ไปดูผ่านมาหลายวันแล้ว จริงๆ แล้วก็ค่อนข้างพอใจกับหนังและบทหนังพอสมควร (ให้คะแนน 7/10)
อย่างไรก็ตาม อ่านในห้องเฉลิมไทยมาหลายวันแล้วยังไม่เห็นคนพูดถึงประเด็นเรื่องความไม่สมเหตุสมผลต่างๆ ที่ค่อนข้างขัดแย้งกับความเป็นจริงอย่างมาก และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะต่อน้องๆ นักเรียนที่ไปดูเรื่องนี้กันเลย
(1) เด็กเก่งขนาด "ลิน" ทำไมต้องมาขอ ผอ. เข้าโรงเรียน สอบเข้าเองก็น่าจะได้ไม่ใช่หรอ? --- ระดับเหรียญทองคณิตศาสตร์ยังต้องมานั่งต่อรองขออาจารย์เข้าเรียนม.4 อีก มันไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ
(2) เหตุผลที่พ่ออ้างว่า อยากให้เข้าโรงเรียนนี้ เพราะเด็กโรงเรียนนี้ส่วนมากได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ - เหมือนจะสื่อว่าโรงเรียนนี้สอนดีกว่า? แต่จริงๆ แล้ว ถ้าลูกเก่งขนาดนี้ และพ่อเองก็เป็นครูด้วย ก็น่าจะทราบดีว่า เด็กระดับอัจฉริยะขนาดนี้ เรียนโรงเรียนอะไรก็เก่ง (ส่วนตัวมีเพื่อนและคนรู้จักที่เคยสอบทุนเล่าเรียนหลวงได้ ก็เรียนโรงเรียนต่างจังหวัด ไม่ได้ย้ายมาเรียนในกรุงเทพหรือโรงเรียนดังๆ เพราะจริงๆ แล้ว "มันไม่จำเป็น") และที่สำคัญ จะเข้าทั้งที ไม่เข้าโรงเรียนอันดับต้นๆ ของประเทศอย่างเตรียมอุดม หรือ มหิดลวิทยานุสรณ์ไปเลยล่ะ? ค่าเทอมก็ถูกกว่า และระดับลินก็น่าจะสอบเข้าได้อยู่แล้ว
(3) มีปัญหาอะไรเอะอะเข้าห้อง ผอ.? ไม่มีฝ่ายวิชาการ ไม่มีฝ่ายปกครองหรอ? สมัยเรียนนี่เราเป็นตัวแทนโรงเรียนแข่งนั่นนี่ตลอด เจอผอ.เฉพาะเวลารับรางวัลหน้าเสาธงและนานๆ ทีจะได้เจอ ไม่ใช่เอะอะเข้าห้องผอ.แบบในเรื่อง ยิ่งการลอกข้อสอบ อันดับแรกมันต้องไปฝ่ายปกครองก่อนไหม? เพราะพล็อตเรื่องปูมาว่าเป็นโรงเรียนที่ดี โรงเรียนที่เด็กระดับลินพ่อต้องมายัดเข้า ก็ควรจะมีการบริหารจัดการที่สมเหตุสมผลกว่านี้ไหม?
