กระทู้อวสานแล้ววววว (ดูเศร้าๆไหม55+) เป็นตอนจบของทริปมัลดีฟครับ
=====ตามอ่านตอนที่1และ2ได้ข้างล่างนี้ครับ=====
Part1 ไปเล่นน้ำกันเถอะ:
https://ppantip.com/topic/36387354
Part2 พระอาทิตย์ตกและการตะลุยกินรอบรีสอร์ท:
https://ppantip.com/topic/36422180
กระทู้ของผมจะเน้นรูปเป็นตัวเล่าเรื่องเป็นหลักนะครับ(รูปเยอะหน่อยน้า) บางรูปถ่ายจากกล้องบ้างจากไอโฟนบ้าง
บางรูปก็มีการแต่งรูปเพิ่มเติมนะครับ
ใครที่สนใจสามารถตามอ่านเนื้อหาต่างๆได้ที่เพจของผมนะครับ ฝากด้วยน้าาาาาา
FB: Me and Around (
https://www.facebook.com/MeAndAround/ )
=================================
ในตอนที่แล้ว (ตอนที่2) ผมกลับมาจากการทานมื้อเที่ยงที่ห้องอาหารและไปเดินสำรวจเกาะครับ ซึ่งตอนนั้นรู้สึกว่าแดดมันร้อนจังเลยแหะ งั้นนนนนน........ไปดำน้ำ snorkle ก่อนดีกว่า น้ำก็ใสมากๆเลยด้วย จะพลาดไฮไลท์นี้ไปได้อย่างไร น้ำใสๆ ปลาสวยๆ อิอิ
ปลาเล็กปลาน้อยไปจนถึงตัวใหญ่ๆเต็มไปหมดเลยครับ โดยสำหรับอุปกรณ์snorkle จะรวมอยู่ใน All inclusiveอยู่แล้วนะครับ สามารถขอจากพ่อบ้านได้เลยครับ ทั้งตีนกบ และแว่นว่ายน้ำ สำหรับตอนนี้ ไปดูใต้น้ำกันต่อดีกว่า
บริเวณที่เราสามารถดำน้ำ ได้ก็คือรอบๆ Villaครับ ภายในโซนปะการัง (น้ำตื้นครับ) พ้นออกไปบริเวณน้ำลึกจะมีทุ่นกันไว้ครับ ไม่ควรว่ายออกไปนะ อันตราย (แค่รอบๆVillaก็ว่ายไม่ทั่วแล้วครับ เหนื่อย555+) อ้อ!! ไม่ควรไปแตะหรือเหยียมปะการังด้วยนะ จะได้อยู่ให้ชมกันไปนานๆครับ มาดูปะการังเต็มๆกัน
จริงๆแล้วมีปลาน่ารักๆสวยๆเต็มเลยครับ สีฟ้าสว่าง ลายแปลกๆ ปลานกแก้วอะไรก็มีครับ แต่มันอยู่ใต้น้ำว่ายไปถ่ายไม่ค่อยสะดวกอะ เข้าไปใกล้ๆก็หนีหมดแล้วครับ55+ ผมว่ายน้ำไม่เก่งด้วย น้ำเข้าหน้าเข้าตาไปหลายรอบ เอาเป็นว่าต้องไปดื่มด่ำด้วยตนเองจะดีกว่าครับ
หลังจากนั้นผมก็รีบขึ้นมาจากน้ำครับ กะจะวิ่งไปทานไอศครีมให้ทัน5โมงครับ(หรือ5ครึ่งนะ จำไม่ค่อยได้ ขอโทษครับ) แต่ไปสาย5นาที พนักงานบอกว่าไม่ทันแล้วครับ (อะไรจะเข้มงวดกับแขกขนาดนี้T^T แผนกินเอาคุ้มของผมก็เลยต้องพับไว้ก่อนครับ55+) แต่พนักงานบอกว่าถ้าอยากทาน High tea ก็ได้ครับอยู่ในเวลานะ
ด้วยความบ้านนอกตอนแรกผมงงว่าHigh teaคืออะไรหว่า ตอนนี้พอจะเข้าใจว่าคือนั่งจิบน้ำชาและขนมถาดๆเป็นชั้นๆประมาณนี้// ถูกไหม55+
