ขออนุญาตลบกระทู้เดิม เนื่องจากเราแก้ชื่อกระทู้ไม่เป็นค่ะ กระทู้นี้เกิดขึ้นเพราะเห็นน้องบ่นในเฟซบุคว่าเสียค่าธรรมเนียมจ่ายค่าโทรศัพท์แพงกว่าค่าใช้บริการ ด้วยความงกที่จะเรียกสวยๆ ว่าฉลาดใช้เงินจึงมานั่งพิมพ์กระทู้นี้ ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่หลายๆ คนรู้อยู่แล้ว และหลายๆ คนไม่เคยรู้มาก่อน น้องเราถึงขั้นออกว่าว่าไม่มีใครงกเหมือนเราแล้ว (หูยชมอย่างนี้เขินแย่เลย)
ใครเป็นเหมือนเราบ้าง? ช้อปปิ้งออนไลน์เสียดายค่าธรรมเนียมโอนเงิน? งกค่าส่ง? ขอออกตัวก่อนว่า ยัยเป็ด (เราเอง) ถูกเพื่อนเรียกว่า #เจ้าแม่ออนไลน์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรารู้ดีไปหมด หรือเราลองมาแล้วครบทุกอย่าง เสียค่าโง่เราก็เคยเสีย เพราะเคยเจ็บมาก่อนจึงพอจะบอกได้บ้าง แม้จะไม่ใช่ดอกเตอร์บุ๋ม ปนัดดา แต่ #อันไหนดีก็ว่าดี เราไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ และเพื่อนๆ ท่านใดใช้อะไรที่ว่าคุ้ม ที่ว่าดี ที่ปลอดภัยแนะนำเราด้วยน๊า เพราะเราเป็นผู้หญิงมีค่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ
😃อยู่ในยุค 4.0 ต้องใช้ออนไลน์ให้คุ้ม อย่าเสียค่าอินเตอร์เน็ตกับค่า smartphone แพงไปเปล่าๆ ไม่ได้มาบอกให้ขายของออนไลน์หรือเป็นดาวไลน์ MLM แต่สิ่งที่ต้องจับจ่ายเป็นประจำก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ประหยัดไปอีกเยอะ
😳บางแอพพลิเคชันหรือเวบไซต์ เค้าให้เราใช้บัตรเครดิตได้ ได้คะแนนบัตรเครดิต หรือไม่มีบัตรก็เติมเงินลงแอพฟรี หรือจ่ายผ่านธนาคารที่เรามี จ่ายฟรี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายหรือการโอน ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องออกจากบ้าน บางแอพฯ มีส่วนลด มีสะสมคะแนนนำมาใช้แทนเงิน มี cashback เข้าบัญชี และฟรีค่าจัดส่ง ดีไปอีก 💰💰💰 (เคยมีบริษัทฯ หนึ่งซึ่งเราเคยอ่านผ่านๆ ทำผลสำรวจออกมาว่าเราเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ ในแต่ละปีเท่ากับค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอนได้ถึง 2 รอบ เราจำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน ไม่มีอ้างอิงขอโทษนะคะ)
- จ่ายค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ
- ค่าโทรศัพท์ ทั้งเติมเงินและรายเดือน
- ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าเคเบิลทีวี
- ค่าเบี้ยประกันภัย
- ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน สินเชื่อต่างๆ
- ช้อปปิ้งออนไลน์ เครื่องสำอาง ซื้อของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าซื้อของใช้เข้าบ้าน กับข้าว ผลไม้ ฯลฯ ได้ทั้ง Central, Homepro, Lotus, BigC, Fresh mart, Tops, ยัน 7-11