(4) การสอบชิงทุนสิงคโปร์ในเรื่อง - ถ้าเป็นทุนให้เปล่าและต้องสอบแข่งขัน โดยมาก ใครอยากสมัครก็ไปสมัครเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าโรงเรียนส่งชื่อ และเด็กระดับ "แบงค์" และ "ลิน" ไม่สิ้นไร้ไม้ต่อขนาดต้องง้อทุนๆ เดียวที่ผอ.เสนอให้เลยค่ะ "ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง" แต่ละปีมีทุนรัฐบาลไทย ทุนกระทรวงต่างๆ ทุนรัฐบาลต่างประเทศ เช่น รัฐบาลญี่ปุ่น รัฐบาลสิงคโปร์ รัฐบาลอังกฤษ รัฐบาลฝรั่งเศส ฯลฯ มีทั้งแบบให้เปล่า และต้องใช้ทุน และทุนเหล่านี้ใครจะสมัครก็ได้ขอแค่ผ่านเงื่อนไขของทุน (ส่วนมากก็คือดูเกรด และมีหนังสือรับรองจากทางโรงเรียน ซึ่งให้ครูประจำชั้นเขียนให้ก็ได้)
***ประเด็นนี้สำคัญมาก เข้าใจว่าทางหนังต้องการสื่อให้เห็นว่า แบงค์สิ้นหวังในชีวิตที่ไม่ได้ทุนจึงยอมเข้าร่วมทีมโกงข้อสอบของลิน แต่เป็นการสื่อข้อมูลที่ไม่จริง และทำให้นักเรียนหลายคนที่ไม่ทราบเรื่องทุนต่างๆ เข้าใจผิดได้***
(5) การสอบ STIC ที่ซิดนีย์ หรือที่ไหนก็ตาม คนสอบน้อยกว่าความเป็นจริงยังไม่พอ การจัดห้องสอบเอื้อต่อการลอกกันมาก และการสอบข้อเขียนได้เปลี่ยนเป็น Optional หรือ เลือกได้ว่าจะสอบหรือไม่สอบตามเงื่อนไขของแต่ละคณะที่จะยื่นแล้ว
(6) การยื่นเข้ามหาลัยต่างประเทศไม่ใช่แค่ว่าคะแนนถึงแล้วจะได้ ยังต้องประกอบการเขียน statement of purpose และที่สำคัญ มหาวิทยาลัยระดับ Boston University ซึ่งเป็นมหาลัยชั้นนำของอเมริกา การยื่นเข้าบางคณะจะต้องเขียน essay ประกอบ และต้องสอบสัมภาษณ์ด้วย
(7) การที่การสอบครั้งหนึ่งจะมีนักเรียนได้คะแนนสูงจำนวนมาก เป็นที่น่าสงสัยแน่นอน แล้วยิ่งได้คะแนนน่าจะเท่าๆ กันด้วย ก็จะยิ่งน่าสงสัยไปอีก จะต้องมีทีมตรวจสอบผลคะแนนของนักเรียนเหล่านี้ และเป็นไปได้สูงว่าจะถูกยกเลิกคะแนนทั้งหมด
(8) การคุมสอบในโรงยิม สอบพร้อมกันหลายห้อง ครูคุมสอบคนเดียว? ตลกละนะ ถ้าเป็นโรงเรียนทั่วๆ ไปก็อาจจะเป็นไปได้ แต่พล็อตเรื่องปูมาให้เป็นโรงเรียนชั้นแนวหน้า ค่าเทอมปีละแสนสอง การบริหารจัดการควรจะดีกว่านี้หรือเปล่า?
(9) เคาะนิ้วด้วยโค้ดเปียโน ต้องครูโง่ขนาดไหนถึงจะจับไม่ได้หรอ ถามจริง? ดูเหมือนจะเป็นทริกการโกงที่ฉลาด แต่จริงๆ แล้ว ครูจับได้ตั้งแต่ใช้ครั้งแรกแล้วล่ะ มันโจ่งแจ้งมาก เด็กคนเดียวเคาะนิ้วหลายครั้ง เพื่อนหลายคนจ้องมาที่นิ้ว
