เรามีภาวะเครียดกดดันจากชีวิตส่วนตัวรวมถึงเรื่องงานมาตั้งแต่ต้นปีค่ะ เริ่มจากช่วงที่ผ่านมาเป็นเทอมสุดท้ายที่เราต้องส่งเล่ม Thesis ให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นเราจะพ้นสภาพจากการเป็นนักศึกษา ป.โท ช่วงนั้นมันเครียดมาก ต้องลางานบ่อยเผื่อแบ่งเวลามาทุ่มให้ทีสิส ยังดีที่หัวหน้าเข้าใจ แต่ก็นั่นล่ะ เราไม่สามารถทำอะไรได้ดีพร้อมๆ กันไปได้ทุกอย่าง สุดท้ายเราผ่านมันไปได้ แต่ก็แลกมากับการที่เพื่อนร่วมงานไม่เข้าใจ เพราะเราไม่คุยเล่นเหมือนเดิม เราคุยกับเพื่อนในทีมน้อยลง ต้องตั้งใจทำงานอยู่เลยเวลาพัก กลับบ้านช้า เพราะต้องเคลียร์งานของตัวเองที่ค้าง เราไม่ได้มีเวลาไปพูดฉอเลาะ เล่นเกมส์ในเวลางาน หรือเดินไปคุยกับคนนั้นคนนี้ หลายคนมองว่าเราปลีกตัว เรากลายเป็นคนเครียด ยิ้มยาก ไม่สุงสิง เริ่มปลีกตัวออกห่างจากคนอื่น และปัญหาในงานก็เริ่มเกิดขึ้น
ทีมเราเปลี่ยนหัวหน้า และเรากลายเป็นที่คาดหวังของหัวหน้าคนใหม่ให้รับผิดชอบงานที่มากขึ้น เราเริ่มถูกเรียกหาบ่อยๆ จนจับสังเกตคนในทีมได้ว่าเค้าไม่ค่อยพอใจ เคยได้ยินคนคุยว่าทำไมหัวหน้าเรียกหาเราบ่อย เรากลายเป็นคนที่อยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียว ทำอะไรคนเดียว มีงานที่ต้องโคกับในทีม ขอความช่วยเหลือให้เดดไลน์งานไปสามครั้ง ไม่เคยได้ตามที่แจ้งสักครั้ง มันเริ่มกลายเป็นความเครียดสะสม เราร้องไห้บอยขึ้น อยู่ๆก็ร้อง คุยกับใครไม่ได้เลย แม้แต่กับแม่ ไม่อยากให้เค้ามารับรู้ปัญหา ไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจกับเรา
จุดพีคที่สุด คงเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับคนในทีม ที่เราคิดว่าที่ผ่านมาเราสนิทกับเค้า เล่าเรื่องที่ไว้ใจ มีอะไรก็แบ่งปัน สุดท้ายเค่ากลับเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเราเลย บอกตรงๆ ว่ามันเฟล รู้สึกเหมือนโดนหักหลัง
มีแค่คนเดียวที่เราพูดทุกเรื่องที่เรารู้สึกได้คือแฟนเรา บางทีเราก็เหวี่ยง พูดกับเค้าด้วยคำพูดแรงๆ แบบไม่รู้ตัว จนบางครั้งเค้าก็ถามเรา เธอเป็นไบโพล่าร์ รึเปล่า ช่วงหลังมานี้ เราสังเกตว่าเราทำอะไรช้าลง ปกติเดินเร็ว ก็รู้สึกเนือยๆ ไม่อยากรีบเร่ง กลายเป็นคนอ้อยสร้อย กินข้าววันละมื้อก็อยู่ได้โดยไม่รู้สึกหิว หลับๆตื่นๆ ตลอดคืน นอนไม่ค่อยหลับ ฝันเห็นแต่เรื่องงาน เรื่องเครียดๆ ในหัว บางทีนอนเยอะแต่จื่นขึ้นมารู้สึกเหมือนคนอดนอน หาวทั้งวัน
