Turkey Trip Ep. 4 : Pamukkale >>>>> https://ppantip.com/topic/36432306 >>>>>


วันที่ 6 เราออกเดินทางกันแต่เช้าเพื่อเดินทางไปเมือง Konya



เพื่อชมพิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า (Mevlana Museum) เป็นการจำลองการใช้ชีวิตของพวกนักบวชชาวมุสลิม เดิมสถานที่ที่นักบวชฯ ทำสมาธิ Whirling Dervishes โดยการหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย และสถานที่นี้ยังเป็นเก็บศพของนักบวชบางท่านที่เสียชีวิต เราเดินเข้าไปแล้วได้กลิ่นอับคล้ายกลิ่นศพ และรีบเดินออกเหมือนตอนที่เข้าไปดูที่สุเหร่าสีเขียวเลย ตอนแรกคิดว่าเป็นคนเดียว พอถาม Buddy เธอก็บอกว่าได้กลิ่นเหมือนกัน


ที่นี่ยังมีรถรางใช้อยู่เลย



ระหว่างทางผ่านที่พักคนเดินทางในสมัยโบราณอันเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เพื่อกันลมหนาว เวลาหนาวที่นี่มีหิมะตกนะคะ ไกด์บอกว่าด้านในจะเป็นที่โล่ง ๆ สำหรับคนเดินทางเข้าไปพักแรม


หลังจากนั้นก็เดินทางต่อ ตะวันใกล้จะตกแล้วคะ


เราทานอาหารเย็นกันที่โรงแรมที่เราจะเข้าพัก Ucshisar Kaya Cave Hotel  ณ เมืองคัปปาโดเกีย (Cuppadocia) อากาศเย็นสบาย วิวสวย อาหารวันแรกที่ไปถึงเป็นปลา มีผักสลัดหลากหลาย พอค้างคืนถึงได้ทราบว่าห้องอาหารเขาไม่เคยเก็บผักสลัดเลย ไม่รู้เมื่อคืนจะมีตัวอะไรไต่บ้างหรือป่าว ผักวันที่ 2 ก็จะเริ่มเหี่ยว ภาพวันแรกกับวันที่ 2 ดูต่างกันเลย



เช้าวันที่ 6 วันนี้ใครที่จะไปขึ้นบันลูนชมวิวเมืองในมุมสูงจะออกกันแต่เช้า เสียค่าขึ้นคนละ 200 US แต่เราไม่ไปอากาศแบบนี้ขอนอนดีกว่า และตื่นขึ้นมาเก็บภาพสวย ๆ รอบ ๆ ที่พัก






หลังอาหารเช้า ไกด์พาพวกเรานั่งรถเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเน่ (Goreme Open Air Musuem) เป็นปล่องดินที่เคยมีคนอยู่อาศัย และบางแห่งเป็นสถานที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์มีภาพวาด และมีโครงกระดูกด้วย จริง ๆ เขาห้ามถ่ายภาพด้านใน แต่แอบถ่ายมาแบบไม่ใช้แฟลช ด้านนอกเขาให้ถ่ายได้คะ บางจุดมีคนคุม ที่ถ่ายมาได้เพราะจุดนี้ไม่มีใครคุม ก็แปลกตาดี












หลังอาหารเที่ยง ไกด์ก็พาไปชมการปั้นขวด และจาน ขวดที่นี่รูปร่างแปลกตามีช่องตรงกลาง คงปั้นยากน่าดู คนบรรยายบอกว่าเป็นภาชนะสำหรับใส่ไวน์เพื่อการเฉลิมฉลองนับแต่โบราณ โดยการเอาแขนใส่ลงไปช่องกลม ๆ คล้าย ๆ คนสพายขวด เวลารินไวน์ก็จะน้อมตัวลง เพื่อเป็นการนอบน้อม คนโบราณเนี่ยช่างคิดในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ


หลังจากนั้นก็พาพวกเราไปลงดิน เพื่อเข้าไปชมนครใต้ดินโคมัคลี (Kaymakli Underground City) ลงไปใต้ดินจริง ๆ ข้างในมันอับและแคบ เราก็ชะเง้อมองลงไป แล้วตัดสินไม่ลง กลัวติดเพราะตัวใหญ่ ดูจากแผนที่ที่ติดไว้ด้านนอกมีหลายชั้น จากโปรแกรมเที่ยวบอกว่าที่นี่ 10 กว่าชั้น เคยเป็นที่อยู่อาศัยของคนที่หนีภัยสงคราม มีอายุกว่า 4,000 ปี เคยมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นหมื่นคน โอ้แม่เจ้า!!! สามารถดูภาพ และเรื่องราวเพิ่มเติมได้ตามเว็บต่าง ๆ คะ



กลับมารับทานอาหารเย็น และรอเวลาไปชมการแสดง และระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) การแสดงมีการหมุนด้วยของนักบวช และมีผู้หญิงหมุนตัวด้วยเหมือนกันแต่เธอเต้นตามจังหวะดนตรี ดูแล้วเวียนหัวแทน กล้องจากมือถือมันไวไม่พอ ที่ถ่ายไว้ก็ทั้งไหวทั้งเบลอ วีดีโอที่อัดไว้ก็ทำให้ memory โทรศัพท์เต็มต้องลบออกเพื่อให้ถ่ายภาพต่อ เลยไม่มีภาพสวย ๆ มาโชว์ มีเท่าที่เห็นเนี่ยแระคะ



ที่นี่จะมีไวน์แดงขวดใหญ่วางไว้ทุกโต๊ะ รสชาติดีซะด้วย แล้วจะปล่อยไว้ให้เสียของได้ไง แบบนี้ต้องฉลองกันหน่อย


วันที่ 7 เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปเก็บภาพก่อนจะจากไป และออกไปซึบซับอากาศเย็น ๆ

เพื่อเดินทางไปเมืองอังการา เพื่อขึ้นเครื่องกลับเมือง หลังอาหารไกด์พาไปชมร้านขายหินและเครื่องเงิน ได้แต่ชมความสวยงาม ไม่ได้ซื้อเหมือนเดิม


ระหว่างมีแวะเข้าห้องน้ำ มีร้านขายของเป็นจุดที่หลาย ๆ คน ละลายเงินตีล่าที่มีอยู่ โดยการซื้อของฝาก ห้องน้ำที่นี่อลังการมาก สะอาดเอี่ยม อย่างกะโรงแรมหรู ๆ บ้านเรา


มีที่ชาร์ทบริการด้วย


ที่เห็นเป็นก้อนขาว ๆ นั่นคือน้ำแข็งนะคะ


แล้วเราก็ไปแวะชมพิพิธภัณฑ์ท่านผู้นำประเทศ “มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก” ท่านเป็นชาวกรีกที่ดูดีมาก แต่ทำไมอายุสั้นจัง เสียชีวิตตอนอายุ 57 ปีเอง





เด็กตุรกี และสาว ๆ หน้าตาดีทุกคนเลย


ที่นี่ดอกไม้สวยมาก







เราออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ ก็ไปทานอาหารเย็น ก็ออกเดินทางไปสนามบิน Ankara





ระหว่างทางเราผ่านทะเลสาปเกลือด้วยคะ ยาวหลายกิโลเมตร ที่เห็นเป็นกลุ่มขาวคือฝูงแกะคะ ที่นี่มีผ้าทอขนแกะ นุ่มมาก ๆ แต่แพงคะ ขนาดวางขายระหว่างทางที่แวะเข้าห้องน้ำ ผืนหนึ่งคิดเป็นเงินไทย 2,000 กว่าบาท สู้ราคาไม่ไหวจริง ๆ


ตามกำหนดการ เราจะออกจาก Ankara, Turkey เวลา 21.20 น. ถึง Doha, Qatar เวลา 01.00 น. รอขึ้นเครื่องออกจาก Doha, Qatar เวลา 02.15 น. เดินทางสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 12.40 น.


เก็บตกมาฝากคะ ดอกไม้จริง ๆ นะคะ สีดำ


อาหารมื้อแรกที่ถึงเมืองไทย คิดถึงเหลือเกิน ... อาหารอิสาน รสชาดที่คุ้นเคย






ผู้คนตุรกีน่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส มีโอกาสไปเที่ยวกันนะคะ