- ดูหนัง ฟังเพลง ซื้อหนังสือ
- ท่องเที่ยว ร้านอาหาร จองตั๋วโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน
🌸ข้อควรระวัง:
1. อย่าหวังคะแนน โปรโมชั่น แลกของแถม ของสะสม Limited Edition แลกส่วนลด ฟรีค่าจัดส่ง จนหลวมตัวซื้อให้ถึงยอดที่เค้ากำหนด แทนที่จะประหยัดกลายเป็นว่าได้ของที่ไม่จำเป็นต้องซื้อ เปลืองเงินไปอี๊กกกกก
2. สั่งของอุปโภค บริโภค อย่าลืมถามวันที่ผลิต วันหมดอายุ
3. เครื่องสำอาง เมื่อเปิดแล้วมีอายุการใช้งานสั้นลง ร้านที่เปิดถ่ายรูปให้ลูกค้าดูสี หรือหากเราซื้อชิ้นที่คนขายเปิดเพื่อปาด (swatch) ซื้อสินค้ามือสอง อย่าลืมถามวันที่เปิดใช้งาน
4. การที่เราซื้อของผ่านคนกลางที่เราเรียกว่า Market Place เช่น sh***, 11***, La***, we*** นั่นหมายถึงเวบไซต์หรือแอพฯ เป็นเพียงสื่อกลางในการซื้อขาย นั่นหมายถึงว่า เราจะได้รับสินค้า ลดโอกาสโอนเงินโดยตรงแล้วคนขายหายไป บางสื่อกลางอาจมีบริการช่วยติดตามถ้าได้รับสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ
5. อุตส่าสะสมคะแนนไว้ซะเยอะ ไม่ว่าจะคะแนนบัตรเครดิต คะแนนในแอพ อย่าลืมแลกใช้ก่อนที่บัตรจะหาย สิทธิ์จะเต็ม หรือลืมจนคะแนนหมดอายุไปเสียก่อนนะคะ
📌หมายเหตุ:
1. แอพไหนดี?
ตอบ: เลือกแอพกันดีๆ ทำธุรกรรมออนไลน์ระวังอย่าให้โดนแฮคนะคะ อ่านนโยบายและเงื่อนไขการใช้แอพให้ดี ถ้าจะละเอียดถ้วนถี่ให้เช็คด้วยว่าเค้าจดทะเบียน ดำเนินการโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ยัยเป็ดไม่แนะนำแอพให้เลือกเองดีกว่า 😊
2. คุณภาพสินค้า แท้ไหม? ดีไหม? ร้านไหนดี? บลาบลาบลา?
ตอบ: เช่นกันกับข้อแรกค่ะ ไม่ชี้เป้า ให้เลือกเอง ซื้อเอง ตัดสินใจเอง ปัจจัยแต่ละสินค้าและการตัดสินใจซื้อแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราขายของออนไลน์เราก็ยังแนะนำลูกค้า ไม่ได้บังคับว่าต้องซื้อกับเราเท่านั้น เลือกซื้อตามความพึงใจ ของปลอมแต่พ่อค้าบอกว่าของแท้เราก็โดนมาแล้ว
3. ประสบการณ์ส่วนตัวที่ยังใช้อยู่ก็ได้ตังได้แต้มจาก 7-11, เงินคืนเข้าบัญชี cash back จากการจ่ายค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์ และบัตรเครดิต
*** แก้ไขเพิ่มเติมค่ะ จากที่สมาชิกหมายเลข 2992959 แนะนำ
https://ppantip.com/topic/34251021 ให้ตัวอย่างมาเราขออนุญาตแชร์แอพที่เราใช้นะคะ อาจจะไม่เยอะ ไม่ครอบคลุม เพราะการใช้งานต่างกัน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
หมายเหตุ (อีกแล้ว):
