สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
มีปัญหามาตั้งกระทู้ พอได้ผลประโยชน์แล้วก็ลบทิ้ง
คราวหน้าไม่ต้องมาตั้งนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คราวหน้าไม่ต้องมาตั้งนะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 53
เอ่อ ...
คุณ บอกเองว่า
1. แจ้งข้อมูลให้ เพื่อนในเพจ ระมัดระวัง
2. ให้บริษัท ตระหนักถึงการดูแลผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่าย
3. เป็นช่องทางเรียกร้องความเป็นธรรม
4. อัพเดทข้อมูลหากทางบริษัทให้แจ้งให้ความช่วยเหลือแล้ว
แจ้งให้เพื่อนในเพจนี้ ระมัดระวัง
แล้ว จะลบ ต้นเรื่องเพื่อ ...???
แล้วคนที่มาต่อทีลังที่คุณลบ เขาจะไปรู้อะไรไหมล่ะ เขาจะไประมัดระวังยังไงล่ะ ???
แล้ว ไม่บอกแนวทางแก้ไข ว่า บริษัทแก้ไข ยังไง
นี้ไม่ใช่กระทู้ แจ้งเรื่องระมัดระวังแล้ว
นี้มันกระทู้ มาขอให้คนอื่นช่วย เมื่อได้ก็ลบทิ้ง ... มันไม่ได้เป้นการ แจ้งเพื่อเตือนแล้ว แต่ มาโพสเพื่อส่วนตัวแล้ว...
ถ้าแจ้งเพื่อเตือน
ก็ต้อง
1. โพสเรื่องราวว่า เกิดอะไรขึ้น เรื่องราวเป้นยังไง ตรงไหน ที่เราควรระวัง ต้องสังเกตุ
2. เมื่อได้รับการดูแล แก้ไข จากคู่ กรณีแล้ว ก็ มา Edit เพิ่มเติม ว่า ได้รับการแก้ไขแล้วนะ และ แนวทางแก้ไข มียังไงบ้าง 1 2 3 4 .... โดยที่ ไม่ลบเรื่องราวเก่า
คุณ จะดูเป็นฮีโร่มากๆ ...
แต่ กระทู้นี้ ...
มันไม่ใช่กระทู้ แจ้งเตือนแล้ว มันเป้นกระทู้ เพื่อ ส่วนตัวแล้ว ...
กลับไปทำความเข้าใจซะใหม่ซะ ว่า การแจ้งเตือน กับ การมาเรียกร้องส่วนตัว มัน ต่างกันยังไง ...
นี่ ถ้าไม่มีคน แค็ปหน้าจอเอาใว้ คนมาทีหลัง เขาก็ไม่รู้เรื่องหรอก ว่า ระวังภัย อะไร ... บริษัทอะไร เรื่องราว ยังไง บางที่ ยังมีคนอีกหลายคน ที่ เขา เปิดร้าน แล้วเป็นแบบคุณ อยู่ โดยที่เขายังไม่รู้ก็ได้ ...
เขาจะได้เข้ามาเจอ แล้ว ไปสังเกตุของร้านตัวเองด้วย ...
แต่นี้อะไร ... ลบ ทิ้ง ....
แล้วที่สำคัญ ... ไม่มีการแจ้ง เลยว่า แล้ว บริษัท นั้น เขา มีวิธีการแนวทางแก้ไข อย่างไร
เขาเรียกแจ้งเตือน ระวัง ตรงไหน ฟะ ...???
และ กรณีนี้ ผมก็ มองว่า บริษัทไอติมนั้น ไม่มีความจริงใจ แก่ลูกค้า ทั้งหมดทั่วไป
ใครแจ้ง ก็ แก้เฉพาะคนแจ้ง
แต่ ไม่มีการช่วยประกาศให้ถึงลูกค้าผู้อื่น ให้ระมัดระวังตัว จากเหตุการณ์นี้
เอ่อ ...
