นคง ในขณะเดียวกันสถานการณ์มากมายก็ยิ่งทำให้
ความรักของพวกเขาตกอยู่ในสถานะที่ยากลำบากมากขึ้น
ทำให้แม้จะรู้สึกเหมือนกันใจตรงกันแต่ก็เหมือนคนละฟากฟ้าที่บรรจบกันไม่ได้
พอในภายหลังที่ทั้งสองคนไม่อาจฝืนความรู้สึกตัวเองได้ พยายามจับมือกัน เป็นฟ้าเดียวกัน แต่คนรอบข้างก็เข้ามาขวางไว้
ทำให้พวกเขาไม่อาจจะเป็นฟ้าเดียวกันได้แม้จะยอมรับซึ่งกันและกันแล้วก็ตาม ก็ยังคงเป็น เหมือนคนละฟากฟ้า อยู่ดี
บางคนบอกว่านางเอกปากบอกไม่อยากทำผิดกับกิ่ง แต่การกระทำก็ดูอ่อยพระเอก
ก็อย่างที่เราบอกข้างบน ก็คนมันรักอ่ะ ความรักมันห้ามกันลำบาก ในเรื่องของความรักมันไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีคำว่ามาก่อนหรือมาหลัง
หลายครั้งเราไม่อยากทำตัวงี่เง่า ไม่อยาทำอะไรไม่ดี แต่ความรู้สึกมันควบคุมกันไม่ได้ง่าย ๆ ชีวิตผู้คนถึงได้วุ่นวาย
เราชอบการลงรายละเอียด การไต่ระดับความสัมพันธ์ในเรื่องนี้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจน ง่าย ๆ
เธอ รัก เขา เรารักกัน แต่ไม่อยากทำผิดกับอีกคน ไม่มีใครผิดหรือถูก ตัวละคร คสพ มีมิติ ดูแล้วเชื่อว่าเป็นคนจริง ๆ
ความรักมีหน้าตาหลายแบบ ทั้งการเสียสละ และ เห็นแก่ตัว // ไม่อยากทำร้ายอีกคนแต่ก็ปล่อยมือจากอีกคนไม่ได้ // รู้ว่าอีกคนรักเราแต่ไม่อาจตอบสนองได้ และไม่อยาทำร้ายเขา มันอึมครึมไปหมด สมจริงดี เพราะในความจริงมันไม่ง่าย ไม่ใช่แค่ให้ ชัชเดินไปบอกกิ่งว่ารักโยไม่ใช่กิ่ง แบบเนี้ยในชีวิตจริงทำกันได้ง่าย ๆ ที่ไหน พระกิ่งก็ดีกับเรามาตลอดและยังเป็นเพื่อนของเรา มันต้องใช้ความใจแข็งมากเลยนะที่จะทำร้ายจิตใจคนแบบนี้ (และชัชกับโยไม่ใช่คนแบบนั้น)
แต่ในขณะที่ทุกคิดแทนกิ่ง ห่วงกิ่งคนดีไม่อยากให้บอบช้ำเสียใจ ไม่กล้าทำใจดำด้วย แต่จริง ๆ กิ่งก็อยากจะได้ยินชัด ๆ ให้เจ็บทีเดียวรู้เรื่องเหมือนกัน แต่ในความเด็ดเดี่ยวนั้นบางจังหวะของเรื่องก็จะเล่าให้เห็นถึงความลังเลเปราะบางไม่กล้ารับความจริงอยู่บ้างเช่นเดียวกัน ไม่ได้แทงทื่อ ๆ เข้ามาทีเดียว
เราชอบที่ละครลงรายละเอียดเยอะและค่อย ๆ เล่ามันออกมา มันสมจริงดี จับต้องได้มาก แต่เพราะลงรายละเอียดเยอะมากเลยต้องแลกมากับการเล่าประเด็นบางประเด็นซ้ำแต่ถ้าคิดตาม ดูละเอียดมันก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง ความเชื่อมโยงกัน แต่คงไม่ใช่แบบที่ใครหลายคนชอบดู