แล้วผมก็นั่ง liveบนเฟสบุ๊คขำๆให้เพื่อนที่ประเทศไทยดูครับ ว่านี่...มีการจิบชาด้วยนะ55+ แล้วทันใดนั้นเองงงง สายรุ้งก็โผล่ขึ้นมาครับ
ครึ่งวงจังๆแบบในรูปเลยครับ ผมรีบวางโทรศัพท์แล้วิ่งพล่านไปทั่วรีสอร์ทเลยครับ เพื่อที่จะหามุมถ่ายรูป พนักงานกับแขกคนอื่นๆตกใจกันใหญ่เลยครับ เห็นผมติดสปีดวิ่งไปมา สงสัยนึกว่าทำของหาย55+ แต่ตอนนั้นพยายามถ่ายยังไงก็ไม่ได้ครับ เพราะว่าเลนส์ที่ติดกล้องอยู่เป็นเลนส์fix (รูปข้างบนถ่ายหลังเปลี่ยนlenแล้วครับ)
พยายามวิ่งออกไปให้ไกลขึ้นครับ ด้วยความคิดว่ามันจะต้องเล็กลง แต่มาสำนึกได้ว่าแสงรุ้งมันก็ยิ่งขนาดใหญ่ตามครับ(งงๆสาเหตุทางวิทยาศาสตร์อยู่ครับ แหะ แหะ)
แต่ด้วยความที่ตอนนั้นวิ่งออกมาไกลมาก จะไปเปลี่ยนเลนส์ก็ต้องวิ่งกลับไปเอากุญแจห้องที่ห้องอาหารก่อนครับ วางทิ้งไว้T^T ก็เลยต้องถ่ายไปก่อนครับ กลัวว่าวิ่งไปแล้วกลับมา Double rainbow จะหายไปแล้ว// ชั้นที่2 อยู่มุมขวาบนครับ มองเห็นไหม
(โทรศัพท์ก็ดันวางทิ้งไว้บนโต๊ะครับ เก็บชั้นที่2ให้ครบไม่ทันเลย
)
สุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งข้ามรีสอร์ทกลับไปเอากุญแจห้องแล้วเปลี่ยนเลนส์ครับ สรุปคือต้องวิ่งไปมาประมาณ2-3กิโลเมตรได้ครับ 55+ เหงื่อไหลเป็นสายเลยครับ กลางวันแดดเปรี้ยงๆอีก
ขอลงสายรุ้งอีกรูปนะอุตส่าห์วิ่งถ่ายไปเยอะ พนักงานยังถามเลยครับตอนกลับไปนั่งพักที่ห้องอาหารว่าเป็นยังไง ได้ภาพที่อยากได้ไหม555+
หลังจากนั้นพระอาทิตย์ก็เริ่มจะตกดินอีกแล้วครับ ผมก็เลยเลือกเดินไปอีกฝากของเกาะ บริเวณท่าเรือที่นั่ง Seaplaneมาลงวันแรกครับ ปรากฎว่าเขามีจอดให้ถ่ายรูปอยู่กลางน้ำด้วยครับ(เสียดายไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำมาครับ ไม่งั้นจะขึ้นไปถ่ายคนเดียวบน Seaplaneเลย แบบเป็นเจ้าของ อิอิ)
และนี่คือท่าลงจอดที่วันแรกไม่ได้ถ่ายรูปครับ
ไหนลองเดินมาถ่ายรูปกลับไปที่เกาะสักหน่อยซิ
อีกด้านจะเป็นที่พักแบบบนฝั่งริมหาดครับ ราคาที่พักถูกกว่า Villaพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ไกลจากทะเลมากนะ (เป็นอีกตัวเลือกให้ผู้ที่สนใจมาพักครับ)
รูปใกล้ๆครับ มีชาวต่างชาติมานอนชมวิวอยู่หน้าที่พักบ้างเหมือนกัน