1. เรื่องความปลอดภัยของบัญชีเราไม่ได้เช็คดีขนาดนั้น แต่เราตั้งค่า SMS และ email ไว้ทุกการใช้จ่าย บัตรเครดิตที่ผูกออนไลน์ใช้เป็นบัตรร่วมที่ไม่มีเงินในบัตร พอจะจ่ายค่าอะไรค่อยเติมเงินลงบัตร ประหนึ่งใช้บัตรเติมเงิน ปิดวงเงินไว้จะใช้ค่อยปรับปรุงวงเงิน ก็ลดความเสี่ยงไปได้ เวบไหนที่ไม่ปลอดภัย ไม่มีการขอ OTP หรือใครๆ ก็เข้าได้ไม่ต้องใส่รหัสส่วนตัว เราจะไม่ให้เครื่องจำเลขบัตรไว้ ยอมมาพิมพ์เองทุกครั้งที่ซื้อดีกว่า เราไม่ใช้เครื่องคนอื่นทำธึรกรรมการเงินค่ะ
2. ตอนไม่มีบัตรเครดิต ใช้แอพ Airpay ครีเอทบัตรขึ้นมาค่ะ เห็นว่าโอนเงินฟรีแต่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง ก็ผูกบัญชีสร้างบัตรขึ้นมา และปิดวงเงินไว้จะใช้ค่อยปรับปรุงวงเงิน
(a) ค่าไฟ จ่ายผ่าน 7-11
- แรกเริ่มเลยก็ถือบิลไป 7-11 ค่าธรรมเนียม 15 บาท ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที บางทีไม่อยู่ไทยก็ฝากเพื่อนจ่ายแล้วโอนออนไลน์ให้เพื่อนค่ะ
- เปลี่ยนมาใช้ AIS Mpay เพราะใช้ AIS อยู่แล้ว เมื่อครบกำหนด จะมี SMS แจ้งเตือน ค่าธรรมเนียม 10 บาท
- เปลี่ยนมาแอดบัญชีไว้ในแอพ K-Plus เพราะเราใช้ธนาคารกสิกร เสียเวลาไม่ถึง 1 นาที ค่าธรรมเนียม 10 บาท
- น้องที่คอนโดแนะนำให้ใช้แอพ MEA เป็นแอพของการไฟฟ้าเลย เมื่อครบกำหนดแอพจะมีแจ้งเตือนด้วย สะดวกมากๆ ยอดที่เตือนในแอพมาก่อนบิลที่แจ้งในตู้จดหมายซะอีก ชำระบัตรเครดิตได้ ดูหน่วยการใช้ไฟ เช็คประวัติย้อนหลังได้ด้วย ค่าธรรมเนียม 8 บาท ผ่าน gateway "2c2p" ส่งใบเสร็จทางอีเมล
- สุดท้ายมาเจอไลน์เพย์ ค่าธรรมเนียม 0 บาท และมีเครดิตเงินคืนในบัญชี รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น เสียเวลาครีเอทบัญชีไลน์ เติมเงินเข้าบัญชี จ่ายแล้วได้เงินคืน 10% มีเพดานสูงสุดที่คืนไม่เกิน 200 บาทค่ะ เดือนนี้เราได้มาแล้ว 200 บาท (เงินที่เหลือไว้ซื้อหนม จ่ายค่าขนส่ง Kerry ได้ส่วนลดหรือ cash back ด้วย)
(b) ค่าน้ำ เราจ่ายตรงกับคอนโดค่ะ เลยไม่มีประสบการณ์ แต่วันก่อนเพิ่งสมัคร True Money ในแอพ 7-11 เห็นว่าจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟไม่มีค่าธรรมเนียมนะคะ (มีโบนัสโหลดแอพมาได้ 30 บาท ใช้งานอีก 2 ครั้ง ได้ครั้งละ 10 บาท ได้เหรียญสะสม 2 เท่า แต่ไม่ได้แต้ม)
(c) ค่าโทรศัพท์ เราใช้ AIS ค่ะ
เราเติมเงินมือถือให้ที่บ้านด้วย กด *292*เบอร์โทร*จำนวนเงิน# โทรออก มันจะมารวมบิลคิดเงินเราอีกที
- จ่ายผ่านแอพ AIS ใช้บัตรเครดิตได้ไม่มีค่าธรรมเนียม
- จ่ายผ่านแอพธนาคารกสิกร ไม่เสียค่าธรรมเนียมค่ะ
- จ่ายผ่านไลน์เพย์ ค่าธรรมเนียม 0 บาท และมีเครดิตเงินคืนในบัญชี ช้บัตรเครดิตได้ไม่มีค่าธรรมเนียม จ่ายแล้วได้เงินคืน 10% มีเพดานสูงสุดที่คืนไม่เกิน 100 บาทค่ะ เดือนนี้เราได้มาแล้ว
**เครื่อข่ายอื่นๆ เราเคยจ่ายผ่านเวบหรือแอพผู้ให้บริการก็ฟรีนะคะ
(d) ค่าอินเตอร์เนท เราใช้ของคอนโดค่ะ โอนตรงเข้าบัญชีผู้ให้บริการ คิดว่าน่าจะเหมือนค่าโทรศัพท์ เห็นที่แอพมีฟรีค่าธรรมเนียมก็ True Wallet, Airpay
