สวัสดีครับ
ผมจะมาแนะนำยางมอเตอร์ไซค์ ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างดี สำหรับหน้าฝนที่เริ่มจะมาเยือนเราทุกเช้า เย็นแล้ว สำหรับรถคู่ใจของทุกท่าน ก็ต้องตรวจสอบสภาพของยางกันสักหน่อยว่า สภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง เอาเป็นว่าเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
(สภาพยางก่อนเปลี่ยน)
นี้คือรถของผมที่จะมาทำการรีวิวครั้งนี้ Yamaha YZF-R3 (2015) อายุการใช้งาน ก็ราวๆ 1 ปี 8 เดือน กับระยะทาง 27xxx กิโลเมตร ครับ ยังไงต้องขอบคุณร้าน Clubmoto พระราม 5 ที่ช่วยแนะนำยางด้วยนะครับ และเปลี่ยน ถอด ถ่วง ยาง ด้วยช่างผู้ชำนาญการครับ
(เติมน้ำมันเต็มถังคืนนั้นเลย)
ผมได้ไปทำการเปลี่ยนยาง เนื่องมาจากก่อนวันที่เปลี่ยน ผมขับขี่ตอนกลางคืน ที่ดันมีฝนตกมาพอดีเลย โดยที่เป็นช่วงขาออกกำลังจะขึ้นสะพานปื่นเกล้า ช่วงนั้นฝนเพิ่งเริ่มตกใหม่ๆ ผมก็ขี่ออกจากไฟแดงก่อนขึ้นสะพานมา ก็เร่งออกตัวมาไม่ได้กระชากไม่ได้กระแทกกันเร่งอะไรแรงเลย เพราะกลัวลื่นอยู่เป็นพื้นฐานอยู่แล้วครับ เมื่อพ้นโค้งขวาเบาๆ จากไฟแดงออกมา ผมก็ค่อยๆเร่งขึ้นสะพาน ที่ความเร็วประมาณ 40-60 km/h แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือ ยางหลังลื่นไหลเป็นงูเลยครับ ขนาดผ่อนคันเร่งแล้วก็ยังไหลเหมือนจะสไลด์ๆ ไปเรื่อยๆ โชคดีที่ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตี 2 ถ้าจำไม่ผิดเลยไม่มีรถเลย ผมเลยผ่อนคันเร่ง จับแฮนด์หน้าแข็งๆ ให้แข็งมากที่สุด และก็ผ่านพ้นสถานการณ์ตรงนั้นมาได้ และวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมากๆ แต่ผมก็ถึงบ้านโดยปลอดภัยครับ หลังจากนั้นผมก็สัมผัสได้ทันทีว่า ยางคงแข็งหมดสภาพแล้วจริงๆ เพราะตั้งแต่ได้รถมาก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ ใช้ยางเดิมติดรถมาตลอดครับ ผมจึงคงถึงเวลาแล้วแหละครับ ที่ต้องหารองเท้าใหม่ให้กับรถ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ไม่ได้มีเงินมากมายนะครับ จึงมองหาความคุ้มค่า มาเป็นอันดับหนึ่ง จนหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ตอนแรกที่ผมสนใจเลยคือ Metzeler Sportec M5 Interact ด้วยที่เห็นว่าเนื้อยางผสมด้วยหลาย คอมพาวด์ แต่เนื่องจากรู้สึกว่าผมเป็นคนใช้รถบนถนนจริงเป็นหลัก ไม่ได้ลงสนามไม่ค่อยได้เท หรือ เข่าเช็ดพื้นในแทร็กเลย จึงมองหารุ่นอื่นจนมาเจอ Sportec Street ผมจึงหาข้อมูลซึ่ง “ไม่มีเลยยยยยยย !!!” เอาแล้วไงหละ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่ามันดี
(ขึ้นแท่นเรียบร้อย)