เราตัดสินใจหาข้อมูล เราสับสนว่าเราเป็นโรตเตรียด หรือ โรคซึมเศร้า พอลองทำแบบทดสอบโรคซึมเศร้า ผลออกมาว่าเป็นเล็กน้อย เราลองคุยกับแฟนเรื่องนี้ แฟนบอกเราคิดมากเกินไป ให้เราปล่อยวาง คือพูดมันง่ายแต่ทำมันยากไง
เราอยากรู้ว่าเราควรไปพบหมอมั้ย หรือปล่อยเอาไว้แบบนี้
เราเคยคิดไม่อยากอยู่นะ อยากหนีไปไกลๆ ไปในที่ ที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ไม่ถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย
ถ้าทำแบบทดสอบโรคซึมเศร้าแล้วผลออกมาว่าเป็นเล็กน้อยควรไปพบจิตแพทย์มั้ยคะ
ทีมเราเปลี่ยนหัวหน้า และเรากลายเป็นที่คาดหวังของหัวหน้าคนใหม่ให้รับผิดชอบงานที่มากขึ้น เราเริ่มถูกเรียกหาบ่อยๆ จนจับสังเกตคนในทีมได้ว่าเค้าไม่ค่อยพอใจ เคยได้ยินคนคุยว่าทำไมหัวหน้าเรียกหาเราบ่อย เรากลายเป็นคนที่อยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียว ทำอะไรคนเดียว มีงานที่ต้องโคกับในทีม ขอความช่วยเหลือให้เดดไลน์งานไปสามครั้ง ไม่เคยได้ตามที่แจ้งสักครั้ง มันเริ่มกลายเป็นความเครียดสะสม เราร้องไห้บอยขึ้น อยู่ๆก็ร้อง คุยกับใครไม่ได้เลย แม้แต่กับแม่ ไม่อยากให้เค้ามารับรู้ปัญหา ไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจกับเรา
จุดพีคที่สุด คงเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับคนในทีม ที่เราคิดว่าที่ผ่านมาเราสนิทกับเค้า เล่าเรื่องที่ไว้ใจ มีอะไรก็แบ่งปัน สุดท้ายเค่ากลับเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเราเลย บอกตรงๆ ว่ามันเฟล รู้สึกเหมือนโดนหักหลัง
มีแค่คนเดียวที่เราพูดทุกเรื่องที่เรารู้สึกได้คือแฟนเรา บางทีเราก็เหวี่ยง พูดกับเค้าด้วยคำพูดแรงๆ แบบไม่รู้ตัว จนบางครั้งเค้าก็ถามเรา เธอเป็นไบโพล่าร์ รึเปล่า ช่วงหลังมานี้ เราสังเกตว่าเราทำอะไรช้าลง ปกติเดินเร็ว ก็รู้สึกเนือยๆ ไม่อยากรีบเร่ง กลายเป็นคนอ้อยสร้อย กินข้าววันละมื้อก็อยู่ได้โดยไม่รู้สึกหิว หลับๆตื่นๆ ตลอดคืน นอนไม่ค่อยหลับ ฝันเห็นแต่เรื่องงาน เรื่องเครียดๆ ในหัว บางทีนอนเยอะแต่จื่นขึ้นมารู้สึกเหมือนคนอดนอน หาวทั้งวัน
เราตัดสินใจหาข้อมูล เราสับสนว่าเราเป็นโรตเตรียด หรือ โรคซึมเศร้า พอลองทำแบบทดสอบโรคซึมเศร้า ผลออกมาว่าเป็นเล็กน้อย เราลองคุยกับแฟนเรื่องนี้ แฟนบอกเราคิดมากเกินไป ให้เราปล่อยวาง คือพูดมันง่ายแต่ทำมันยากไง
เราอยากรู้ว่าเราควรไปพบหมอมั้ย หรือปล่อยเอาไว้แบบนี้
เราเคยคิดไม่อยากอยู่นะ อยากหนีไปไกลๆ ไปในที่ ที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ไม่ถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย