ลูกเป็นสินทรัพย์ล้ำค่ามหาศาล
ยิ่งสุขภาพดี ประเทศชาติยิ่งมีโอกาสที่ดี
WHO แนะนำว่า เมื่อจำเป็น จึงผ่าคลอดเท่านั้น.
หญิงตั้งครรภ์ ที่ผ่าคลอดลูก มีโอกาสไม่มีน้ำนม หรือมีน้อย เพราะผิดธรรมชาติ. WHO รณรงค์ให้คลอดลูกธรรมชาติ. ผลคือ ประเทศยิ่งพัฒนา ยิ่งมีสัดส่วนคลอดลูกเอง : คลอดธรรมชาติ มากกว่า ประเทศกำลังพัฒนา. ยิ่งด้อยพัฒนา ยิ่งมีอัตราผ่าคลอดมากกว่า. เปิดอ่านได้ที่ www.WHO.int
เรื่องมหัศจรรย์ของการคลอดธรรมชาติคือ จังหวะหนึ่ง แม่จะผลิตฮอร์โมนแห่งความรักอออกมา ทำให้ ณ ช่วงนั้นเอง ที่แม่จะรักลูกอย่างมหาศาล และจะฉุกคิดรักแม่ตัวเองขึ้นมากในบัดดล. ไม่มีฮอร์โมนนี้เกิดขึ้นกับแม่ หากผ่าคลอด.
แนวโน้มของการผ่าคลอดคือ แม่ตีลูก โมโหลูกได้มากกว่า แม่ที่คลอดลูกธรรมชาติ.
ทำไมผ่าคลอดกัน?
รพ.เอกชน และหมอ ได้เงินมาก และเร็ว.. ห้องคลอดถูกใช้ในเวลาน้อยกว่า ต่อจำนวนแม่ที่มาคลอดลูก โดยตัวเลขต่างกันมาก.
และไม่เป็นความจริง ที่ผ่าคลอดท้องแรก ทุกท้องถัดไป ต้องผ่า เพราะ WHO ประกาศเป็น guideline ให้ทราบทั่วไปที่ who.int ว่า มีเงื่อนไข ขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อให้คลอดลูกธรรมชาติได้.
WHO แนะนำว่า ทารกแรกเกิดควรได้กินน้ำนมแม่ รวมทั้งที่เป็นสีเข้ม ที่ออกจากอกแม่ครั้งแรก และแนะนำว่า ควรกินนมจากแม่ 6 เดือน เพื่อให้มีสุขภาพดี ในอนาคต โดยจะกินต่อเนื่อง หลายปีก็ได้.
หากคลอดเอง แพทย์จะเหนื่อย ต้องใช้เวลามาก ต้องร่วม **รอ** ด้วย แพทย์สูฯ ไม่อยากเสียเวลา.
แพทย์ และ รพ.เอกชน ต้องการเงิน จึงมักให้ข้อมูล กระทั่ง ครอบครัว เลือกผ่า.
หากผ่า กำหนดเวลาได้. ห้องผ่า พร้อมผ่าคิวถัดไป.
ยิ่งผ่า ยิ่งได้เงิน.
แพทย์หลัก ด้านสูฯ ของวงการแพทย์ไทยคนหนึ่ง ออกทีวีเมื่อปีที่แล้ว ก็พูด ไม่เหมือนข้างบนที่ผมกล่าวนี้เลย ก็พูดอ่อนมาทางว่า ได้ทั้งสองแบบ แล้วแต่ คนไข้.
แม่ที่คลอดเองธรรมชาติ ก็พร้อมเดินได้เอง เร็วกว่า -- แม่ผ่าคลอด กว่าจะฟื้นตัว เดินได้ ก็หลายวัน -- รพ. เอกชนก็ยิ่งชอบ.
ชาวเขา ชาวป่า เงาะซาไก เดินและทำงานตลอดเวลา กระทั่งใกล้คลอด ก็แยกตัวไปคลอดลูกเอง แล้วก็อุ้มลูกกลับมาหาครอบครัว.
แม่ผมบอกว่า แม่ของเขา บอกให้เดินเยอะๆ แม้กระทั่งใกล้คลอด แล้วจะคลอดลูกได้ไม่เจ็บปวด ทรมาน เหมือนในหนัง.
และแม่ก็มักพูดว่า คลอดลูก ไม่เห็นเจ็บอะไรนัก.
อาจเป็นเพราะความเชื่อ ครอบครัวจึงไม่อยากให้หญิงตังครรภ์ทำอะไร เพราะกลัวแท้ง รวมทั้งเดิน อาจเป็นเหตุให้ กล้ามเนื้อ เอ็น บางส่วน ไม่ได้ทำงาน พอตอนคลอด ก็เจ็บมาก.
สองประโยคข้างบนนี้.. ความเห็นส่วนตัว.. อย่างอื่นมีหลักฐาน เชื่อถือได้สูง.