จนมาถึงตอนนี้เรื่องมาถึงส่วนท้ายที่สำหรับชัชแล้ว โยคือโลกทั้งใบของเขา ในขณะที่สำหรับโยนั้นโลกของเธอมีทั้ง ชัช แม่ เซม เจน และ กิ่ง
ก็อยากจะโอบกอดพวกเขาไว้ ความรักนี้เริ่มต้นอย่างไร้เดียงสา คล้ายกับโรมิโอและจูเลียต
แต่แล้วก็ต้องมาเผชิญกับอะไรอีกร้อยพันก็หวังว่าพวกเขาจะผ่านมันไปได้
ละครเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องความรักของคนสองคนที่มั่นคงชัดเจนเหมือนท้องฟ้าที่มองเห็นชัดทว่ากลับลาวเลือนในหนทางที่จะรักกัน
เหมือนคนละฟากฟ้านั่นเอง
ความคิดเห็นที่ 17
กะว่าว่างแล้วจะไปอ่านกระทู้เรื่องเรตติ้งต่อ อ่าว หายไปไหนซะแล้ว ๕๕ แต่ก็ไม่เป็นไรก็ไม่ได้คิดจะเขียนตอบในกระทู้นั้นอยู่แล้ว แค่อยากอ่านเพื่อความบันเทิงที่แต่ละคนพยายามสรรหาเหตุผลมาอธิบายเรตติ้ง เช่น น้ำเน่า บทวกวน เนื้อหาเครียด อะไรก็ว่าไปซึ่งแต่ละเหตุผลก็มีตัวอย่างย้อนแย้งเสมอ เราก็ไม่เข้าใจว่าจนป่านนี้ ทำไมคนยังต้องถามหาเหตุผลมาอธิบายเรตติ้ง! เรตติ้งมันก็แค่แสดงถึงจำนวนคนดูที่สุ่มได้ในช่วงเวลานั้นก็เท่านั้น
เหตุผลที่คนจะเลือกดูอะไรมันร้อยแปดและมันก็ไม่แน่นอนเสมอไปเพราะอาจมีปัจจัยภายนอกมาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาไม่มีต้องดูย้อนหลังเอา คนในครอบครัวแย่งรีโมทดูช่องอื่นอีก เรื่องสนุกหรือไม่สนุกมันก็ขึ้นอยู่กับจริตแค่นั้นแหละ
บางคนบอกบทพูดเรื่องนี้มันดูประดิษฐ์ เอ ละครดังๆทั้งหลายนี่ไม่ประดิษฐ์เลยเนอะ อย่างสามีตีตรา (ยกตัวอย่าง เพราะเรื่องนี้เราดู) บทพูดประดิษฐ์มาก แต่ก็เพราะมันประดิษฐ์นี่แหละที่ทำให้เราตัดสินใจดูเรื่องนี้ทั้งๆที่ไม่ชอบเรื่องที่มีชื่อเรื่อง สามี เมียๆ เพราะเราชอบดูละครที่ดูแล้วได้อะไร ดูแล้วรู้สึกว่าคนเขียนบทพยายามใส่ศิลปะทางอักษรมาประดับอีคิวคนดู อ้อ มีอีกอันที่จำได้ดีเรื่องประดิษฐ์คำ ก็เรื่อง แอบรักออนไลน์ (นี่ขนาดเป็นเรื่องราวคนสมัยใหม่นะ) ที่พระเอกปีเตอร์พูดเรื่อง women behind men's success อะไรทำนองนี้ที่คนแชร์กันกระจาย อือหือ ประดิษฐ์จนไม่รู้จะประดิษฐ์ละ ๕๕ แต่ไงล่ะ ก็มันเป็นละคร เป็นศิลป์อย่างหนึ่งที่ต่องทำแล้วมันโดนใจ คือคนดูบางคนอยากดูความเรียล บอกเลยว่า มันหาไม่ได้ในละคร โดยเฉพาะละครไทย
แค่ฉากด่ากันที่แต่ละคนงัดคำพูดคำจา เธอคำ ฉันคำ มันก็ไม่เรียลละ ของจริงคนด่ากัน ต่างคนต่างพูดพร้อมกันไม่ฟังใครหรอก ๕๕ แต่ถ้าทำละครเรียลซะขนาดนั้นแล้วคนดูจะรู้เรื่องป่ะเนี่ยว่าเขาทะเลาะอะไรกัน