ตรงโขดหินบนชายหาดจีมีปูตัวขนาดเท่าฝ่ามือมาวิ่งๆกันเต็มเลยครับ 40-50ตัวได้ครับ น่าจะเป็นรังของมันครับ พอดีถ่ายเป็นวิดิโอไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มีแต่โขดหินให้ชมแทนนะครับ
สำรวจเกาะจนครบเรียบร้อยทุกซอกทุกมุม (เดินไปถึงที่นวดสปา โซนที่พักพนักงาน ก็เดินไปมาแล้วครับ55+) ก็กลับมาฝั่ง Villaของตัวเองครับ เจ้าโต๊ะฮันนีมูนก็ดูเหมือนจะมีแขกมาเตรียมจะใช้งานซะแล้ว อิจฉาาา~
ฝั่ง Villaก็มีที่ให้นอนอาบแดดชมวิวบนหาดเหมือนกันนะ
แล้วพระอาทิตย์ของวันที่2 ณรีสอร์ทแห่งนี้ก็ลับของฟ้าไปครับ
มื้อเย็นวันที่2 ผมไปทานที่โซนของที่พักบนชายหาดครับ เป็นบุฟเฟต์ (แขกของVillaสามารถแจ้งพ่อบ้านได้เลยครับว่าอยากไปทานที่ไหน เขาจะจองโต๊ะให้ครับ) จริงๆแบบเป็นคอร์สๆที่ Villa ก็อิ่มมากนะครับ แต่มันเป็นพิธีมาทีละอย่างๆไปหน่อย ผมเลยเปลี่ยนมาเดินตักบ้างครับ อาหารก็ใช้ได้ครับ คนเยอะกว่าที่ Villaเยอะมากเลย โต๊ะเต็มหมดเลยครับ ตอนอยู่โซน Villa เจอแขกคนอื่นประมาณ8-10คนเองครับ
มื้อเย็นวันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ เพราะต้องรีบทาน เพื่อที่จะไปดู Fish Feedingที่ศาลากลางน้ำตอน3ทุ่มครับ และกำลังจะไปไม่ทัน จึงต้องรีบหน่อยครับ ว่าแล้วก็ติดสปีดมาที่ศาลาเพื่อจับจองที่นั่งติดขอบสนาม (เอ้ย!!ขอบทะเล)
สมกับที่เป็นไฮไลท์ของเกาะเลยครับ คนเยอะมากๆ เกือบๆ50-60ได้ครับ ไม่รู้ตอนเช้าไปซ่อนกันอยู่ที่ไหน555+ (น่าจะซื้อทริปไปนอกเกาะครับ)
เมื่อถึงเวลาพนักงานประจำศาลากลางน้ำก็จะโยนอาหารลงไปครับ เพื่อเรียกปลา ผมมองๆคิดว่าเขาโยนปลาหมึกนะ เต็มถัง2ถังเลยครับ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงสำหรับ Fish Feeding
ระหว่างนั่งชมเจ้าปลาว่ายไปมา ก็จะมีเสียงเพลงเปิดมาจากบริเวณรีสอร์ทให้เราฟังกันชิลๆด้วยครับ เพลินๆมากเลย เสียดายปลาวันนี้มีแค่ปลากระเบนและ Jack Fishครับ (พนักงานบอกว่าชื่ออย่างนี้นะ ผมก็ไม่รู้จักครับ แหะ แหะ) ผมวาดฝันว่าจะได้ดูปลาฉลาม โลมาอะไรประมาณนี้ครับ55+ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดวงจริงๆครับ เขามีตารางว่ามีปลาให้ดูได้หลายชนิดเลยครับแล้วแต่โชคว่ามันจะมาหาเราไหม