(e) ดูหนัง เราใช้ Airpay ค่ะ ถูกกว่าซื้อจากผู้ให้บริการ ได้ทั้ง SF และ Major ตอนนี้มีโปรตั๋วหนัง 1 บาทด้วยนะ
(f) ตั๋วเครื่องบิน เราใช้ Traveloka ซึ่งราคาจองผ่าน Travel agent ถูกกว่าจองโดยตรงกับสายการบิน และไม่มีค่าธรรมเนียมการจ่าย สะสมไมล์และสะสมพอยท์ผ่านแอพ ใครใช้บัตรเครดิตก็สะสมได้สามต่อเลย ได้คะแนนบัตรเครดิตด้วย อันนี้เราใช้วิธีโอนเข้าบัญชีแทนบัตรเครดิต เนื่องจากไม่ขอ OTP เราลบบัตรออกแล้ว
(g) จองโรงแรม น้องเราจอง ก็รู้วว่าแต้มไปแลกห้องฟรีได้ ข้ามไปนะคะ
(h) ซื้อของออนไลน์ โปรโมชั่นร้านอาหาร รวมไปถึงห้างฯร้าน แล้วแต่ว่าเราซื้ออะไร แล้วแต่โปรโมชั่น แล้วแต่ความสะดวก งก+สะดวก เราซื้อทุกอย่างที่ระบุข้างบน
ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน สินเชื่อต่างๆ เห็น True wallet จ่ายฟรีค่าธรรมเนียม เช็คกันอีกทีนะคะ เราไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียกับแอพใดๆ เป็น user // แอพข้างต้นจริงๆ แอพเดียวก็ได้ครบนะคะ ย้ำอีกครั้งว่าเราไม่ได้อ่านโดยละเอียด รบกวนศึกษารายละเอียดดีๆ และระวังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ
ขอบคุณทุกข้อมูลที่มาแบ่งปันนะคะ ถ้านึกอะไรออกจะมาเพิ่มนะคะ
[CR] ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในแต่ละปีเท่ากับค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอนได้ถึง 2 รอบ
ใครเป็นเหมือนเราบ้าง? ช้อปปิ้งออนไลน์เสียดายค่าธรรมเนียมโอนเงิน? งกค่าส่ง? ขอออกตัวก่อนว่า ยัยเป็ด (เราเอง) ถูกเพื่อนเรียกว่า #เจ้าแม่ออนไลน์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรารู้ดีไปหมด หรือเราลองมาแล้วครบทุกอย่าง เสียค่าโง่เราก็เคยเสีย เพราะเคยเจ็บมาก่อนจึงพอจะบอกได้บ้าง แม้จะไม่ใช่ดอกเตอร์บุ๋ม ปนัดดา แต่ #อันไหนดีก็ว่าดี เราไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ และเพื่อนๆ ท่านใดใช้อะไรที่ว่าคุ้ม ที่ว่าดี ที่ปลอดภัยแนะนำเราด้วยน๊า เพราะเราเป็นผู้หญิงมีค่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ
😃อยู่ในยุค 4.0 ต้องใช้ออนไลน์ให้คุ้ม อย่าเสียค่าอินเตอร์เน็ตกับค่า smartphone แพงไปเปล่าๆ ไม่ได้มาบอกให้ขายของออนไลน์หรือเป็นดาวไลน์ MLM แต่สิ่งที่ต้องจับจ่ายเป็นประจำก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ประหยัดไปอีกเยอะ