คุณ บอกเองว่า
1. แจ้งข้อมูลให้ เพื่อนในเพจ ระมัดระวัง
2. ให้บริษัท ตระหนักถึงการดูแลผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่าย
3. เป็นช่องทางเรียกร้องความเป็นธรรม
4. อัพเดทข้อมูลหากทางบริษัทให้แจ้งให้ความช่วยเหลือแล้ว
แจ้งให้เพื่อนในเพจนี้ ระมัดระวัง
แล้ว จะลบ ต้นเรื่องเพื่อ ...???
แล้วคนที่มาต่อทีลังที่คุณลบ เขาจะไปรู้อะไรไหมล่ะ เขาจะไประมัดระวังยังไงล่ะ ???
แล้ว ไม่บอกแนวทางแก้ไข ว่า บริษัทแก้ไข ยังไง
นี้ไม่ใช่กระทู้ แจ้งเรื่องระมัดระวังแล้ว
นี้มันกระทู้ มาขอให้คนอื่นช่วย เมื่อได้ก็ลบทิ้ง ... มันไม่ได้เป้นการ แจ้งเพื่อเตือนแล้ว แต่ มาโพสเพื่อส่วนตัวแล้ว...
ถ้าแจ้งเพื่อเตือน
ก็ต้อง
1. โพสเรื่องราวว่า เกิดอะไรขึ้น เรื่องราวเป้นยังไง ตรงไหน ที่เราควรระวัง ต้องสังเกตุ
2. เมื่อได้รับการดูแล แก้ไข จากคู่ กรณีแล้ว ก็ มา Edit เพิ่มเติม ว่า ได้รับการแก้ไขแล้วนะ และ แนวทางแก้ไข มียังไงบ้าง 1 2 3 4 .... โดยที่ ไม่ลบเรื่องราวเก่า
คุณ จะดูเป็นฮีโร่มากๆ ...
แต่ กระทู้นี้ ...
มันไม่ใช่กระทู้ แจ้งเตือนแล้ว มันเป้นกระทู้ เพื่อ ส่วนตัวแล้ว ...
กลับไปทำความเข้าใจซะใหม่ซะ ว่า การแจ้งเตือน กับ การมาเรียกร้องส่วนตัว มัน ต่างกันยังไง ...
นี่ ถ้าไม่มีคน แค็ปหน้าจอเอาใว้ คนมาทีหลัง เขาก็ไม่รู้เรื่องหรอก ว่า ระวังภัย อะไร ... บริษัทอะไร เรื่องราว ยังไง บางที่ ยังมีคนอีกหลายคน ที่ เขา เปิดร้าน แล้วเป็นแบบคุณ อยู่ โดยที่เขายังไม่รู้ก็ได้ ...
เขาจะได้เข้ามาเจอ แล้ว ไปสังเกตุของร้านตัวเองด้วย ...
แต่นี้อะไร ... ลบ ทิ้ง ....
แล้วที่สำคัญ ... ไม่มีการแจ้ง เลยว่า แล้ว บริษัท นั้น เขา มีวิธีการแนวทางแก้ไข อย่างไร
เขาเรียกแจ้งเตือน ระวัง ตรงไหน ฟะ ...???
และ กรณีนี้ ผมก็ มองว่า บริษัทไอติมนั้น ไม่มีความจริงใจ แก่ลูกค้า ทั้งหมดทั่วไป
ใครแจ้ง ก็ แก้เฉพาะคนแจ้ง
แต่ ไม่มีการช่วยประกาศให้ถึงลูกค้าผู้อื่น ให้ระมัดระวังตัว จากเหตุการณ์นี้
ความคิดเห็นที่ 28
เรื่องนี้ผมมีประสบการณ์เจ็บแสบไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน
เปิดร้านขายของมาราวๆ 25 ปี ไอติมที่รัานขายดีมากแต่เป็นแบรนด์ท้องถิ่น
พนักงานจะมาส่งให้แบบวันเว้นวัน 6-7 ร้อยบาทต่อวัน ไม่มีปัญญษตรวจเช็คจำนานหรอก
ลูกค้าเข้าตลอดเวลา อาศัยความเชื่อใจอย่างเดียว
ค้าขายมา 5-6 ปีอยู่มาวันนึงผมออกไปซื้อของกลับมาพอดีพนักงานลงไอติมให้เสร็จเรียบร้อย
กำลังยื่นบิลเก็บเงินกับแฟนผมที่ง่วนอยู่กับการขาย ผมรับบิลมาถามว่าเท่าไหร่ พนักงานส่งของบอก
1200 กว่าบาท ผมรู้สึกว่าเฮ้ย ทำไมแพงงี้ ย้อนถามไปว่า ใช่แน่หรือ พนักงานแสดงความลังเลนิดนึง
ก่อนจะตอบว่า ใช่ครับ ผมจึงหยิบเงินจ่ายให้ไป
จากอาการลังเลของพนักงาน ทำให้ผมเชื่อทันทีว่าน่าจะมีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น
ผมสั่งงดขายไอติมทันทีจัดการเอาโซ่มาคล้องล็อคตู้เอาไว้ก่อน รอมีเวลาค่อยมานับ
ซึ่งก็เป็นอย่างที่ผมฉุกคิด ในตู้รวมทั้งของเก่ามีไม่ถึงพันบาท ผมจัดการไปแจ้งความแล้วโทรไปบอกทางโรงงาน
เถ้าแก่มาเองพาลูกน้องมาด้วย จัดแจงเอาไอติมทั้งหมดออก แล้วสั่งให้ลูกน้องเรียงลงไปใหม
พร้อมกับสำทับว่า ไหนเรียงให้กูดูซิว่าตู้ขนาดนี้ลงได้พันสองกูมาเป็นพันตู้แล้วตู้ขนาดนี้ไม่เคยถึงพันซักที
หลังจากที่พยายามเรียงไอติมอยู่พักใหญ่ในที่สุดก็ยืนตัวลีบแบบสารภาพ
เจาของถามผมว่าจะเอายังไง คำนวนค่าเสียหายย้อนหลังคงจะหลายแสนบาทซึ่งถ้าเรียกอย่างนั้น
ก็คงเข้าคุกอย่างเดียว เงินคงไม่ได้คืนแน่ ผมประมาณว่าเรียกเท่าไหร่เขามีปัญญาจ่ายเอาแค่นั้น
ผมจึงเรียกค่าเสียหายแค่ 35000 ซึ่งเขาก็ทะยอยจ่ายแต่โดยดีโดยมีเจ้าของเป็นผู้ค้ำประกัน
นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีกลโกงอีกวิธีหนึ่งซึ่งถ้าคิดไปแล้ว
สร้างความเสียหายให้กับผมคิดเป็นเงินแล้วหลายล้านบาทเลยทีเดียว
ก็จะขอเปิดเผยกลโกงไว้เสียเลยทีเดียว
ร้านค้าอื่นๆจะได้ไม่โดนโกงอย่างที่ผมเจอมา
คือ น้ำแข็ง ที่ร้านค้าต้องซื้อเข้ามาเพื่อใส่กับกาแฟ น้ำอัดลม น้ำหวาน ต่างๆ
เราจะนับจำนวนจากกระสอบ ว่าวันนี้เทใส่ถังน้ำแข็งของเรากี่กระสอบ