ถึงจะได้เห็นปลาไม่กี่ชนิด แต่ผมก็ประทับใจมากครับกับกิจกรรม Fish Feeding (ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจาก All inclusiveนะ) ปลากระเบนตัวเบอเร้อเลยครับ เป็นเมตรแหนะ
แล้วระหว่างที่เดินๆจะกลับรีสอร์ทนั่นเอง ฝนก็ตกครับ //นี่ High Seasonนะเฮ้ย!!! ตกทำม้ายยยยย ก็รีบวิ่งพร้อมเอามือบังกล้องหัวซุกหัวซุนเลยครับกลับมาที่ห้อง ฟ้าฝ่าเปรี้ยงๆ ดำมืดไปหมดเลยครับ ผมก็เลยถอดใจเรื่องถ่ายดาวไปแล้วครับ ฟ้าคงไม่อยากให้ผมได้ถ่ายจริงๆ หึหึ
เก็บข้าวของทุกอย่างเตรียมกลับบ้านครับ น้อยใจฟ้าฝน แล้วก็เข้านอนครับ พรุ่งนี้พ่อบ้านบอกว่าต้องไปขึ้น Seaplane 8โมงเช้า (ขึ้นกับว่าไฟรท์บินเรากี่โมงครับ ของผมประมาณเที่ยงๆครับ)
=====วันที่3 ของทริป จะกลับบ้านแล้วครับ======
ตี5ผมก็ตื่นนอนครับ เพื่อเตรียมตัวแพ็คกระเป่าขั้นสุดท้าย ก่อนจะไปทานมื้อเช้าตอน6โมงครึ่ง เดินไปเปิดประตูห้องแล้วสะลึมสะลือรู้สึกว่า เอ๊ะ!! มันเงียบๆ ฟ้ามันมืดๆ พระจันทร์ตกแล้วหรอ ฝนก็หยุด....ประมวลผลอยู่สักพักก็เบิ่งตาโตเลยครับ ถ่ายรูป!!! ดาวๆๆๆ โอ้ย ขอบคุณครับที่ให้ผมได้ทำเป้าหมายที่วางไว้55+
ก่อนมาผมแอบเซิร์จรูปผม Googleมาครับ เห็นว่ามีคนเคยถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือกได้ที่มัลดีฟ ผมเลยพอจะมีความหวังบ้าง แล้วลองถ่ายไป2-3ใบ ก็เห็นลางๆครับ ถ่ายได้!!! ไม่ชัดมากแต่มันอยู่ตรงนั้นแหละ เย้ๆๆๆๆ XD
ผมมีเวลาให้ถ่ายได้ประมาณ20นาทีครับ พึ่งลองถ่ายทางช้างเผือกครั้งแรกด้วย พึ่งตื่นนอนอีก ลนมากๆเลยครับ ถ่ายเสียไปเยอะเลย ได้ภาพมาฝากให้ชมกันนิดหน่อยครับ// เห็นทางช้างเผือกอยู่แบบจางๆมากๆเลย T^T
แล้วเวลาก็หมดครับ พระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับต้องรีบไปเก็บของให้เสร็จและไปทานมื้อเช้าครับ
มื้อเช้าก็ไม่พลาดครับ กับครัวซองต์เต็มตะกร้า55+ (ใครงงต้องไปอ่านตอนที่2ก่อนนะครับ)
ขากลับนั่ง Seaplane ก็ได้เห็น Double Rainbowจางๆอีกครั้งครับ รู้สึกโชคดีมากเลย
กลับมาถึงสนามบินเพื่อรอขึ้นเครื่องครับ ถ้าใครเบื่อๆอยากเล่น internet ไปเดินหาตู้นี้ที่ด้านในได้นะครับ เล่นฟรีเลย แต่ต้องยืนเล่นนะ
"และสุดท้ายผมก็ขอปิดกระทู้ MeAndAround: Maldives ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ"//เป็นกระทู้แรกที่เขียนจนจบเลยนะเนี่ย
