เรื่องก็มีอยู่ว่าผมได้ไปสมัครงานกับบริษัทแห่งหนึ่งแล้วผมก็ได้มีการเซ็นต์สัญญาการสมัครไปด้วยความที่ผมอยากได้งานใหม่นี้มากเลยไม่ได้อ่านรายละเอียดในสัญญาจ้างงานให้ดี ตัวผมก็คิดว่าอยากจะกลับไปลาออกจากที่เก่าก่อนให้เรียบร้อยเลยถามพี่ที่เขาเอาสัญญามาให้เซนต์ว่า พี่ผมมาเริ่มงานก่อนมั้ยครับค่อยเซนต์สัญญา พี่เขาก็บอกว่าเซนต์ไปเลย ผมก็อ่านคร่าวๆแล้วก็เซนต์ไปครับ แต่พอผมกลับมาลาออกจากที่ทำงานเก่าปัญหาก็เกิดขึ้นครับหัวหน้าเก่าผมไม่ยอมให้ออกครับได้มีการปรับเงินเพิ่มให้ และก็คุยปรับความเข้าใจกันในปัญหาที่ผมจะออกครับ แต่ผมก็แจ้งหัวหน้าเก่าผมไปว่าถ้าผมไม่ลาที่ใหม่ผมจะฟ้องร้องมีคดีความนะครับ เพราะผมโทรไปแจ้งที่ใหม่แล้วว่าจะไม่สามารถไปเริ่มงานได้ด้วยผมติดปัญหาเรื่องคนค้ำประกันด้วยครับเพราะที่บ้านผมไม่ยอมครับเพราะที่บ้านเอาสัญญามาอ่านดูแล้วไม่โอเครครับก็เลยทะเลาะกับที่บ้านครับ ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกเลยครับ ที่เก่าก็ไม่ยอมที่บ้านก็ไม่ยอมค้ำประกันอีกทีาใหม่ก็ไม่ยอมครับจะฟ้องร้องผมอย่างเดียวครับ ผมเครียดมากเลยครับคิดอะไรไม่ออก หัวหน้าเก่าผมยังไงก็ไม่ยอมให้ผมออกด้วย ผมเลยตัดสินใจไม่ไปเริ่มงานครับ หัวหน้าเก่าผมเลยร่างหนังสือยกเลิกสัญญาให้ส่งไปยื่นกับที่ใหม่ครับ และพอหลังจากนั้นประมาณ 2 เดือนก็มีหมายศาลมาที่บ้านครับให้ผมไปขึ้นศาลครับ ผมจึงได้ไปปรึกษากรมแรงงานเรื่องคดีความ พี่เขาก็แนะนำให้ไปตามที่ศาลท่านนัดครับ ผมก็ไปศาลตามนัดเพื่อไปไกล่เกลี่ย 2 รอบครับ แต่ก็ตกลงเรื่องเงินกันไม่ได้ครับ ในสัญญาจ้างงานบอกว่าจะฟ้องร้องผม 300,000 บาทครับ ไกล่เกลี่ยเขาให้ผมจ่ายสด 30,000 ครับแต่ผมก็ไม่มีครับเงินเดือนผมก็แค่หมื่นกว่าบาทเองครับ ผมขอผ่อนจ่ายเขาก็ไม่ยอมครับ แล้วจากนั้นผมก็ไปปรึกษาที่สภาทนายความเพื่อทำเรื่องยื่นขอทนายอาสาช่วยเหลือครับ แต่ก็ไม่ได้ครับ ผมจึงต้องไปขึ้นศาลเพื่อให้ศาลท่านตัดสินครับ ศาลท่านเลยตัดสินให้ผมยอมชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาทครับ ผมเลยอยากฝากเตือนเรื่องการไปสมัครงานแล้วรีบเซนต์สัญญาต้องอ่านให้ละเอียดก่อนเซนต์นะครับต้องดูตรงที่วันเริ่มงานให้ดีดีครับว่าเขาระบุว่าจะถ้าไม่มาเริ่มงานแล้วจะฟ้องร้องก็ให้ถอยออกมาดีกว่าครับไหนจะเรื่องคนค้ำประกันอีก 300,000 ครับ ไปสมัครงานแต่กลับเสียเงิน 20,000 ครับเสียเวลาไปขึ้นศาลอีกครับ เสียค่าโง่ไปครับที่ไม่รอบคอบ ขอฝากเตือนให้ระวังกันไว้ด้วยนะครับ