โปรดสังเกตที่อันดับ 1,4,5,7
ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 10 อันดับแรก จัดอันดับตาม GDP (PPP) ที่มีรายได้ต่อตัวสูงสุดต่อหัว 4,600,000 บาทต่อปี
อันดับ 1 : Qatar – GDP (PPP) 4,621,648.32 THB/Y
กาตาร์เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เศรษฐกิจของกาตาร์ส่วนใหญ่เกือบ 85% ของรายได้จากการส่งออกเป็น “ปิโตรเลียม” กาตาร์ยังเป็นประเทศที่มีปริมาณแก๊สธรรมชาติ สำรองมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รัฐบาลของกาตาร์ทุ่มงบส่วนใหญ่ในการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ท่าเรือน้ำลึก สนามบิน เครือข่ายรถไฟ รวมถึงตั้งเป้าให้ประเทศเจ้าภาพด้านธุรกิจ และที่สำคัญในปี ค.ศ.2022 กาตาร์จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก
อันดับ 2 : Luxembourg – GDP (PPP) 2,960,212.16 THB/Y
เป็นประเทศเล็กๆในยุโรป มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายเหล็กและโลหะเพื่อส่งออก ลักเซมเบิร์กขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุด และเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของยุโรป เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายทางการเงินที่มีวินัยและเข้มแข็ง และส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ความเข้มงวดของการเก็บความลับในด้านธุรกิจสถาบันการเงินหรือธนาคาร
อันดับ 3 : Singapore – GDP (PPP) 2,603,061.44 THB/Y
สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชีย เป็นประเทศที่มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ด้วยความที่เป็นประเทศที่เล็ก ทำให้บริหารงานต่างๆได้ไม่ยากนัก บวกกับความเข้มงวดของกฎหมาย ทำให้เป็นประเทศที่ประชากรมีระเบียบวินัยสูง พื้นฐานความมั่งคั่งของสิงคโปร์ คือ ความเจริญด้านเทคโนโลยี การผลิต และศูนย์กลางด้านการเงิน
อันดับ 4 : Brunei Darussalam – GDP (PPP) 2,490,366.4 THB/Y
บรูไนเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้มาสู่ประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่มีจำนวนประชากรที่น้อยมาก แต่บรูไนก็ไม่ได้หวังพึ่งพารายได้จากการขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว ได้พยายามที่จะพัฒนาประเทศให้พึ่งพาตัวเองได้ อย่างไรก็ตามบรูไนเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงมากแห่งหนึ่งของโลก แต่รัฐบาลได้ให้สวัสดิการอย่างดีเลิศแก่ประชาชน อาทิ ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาลฟรี
อันดับ 5 : Kuwiat – GDP (PPP) 2,271,736.96 THB/Y
คูเวตเป็นประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีมากและร่ำรวยจากการส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ส่งผลให้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน ประชาชนคูเวตมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวและกำลังซื้อสูงมาก ประกอบกับการใช้นโยบายการค้าเสรี ไม่มีระบบโควตา หรือมาตรการกีดกันการนำเข้าสินค้า โครงสร้างภาคการผลิตส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รัฐบาลคูเวตได้ประกาศจัดทำโครงการ ลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อเพิ่มผลผลิต การก่อสร้างเมืองธุรกิจใหม่ (Silk City) โครงการขยายท่าอากาศยานนานาชาติคูเวต
อันดับ 6 : Norway – GDP (PPP) 2,108,661.44 THB/Y
นอร์เวย์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ติดอันดับประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดของโลก เนื่องจากนโยบายรัฐสวัสดิการสามารถใช้ได้จริง และตอบโจทย์ความต้องการทางสังคมของนอร์เวย์ ได้เป็นอย่างดี เป็นประเทศที่มี อัตราการว่างง่านที่ต่ำ รายได้หลักเกือบครึ่งมาจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
อันดับ 7 : United Arab Emirates – GDP (PPP) 2,081,197.12 THB/Y