ผ่าคลอด หรือ คลอดธรรมชาติ? WHO แนะนำอย่างหลัง.
ยิ่งสุขภาพดี ประเทศชาติยิ่งมีโอกาสที่ดี
WHO แนะนำว่า เมื่อจำเป็น จึงผ่าคลอดเท่านั้น.
หญิงตั้งครรภ์ ที่ผ่าคลอดลูก มีโอกาสไม่มีน้ำนม หรือมีน้อย เพราะผิดธรรมชาติ. WHO รณรงค์ให้คลอดลูกธรรมชาติ. ผลคือ ประเทศยิ่งพัฒนา ยิ่งมีสัดส่วนคลอดลูกเอง : คลอดธรรมชาติ มากกว่า ประเทศกำลังพัฒนา. ยิ่งด้อยพัฒนา ยิ่งมีอัตราผ่าคลอดมากกว่า. เปิดอ่านได้ที่ www.WHO.int
เรื่องมหัศจรรย์ของการคลอดธรรมชาติคือ จังหวะหนึ่ง แม่จะผลิตฮอร์โมนแห่งความรักอออกมา ทำให้ ณ ช่วงนั้นเอง ที่แม่จะรักลูกอย่างมหาศาล และจะฉุกคิดรักแม่ตัวเองขึ้นมากในบัดดล. ไม่มีฮอร์โมนนี้เกิดขึ้นกับแม่ หากผ่าคลอด.
แนวโน้มของการผ่าคลอดคือ แม่ตีลูก โมโหลูกได้มากกว่า แม่ที่คลอดลูกธรรมชาติ.
ทำไมผ่าคลอดกัน?
รพ.เอกชน และหมอ ได้เงินมาก และเร็ว.. ห้องคลอดถูกใช้ในเวลาน้อยกว่า ต่อจำนวนแม่ที่มาคลอดลูก โดยตัวเลขต่างกันมาก.
และไม่เป็นความจริง ที่ผ่าคลอดท้องแรก ทุกท้องถัดไป ต้องผ่า เพราะ WHO ประกาศเป็น guideline ให้ทราบทั่วไปที่ who.int ว่า มีเงื่อนไข ขั้นตอนอย่างไรบ้าง เพื่อให้คลอดลูกธรรมชาติได้.
WHO แนะนำว่า ทารกแรกเกิดควรได้กินน้ำนมแม่ รวมทั้งที่เป็นสีเข้ม ที่ออกจากอกแม่ครั้งแรก และแนะนำว่า ควรกินนมจากแม่ 6 เดือน เพื่อให้มีสุขภาพดี ในอนาคต โดยจะกินต่อเนื่อง หลายปีก็ได้.
หากคลอดเอง แพทย์จะเหนื่อย ต้องใช้เวลามาก ต้องร่วม **รอ** ด้วย แพทย์สูฯ ไม่อยากเสียเวลา.
แพทย์ และ รพ.เอกชน ต้องการเงิน จึงมักให้ข้อมูล กระทั่ง ครอบครัว เลือกผ่า.
หากผ่า กำหนดเวลาได้. ห้องผ่า พร้อมผ่าคิวถัดไป.
ยิ่งผ่า ยิ่งได้เงิน.
แพทย์หลัก ด้านสูฯ ของวงการแพทย์ไทยคนหนึ่ง ออกทีวีเมื่อปีที่แล้ว ก็พูด ไม่เหมือนข้างบนที่ผมกล่าวนี้เลย ก็พูดอ่อนมาทางว่า ได้ทั้งสองแบบ แล้วแต่ คนไข้.
แม่ที่คลอดเองธรรมชาติ ก็พร้อมเดินได้เอง เร็วกว่า -- แม่ผ่าคลอด กว่าจะฟื้นตัว เดินได้ ก็หลายวัน -- รพ. เอกชนก็ยิ่งชอบ.
ชาวเขา ชาวป่า เงาะซาไก เดินและทำงานตลอดเวลา กระทั่งใกล้คลอด ก็แยกตัวไปคลอดลูกเอง แล้วก็อุ้มลูกกลับมาหาครอบครัว.
แม่ผมบอกว่า แม่ของเขา บอกให้เดินเยอะๆ แม้กระทั่งใกล้คลอด แล้วจะคลอดลูกได้ไม่เจ็บปวด ทรมาน เหมือนในหนัง.
และแม่ก็มักพูดว่า คลอดลูก ไม่เห็นเจ็บอะไรนัก.
อาจเป็นเพราะความเชื่อ ครอบครัวจึงไม่อยากให้หญิงตังครรภ์ทำอะไร เพราะกลัวแท้ง รวมทั้งเดิน อาจเป็นเหตุให้ กล้ามเนื้อ เอ็น บางส่วน ไม่ได้ทำงาน พอตอนคลอด ก็เจ็บมาก.
สองประโยคข้างบนนี้.. ความเห็นส่วนตัว.. อย่างอื่นมีหลักฐาน เชื่อถือได้สูง.