---

ปัญหาสารกำจัดวัชพืชที่มีผลตกค้างอย่างมาก
ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้ใช้กับผู้บริโภค
ทำให้มีบริษัท Startup รายหนึ่งได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่
เป็นอีกทางเลือกในการกำจัดวัชพืชด้วยแสงและความร้อน
แทนการใช้สารกำจัดวัชพืชแบบเดิม
และตอนนี้ฐานทัพสหรัฐก็กำลังตรวจสอบอุปกรณ์ชิ้นนี้
ก่อนที่จะบรรจุเข้าใช้งานในฐานทัพ
โดยทดสอบในพื้นที่ขนาดสนามซอฟต์บอล

NatureZap เป็นอุปกรณ์นวัตกรรมที่คล้ายไม้เท้ากายสิทธิ์
ที่ยิงแสงสีฟ้าและกระจายความร้อนเพื่อฆ่าวัชพืช
Jon Jackson ประธานของ Global Neighbor  ระบุว่า

" วัชพืชจะตายสนิทราว ๆ ร้อยละ 70 ถึง 80
และอุปกรณ์ชิ้นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าอื่น ๆ หรือคน
มันทำงานด้วยแบตเตอรี่ที่จะใช้ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
ก่อนที่จะต้องชาร์จใหม่อีกครั้ง (อาจต้องพกแบตเตอรี่สำรองไว้)
วัชพืชที่กำจัดมี Ragweed Dandelions  และ Crabgrass

แสงจะส่องลึกลงไปใต้ผิวดินถึง 2 นิ้ว
มีผลต่อวัชพืชและไม่กระทบกับพืชที่ต้องการที่พวกมันอยู่รอบ ๆ
และวัชพืชที่ถูกส่องด้วย NatureZap จะตายภายในสามวันต่อมา
การใช้สารเคมีสร้างผลกระทบในระยะยาว
แสงและความร้อนที่เกิดขึ้นจากการกดปุ่มปลายนิ้วมือ
ไม่ได้สร้างมลพิษทิ้งไว้หลังจากมันเสร็จสิ้นการทำงานแต่อย่างใด "

ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติ Sikes Act ที่ได้บัญญัติไว้ว่า
กองทัพจะต้องลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช
Danny Reinke นักวิทยาศาสตร์ 412th Civil Engineering Group
ที่ทำงานที่ฐานทัพ Edwards Air Force Base ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ได้ใช้งาน NatureZap ของ Global Neighbor
Danny Reinke กล่าวว่า
" NatureZap จะสามารถช่วยกองทัพได้
เพื่อทำให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ Sikes Act "

---

NatureZap ที่ทดสอบครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 2
รุ่นแรกให้เฉพาะความร้อนในการฆ่าวัชพืช

“ เราได้รับบทเรียนตั้งแต่การทดสอบครั้งแรก
เราได้ทำงานร่วมกับฐานทัพ Edwards เป็นเวลาหลายปีแล้ว
ตั้งแต่การใช้แสงเรเซอร์และอย่างอื่นหลายอย่าง
เพื่อกำจัดวัชพืชบนพื้นดินที่ต้องการ
นักพัฒนาได้เคยประสบความสำเร็จกับการใช้แสงเมื่อหลายปีก่อน
เมื่อได้สร้างห้อง  Plexiglas (แผ่นกระจกทนความร้อนทำด้วยโพลิเมอร์ทนทานกว่ากระจกธรรมดา)
เพื่อตรวจสอบและทดลองอุปกรณ์ชิ้นนี้กับราก dandelion
มันได้ผลคือ รากที่ได้รับแสง มันตายเลย  “ Jon Jackson

Cadance Lowell นักวิทยาศาสตร์ Central State University
ก็ได้ทำการทดสอบ NatureZap ด้วยเช่นกัน
เธอได้นำเสนอผลงานวิจัยเรื่องนี้
ในที่ประชุมประจำปีของ
สมาคมวิทยาศาสตร์วัชพืชแห่งอเมริกา
Weed Science Society of America
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและระบุว่า