(10) ติวสอบเข้ามหาลัยแบบรับรองผล (ได้คะแนนเท่านั้นเท่านี้ชัวร์) ราคา 250,000 จริงหรอ? (โต้งบอกว่าค่าเรียนก็พอๆ กับค่าโกงสอบนี่แหละ) เท่าที่ทราบ คอร์สส่วนมากแบบรับรองผล 40,000-80,000 บาท ยังไม่เคยเห็นสถาบันไหนแตะหลักแสนเลย (สอบ SAT, ACT, GED, A-Level และอื่นๆ) (ถ้ามีช่วยคอมเม้นท์จะขอบคุณมากค่ะ)
เท่าที่คิดออกก็ประมาณนี้ หวังว่ากระทู้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆ นักเรียน (ถ้าผ่านเข้ามาอ่าน)
ไม่ได้มีเจตนาจับผิดหรือดิสเครดิตหนังแต่อย่างใด ดูแล้วก็ประทับใจในระดับนึง ไม่ได้ไม่ชอบ
การลอกข้อสอบ เป็นสิ่งไม่ดี เป็นการดูถูกความรู้ความสามารถของตัวเอง และส่งเสริมให้เพื่อนโง่ ไม่ใช่การช่วยเพื่อนเลยค่ะ
แก้ไข เพิ่มเติมข้อความในกระทู้
ความไม่สมเหตุสมผลใน "ฉลาด เกมส์ โกง" (มีสปอยล์เนื้อหาบางส่วน)
อย่างไรก็ตาม อ่านในห้องเฉลิมไทยมาหลายวันแล้วยังไม่เห็นคนพูดถึงประเด็นเรื่องความไม่สมเหตุสมผลต่างๆ ที่ค่อนข้างขัดแย้งกับความเป็นจริงอย่างมาก และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะต่อน้องๆ นักเรียนที่ไปดูเรื่องนี้กันเลย
(1) เด็กเก่งขนาด "ลิน" ทำไมต้องมาขอ ผอ. เข้าโรงเรียน สอบเข้าเองก็น่าจะได้ไม่ใช่หรอ? --- ระดับเหรียญทองคณิตศาสตร์ยังต้องมานั่งต่อรองขออาจารย์เข้าเรียนม.4 อีก มันไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ
(2) เหตุผลที่พ่ออ้างว่า อยากให้เข้าโรงเรียนนี้ เพราะเด็กโรงเรียนนี้ส่วนมากได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ - เหมือนจะสื่อว่าโรงเรียนนี้สอนดีกว่า? แต่จริงๆ แล้ว ถ้าลูกเก่งขนาดนี้ และพ่อเองก็เป็นครูด้วย ก็น่าจะทราบดีว่า เด็กระดับอัจฉริยะขนาดนี้ เรียนโรงเรียนอะไรก็เก่ง (ส่วนตัวมีเพื่อนและคนรู้จักที่เคยสอบทุนเล่าเรียนหลวงได้ ก็เรียนโรงเรียนต่างจังหวัด ไม่ได้ย้ายมาเรียนในกรุงเทพหรือโรงเรียนดังๆ เพราะจริงๆ แล้ว "มันไม่จำเป็น") และที่สำคัญ จะเข้าทั้งที ไม่เข้าโรงเรียนอันดับต้นๆ ของประเทศอย่างเตรียมอุดม หรือ มหิดลวิทยานุสรณ์ไปเลยล่ะ? ค่าเทอมก็ถูกกว่า และระดับลินก็น่าจะสอบเข้าได้อยู่แล้ว
(3) มีปัญหาอะไรเอะอะเข้าห้อง ผอ.? ไม่มีฝ่ายวิชาการ ไม่มีฝ่ายปกครองหรอ? สมัยเรียนนี่เราเป็นตัวแทนโรงเรียนแข่งนั่นนี่ตลอด เจอผอ.เฉพาะเวลารับรางวัลหน้าเสาธงและนานๆ ทีจะได้เจอ ไม่ใช่เอะอะเข้าห้องผอ.แบบในเรื่อง ยิ่งการลอกข้อสอบ อันดับแรกมันต้องไปฝ่ายปกครองก่อนไหม? เพราะพล็อตเรื่องปูมาว่าเป็นโรงเรียนที่ดี โรงเรียนที่เด็กระดับลินพ่อต้องมายัดเข้า ก็ควรจะมีการบริหารจัดการที่สมเหตุสมผลกว่านี้ไหม?