พอตกเย็นลงน้ำแข็งเที่ยวสุดท้ายเรียบร้อยก็จะจ่ายเงินไปตามจำนวนกระสอบ
เปล่าที่คนส่งน้ำแข็งเก็บคืนไป
ผมรู้มานานแล้วว่าถูกโกงแต่ไม่รู้จะจับยังไงวันหนึ่งๆจ่ายค่าน้ำแข็ง
พันกว่าบาททุกวัน จนกระทั่งเหลือ 3 ปีสุดท้ายก่อนที่ผมจะเลิกอาชีพนี้รวมเวลาที่ทำมาค้าขายประมาณ 25 ปี
อาจจะด้วยว่า โครงสร้างสังคมเริ่มเปลี่ยน ค่าแรงขั้นต่ำ 300 ทำให้กรรมกรแรงงานทั้งหลายสามารถเดินเข้า
ไปจับจ่ายใช้สอยในร้านสดวกซื้อได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมากเหมือนแต่ก่อน
อำนาจการซื้อของห้าง ดิสเคาท์สโตร์สามารถกดราคาซื้อจากซับพลายเออร์ได้ต่ำกว่าที่ร้านโชห่วยสามารถซื้อได้
อย่างมากมายทำให้ราคาขายของร้านโชห่วยแพงกว่าอย่างมากมาย
ทำให้ผมมีเวลาคิดไล่ล่าความฉ้อฉลของร้านน้ำแข็ง ในที่สุดผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า
น้ำแข็งป่นที่ใส่มาเป็นกระสอบๆนั้น ถ้าเราอยากรู้ว่ามีจำนวนครบกี่กั๊กตามที่สั่งหรือไม่เราสามารถวัดได้
จาก การชั่ง โดยเอาน้ำแข็งก้อนที่คิดเป็นจำนวนกั๊กมาชั่ง ว่ากั๊กนึงหนักเท่าไหร่เราก็สามารถวัดได้แล้วว่า
น้ำแข็งบดที่ใส่กระสอบมาส่งให้เรานั้นกระสอบหนึ่งมีกี่กั๊ก
พอจับได้ไล่ทันลูกจ้างก็ซัดว่าเถ้าแก่สั่งให้คิดแบบนี้ ซึ่งก็ไม่รู้จะทำไงได้แค่เปลี่ยนไปซื้อน้ำแข็งยูนิคหลอดเล็ก
จากเจ้าอื่นมาใช้แทน คิดๆดูแล้วถ้าไม่สั่งน้ำแข้งบด สั่งเอาแต่น้ำแข็งก้อนมาโม่เอง
ย้องหลัง 22 ปี โดนรัานส่งน้ำแข็งโกงไปไม่ต่ำกว่า 3 ล้าน ได้แต่ทำใจคิดว่ายังไงในที่สุดก็จับกลโกงของมันได้
จากเคยทักทายปราศัยในฐานะคู่ค้า เปลี่ยนมาหลบหนัาหลบตาทำเป็นก้มหน้าเดินเวลาสวนกัน
ก็ถือว่า ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนาลแล้วกัน
สำหรับร้านค้าที่ซื้อน้ำแข็งบดใช้อยู่ก็เอาวิธีนี้ไปเช็คจำนวนน้ำแข็งได้ว่ากระสอบหนึ่ง
บรรจุมากี่กั๊ก กันแน่จะได้ไม่ถูกโกงเหมือนผม
เปิดร้านขายของมาราวๆ 25 ปี ไอติมที่รัานขายดีมากแต่เป็นแบรนด์ท้องถิ่น
พนักงานจะมาส่งให้แบบวันเว้นวัน 6-7 ร้อยบาทต่อวัน ไม่มีปัญญษตรวจเช็คจำนานหรอก
ลูกค้าเข้าตลอดเวลา อาศัยความเชื่อใจอย่างเดียว
ค้าขายมา 5-6 ปีอยู่มาวันนึงผมออกไปซื้อของกลับมาพอดีพนักงานลงไอติมให้เสร็จเรียบร้อย
กำลังยื่นบิลเก็บเงินกับแฟนผมที่ง่วนอยู่กับการขาย ผมรับบิลมาถามว่าเท่าไหร่ พนักงานส่งของบอก