เพราะฉนั้นเรื่องบทพูดของเรื่องนี้ เรากลับชอบ เราว่ามันได้แสดงอีคิวหลายๆอย่าง ทั้งโย กิ่ง ป้ามาลัย ยายละมุด หรือแม้แต่คุณชัช
ความไม่งี่เง่าของตัวละครหลักทำให้เรื่องนี้มันน่าดู แม้เราพอจะเดาพล็อตเรื่องทั้งหมดออก (ซึ่งจริงๆพล็อตเรื่องทำนองนี้ก็เห็นกันดาษดื่น จะว่าไปละครไทยก็น้ำเน่าทั้งยวง มีความรัก มีอุปสรรค แต่ก็จบได้ด้วยดี) แต่ฉากแต่ละฉากและการแสดงมันดึงดูดพอให้เราติดละครเรื่องนี้มาก นี่คือเหตุผลสำคัญที่เราดูเรื่องนี้ ดูนักแสดงเขาปล่อยซีนกัน ไม่ผิดหวัง นักแสดงรุ่นใหญ่ด้วย น่าสงสารละครที่เน้นไปทางนักแสดงรุ่นใหญ่จะถูกละเลยจากคนดูส่วนมาก เพราะคนดูชอบแบบสาวๆหนุ่มๆหรือไม่ก็เด็กไปเลย เรื่องไหนที่มีคนแก่เยอะๆ ไม่ค่อยได้ความนิยมเท่าไหร่ รู้สึกนะ ในส่วนของนักแสดงที่เราไม่ค่อยถูกจริต ก็คือป้าเพ็ญศรีและคู่แค้นเก่าคุณกรรณ เราว่าเขาแสดงเยอะไป แต่ๆๆๆ เราก็ดูเอาฮา โดยเฉพาะเวลาป้าเพ็ญศรีจากหน้ายิ้มๆเปลี่ยนเป็นเงิบ เราขำทุกครั้ง
เขียนมาซะยาว ถ้าคุณชัชน้องโยหรือคนอื่นๆเข้ามาอ่าน อยากให้พวกคุณรู้ว่า ละครของพวกคุณมันดีพอสำหรับเรา ดีพอที่ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะต้องมาเวิ่นเว้อเพราะความอินแม้เวลาจะไม่ค่อยมีก็ตาม
จบปิ๊ง
เหตุผลที่คนจะเลือกดูอะไรมันร้อยแปดและมันก็ไม่แน่นอนเสมอไปเพราะอาจมีปัจจัยภายนอกมาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาไม่มีต้องดูย้อนหลังเอา คนในครอบครัวแย่งรีโมทดูช่องอื่นอีก เรื่องสนุกหรือไม่สนุกมันก็ขึ้นอยู่กับจริตแค่นั้นแหละ
บางคนบอกบทพูดเรื่องนี้มันดูประดิษฐ์ เอ ละครดังๆทั้งหลายนี่ไม่ประดิษฐ์เลยเนอะ อย่างสามีตีตรา (ยกตัวอย่าง เพราะเรื่องนี้เราดู) บทพูดประดิษฐ์มาก แต่ก็เพราะมันประดิษฐ์นี่แหละที่ทำให้เราตัดสินใจดูเรื่องนี้ทั้งๆที่ไม่ชอบเรื่องที่มีชื่อเรื่อง สามี เมียๆ เพราะเราชอบดูละครที่ดูแล้วได้อะไร ดูแล้วรู้สึกว่าคนเขียนบทพยายามใส่ศิลปะทางอักษรมาประดับอีคิวคนดู อ้อ มีอีกอันที่จำได้ดีเรื่องประดิษฐ์คำ ก็เรื่อง แอบรักออนไลน์ (นี่ขนาดเป็นเรื่องราวคนสมัยใหม่นะ) ที่พระเอกปีเตอร์พูดเรื่อง women behind men's success อะไรทำนองนี้ที่คนแชร์กันกระจาย อือหือ ประดิษฐ์จนไม่รู้จะประดิษฐ์ละ ๕๕ แต่ไงล่ะ ก็มันเป็นละคร เป็นศิลป์อย่างหนึ่งที่ต่องทำแล้วมันโดนใจ คือคนดูบางคนอยากดูความเรียล บอกเลยว่า มันหาไม่ได้ในละคร โดยเฉพาะละครไทย
