ทำไมผมรู้สึกว่าเมืองไทยอีก 5-10 ปี ช่องว่างระหว่างชนชั้นยิ่งห่างๆไปเรื่อยๆ ชนชั้นกลางไม่มีลูก เลยเกิด gap มหึมา

กระทู้สนทนา
ส่วนตัวที่เห็นในที่ทำงานนะครับ Low rank officer หรือพนักงานที่เงินเดือนไม่เกิน 20,000 นี่จะมีลูกกันเกือบครับทุกคน บางคนมีสองคนอีกต่างหาก ใช้เงินเดือนชนเดือน หนี้บัตรเครดิตเต็มหลัง  แต่พวกที่ถือว่าเป็น high-rank อายุสามสิบกว่า-สี่สิบ ในสิบคนมีลูก สองคน และมีคนเดียว

ถามว่าทำไมไม่มีกัน ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากมีภาระ เพราะเลี้ยงลูกคนนึงจนไปยี่สิบปี ศก.ก็ไม่ดี ไม่รู้ออกจากงานวันไหน

ผมเลยมองภาพใหญ่ๆว่า

คนมีการศึกษามีฐานะพอตัวหมายถึง household income ระดับ 100,000 สองคนรวมกัน ไม่ยอมมีลูกนี่ประเทศจะเป็นยังไง ??????

เพราะ เพื่อนที่รวยๆ aka ชนชั้นบน สำหรับผม (asset เกิน 50 ล้าน) จะมีลูกกันหมด  และส่งลูกเรียนอินเตอร์ ระดับสังคมเดียวกันหมดแล้ว และ จะมี connection ในระดับบนค่อนข้างเยอะ และจะกุมทรัพยากรของประเทศในอนาคต

ชนชั้นกลาง -> ไม่ยอมมีลูก ไม่อยากให้ลูกลำบากแบบตัวเอง เกิดช่องว่าง

ชนชั้นรายได้น้อย -> มีลูกกันเยอะแยะ บางคนมีแบบไม่คิด หรืออาจคิดว่าจะเป็นที่พึ่งในอนาคต แต่หารู้ไม่ว่าการเกิดจากทุนศูนย์หรือติดลบ กว่าจะเลื่อนฐานะได้ในประเทศนี้ต้องเก่งแบบเก่งมากๆๆ ท้ายสุดก็ต้องเป็น หนูถีบจักรในระบบทุนนิยม

ขณะที่เราโหมให้เด็กจบใหม่ทำ startup บ้าๆๆ บอๆ ตาม office to rent ต่างๆ แต่หารู้ไม่ว่า ทุนขนาดใหญ่ซึ่งก็คือชนชั้นบน คอยจ้องเขมือบอยู่ คิดง่ายๆเรื่องขนมปังกล้วย...ด้วย economy of scale และเงินทุนที่หนาได้เปรียบ เค้ายึดหัวหาดไปหมดแล้ว ถ้าไม่ทำอะไรที่ disrupt platform เค้าจริงๆ เช่น uber amazon airbnb การเจาะทุนใหญ่จะยากมากๆ  

ท้ายสุดมันจะเกิดช่องว่างระหว่างชนชั้นมหาศาลครับ คือไม่รวยก็จนไปเลย

แค่แชร์ความคิดของชายชนชั้นกลางวัย 34 ครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่