" NatureZap ทำงานได้ดีเช่นเดียวกับไกลโฟเซต Glyphosate https://goo.gl/3Iol7K
(ยาฆ่าวัชพืชสิทธิบัตรของ Monsanto หมดอายุปี 2000)
เมื่อใช้กับ Ragweed (หญ้าตระกูล Ambrosia
มีละอองเกสรทำให้เป็นหืดหอบได้)
แต่พืชที่มีรากลึกเช่น Dandelions
อาจจะกำจัดได้ยากถ้าใช้  NatureZap
แต่ถ้าหากมีการใช้ NatureZap ซ้ำเพียงไม่กี่ครั้ง
ก็สามารถฆ่าวัชพืชตระกูลเหล่านั้นได้เช่นกัน "

อนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านก็สนใจอุปกรณ์ชนิดนี้

“ ผมคิดว่าผลการวิจัยเรื่องนี้ที่ได้ตีพิมพ์
จะเป็นก้าวแรกของบทสรุป/การพัฒนาด้านอื่น ๆ ที่จะตามมา
ในการใช้เทคนิควิธีการดังกล่าวในการปราบวัชพืช "
Scott Hoffman Black ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร
Xerces Society for Invertebrate Conservation

---

Nathan Donley นักวิทยาศาสตร์
ศูนย์วิจัยความหลากหลายทางชีวภาพ
Center for Biological Diversity
ให้สัมภาษณ์กับ Takepart https://goo.gl/mBqmQq

" ถ้ามันทำงานได้จริง
ผมคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จอย่างมาก
เพราะการเปลี่ยนแปลงในการกำจัดศัตรูพืช
ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
สารเคมีกำจัดวัชพืชส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
มีการใช้งานมานานกว่า 50 ปีแล้ว
นวัตกรรมประเภทนี้
ไม่เคยมีอยู่ในวงการกำจัดวัชพืชเลย "

อนึ่ง Nathan Donley ได้แสดงความประหลาดใจ
เมื่อรับทราบข่าวว่ากองทัพสหรัฐได้ทำการทดสอบ NatureZap
“ ถ้ารัฐบาลกลางสหรัฐสามารถลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดศัตรูพืช
เงินที่ประหยัดได้สามารถใช้ในภาระกิจด้านการอนุรักษ์ได้อีกมากมาย
สารกำจัดวัชพืชก็ไม่ใช่ของราคาถูกและใช้กันแบบง่าย ๆ
รวมทั้งตัวมันเองมีต้นทุนแฝงมหาศาลที่มีผลในอนาคต
สร้างผลกระทบต่อชุมชนในด้านการรักษาพยาบาล
และการฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ”

Global Neighbor ได้รับเงินเกือบ 900,000 เหรียญสหรัฐฯ
ผ่านทางโครงการวิจัยนวัตกรรมธุรกิจขนาดเล็กของรัฐบาลสหรัฐฯ
Small Business Innovation Research
ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้มีขายใน Amazon  https://goo.gl/Z3SusG
NatureZap DE Cordless ราคา 199 เหรียญสหรัฐ

NatureZap DE เป็นเทคโนโลยีชนิดใหม่ที่ได้รับสิทธิบัตร
ด้วยการใช้แสงในปริมาณที่เหมาะสมในกำจัดวัชพืชในพื้นที่ที่ต้องการ

---

NatureZap DE ใช้ความร้อนจากแสง IR
ที่มีเป้าหมายในการฆ่าวัชพืช
ฆ่าวัชพืชถึง 3 ระดับในเวลาเดียวกัน