😳บางแอพพลิเคชันหรือเวบไซต์ เค้าให้เราใช้บัตรเครดิตได้ ได้คะแนนบัตรเครดิต หรือไม่มีบัตรก็เติมเงินลงแอพฟรี หรือจ่ายผ่านธนาคารที่เรามี จ่ายฟรี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายหรือการโอน ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องออกจากบ้าน บางแอพฯ มีส่วนลด มีสะสมคะแนนนำมาใช้แทนเงิน มี cashback เข้าบัญชี และฟรีค่าจัดส่ง ดีไปอีก 💰💰💰 (เคยมีบริษัทฯ หนึ่งซึ่งเราเคยอ่านผ่านๆ ทำผลสำรวจออกมาว่าเราเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ ในแต่ละปีเท่ากับค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอนได้ถึง 2 รอบ เราจำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน ไม่มีอ้างอิงขอโทษนะคะ)
- จ่ายค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ
- ค่าโทรศัพท์ ทั้งเติมเงินและรายเดือน
- ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าเคเบิลทีวี
- ค่าเบี้ยประกันภัย
- ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน สินเชื่อต่างๆ
- ช้อปปิ้งออนไลน์ เครื่องสำอาง ซื้อของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าซื้อของใช้เข้าบ้าน กับข้าว ผลไม้ ฯลฯ ได้ทั้ง Central, Homepro, Lotus, BigC, Fresh mart, Tops, ยัน 7-11
- ดูหนัง ฟังเพลง ซื้อหนังสือ
- ท่องเที่ยว ร้านอาหาร จองตั๋วโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน
🌸ข้อควรระวัง:
1. อย่าหวังคะแนน โปรโมชั่น แลกของแถม ของสะสม Limited Edition แลกส่วนลด ฟรีค่าจัดส่ง จนหลวมตัวซื้อให้ถึงยอดที่เค้ากำหนด แทนที่จะประหยัดกลายเป็นว่าได้ของที่ไม่จำเป็นต้องซื้อ เปลืองเงินไปอี๊กกกกก
2. สั่งของอุปโภค บริโภค อย่าลืมถามวันที่ผลิต วันหมดอายุ
3. เครื่องสำอาง เมื่อเปิดแล้วมีอายุการใช้งานสั้นลง ร้านที่เปิดถ่ายรูปให้ลูกค้าดูสี หรือหากเราซื้อชิ้นที่คนขายเปิดเพื่อปาด (swatch) ซื้อสินค้ามือสอง อย่าลืมถามวันที่เปิดใช้งาน
4. การที่เราซื้อของผ่านคนกลางที่เราเรียกว่า Market Place เช่น sh***, 11***, La***, we*** นั่นหมายถึงเวบไซต์หรือแอพฯ เป็นเพียงสื่อกลางในการซื้อขาย นั่นหมายถึงว่า เราจะได้รับสินค้า ลดโอกาสโอนเงินโดยตรงแล้วคนขายหายไป บางสื่อกลางอาจมีบริการช่วยติดตามถ้าได้รับสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ
5. อุตส่าสะสมคะแนนไว้ซะเยอะ ไม่ว่าจะคะแนนบัตรเครดิต คะแนนในแอพ อย่าลืมแลกใช้ก่อนที่บัตรจะหาย สิทธิ์จะเต็ม หรือลืมจนคะแนนหมดอายุไปเสียก่อนนะคะ
📌หมายเหตุ:
1. แอพไหนดี?
ตอบ: เลือกแอพกันดีๆ ทำธุรกรรมออนไลน์ระวังอย่าให้โดนแฮคนะคะ อ่านนโยบายและเงื่อนไขการใช้แอพให้ดี ถ้าจะละเอียดถ้วนถี่ให้เช็คด้วยว่าเค้าจดทะเบียน ดำเนินการโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ยัยเป็ดไม่แนะนำแอพให้เลือกเองดีกว่า 😊
2. คุณภาพสินค้า แท้ไหม? ดีไหม? ร้านไหนดี? บลาบลาบลา?