เป็นประเทศที่เกิดจากการรวมตัวของรัฐต่าง ๆ 7 รัฐ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2514 จึงนับว่ามีอายุเพียง 40 ปีเศษ แต่ในระยะเวลาเพียงไม่นาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้พัฒนาความเจริญก้าวหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยส่วนสำคัญมาจากรายได้มหาศาลจากการส่งออกน้ำมันดิบ ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค ยังไม่รวมถึงการเงินและการขนส่งทางอากาศ ซึ่งนับวันจะทวีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขึ้นเรื่อย ๆ
อันดับ 8 : Switzerland – GDP (PPP) 1,767,594.88 THB/Y
เป็นประเทศขนาดเล็กที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล และตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตะวันตก แต่นับเป็นประเทศที่มีความสำคัญ ในด้านการลงทุนในระดับนานาชาติมาเป็นระยะเวลานาน เป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีสถานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและเป็นเป้าหมายของนักลงทุน เนื่องจากมีนโยบายทางการเงินและสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพ และมีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ยังมีนโยบายเปิดกว้างสำหรับการลงทุน
อันดับ 9 : Hong Kong – GDP (PPP) 1,765,337.92 THB/Y
ฮ่องกงมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลกในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า ที่มีปริมาณการขนส่งเป็นอันดับ 2 ของโลก รวมทั้งเป็นตลาดหลักทรัพย์ทีมีมูลค่าการซื้อขายมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย ภาคบริการเป็นหัวใจของความมั่งคั่งของฮ่องกงเนื่องจากมีสัดส่วนถึงร้อยละ 90 ของ GDP ธุรกิจบริการหลักประกอบด้วย การค้า การขนส่ง การเงินการธนาคารและการท่องเที่ยว
อันดับ 10 : United States – GDP (PPP) 1,749,701.44 THB/Y
ประเทศมหาอำนาจและมีเศรษฐกิจประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำโลกทั้งในด้านการเงิน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้ส่งออกอาวุธที่ใหญ่ที่สุด สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าและนิวเคลียร์อันดับ 1 ของโลก และเป็นผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3
ประเทศอาหรับ รวยๆ ที่ติดอันดับโลกทำไมไม่ให้การช่วยเหลือผู้อพยพประเทศซีเรีย ???? กลับกลายเป็นประเทศ EU ซะงั้น????
ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 10 อันดับแรก จัดอันดับตาม GDP (PPP) ที่มีรายได้ต่อตัวสูงสุดต่อหัว 4,600,000 บาทต่อปี
อันดับ 1 : Qatar – GDP (PPP) 4,621,648.32 THB/Y
กาตาร์เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เศรษฐกิจของกาตาร์ส่วนใหญ่เกือบ 85% ของรายได้จากการส่งออกเป็น “ปิโตรเลียม” กาตาร์ยังเป็นประเทศที่มีปริมาณแก๊สธรรมชาติ สำรองมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รัฐบาลของกาตาร์ทุ่มงบส่วนใหญ่ในการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ท่าเรือน้ำลึก สนามบิน เครือข่ายรถไฟ รวมถึงตั้งเป้าให้ประเทศเจ้าภาพด้านธุรกิจ และที่สำคัญในปี ค.ศ.2022 กาตาร์จะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก
อันดับ 2 : Luxembourg – GDP (PPP) 2,960,212.16 THB/Y
เป็นประเทศเล็กๆในยุโรป มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายเหล็กและโลหะเพื่อส่งออก ลักเซมเบิร์กขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุด และเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของยุโรป เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายทางการเงินที่มีวินัยและเข้มแข็ง และส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ความเข้มงวดของการเก็บความลับในด้านธุรกิจสถาบันการเงินหรือธนาคาร
อันดับ 3 : Singapore – GDP (PPP) 2,603,061.44 THB/Y
สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชีย เป็นประเทศที่มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ด้วยความที่เป็นประเทศที่เล็ก ทำให้บริหารงานต่างๆได้ไม่ยากนัก บวกกับความเข้มงวดของกฎหมาย ทำให้เป็นประเทศที่ประชากรมีระเบียบวินัยสูง พื้นฐานความมั่งคั่งของสิงคโปร์ คือ ความเจริญด้านเทคโนโลยี การผลิต และศูนย์กลางด้านการเงิน
อันดับ 4 : Brunei Darussalam – GDP (PPP) 2,490,366.4 THB/Y
บรูไนเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้มาสู่ประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่มีจำนวนประชากรที่น้อยมาก แต่บรูไนก็ไม่ได้หวังพึ่งพารายได้จากการขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว ได้พยายามที่จะพัฒนาประเทศให้พึ่งพาตัวเองได้ อย่างไรก็ตามบรูไนเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงมากแห่งหนึ่งของโลก แต่รัฐบาลได้ให้สวัสดิการอย่างดีเลิศแก่ประชาชน อาทิ ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาลฟรี
อันดับ 5 : Kuwiat – GDP (PPP) 2,271,736.96 THB/Y
คูเวตเป็นประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีมากและร่ำรวยจากการส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ส่งผลให้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน ประชาชนคูเวตมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวและกำลังซื้อสูงมาก ประกอบกับการใช้นโยบายการค้าเสรี ไม่มีระบบโควตา หรือมาตรการกีดกันการนำเข้าสินค้า โครงสร้างภาคการผลิตส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รัฐบาลคูเวตได้ประกาศจัดทำโครงการ ลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อเพิ่มผลผลิต การก่อสร้างเมืองธุรกิจใหม่ (Silk City) โครงการขยายท่าอากาศยานนานาชาติคูเวต
อันดับ 6 : Norway – GDP (PPP) 2,108,661.44 THB/Y
นอร์เวย์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ติดอันดับประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดของโลก เนื่องจากนโยบายรัฐสวัสดิการสามารถใช้ได้จริง และตอบโจทย์ความต้องการทางสังคมของนอร์เวย์ ได้เป็นอย่างดี เป็นประเทศที่มี อัตราการว่างง่านที่ต่ำ รายได้หลักเกือบครึ่งมาจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
อันดับ 7 : United Arab Emirates – GDP (PPP) 2,081,197.12 THB/Y
เป็นประเทศที่เกิดจากการรวมตัวของรัฐต่าง ๆ 7 รัฐ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2514 จึงนับว่ามีอายุเพียง 40 ปีเศษ แต่ในระยะเวลาเพียงไม่นาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้พัฒนาความเจริญก้าวหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยส่วนสำคัญมาจากรายได้มหาศาลจากการส่งออกน้ำมันดิบ ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค ยังไม่รวมถึงการเงินและการขนส่งทางอากาศ ซึ่งนับวันจะทวีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขึ้นเรื่อย ๆ
อันดับ 8 : Switzerland – GDP (PPP) 1,767,594.88 THB/Y
เป็นประเทศขนาดเล็กที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล และตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตะวันตก แต่นับเป็นประเทศที่มีความสำคัญ ในด้านการลงทุนในระดับนานาชาติมาเป็นระยะเวลานาน เป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีสถานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและเป็นเป้าหมายของนักลงทุน เนื่องจากมีนโยบายทางการเงินและสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพ และมีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ยังมีนโยบายเปิดกว้างสำหรับการลงทุน
อันดับ 9 : Hong Kong – GDP (PPP) 1,765,337.92 THB/Y
ฮ่องกงมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลกในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นท่าเรือขนส่งสินค้า ที่มีปริมาณการขนส่งเป็นอันดับ 2 ของโลก รวมทั้งเป็นตลาดหลักทรัพย์ทีมีมูลค่าการซื้อขายมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย ภาคบริการเป็นหัวใจของความมั่งคั่งของฮ่องกงเนื่องจากมีสัดส่วนถึงร้อยละ 90 ของ GDP ธุรกิจบริการหลักประกอบด้วย การค้า การขนส่ง การเงินการธนาคารและการท่องเที่ยว
อันดับ 10 : United States – GDP (PPP) 1,749,701.44 THB/Y
ประเทศมหาอำนาจและมีเศรษฐกิจประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำโลกทั้งในด้านการเงิน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้ส่งออกอาวุธที่ใหญ่ที่สุด สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าและนิวเคลียร์อันดับ 1 ของโลก และเป็นผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3