กลับถึงประเทศไทยแล้วจ้า เจอกันใหม่ทริปหน้าเน้อ
[CR] MeAndAround: Maldives (Part3 "สายรุ้งและดวงดาว")
=====ตามอ่านตอนที่1และ2ได้ข้างล่างนี้ครับ=====
Part1 ไปเล่นน้ำกันเถอะ: https://ppantip.com/topic/36387354
Part2 พระอาทิตย์ตกและการตะลุยกินรอบรีสอร์ท: https://ppantip.com/topic/36422180
กระทู้ของผมจะเน้นรูปเป็นตัวเล่าเรื่องเป็นหลักนะครับ(รูปเยอะหน่อยน้า) บางรูปถ่ายจากกล้องบ้างจากไอโฟนบ้าง
บางรูปก็มีการแต่งรูปเพิ่มเติมนะครับ
ใครที่สนใจสามารถตามอ่านเนื้อหาต่างๆได้ที่เพจของผมนะครับ ฝากด้วยน้าาาาาา
FB: Me and Around ( https://www.facebook.com/MeAndAround/ )
ในตอนที่แล้ว (ตอนที่2) ผมกลับมาจากการทานมื้อเที่ยงที่ห้องอาหารและไปเดินสำรวจเกาะครับ ซึ่งตอนนั้นรู้สึกว่าแดดมันร้อนจังเลยแหะ งั้นนนนนน........ไปดำน้ำ snorkle ก่อนดีกว่า น้ำก็ใสมากๆเลยด้วย จะพลาดไฮไลท์นี้ไปได้อย่างไร น้ำใสๆ ปลาสวยๆ อิอิ
ปลาเล็กปลาน้อยไปจนถึงตัวใหญ่ๆเต็มไปหมดเลยครับ โดยสำหรับอุปกรณ์snorkle จะรวมอยู่ใน All inclusiveอยู่แล้วนะครับ สามารถขอจากพ่อบ้านได้เลยครับ ทั้งตีนกบ และแว่นว่ายน้ำ สำหรับตอนนี้ ไปดูใต้น้ำกันต่อดีกว่า
บริเวณที่เราสามารถดำน้ำ ได้ก็คือรอบๆ Villaครับ ภายในโซนปะการัง (น้ำตื้นครับ) พ้นออกไปบริเวณน้ำลึกจะมีทุ่นกันไว้ครับ ไม่ควรว่ายออกไปนะ อันตราย (แค่รอบๆVillaก็ว่ายไม่ทั่วแล้วครับ เหนื่อย555+) อ้อ!! ไม่ควรไปแตะหรือเหยียมปะการังด้วยนะ จะได้อยู่ให้ชมกันไปนานๆครับ มาดูปะการังเต็มๆกัน
จริงๆแล้วมีปลาน่ารักๆสวยๆเต็มเลยครับ สีฟ้าสว่าง ลายแปลกๆ ปลานกแก้วอะไรก็มีครับ แต่มันอยู่ใต้น้ำว่ายไปถ่ายไม่ค่อยสะดวกอะ เข้าไปใกล้ๆก็หนีหมดแล้วครับ55+ ผมว่ายน้ำไม่เก่งด้วย น้ำเข้าหน้าเข้าตาไปหลายรอบ เอาเป็นว่าต้องไปดื่มด่ำด้วยตนเองจะดีกว่าครับ
หลังจากนั้นผมก็รีบขึ้นมาจากน้ำครับ กะจะวิ่งไปทานไอศครีมให้ทัน5โมงครับ(หรือ5ครึ่งนะ จำไม่ค่อยได้ ขอโทษครับ) แต่ไปสาย5นาที พนักงานบอกว่าไม่ทันแล้วครับ (อะไรจะเข้มงวดกับแขกขนาดนี้T^T แผนกินเอาคุ้มของผมก็เลยต้องพับไว้ก่อนครับ55+) แต่พนักงานบอกว่าถ้าอยากทาน High tea ก็ได้ครับอยู่ในเวลานะ
ด้วยความบ้านนอกตอนแรกผมงงว่าHigh teaคืออะไรหว่า ตอนนี้พอจะเข้าใจว่าคือนั่งจิบน้ำชาและขนมถาดๆเป็นชั้นๆประมาณนี้// ถูกไหม55+