ตอบ: เช่นกันกับข้อแรกค่ะ ไม่ชี้เป้า ให้เลือกเอง ซื้อเอง ตัดสินใจเอง ปัจจัยแต่ละสินค้าและการตัดสินใจซื้อแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราขายของออนไลน์เราก็ยังแนะนำลูกค้า ไม่ได้บังคับว่าต้องซื้อกับเราเท่านั้น เลือกซื้อตามความพึงใจ ของปลอมแต่พ่อค้าบอกว่าของแท้เราก็โดนมาแล้ว
3. ประสบการณ์ส่วนตัวที่ยังใช้อยู่ก็ได้ตังได้แต้มจาก 7-11, เงินคืนเข้าบัญชี cash back จากการจ่ายค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์ และบัตรเครดิต
*** แก้ไขเพิ่มเติมค่ะ จากที่สมาชิกหมายเลข 2992959 แนะนำ https://ppantip.com/topic/34251021 ให้ตัวอย่างมาเราขออนุญาตแชร์แอพที่เราใช้นะคะ อาจจะไม่เยอะ ไม่ครอบคลุม เพราะการใช้งานต่างกัน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
หมายเหตุ (อีกแล้ว):
1. เรื่องความปลอดภัยของบัญชีเราไม่ได้เช็คดีขนาดนั้น แต่เราตั้งค่า SMS และ email ไว้ทุกการใช้จ่าย บัตรเครดิตที่ผูกออนไลน์ใช้เป็นบัตรร่วมที่ไม่มีเงินในบัตร พอจะจ่ายค่าอะไรค่อยเติมเงินลงบัตร ประหนึ่งใช้บัตรเติมเงิน ปิดวงเงินไว้จะใช้ค่อยปรับปรุงวงเงิน ก็ลดความเสี่ยงไปได้ เวบไหนที่ไม่ปลอดภัย ไม่มีการขอ OTP หรือใครๆ ก็เข้าได้ไม่ต้องใส่รหัสส่วนตัว เราจะไม่ให้เครื่องจำเลขบัตรไว้ ยอมมาพิมพ์เองทุกครั้งที่ซื้อดีกว่า เราไม่ใช้เครื่องคนอื่นทำธึรกรรมการเงินค่ะ
2. ตอนไม่มีบัตรเครดิต ใช้แอพ Airpay ครีเอทบัตรขึ้นมาค่ะ เห็นว่าโอนเงินฟรีแต่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง ก็ผูกบัญชีสร้างบัตรขึ้นมา และปิดวงเงินไว้จะใช้ค่อยปรับปรุงวงเงิน
(a) ค่าไฟ จ่ายผ่าน 7-11
- แรกเริ่มเลยก็ถือบิลไป 7-11 ค่าธรรมเนียม 15 บาท ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที บางทีไม่อยู่ไทยก็ฝากเพื่อนจ่ายแล้วโอนออนไลน์ให้เพื่อนค่ะ
- เปลี่ยนมาใช้ AIS Mpay เพราะใช้ AIS อยู่แล้ว เมื่อครบกำหนด จะมี SMS แจ้งเตือน ค่าธรรมเนียม 10 บาท
- เปลี่ยนมาแอดบัญชีไว้ในแอพ K-Plus เพราะเราใช้ธนาคารกสิกร เสียเวลาไม่ถึง 1 นาที ค่าธรรมเนียม 10 บาท
- น้องที่คอนโดแนะนำให้ใช้แอพ MEA เป็นแอพของการไฟฟ้าเลย เมื่อครบกำหนดแอพจะมีแจ้งเตือนด้วย สะดวกมากๆ ยอดที่เตือนในแอพมาก่อนบิลที่แจ้งในตู้จดหมายซะอีก ชำระบัตรเครดิตได้ ดูหน่วยการใช้ไฟ เช็คประวัติย้อนหลังได้ด้วย ค่าธรรมเนียม 8 บาท ผ่าน gateway "2c2p" ส่งใบเสร็จทางอีเมล