แค่ฉากด่ากันที่แต่ละคนงัดคำพูดคำจา เธอคำ ฉันคำ มันก็ไม่เรียลละ ของจริงคนด่ากัน ต่างคนต่างพูดพร้อมกันไม่ฟังใครหรอก ๕๕ แต่ถ้าทำละครเรียลซะขนาดนั้นแล้วคนดูจะรู้เรื่องป่ะเนี่ยว่าเขาทะเลาะอะไรกัน
เพราะฉนั้นเรื่องบทพูดของเรื่องนี้ เรากลับชอบ เราว่ามันได้แสดงอีคิวหลายๆอย่าง ทั้งโย กิ่ง ป้ามาลัย ยายละมุด หรือแม้แต่คุณชัช
ความไม่งี่เง่าของตัวละครหลักทำให้เรื่องนี้มันน่าดู แม้เราพอจะเดาพล็อตเรื่องทั้งหมดออก (ซึ่งจริงๆพล็อตเรื่องทำนองนี้ก็เห็นกันดาษดื่น จะว่าไปละครไทยก็น้ำเน่าทั้งยวง มีความรัก มีอุปสรรค แต่ก็จบได้ด้วยดี) แต่ฉากแต่ละฉากและการแสดงมันดึงดูดพอให้เราติดละครเรื่องนี้มาก นี่คือเหตุผลสำคัญที่เราดูเรื่องนี้ ดูนักแสดงเขาปล่อยซีนกัน ไม่ผิดหวัง นักแสดงรุ่นใหญ่ด้วย น่าสงสารละครที่เน้นไปทางนักแสดงรุ่นใหญ่จะถูกละเลยจากคนดูส่วนมาก เพราะคนดูชอบแบบสาวๆหนุ่มๆหรือไม่ก็เด็กไปเลย เรื่องไหนที่มีคนแก่เยอะๆ ไม่ค่อยได้ความนิยมเท่าไหร่ รู้สึกนะ ในส่วนของนักแสดงที่เราไม่ค่อยถูกจริต ก็คือป้าเพ็ญศรีและคู่แค้นเก่าคุณกรรณ เราว่าเขาแสดงเยอะไป แต่ๆๆๆ เราก็ดูเอาฮา โดยเฉพาะเวลาป้าเพ็ญศรีจากหน้ายิ้มๆเปลี่ยนเป็นเงิบ เราขำทุกครั้ง
เขียนมาซะยาว ถ้าคุณชัชน้องโยหรือคนอื่นๆเข้ามาอ่าน อยากให้พวกคุณรู้ว่า ละครของพวกคุณมันดีพอสำหรับเรา ดีพอที่ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะต้องมาเวิ่นเว้อเพราะความอินแม้เวลาจะไม่ค่อยมีก็ตาม
จบปิ๊ง
แสดงความคิดเห็น
ไป...ไปกอดให้กำลังใจคุณชัชรัณกับน้องโยกัน
ความรัก...
บางครั้งชุ่มฉ่ำดั่งสายฝน หากบางคราก็แผดเผาดั่งเปลวไฟ
บางครั้งอ่อนโยนราวแดดเช้า หากบางคราก็เงียบเหงายะเยียบเย็นราวลมหนาวในคืนค่ำ
บางครั้งนำพาความสุข แต่บางคราก็นำพาความทุกข์
คนที่เขียนนิยามความรักนี้ เธอเชื่อว่าความรักจะมารูปแบบไหนมันก็ยังงดงาม
หากแต่เหมือนคนละฟากฟ้า ทุกคนใช้คำว่ารัก มาเป็นข้ออ้าง ในการทำร้ายคนที่รัก เพื่อให้ได้สิ่งที่รัก
สุดท้ายคนที่เจ็บปวดและสูญเสีย ก็ไม่พ้นตัวเอง มันไม่เห็นจะงดงามอย่างที่เธอกล่าวไว้เลย
ไม่อยากให้ชัชรัณและโยทการู้สึกท้อ.....จนละทิ้งความรัก
ไป..ไปกอดเขาและเธอกัน...