เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการชื่อดังด้านพุทธศาสนา และวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “ต้นสาละ” ซึ่งในพุทธประวัติระบุว่าพระพุทธเจ้าประสูติและปรินิพพานใต้ต้นไม้ดังกล่าว โดยนายสมฤทธิ์เปิดเผยว่า ปัจจุบันชาวพุทธเข้าใจผิดว่าต้นไม้ที่มีดอกกลมใหญ่ คือต้นสาละในพุทธประวัติเนื่องจากวัดไทยนำมาปลูกและติดป้ายว่าต้นสาละ แต่แท้จริงแล้ว ต้นสาละในพุทธประวัติมีลักษณะคล้าย ‘ต้นรัง’ มีดอกสีขาว-เหลือง
ข้อความส่วนหนึ่ง มีดังนี้
พุทธประวัติกล่าวว่าพระพุทธองค์ประสูติและปรินิพพานใต้ต้นสาละ
ปัจจุบันชาวพุทธไทยเราเข้าใจผิดคิดว่าต้นที่มีดอกใหญ่ๆผลกลมๆ คือต้นสาละในพุทธประวัติ เป็นความเข้าใจผิดครับ
ต้นนี้เรียกเป็นชื่อสามัญว่าต้นลูกปืนใหญ่หรือ CANNON BULLET มีกำเนิดอยู่ที่อเมริกาใต้ โปรตุเกสเอามาปลูกที่ลังกา พวกลังกาเรียกว่าต้น “SAL”คนไทย(พระ?)ได้ยินก็เข้าใจว่าคือ”สาละ”ในพุทธประวัติ เลยเชื่อและนำมาปลูกตามวัดต่างๆ ยิ่งทำให้คนเข้าใจผิดกันใหญ่
ต้นสาละที่กล่าวในพุทธประวัตินั้น เป็นไม้สูงชลูด ลำต้นตรง ดอกสีขาว-เหลือง เล็กๆเกาะเป็นพวง ดูๆคล้ายต้นรังของบ้านเรานั่นเอง
ที่ใกล้สวนลุมพินีในเนปาล แถวๆหน้าวัดไทย เขาปลูกไว้เป็นป่าเลย หรือที่เมืองโครักขปูร์ก่อนถึงกุสินารา ทางการอินเดียก็ปลูกไว้เป็นป่า ที่สำคัญหน้าวิหารปรินิพพานในเมืองกุสินาราก็มีต้นสาละนี้อยู่ และคนไทยก็ไปแถวนี้กันบ่อยๆ แต่เหตุใดชาวพุทธไทยจึงยังเข้าใจผิด และผิดมานานแล้ว
นายสมฤทธิ์ ยังระบุว่า ตนเคยท้วงติงข้อมูลดังกล่าวไปยังวัดดังแห่งหนึ่ง ซึ่งติดป้ายว่า “สาละ” โดยขอให้แก้ไขข้อมูลหรือนำป้ายออก แต่ไม่เป็นผล
“อุทาหรณ์เรื่องต้นสาละก็ช่วยให้คิดได้ว่า นี่ขนาดแค่ต้นไม้ในพุทธประวัติ ยังเข้าใจผิดกันขนาดนี้ แล้วพุทธธรรมของพระพุทธองค์ล่ะจะเข้าใจผิดกันมากขนาดไหน?
ขอย้ำอีกที่ว่าต้นที่มีดอกใหญ่ๆผลกลมๆนั่น ไม่ใช่ต้นสาละในพุทธประวัติครับ” นายสมฤทธิ์สรุป
https://www.matichon.co.th/news/556179
“สมฤทธิ์” ชี้ ต้น”สาละ” ในวัดทั่วไทยไม่ใช่สาละในพุทธประวัติ เผยเคยท้วง แต่ถูกเมิน
ข้อความส่วนหนึ่ง มีดังนี้
พุทธประวัติกล่าวว่าพระพุทธองค์ประสูติและปรินิพพานใต้ต้นสาละ
ปัจจุบันชาวพุทธไทยเราเข้าใจผิดคิดว่าต้นที่มีดอกใหญ่ๆผลกลมๆ คือต้นสาละในพุทธประวัติ เป็นความเข้าใจผิดครับ
ต้นนี้เรียกเป็นชื่อสามัญว่าต้นลูกปืนใหญ่หรือ CANNON BULLET มีกำเนิดอยู่ที่อเมริกาใต้ โปรตุเกสเอามาปลูกที่ลังกา พวกลังกาเรียกว่าต้น “SAL”คนไทย(พระ?)ได้ยินก็เข้าใจว่าคือ”สาละ”ในพุทธประวัติ เลยเชื่อและนำมาปลูกตามวัดต่างๆ ยิ่งทำให้คนเข้าใจผิดกันใหญ่
ต้นสาละที่กล่าวในพุทธประวัตินั้น เป็นไม้สูงชลูด ลำต้นตรง ดอกสีขาว-เหลือง เล็กๆเกาะเป็นพวง ดูๆคล้ายต้นรังของบ้านเรานั่นเอง
ที่ใกล้สวนลุมพินีในเนปาล แถวๆหน้าวัดไทย เขาปลูกไว้เป็นป่าเลย หรือที่เมืองโครักขปูร์ก่อนถึงกุสินารา ทางการอินเดียก็ปลูกไว้เป็นป่า ที่สำคัญหน้าวิหารปรินิพพานในเมืองกุสินาราก็มีต้นสาละนี้อยู่ และคนไทยก็ไปแถวนี้กันบ่อยๆ แต่เหตุใดชาวพุทธไทยจึงยังเข้าใจผิด และผิดมานานแล้ว
นายสมฤทธิ์ ยังระบุว่า ตนเคยท้วงติงข้อมูลดังกล่าวไปยังวัดดังแห่งหนึ่ง ซึ่งติดป้ายว่า “สาละ” โดยขอให้แก้ไขข้อมูลหรือนำป้ายออก แต่ไม่เป็นผล
“อุทาหรณ์เรื่องต้นสาละก็ช่วยให้คิดได้ว่า นี่ขนาดแค่ต้นไม้ในพุทธประวัติ ยังเข้าใจผิดกันขนาดนี้ แล้วพุทธธรรมของพระพุทธองค์ล่ะจะเข้าใจผิดกันมากขนาดไหน?
ขอย้ำอีกที่ว่าต้นที่มีดอกใหญ่ๆผลกลมๆนั่น ไม่ใช่ต้นสาละในพุทธประวัติครับ” นายสมฤทธิ์สรุป
https://www.matichon.co.th/news/556179