จีงเดินทางไปร้าน Clubmoto เลยครับ เมื่อเจอพนักงาน ก็ลองสอบถามดูว่า Street กับ M5 ต่างกันอย่างไร ก็จึงได้คำว่า จริงๆคุณภาพก็ค่อนข้างต่างกันอยู่ แต่ตัว M5 จะออกแบบเพื่อให้ใช้กับรถที่มี CC ค่อนข้างสูงไปเลย ส่วนของตัว Street เป็นเกรดที่ทำมาเพื่อสำหรับใช้งานกับรถ CC ที่ต่ำกว่า 400 CC สามารถรองรับความเร็วได้มากสุด 210 km/h ลายดอกยางก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ผมเลยตัดสินใจเลือก Metzeler Sportec Street ด้วยงบแค่นี้ ก็เปลียนเลยทันที ไซส์ที่เลือกใส่ไปก็เป็น Oversize จากยางเดิมคือไซส์ยางหน้า 110/70 และยางหลัง 150/60 (ยางเดิมคือ 140/70 ครับ)ทางร้านได้ถ่ายภาพหลังจาก ถอด แล้ว ใส่ให้ด้วย (ร้านนี้ถ่ายรูปสวยมากครับ)
*หมายเหตุ : รับประกัน 5 ปี ด้วยนะครับ
คุณลักษณะเด่นของยางตัวนี้คือ
-ให้กับการขับขี่ด้วยไตล์สปอร์ตและการยึดเกาะในทุกสภาพอากาศและทุกอุณหภูมิ
-โครงสร้างส่วนผสมใหม่ที่สมบูรณ์แบบใช้วัสดุโครงสร้างและรูปแบบการเรียงตัวแบบสารด้าย
-การออกแบบโครงสร้างที่แข็งแกร่งยางรับประกันความต้านทานการเสียดสีให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งานยางทั้งหมด
-เป็นยางทีรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีจำหน่ายแล้วที่คลับโมโตพระรามห้า ในขนาด 110/70-17 และ 140/70-17 และ 150/60-17
(ขี่กลับมาถึงบ้าน ก็ลองถ่ายอีกครั้ง)
สัมผัสแรก ที่สัมผัสหลังจากขับขี่คือ ยางหน้าค่อนข้างไวกว่ายางเดิมมากๆเลย อาจจะเป็นเพราะยางเก่า วิ่งตรงค่อนข้างเยอะมาก จึงทำให้ยางไม่กลม แต่ผมยังจำความรู้สึกแรกๆได้ ว่ารถจะไม่พลิกไวขนาดนี้ Metzeler Street ตัวนี้ค่อนข้างพลิกรถได้ไวเลยทีเดียว ขนาดยางหลังเป็น Oversize นะครับ
ต่อไปเป็นเรื่องการเกาะถนน ผมรู้สึกว่าการเกาะถนนค่อนข้างมั่นใจได้ในระดับที่ดีเลยครับ ถ้าโค้งไม่มีทราย หรือ น้ำแฉลบอยู่สามารถลงได้อย่างมั่นใจเลยครับ และสิ่งที่ผมรู้สึกได้คือยางเมื่อเย็นตัว ยางจะค่อนข้างแข็ง แต่เมื่อวิ่งไปเรื่อยๆ ยางจะนิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว เพราะเมื่อผมจอดแล้วลองกดๆ จะรู้สึกได้เลยว่านิ่มลงไป มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจเวลาขับขี่ขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องการเกาะถนน ผมว่าเกาะดีครับผม เพราะเนื้อมันค่อนข้างจะนิ่มเวลาร้อนขึ้น
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ฝนตก !! ผมบอกได้เลย การสไลด์ ดริฟท์ ล้อหลัง ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเหวออยู่พอควรเลยครับ ยังจึงยังไม่สามารถรีวิวตรงนี้ได้เต็มที่ครับ แต่เบื้องต้นที่สัมผัสได้คือเนื้อยางรีดน้ำได้ดีเลยทีเดียว ยางเปียกๆมา จอดไม่ถึง 5 นาที ก็แห้งแล้วครับ แต่จากการขับขี่ก็ไม่มีปัญหาสไลด์หรือลื่นเป็นอย่างใดนะครับ อาจจะเป็นเพราะยังไม่เจอสภาพฝนตกใหม่ๆ บนยางมะตอยครับ
สรุป สำหรับท่านไหน ที่กำลังหายางใหม่ให้กับรถคู่ใจของคุณ และต้องการยางที่ราคาไม่แพงมาก และใช้งานคุ้มค่า ไม่ได้ใช้งานหนัก(ลงสนาม) ผมแนะนำยางตัวนี้เลยนะครับ คุ้มค่าทุกบาทที่เสียไปเลยครับ เรื่องราคา ก็สอบถามทางร้านได้เลยครับผม ตกคู่ละ ไม่เกิน 4000 บาทครับผมถ้ามีโอกาสจริงๆผมก็อยากเอาไปลองในสนามดูเหมือนกันครับ คิดว่าน่าจะพอใช้ได้เลยครับ
ขอบคุณร้าน Clubmoto พระราม 5 ที่แนะนำยางดีๆคุ้มค่า และภาพสวยๆครับ
[CR] Review : หน้าฝนแล้ว มาเปลี่ยนยางมอไซค์กันเถอะ Metzeler Sportec Street
ผมจะมาแนะนำยางมอเตอร์ไซค์ ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างดี สำหรับหน้าฝนที่เริ่มจะมาเยือนเราทุกเช้า เย็นแล้ว สำหรับรถคู่ใจของทุกท่าน ก็ต้องตรวจสอบสภาพของยางกันสักหน่อยว่า สภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง เอาเป็นว่าเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
นี้คือรถของผมที่จะมาทำการรีวิวครั้งนี้ Yamaha YZF-R3 (2015) อายุการใช้งาน ก็ราวๆ 1 ปี 8 เดือน กับระยะทาง 27xxx กิโลเมตร ครับ ยังไงต้องขอบคุณร้าน Clubmoto พระราม 5 ที่ช่วยแนะนำยางด้วยนะครับ และเปลี่ยน ถอด ถ่วง ยาง ด้วยช่างผู้ชำนาญการครับ
ผมได้ไปทำการเปลี่ยนยาง เนื่องมาจากก่อนวันที่เปลี่ยน ผมขับขี่ตอนกลางคืน ที่ดันมีฝนตกมาพอดีเลย โดยที่เป็นช่วงขาออกกำลังจะขึ้นสะพานปื่นเกล้า ช่วงนั้นฝนเพิ่งเริ่มตกใหม่ๆ ผมก็ขี่ออกจากไฟแดงก่อนขึ้นสะพานมา ก็เร่งออกตัวมาไม่ได้กระชากไม่ได้กระแทกกันเร่งอะไรแรงเลย เพราะกลัวลื่นอยู่เป็นพื้นฐานอยู่แล้วครับ เมื่อพ้นโค้งขวาเบาๆ จากไฟแดงออกมา ผมก็ค่อยๆเร่งขึ้นสะพาน ที่ความเร็วประมาณ 40-60 km/h แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือ ยางหลังลื่นไหลเป็นงูเลยครับ ขนาดผ่อนคันเร่งแล้วก็ยังไหลเหมือนจะสไลด์ๆ ไปเรื่อยๆ โชคดีที่ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตี 2 ถ้าจำไม่ผิดเลยไม่มีรถเลย ผมเลยผ่อนคันเร่ง จับแฮนด์หน้าแข็งๆ ให้แข็งมากที่สุด และก็ผ่านพ้นสถานการณ์ตรงนั้นมาได้ และวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมากๆ แต่ผมก็ถึงบ้านโดยปลอดภัยครับ หลังจากนั้นผมก็สัมผัสได้ทันทีว่า ยางคงแข็งหมดสภาพแล้วจริงๆ เพราะตั้งแต่ได้รถมาก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ ใช้ยางเดิมติดรถมาตลอดครับ ผมจึงคงถึงเวลาแล้วแหละครับ ที่ต้องหารองเท้าใหม่ให้กับรถ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ไม่ได้มีเงินมากมายนะครับ จึงมองหาความคุ้มค่า มาเป็นอันดับหนึ่ง จนหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ตอนแรกที่ผมสนใจเลยคือ Metzeler Sportec M5 Interact ด้วยที่เห็นว่าเนื้อยางผสมด้วยหลาย คอมพาวด์ แต่เนื่องจากรู้สึกว่าผมเป็นคนใช้รถบนถนนจริงเป็นหลัก ไม่ได้ลงสนามไม่ค่อยได้เท หรือ เข่าเช็ดพื้นในแทร็กเลย จึงมองหารุ่นอื่นจนมาเจอ Sportec Street ผมจึงหาข้อมูลซึ่ง “ไม่มีเลยยยยยยย !!!” เอาแล้วไงหละ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่ามันดี
จีงเดินทางไปร้าน Clubmoto เลยครับ เมื่อเจอพนักงาน ก็ลองสอบถามดูว่า Street กับ M5 ต่างกันอย่างไร ก็จึงได้คำว่า จริงๆคุณภาพก็ค่อนข้างต่างกันอยู่ แต่ตัว M5 จะออกแบบเพื่อให้ใช้กับรถที่มี CC ค่อนข้างสูงไปเลย ส่วนของตัว Street เป็นเกรดที่ทำมาเพื่อสำหรับใช้งานกับรถ CC ที่ต่ำกว่า 400 CC สามารถรองรับความเร็วได้มากสุด 210 km/h ลายดอกยางก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ผมเลยตัดสินใจเลือก Metzeler Sportec Street ด้วยงบแค่นี้ ก็เปลียนเลยทันที ไซส์ที่เลือกใส่ไปก็เป็น Oversize จากยางเดิมคือไซส์ยางหน้า 110/70 และยางหลัง 150/60 (ยางเดิมคือ 140/70 ครับ)ทางร้านได้ถ่ายภาพหลังจาก ถอด แล้ว ใส่ให้ด้วย (ร้านนี้ถ่ายรูปสวยมากครับ)
*หมายเหตุ : รับประกัน 5 ปี ด้วยนะครับ
คุณลักษณะเด่นของยางตัวนี้คือ
-ให้กับการขับขี่ด้วยไตล์สปอร์ตและการยึดเกาะในทุกสภาพอากาศและทุกอุณหภูมิ
-โครงสร้างส่วนผสมใหม่ที่สมบูรณ์แบบใช้วัสดุโครงสร้างและรูปแบบการเรียงตัวแบบสารด้าย
-การออกแบบโครงสร้างที่แข็งแกร่งยางรับประกันความต้านทานการเสียดสีให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งานยางทั้งหมด
-เป็นยางทีรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีจำหน่ายแล้วที่คลับโมโตพระรามห้า ในขนาด 110/70-17 และ 140/70-17 และ 150/60-17
สัมผัสแรก ที่สัมผัสหลังจากขับขี่คือ ยางหน้าค่อนข้างไวกว่ายางเดิมมากๆเลย อาจจะเป็นเพราะยางเก่า วิ่งตรงค่อนข้างเยอะมาก จึงทำให้ยางไม่กลม แต่ผมยังจำความรู้สึกแรกๆได้ ว่ารถจะไม่พลิกไวขนาดนี้ Metzeler Street ตัวนี้ค่อนข้างพลิกรถได้ไวเลยทีเดียว ขนาดยางหลังเป็น Oversize นะครับ
ต่อไปเป็นเรื่องการเกาะถนน ผมรู้สึกว่าการเกาะถนนค่อนข้างมั่นใจได้ในระดับที่ดีเลยครับ ถ้าโค้งไม่มีทราย หรือ น้ำแฉลบอยู่สามารถลงได้อย่างมั่นใจเลยครับ และสิ่งที่ผมรู้สึกได้คือยางเมื่อเย็นตัว ยางจะค่อนข้างแข็ง แต่เมื่อวิ่งไปเรื่อยๆ ยางจะนิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว เพราะเมื่อผมจอดแล้วลองกดๆ จะรู้สึกได้เลยว่านิ่มลงไป มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจเวลาขับขี่ขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องการเกาะถนน ผมว่าเกาะดีครับผม เพราะเนื้อมันค่อนข้างจะนิ่มเวลาร้อนขึ้น
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ฝนตก !! ผมบอกได้เลย การสไลด์ ดริฟท์ ล้อหลัง ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเหวออยู่พอควรเลยครับ ยังจึงยังไม่สามารถรีวิวตรงนี้ได้เต็มที่ครับ แต่เบื้องต้นที่สัมผัสได้คือเนื้อยางรีดน้ำได้ดีเลยทีเดียว ยางเปียกๆมา จอดไม่ถึง 5 นาที ก็แห้งแล้วครับ แต่จากการขับขี่ก็ไม่มีปัญหาสไลด์หรือลื่นเป็นอย่างใดนะครับ อาจจะเป็นเพราะยังไม่เจอสภาพฝนตกใหม่ๆ บนยางมะตอยครับ
สรุป สำหรับท่านไหน ที่กำลังหายางใหม่ให้กับรถคู่ใจของคุณ และต้องการยางที่ราคาไม่แพงมาก และใช้งานคุ้มค่า ไม่ได้ใช้งานหนัก(ลงสนาม) ผมแนะนำยางตัวนี้เลยนะครับ คุ้มค่าทุกบาทที่เสียไปเลยครับ เรื่องราคา ก็สอบถามทางร้านได้เลยครับผม ตกคู่ละ ไม่เกิน 4000 บาทครับผมถ้ามีโอกาสจริงๆผมก็อยากเอาไปลองในสนามดูเหมือนกันครับ คิดว่าน่าจะพอใช้ได้เลยครับ
ขอบคุณร้าน Clubmoto พระราม 5 ที่แนะนำยางดีๆคุ้มค่า และภาพสวยๆครับ