ความร้อนทำให้ใบเหี่ยวเฉา
และทำลายใบของวัชพืช
ในขณะที่แสง IR แทรกซึมไปที่ใบวัชพืช
และส่วนของรากต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่คลอโรพลาสต์
โครงสร้างพื้นฐานของวัชพืชจึงถูกทำลายลง
โดยความร้อนและแสง IR
ในขณะที่แสงสีน้ำเงินและแสง UV ที่สั้นกว่า
(Infrared กับ Ultraviolet)
จะทะลุผ่านพื้นดินระดับลึกราว 2 นิ้วเพื่อฆ่าราก
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

ผลของการส่งแสงลงไปสู่ราก
ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง
ถึงระบบรากและพืชทุกส่วน
ไม่นานวัชพืชจะเริ่มค่อย ๆ ตาย
และย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยพืชสดต่อไป

ถ้าวัชพืชอยู่ในสนามหญ้า
ถ้ามีการใช้เครื่องมือนี้กำจัด
จะทำลายเมล็ดวัชพืช/ที่รากลึกไม่เกิน 2 นิ้ว
แต่พวกมันมีโอกาสเติบโตขึ้นมาใหม่อีก
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน
ในบริเวณพื้นที่มีการกำจัดวัชพืช
แม้ว่าในตอนต้นฤดูใบไม้ผลิ
จะไม่ค่อยพบเห็นวัชพืชมากนัก
หลังจากใช้เครื่องมือนี้กำจัด
เพราะวัฏจักรของวัชพืช
จะเจริญเติบโตค่อนข้างช้าในช่วงต้น
ก่อนจะรีบเจริญเติบโตในปลายฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน
เพื่อขยายพันธุ์และเตรียมพร้อมกับการผสมเกสร/เพิ่มสายพันธุ์

ในเมืองไทยก็ช่วงปลายฝนต้นหนาว
วัชพืชจะเจริญเติบโตกันอย่างเต็มที่
ถ้าปลายฤดูร้อนกับต้นฤดูฝน
แม้ว่ามีการกำจัดวัชพืชไปแล้ว
ด้วยสารกำจัดวัชพืชแล้วก็ตาม

แต่วัชพืชก็ยังเติบโตได้เป็นอย่างดี
เพราะอุณหภูมิค่อนข้างคงที่
ไม่แปรปรวนแบบเมืองหนาว
กอปรกับฝนตกมักจะชะล้าง
สารเคมีกำจัดวัชพืชไปได้มาก
ทั้งยังช่วยในการเติบโตของพวกมัน

เรียบเรียง/ที่มา

https://goo.gl/lTHZr8
https://goo.gl/LUeHXo
https://goo.gl/mBqmQq

---

หมายเหตุ

ชุดอุปกรณ์หัวไฟฟู่เพื่อปราบวัชพืช
เมืองไทยยังไม่มีการจำหน่าย
และการสั่งซื้อจากเมืองนอก
ก็ไม่มีการนำส่งให้หรือส่งให้ก็ราคาแพง
มีรุ่นที่พอใช้ได้จัดหาได้ในเมืองไทย

แต่จะมีปัญหาการใช้งานในเมืองไทยบ้าง
คือ ความชื้นค่อนข้างมากและฝนตกบ่อย
ถ้าใช้กับหญ้าแห้งจะได้ผลดี
แต่ถ้าใช้กับหญ้าสดต้องใช้ซ้ำ ๆ
และควรระมัดระวังฟืนไฟเวลาใช้งานด้วย
สินค้าลองถามอากู๋ด้วยชื่อรุ่น
kovea kht-1405 phantom long torch
(ขออภัยถ้าคิดว่าเป็นการโฆษณาสินค้า)

---

หมายเหตุ

มีการพัฒนาเครื่องต้นแบบ
ที่ใช้พลังไอน้ำปราบวัชพืช
ข้อมูล/ภาพ ที่มา https://goo.gl/23q5DH


กับการทดลองใช้แสงเรเซอร์ปราบวัชพืช
Laser Zentrum Hannover (LZH)
ของ  Prof. Thomas Rath นักวิจัยเยอรมันนี
Institute of Biological Production Systems
ข้อมูล/ภาพ ที่มา https://goo.gl/W1aNn8