1200 กว่าบาท ผมรู้สึกว่าเฮ้ย ทำไมแพงงี้ ย้อนถามไปว่า ใช่แน่หรือ พนักงานแสดงความลังเลนิดนึง
ก่อนจะตอบว่า ใช่ครับ ผมจึงหยิบเงินจ่ายให้ไป
จากอาการลังเลของพนักงาน ทำให้ผมเชื่อทันทีว่าน่าจะมีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น
ผมสั่งงดขายไอติมทันทีจัดการเอาโซ่มาคล้องล็อคตู้เอาไว้ก่อน รอมีเวลาค่อยมานับ
ซึ่งก็เป็นอย่างที่ผมฉุกคิด ในตู้รวมทั้งของเก่ามีไม่ถึงพันบาท ผมจัดการไปแจ้งความแล้วโทรไปบอกทางโรงงาน
เถ้าแก่มาเองพาลูกน้องมาด้วย จัดแจงเอาไอติมทั้งหมดออก แล้วสั่งให้ลูกน้องเรียงลงไปใหม
พร้อมกับสำทับว่า ไหนเรียงให้กูดูซิว่าตู้ขนาดนี้ลงได้พันสองกูมาเป็นพันตู้แล้วตู้ขนาดนี้ไม่เคยถึงพันซักที
หลังจากที่พยายามเรียงไอติมอยู่พักใหญ่ในที่สุดก็ยืนตัวลีบแบบสารภาพ
เจาของถามผมว่าจะเอายังไง คำนวนค่าเสียหายย้อนหลังคงจะหลายแสนบาทซึ่งถ้าเรียกอย่างนั้น
ก็คงเข้าคุกอย่างเดียว เงินคงไม่ได้คืนแน่ ผมประมาณว่าเรียกเท่าไหร่เขามีปัญญาจ่ายเอาแค่นั้น
ผมจึงเรียกค่าเสียหายแค่ 35000 ซึ่งเขาก็ทะยอยจ่ายแต่โดยดีโดยมีเจ้าของเป็นผู้ค้ำประกัน
นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีกลโกงอีกวิธีหนึ่งซึ่งถ้าคิดไปแล้ว
สร้างความเสียหายให้กับผมคิดเป็นเงินแล้วหลายล้านบาทเลยทีเดียว
ก็จะขอเปิดเผยกลโกงไว้เสียเลยทีเดียว
ร้านค้าอื่นๆจะได้ไม่โดนโกงอย่างที่ผมเจอมา
คือ น้ำแข็ง ที่ร้านค้าต้องซื้อเข้ามาเพื่อใส่กับกาแฟ น้ำอัดลม น้ำหวาน ต่างๆ
เราจะนับจำนวนจากกระสอบ ว่าวันนี้เทใส่ถังน้ำแข็งของเรากี่กระสอบ
พอตกเย็นลงน้ำแข็งเที่ยวสุดท้ายเรียบร้อยก็จะจ่ายเงินไปตามจำนวนกระสอบ
เปล่าที่คนส่งน้ำแข็งเก็บคืนไป
ผมรู้มานานแล้วว่าถูกโกงแต่ไม่รู้จะจับยังไงวันหนึ่งๆจ่ายค่าน้ำแข็ง
พันกว่าบาททุกวัน จนกระทั่งเหลือ 3 ปีสุดท้ายก่อนที่ผมจะเลิกอาชีพนี้รวมเวลาที่ทำมาค้าขายประมาณ 25 ปี
อาจจะด้วยว่า โครงสร้างสังคมเริ่มเปลี่ยน ค่าแรงขั้นต่ำ 300 ทำให้กรรมกรแรงงานทั้งหลายสามารถเดินเข้า
ไปจับจ่ายใช้สอยในร้านสดวกซื้อได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมากเหมือนแต่ก่อน
อำนาจการซื้อของห้าง ดิสเคาท์สโตร์สามารถกดราคาซื้อจากซับพลายเออร์ได้ต่ำกว่าที่ร้านโชห่วยสามารถซื้อได้
อย่างมากมายทำให้ราคาขายของร้านโชห่วยแพงกว่าอย่างมากมาย
ทำให้ผมมีเวลาคิดไล่ล่าความฉ้อฉลของร้านน้ำแข็ง ในที่สุดผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า