- สุดท้ายมาเจอไลน์เพย์ ค่าธรรมเนียม 0 บาท และมีเครดิตเงินคืนในบัญชี รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น เสียเวลาครีเอทบัญชีไลน์ เติมเงินเข้าบัญชี จ่ายแล้วได้เงินคืน 10% มีเพดานสูงสุดที่คืนไม่เกิน 200 บาทค่ะ เดือนนี้เราได้มาแล้ว 200 บาท (เงินที่เหลือไว้ซื้อหนม จ่ายค่าขนส่ง Kerry ได้ส่วนลดหรือ cash back ด้วย)
(b) ค่าน้ำ เราจ่ายตรงกับคอนโดค่ะ เลยไม่มีประสบการณ์ แต่วันก่อนเพิ่งสมัคร True Money ในแอพ 7-11 เห็นว่าจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟไม่มีค่าธรรมเนียมนะคะ (มีโบนัสโหลดแอพมาได้ 30 บาท ใช้งานอีก 2 ครั้ง ได้ครั้งละ 10 บาท ได้เหรียญสะสม 2 เท่า แต่ไม่ได้แต้ม)
(c) ค่าโทรศัพท์ เราใช้ AIS ค่ะ
เราเติมเงินมือถือให้ที่บ้านด้วย กด *292*เบอร์โทร*จำนวนเงิน# โทรออก มันจะมารวมบิลคิดเงินเราอีกที
- จ่ายผ่านแอพ AIS ใช้บัตรเครดิตได้ไม่มีค่าธรรมเนียม
- จ่ายผ่านแอพธนาคารกสิกร ไม่เสียค่าธรรมเนียมค่ะ
- จ่ายผ่านไลน์เพย์ ค่าธรรมเนียม 0 บาท และมีเครดิตเงินคืนในบัญชี ช้บัตรเครดิตได้ไม่มีค่าธรรมเนียม จ่ายแล้วได้เงินคืน 10% มีเพดานสูงสุดที่คืนไม่เกิน 100 บาทค่ะ เดือนนี้เราได้มาแล้ว
**เครื่อข่ายอื่นๆ เราเคยจ่ายผ่านเวบหรือแอพผู้ให้บริการก็ฟรีนะคะ
(d) ค่าอินเตอร์เนท เราใช้ของคอนโดค่ะ โอนตรงเข้าบัญชีผู้ให้บริการ คิดว่าน่าจะเหมือนค่าโทรศัพท์ เห็นที่แอพมีฟรีค่าธรรมเนียมก็ True Wallet, Airpay
(e) ดูหนัง เราใช้ Airpay ค่ะ ถูกกว่าซื้อจากผู้ให้บริการ ได้ทั้ง SF และ Major ตอนนี้มีโปรตั๋วหนัง 1 บาทด้วยนะ
(f) ตั๋วเครื่องบิน เราใช้ Traveloka ซึ่งราคาจองผ่าน Travel agent ถูกกว่าจองโดยตรงกับสายการบิน และไม่มีค่าธรรมเนียมการจ่าย สะสมไมล์และสะสมพอยท์ผ่านแอพ ใครใช้บัตรเครดิตก็สะสมได้สามต่อเลย ได้คะแนนบัตรเครดิตด้วย อันนี้เราใช้วิธีโอนเข้าบัญชีแทนบัตรเครดิต เนื่องจากไม่ขอ OTP เราลบบัตรออกแล้ว
(g) จองโรงแรม น้องเราจอง ก็รู้วว่าแต้มไปแลกห้องฟรีได้ ข้ามไปนะคะ
(h) ซื้อของออนไลน์ โปรโมชั่นร้านอาหาร รวมไปถึงห้างฯร้าน แล้วแต่ว่าเราซื้ออะไร แล้วแต่โปรโมชั่น แล้วแต่ความสะดวก งก+สะดวก เราซื้อทุกอย่างที่ระบุข้างบน
ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน สินเชื่อต่างๆ เห็น True wallet จ่ายฟรีค่าธรรมเนียม เช็คกันอีกทีนะคะ เราไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียกับแอพใดๆ เป็น user // แอพข้างต้นจริงๆ แอพเดียวก็ได้ครบนะคะ ย้ำอีกครั้งว่าเราไม่ได้อ่านโดยละเอียด รบกวนศึกษารายละเอียดดีๆ และระวังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ
ขอบคุณทุกข้อมูลที่มาแบ่งปันนะคะ ถ้านึกอะไรออกจะมาเพิ่มนะคะ