(4) การสอบชิงทุนสิงคโปร์ในเรื่อง - ถ้าเป็นทุนให้เปล่าและต้องสอบแข่งขัน โดยมาก ใครอยากสมัครก็ไปสมัครเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าโรงเรียนส่งชื่อ และเด็กระดับ "แบงค์" และ "ลิน" ไม่สิ้นไร้ไม้ต่อขนาดต้องง้อทุนๆ เดียวที่ผอ.เสนอให้เลยค่ะ "ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง" แต่ละปีมีทุนรัฐบาลไทย ทุนกระทรวงต่างๆ ทุนรัฐบาลต่างประเทศ เช่น รัฐบาลญี่ปุ่น รัฐบาลสิงคโปร์ รัฐบาลอังกฤษ รัฐบาลฝรั่งเศส ฯลฯ มีทั้งแบบให้เปล่า และต้องใช้ทุน และทุนเหล่านี้ใครจะสมัครก็ได้ขอแค่ผ่านเงื่อนไขของทุน (ส่วนมากก็คือดูเกรด และมีหนังสือรับรองจากทางโรงเรียน ซึ่งให้ครูประจำชั้นเขียนให้ก็ได้)
***ประเด็นนี้สำคัญมาก เข้าใจว่าทางหนังต้องการสื่อให้เห็นว่า แบงค์สิ้นหวังในชีวิตที่ไม่ได้ทุนจึงยอมเข้าร่วมทีมโกงข้อสอบของลิน แต่เป็นการสื่อข้อมูลที่ไม่จริง และทำให้นักเรียนหลายคนที่ไม่ทราบเรื่องทุนต่างๆ เข้าใจผิดได้***
(5) การสอบ STIC ที่ซิดนีย์ หรือที่ไหนก็ตาม คนสอบน้อยกว่าความเป็นจริงยังไม่พอ การจัดห้องสอบเอื้อต่อการลอกกันมาก และการสอบข้อเขียนได้เปลี่ยนเป็น Optional หรือ เลือกได้ว่าจะสอบหรือไม่สอบตามเงื่อนไขของแต่ละคณะที่จะยื่นแล้ว
(6) การยื่นเข้ามหาลัยต่างประเทศไม่ใช่แค่ว่าคะแนนถึงแล้วจะได้ ยังต้องประกอบการเขียน statement of purpose และที่สำคัญ มหาวิทยาลัยระดับ Boston University ซึ่งเป็นมหาลัยชั้นนำของอเมริกา การยื่นเข้าบางคณะจะต้องเขียน essay ประกอบ และต้องสอบสัมภาษณ์ด้วย
(7) การที่การสอบครั้งหนึ่งจะมีนักเรียนได้คะแนนสูงจำนวนมาก เป็นที่น่าสงสัยแน่นอน แล้วยิ่งได้คะแนนน่าจะเท่าๆ กันด้วย ก็จะยิ่งน่าสงสัยไปอีก จะต้องมีทีมตรวจสอบผลคะแนนของนักเรียนเหล่านี้ และเป็นไปได้สูงว่าจะถูกยกเลิกคะแนนทั้งหมด
(8) การคุมสอบในโรงยิม สอบพร้อมกันหลายห้อง ครูคุมสอบคนเดียว? ตลกละนะ ถ้าเป็นโรงเรียนทั่วๆ ไปก็อาจจะเป็นไปได้ แต่พล็อตเรื่องปูมาให้เป็นโรงเรียนชั้นแนวหน้า ค่าเทอมปีละแสนสอง การบริหารจัดการควรจะดีกว่านี้หรือเปล่า?
(9) เคาะนิ้วด้วยโค้ดเปียโน ต้องครูโง่ขนาดไหนถึงจะจับไม่ได้หรอ ถามจริง? ดูเหมือนจะเป็นทริกการโกงที่ฉลาด แต่จริงๆ แล้ว ครูจับได้ตั้งแต่ใช้ครั้งแรกแล้วล่ะ มันโจ่งแจ้งมาก เด็กคนเดียวเคาะนิ้วหลายครั้ง เพื่อนหลายคนจ้องมาที่นิ้ว
(10) ติวสอบเข้ามหาลัยแบบรับรองผล (ได้คะแนนเท่านั้นเท่านี้ชัวร์) ราคา 250,000 จริงหรอ? (โต้งบอกว่าค่าเรียนก็พอๆ กับค่าโกงสอบนี่แหละ) เท่าที่ทราบ คอร์สส่วนมากแบบรับรองผล 40,000-80,000 บาท ยังไม่เคยเห็นสถาบันไหนแตะหลักแสนเลย (สอบ SAT, ACT, GED, A-Level และอื่นๆ) (ถ้ามีช่วยคอมเม้นท์จะขอบคุณมากค่ะ)
เท่าที่คิดออกก็ประมาณนี้ หวังว่ากระทู้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆ นักเรียน (ถ้าผ่านเข้ามาอ่าน)
ไม่ได้มีเจตนาจับผิดหรือดิสเครดิตหนังแต่อย่างใด ดูแล้วก็ประทับใจในระดับนึง ไม่ได้ไม่ชอบ
การลอกข้อสอบ เป็นสิ่งไม่ดี เป็นการดูถูกความรู้ความสามารถของตัวเอง และส่งเสริมให้เพื่อนโง่ ไม่ใช่การช่วยเพื่อนเลยค่ะ
แก้ไข เพิ่มเติมข้อความในกระทู้