น้ำแข็งป่นที่ใส่มาเป็นกระสอบๆนั้น ถ้าเราอยากรู้ว่ามีจำนวนครบกี่กั๊กตามที่สั่งหรือไม่เราสามารถวัดได้
จาก การชั่ง โดยเอาน้ำแข็งก้อนที่คิดเป็นจำนวนกั๊กมาชั่ง ว่ากั๊กนึงหนักเท่าไหร่เราก็สามารถวัดได้แล้วว่า
น้ำแข็งบดที่ใส่กระสอบมาส่งให้เรานั้นกระสอบหนึ่งมีกี่กั๊ก
พอจับได้ไล่ทันลูกจ้างก็ซัดว่าเถ้าแก่สั่งให้คิดแบบนี้ ซึ่งก็ไม่รู้จะทำไงได้แค่เปลี่ยนไปซื้อน้ำแข็งยูนิคหลอดเล็ก
จากเจ้าอื่นมาใช้แทน คิดๆดูแล้วถ้าไม่สั่งน้ำแข้งบด สั่งเอาแต่น้ำแข็งก้อนมาโม่เอง
ย้องหลัง 22 ปี โดนรัานส่งน้ำแข็งโกงไปไม่ต่ำกว่า 3 ล้าน ได้แต่ทำใจคิดว่ายังไงในที่สุดก็จับกลโกงของมันได้
จากเคยทักทายปราศัยในฐานะคู่ค้า เปลี่ยนมาหลบหนัาหลบตาทำเป็นก้มหน้าเดินเวลาสวนกัน
ก็ถือว่า ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนาลแล้วกัน
สำหรับร้านค้าที่ซื้อน้ำแข็งบดใช้อยู่ก็เอาวิธีนี้ไปเช็คจำนวนน้ำแข็งได้ว่ากระสอบหนึ่ง
บรรจุมากี่กั๊ก กันแน่จะได้ไม่ถูกโกงเหมือนผม
ความคิดเห็นที่ 5
ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ดูข่าวช่องหนึ่ง กรณีคล้ายๆเจ้าของกระทู้เลยค่ะ
ร้านนี้อยู่ที่สมุทรปราการมั้งถ้าจำไม่ผิด ป้าแกให้พนักงานที่มาส่งนับเลย ปรากฎว่าขาดไปหลายแท่งมาก
แล้วนางยังแถนะว่า แค่รับมาไม่รู้เรื่อง
ป้าแกบอกรับมาขายเป็น10ปี ไม่เคยนับ แกบอกมิน่าขายแล้วทำไม่ไม่ได้กำไรเลย
สุดท้ายสองคนก็โดนไล่ออกไปตามระเบียบ
คลิปๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ร้านนี้อยู่ที่สมุทรปราการมั้งถ้าจำไม่ผิด ป้าแกให้พนักงานที่มาส่งนับเลย ปรากฎว่าขาดไปหลายแท่งมาก
แล้วนางยังแถนะว่า แค่รับมาไม่รู้เรื่อง
ป้าแกบอกรับมาขายเป็น10ปี ไม่เคยนับ แกบอกมิน่าขายแล้วทำไม่ไม่ได้กำไรเลย
สุดท้ายสองคนก็โดนไล่ออกไปตามระเบียบ
คลิปๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
ระวังภัยก่อนขาดทุน สำหรับร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายไอศกรีม บริษัทใหญ่ ยี่ห้อหนึ่ง
แต่เพื่อนๆ ทุกท่าน โปรดระวัง พร้อมกับตรวจสอบจำนวนสินค้าทุกครั้งก่อนรับของเข้าร้าน สิ่งมูลค่าน้อยแต่ถ้าหลายๆรอบก็จะมีมูลค่าสูงมาก เราทำมาค้าขายสุจริต กำรี้กำไรก็ไม่ได้สูงมาก ยิ่งมาเจอเรื่องสินค้าตกหล่นด้วยแล้ว ก็เตรียมตัวขาดทุนได้เลยครับ