ร่างของทหารกัมพูชา 4 นาย ที่ถูกสังหารโดยกลุ่มกบฏคริสเตียนในสาธารณรัฐแอฟริกากลางเมื่อต้นเดือน เดินทางกลับถึงประเทศแล้ววานนี้ (21) ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของครอบครัว
       
       ทหารทั้ง 4 นาย อยู่ในกลุ่มทหารกัมพูชา 12 นาย ที่ถูกส่งส่งไปยังสาธารณรัฐแอฟริกากลางในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ
       
       ในการซุ่มโจมตีครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พ.ค. มีทหารกัมพูชาถูกฆ่า 1 นาย ขณะที่ทหารโมร็อกโก 7 นาย และทหารกัมพูชาอีก 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้น มีรายงานว่า ทหารกัมพูชา 3 นาย และทหารโมร็อกโกอีก 1 นาย หายตัวไป แต่ในวันถัดมาได้พบศพทหารกัมพูชาทั้ง 3 นายดังกล่าว
       
       นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา กล่าวว่า ทหารของกัมพูชาเข้าประจำการอยู่ในหน่วยทหารช่าง ที่ช่วยเหลือการสร้างถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และการซุ่มโจมตีเกิดขึ้นขณะที่ทหารกัมพูชากำลังเดินทางกลับฐาน พร้อมกับทหารคุ้มกันชาวโมร็อกโก
       
       ด้านโฆษกสหประชาชาติ กล่าวว่า ระหว่างการสู้รบมีนักรบ 8 คน ของกลุ่มกบฏ “Anti-Balaga” ถูกฆ่า ขณะที่ผู้โจมตีที่เหลือหลบหนีไป
       
       กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ และกำลังเสริมเข้ารักษาความปลอดภัยในพื้นที่ใกล้เมืองบังกาสซู ห่างจากกรุงบังกี เมืองหลวง ไปทางตะวันออกประมาณ 474 กิโลเมตร และยังคงค้นหาทหารรักษาสันติภาพที่ยังสูญหาย
       
       สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้งทางศาสนาในปี 2556 เมื่อกลุ่มกบฏมุสลิมโค่นล้มประธานาธิบดีที่เป็นคริสเตียน และสหประชาชาติเริ่มภารกิจรักษาสันติภาพที่นั่นในปี 2557 และเวลานี้มีกองกำลังทหารมากกว่า 12,000 นาย เข้าปกป้องคุ้มครองพลเรือนจากการสู้รบรุนแรงระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวคริสต์ และชาวมุสลิม ที่ทำให้ประชาชนราว 890,000 คน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัย ที่บางส่วนหลบหนีความรุนแรงเข้าไปในแคเมอรูน

เครดิตจากเว็บผู้จัดการ http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9600000051771