แล้วผมก็นั่ง liveบนเฟสบุ๊คขำๆให้เพื่อนที่ประเทศไทยดูครับ ว่านี่...มีการจิบชาด้วยนะ55+ แล้วทันใดนั้นเองงงง สายรุ้งก็โผล่ขึ้นมาครับ
ครึ่งวงจังๆแบบในรูปเลยครับ ผมรีบวางโทรศัพท์แล้วิ่งพล่านไปทั่วรีสอร์ทเลยครับ เพื่อที่จะหามุมถ่ายรูป พนักงานกับแขกคนอื่นๆตกใจกันใหญ่เลยครับ เห็นผมติดสปีดวิ่งไปมา สงสัยนึกว่าทำของหาย55+ แต่ตอนนั้นพยายามถ่ายยังไงก็ไม่ได้ครับ เพราะว่าเลนส์ที่ติดกล้องอยู่เป็นเลนส์fix (รูปข้างบนถ่ายหลังเปลี่ยนlenแล้วครับ)
พยายามวิ่งออกไปให้ไกลขึ้นครับ ด้วยความคิดว่ามันจะต้องเล็กลง แต่มาสำนึกได้ว่าแสงรุ้งมันก็ยิ่งขนาดใหญ่ตามครับ(งงๆสาเหตุทางวิทยาศาสตร์อยู่ครับ แหะ แหะ)
แต่ด้วยความที่ตอนนั้นวิ่งออกมาไกลมาก จะไปเปลี่ยนเลนส์ก็ต้องวิ่งกลับไปเอากุญแจห้องที่ห้องอาหารก่อนครับ วางทิ้งไว้T^T ก็เลยต้องถ่ายไปก่อนครับ กลัวว่าวิ่งไปแล้วกลับมา Double rainbow จะหายไปแล้ว// ชั้นที่2 อยู่มุมขวาบนครับ มองเห็นไหม
สุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งข้ามรีสอร์ทกลับไปเอากุญแจห้องแล้วเปลี่ยนเลนส์ครับ สรุปคือต้องวิ่งไปมาประมาณ2-3กิโลเมตรได้ครับ 55+ เหงื่อไหลเป็นสายเลยครับ กลางวันแดดเปรี้ยงๆอีก
ขอลงสายรุ้งอีกรูปนะอุตส่าห์วิ่งถ่ายไปเยอะ พนักงานยังถามเลยครับตอนกลับไปนั่งพักที่ห้องอาหารว่าเป็นยังไง ได้ภาพที่อยากได้ไหม555+
หลังจากนั้นพระอาทิตย์ก็เริ่มจะตกดินอีกแล้วครับ ผมก็เลยเลือกเดินไปอีกฝากของเกาะ บริเวณท่าเรือที่นั่ง Seaplaneมาลงวันแรกครับ ปรากฎว่าเขามีจอดให้ถ่ายรูปอยู่กลางน้ำด้วยครับ(เสียดายไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำมาครับ ไม่งั้นจะขึ้นไปถ่ายคนเดียวบน Seaplaneเลย แบบเป็นเจ้าของ อิอิ)
และนี่คือท่าลงจอดที่วันแรกไม่ได้ถ่ายรูปครับ
ไหนลองเดินมาถ่ายรูปกลับไปที่เกาะสักหน่อยซิ
อีกด้านจะเป็นที่พักแบบบนฝั่งริมหาดครับ ราคาที่พักถูกกว่า Villaพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ไกลจากทะเลมากนะ (เป็นอีกตัวเลือกให้ผู้ที่สนใจมาพักครับ)
รูปใกล้ๆครับ มีชาวต่างชาติมานอนชมวิวอยู่หน้าที่พักบ้างเหมือนกัน
