พอดีช่วงปิดเทอมได้พาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดไปเที่ยวทะเล ในการขับรถจากเส้น มิตรภาพ จนไปถึง เพชรเกษม ลงไปทางใต้
ได้สังเกตุเห็น รถเทรลเลอร์ขนส่งรถยนต์ ได้บรรทุกรถยนต์ หลายรุ่น หลายค่าย ขับไปตามถนน ก็คงจะไปส่งโชว์รูมสาขาตามต่างจังหวัด
ก็เลยเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมรถขนส่งเเบบนี้ ถึงไม่ค่อยมิดชิด ปล่อยเเบบ อาบลม ห่มฟ้า ทั้งที่รถยนต์ถือว่าเป็นสินค้าราคาเเพง มีตั้งเเต่
หลักเเสนถึงหลักหลายๆล้าน ขับบรรทุกไปตามถนน อาจจะเจอหินดีด กิ่งไม้หัก โดนฝน โดนขี้นก (โดยเฉพาะขี้นกเป็นอันตรายกับสีรถมากถ้าไม่รีบเช็ดออก)
ของราคาเเพงเเต่ทำไมการดูเเลรักษาก่อนถึงมือลูกค้า เหมือนไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้ราคาเลยครับ
ได้ยินมาว่า ถ้าเกิดมีร่องรอย ที่เกิดจาการบรรทุก การขนส่ง ก็จะทำการเก็บสีก่อนส่งให้ลูกค้า งั้นก็เเสดงว่า
ลูกค้าก็จะได้รถที่ถูกทำสีมาใหม่อีกที (ในบางคัน) ที่ไม่ใช่สีจากโรงงาน 100% งั้นเหรอครับ รถผมก็มีรอยนะ ออกมาจากโชว์รูมใหม่ๆเลย
ตอนเเรกไม่เห็น เเต่ผ่านไปหลายเดือนไปดูที่ฝากระโปรงรถ เห็นเป็นวงกลมเล็กๆเหมือนไปทำสีมา ทั้งที่ตัวเองไม่เคยไปทำสีที่ไหน
เสียหัวมาก ตอนรับรถก็มองไม่เห็น เพราะเค้าล้างเคลือบเงาอย่างดี รถราคาเกือบ 2 ล้าน วันนั้นถ้าเห็นรอยก่อน ผมยกเลิกการซื้อเเน่นอน
พอมาหาข้อมูลจึงถึงบางอ้อว่า รถเราน่าจะมีร่องรอยตอนการบรรทุกขนส่ง เค้าจึงทำสีใหม่เฉพาะจุดเล็กๆ
ในเมื่ออุตสาหกรรมการผลิดรถยนต์ เป็นการลงทุนที่สูงอยู่เเล้ว เเละเป็นสินค้าราคาเเพง
ทำไมรถ Trailer ที่ใช้บรรทุก ขนส่งรถไปตามต่างจังหวัดไม่ลงทุนทำหลังคาปิดเเละปิดด้านข้าง
เเบบเป็นตู้ทึบไปเลย ไม่ได้เหรอครับ ลงทุนเพิ่มอีกนิดหน่อย ไม่ต้องใช้ผ้าคลุมที่ละคันก็ได้ (เพราะผ้าคลุมก็จะทำให้รอยเกิดรอยได้อีก)
เเต่ให้ทำเป็นตู้เลย ที่สามารถบรรทุกได้ 2 ชั้น เหมือนทั่วไป เหมือนเดิม เพียงเเต่ทำให้มันมิดชิดขึ้น
ขนาดรถขนน้ำอัดลม ยังเป็นเเบบกางปีกออกเลยครับพอจัดส่งเสร็จ ก็เก็บปีกเข้า ทั้งที่สินค้าถูกกว่าราคารถ
เหมือนฟ้ากับเหว เค้ายังทำมิดชิดได้ สงสัยครับ
สงสัยเรื่องความมิดชิดเเละปลอดภัยของของรถยนต์ ที่บรรทุกโดยเทรลเลอร์ขนส่งรถยนต์ วิ่งส่งตามต่างจังหวัด
ได้สังเกตุเห็น รถเทรลเลอร์ขนส่งรถยนต์ ได้บรรทุกรถยนต์ หลายรุ่น หลายค่าย ขับไปตามถนน ก็คงจะไปส่งโชว์รูมสาขาตามต่างจังหวัด
ก็เลยเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมรถขนส่งเเบบนี้ ถึงไม่ค่อยมิดชิด ปล่อยเเบบ อาบลม ห่มฟ้า ทั้งที่รถยนต์ถือว่าเป็นสินค้าราคาเเพง มีตั้งเเต่
หลักเเสนถึงหลักหลายๆล้าน ขับบรรทุกไปตามถนน อาจจะเจอหินดีด กิ่งไม้หัก โดนฝน โดนขี้นก (โดยเฉพาะขี้นกเป็นอันตรายกับสีรถมากถ้าไม่รีบเช็ดออก)
ของราคาเเพงเเต่ทำไมการดูเเลรักษาก่อนถึงมือลูกค้า เหมือนไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้ราคาเลยครับ
ได้ยินมาว่า ถ้าเกิดมีร่องรอย ที่เกิดจาการบรรทุก การขนส่ง ก็จะทำการเก็บสีก่อนส่งให้ลูกค้า งั้นก็เเสดงว่า
ลูกค้าก็จะได้รถที่ถูกทำสีมาใหม่อีกที (ในบางคัน) ที่ไม่ใช่สีจากโรงงาน 100% งั้นเหรอครับ รถผมก็มีรอยนะ ออกมาจากโชว์รูมใหม่ๆเลย
ตอนเเรกไม่เห็น เเต่ผ่านไปหลายเดือนไปดูที่ฝากระโปรงรถ เห็นเป็นวงกลมเล็กๆเหมือนไปทำสีมา ทั้งที่ตัวเองไม่เคยไปทำสีที่ไหน
เสียหัวมาก ตอนรับรถก็มองไม่เห็น เพราะเค้าล้างเคลือบเงาอย่างดี รถราคาเกือบ 2 ล้าน วันนั้นถ้าเห็นรอยก่อน ผมยกเลิกการซื้อเเน่นอน
พอมาหาข้อมูลจึงถึงบางอ้อว่า รถเราน่าจะมีร่องรอยตอนการบรรทุกขนส่ง เค้าจึงทำสีใหม่เฉพาะจุดเล็กๆ
ในเมื่ออุตสาหกรรมการผลิดรถยนต์ เป็นการลงทุนที่สูงอยู่เเล้ว เเละเป็นสินค้าราคาเเพง
ทำไมรถ Trailer ที่ใช้บรรทุก ขนส่งรถไปตามต่างจังหวัดไม่ลงทุนทำหลังคาปิดเเละปิดด้านข้าง
เเบบเป็นตู้ทึบไปเลย ไม่ได้เหรอครับ ลงทุนเพิ่มอีกนิดหน่อย ไม่ต้องใช้ผ้าคลุมที่ละคันก็ได้ (เพราะผ้าคลุมก็จะทำให้รอยเกิดรอยได้อีก)
เเต่ให้ทำเป็นตู้เลย ที่สามารถบรรทุกได้ 2 ชั้น เหมือนทั่วไป เหมือนเดิม เพียงเเต่ทำให้มันมิดชิดขึ้น
ขนาดรถขนน้ำอัดลม ยังเป็นเเบบกางปีกออกเลยครับพอจัดส่งเสร็จ ก็เก็บปีกเข้า ทั้งที่สินค้าถูกกว่าราคารถ
เหมือนฟ้ากับเหว เค้ายังทำมิดชิดได้ สงสัยครับ