ตรงโขดหินบนชายหาดจีมีปูตัวขนาดเท่าฝ่ามือมาวิ่งๆกันเต็มเลยครับ 40-50ตัวได้ครับ น่าจะเป็นรังของมันครับ พอดีถ่ายเป็นวิดิโอไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มีแต่โขดหินให้ชมแทนนะครับ
สำรวจเกาะจนครบเรียบร้อยทุกซอกทุกมุม (เดินไปถึงที่นวดสปา โซนที่พักพนักงาน ก็เดินไปมาแล้วครับ55+) ก็กลับมาฝั่ง Villaของตัวเองครับ เจ้าโต๊ะฮันนีมูนก็ดูเหมือนจะมีแขกมาเตรียมจะใช้งานซะแล้ว อิจฉาาา~
ฝั่ง Villaก็มีที่ให้นอนอาบแดดชมวิวบนหาดเหมือนกันนะ
แล้วพระอาทิตย์ของวันที่2 ณรีสอร์ทแห่งนี้ก็ลับของฟ้าไปครับ
มื้อเย็นวันที่2 ผมไปทานที่โซนของที่พักบนชายหาดครับ เป็นบุฟเฟต์ (แขกของVillaสามารถแจ้งพ่อบ้านได้เลยครับว่าอยากไปทานที่ไหน เขาจะจองโต๊ะให้ครับ) จริงๆแบบเป็นคอร์สๆที่ Villa ก็อิ่มมากนะครับ แต่มันเป็นพิธีมาทีละอย่างๆไปหน่อย ผมเลยเปลี่ยนมาเดินตักบ้างครับ อาหารก็ใช้ได้ครับ คนเยอะกว่าที่ Villaเยอะมากเลย โต๊ะเต็มหมดเลยครับ ตอนอยู่โซน Villa เจอแขกคนอื่นประมาณ8-10คนเองครับ
มื้อเย็นวันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ เพราะต้องรีบทาน เพื่อที่จะไปดู Fish Feedingที่ศาลากลางน้ำตอน3ทุ่มครับ และกำลังจะไปไม่ทัน จึงต้องรีบหน่อยครับ ว่าแล้วก็ติดสปีดมาที่ศาลาเพื่อจับจองที่นั่งติดขอบสนาม (เอ้ย!!ขอบทะเล)
สมกับที่เป็นไฮไลท์ของเกาะเลยครับ คนเยอะมากๆ เกือบๆ50-60ได้ครับ ไม่รู้ตอนเช้าไปซ่อนกันอยู่ที่ไหน555+ (น่าจะซื้อทริปไปนอกเกาะครับ)
เมื่อถึงเวลาพนักงานประจำศาลากลางน้ำก็จะโยนอาหารลงไปครับ เพื่อเรียกปลา ผมมองๆคิดว่าเขาโยนปลาหมึกนะ เต็มถัง2ถังเลยครับ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงสำหรับ Fish Feeding
ระหว่างนั่งชมเจ้าปลาว่ายไปมา ก็จะมีเสียงเพลงเปิดมาจากบริเวณรีสอร์ทให้เราฟังกันชิลๆด้วยครับ เพลินๆมากเลย เสียดายปลาวันนี้มีแค่ปลากระเบนและ Jack Fishครับ (พนักงานบอกว่าชื่ออย่างนี้นะ ผมก็ไม่รู้จักครับ แหะ แหะ) ผมวาดฝันว่าจะได้ดูปลาฉลาม โลมาอะไรประมาณนี้ครับ55+ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดวงจริงๆครับ เขามีตารางว่ามีปลาให้ดูได้หลายชนิดเลยครับแล้วแต่โชคว่ามันจะมาหาเราไหม
ถึงจะได้เห็นปลาไม่กี่ชนิด แต่ผมก็ประทับใจมากครับกับกิจกรรม Fish Feeding (ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจาก All inclusiveนะ) ปลากระเบนตัวเบอเร้อเลยครับ เป็นเมตรแหนะ
แล้วระหว่างที่เดินๆจะกลับรีสอร์ทนั่นเอง ฝนก็ตกครับ //นี่ High Seasonนะเฮ้ย!!! ตกทำม้ายยยยย ก็รีบวิ่งพร้อมเอามือบังกล้องหัวซุกหัวซุนเลยครับกลับมาที่ห้อง ฟ้าฝ่าเปรี้ยงๆ ดำมืดไปหมดเลยครับ ผมก็เลยถอดใจเรื่องถ่ายดาวไปแล้วครับ ฟ้าคงไม่อยากให้ผมได้ถ่ายจริงๆ หึหึ
เก็บข้าวของทุกอย่างเตรียมกลับบ้านครับ น้อยใจฟ้าฝน แล้วก็เข้านอนครับ พรุ่งนี้พ่อบ้านบอกว่าต้องไปขึ้น Seaplane 8โมงเช้า (ขึ้นกับว่าไฟรท์บินเรากี่โมงครับ ของผมประมาณเที่ยงๆครับ)
ตี5ผมก็ตื่นนอนครับ เพื่อเตรียมตัวแพ็คกระเป่าขั้นสุดท้าย ก่อนจะไปทานมื้อเช้าตอน6โมงครึ่ง เดินไปเปิดประตูห้องแล้วสะลึมสะลือรู้สึกว่า เอ๊ะ!! มันเงียบๆ ฟ้ามันมืดๆ พระจันทร์ตกแล้วหรอ ฝนก็หยุด....ประมวลผลอยู่สักพักก็เบิ่งตาโตเลยครับ ถ่ายรูป!!! ดาวๆๆๆ โอ้ย ขอบคุณครับที่ให้ผมได้ทำเป้าหมายที่วางไว้55+
ก่อนมาผมแอบเซิร์จรูปผม Googleมาครับ เห็นว่ามีคนเคยถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือกได้ที่มัลดีฟ ผมเลยพอจะมีความหวังบ้าง แล้วลองถ่ายไป2-3ใบ ก็เห็นลางๆครับ ถ่ายได้!!! ไม่ชัดมากแต่มันอยู่ตรงนั้นแหละ เย้ๆๆๆๆ XD
ผมมีเวลาให้ถ่ายได้ประมาณ20นาทีครับ พึ่งลองถ่ายทางช้างเผือกครั้งแรกด้วย พึ่งตื่นนอนอีก ลนมากๆเลยครับ ถ่ายเสียไปเยอะเลย ได้ภาพมาฝากให้ชมกันนิดหน่อยครับ// เห็นทางช้างเผือกอยู่แบบจางๆมากๆเลย T^T
แล้วเวลาก็หมดครับ พระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับต้องรีบไปเก็บของให้เสร็จและไปทานมื้อเช้าครับ
มื้อเช้าก็ไม่พลาดครับ กับครัวซองต์เต็มตะกร้า55+ (ใครงงต้องไปอ่านตอนที่2ก่อนนะครับ)
ขากลับนั่ง Seaplane ก็ได้เห็น Double Rainbowจางๆอีกครั้งครับ รู้สึกโชคดีมากเลย
กลับมาถึงสนามบินเพื่อรอขึ้นเครื่องครับ ถ้าใครเบื่อๆอยากเล่น internet ไปเดินหาตู้นี้ที่ด้านในได้นะครับ เล่นฟรีเลย แต่ต้องยืนเล่นนะ
"และสุดท้ายผมก็ขอปิดกระทู้ MeAndAround: Maldives ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ"//เป็นกระทู้แรกที่เขียนจนจบเลยนะเนี่ย
กลับถึงประเทศไทยแล้วจ้า เจอกันใหม่ทริปหน้าเน้อ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น