(กรุณาอ่านให้จบก่อนคอมเม้นนะคะ)
ขอบอกแต่เนินๆว่าเราเป็นพวกติสๆ คิดว่าอย่างงั้นนะ เราเคยมีเพื่อนสนิทกลุ่มนึงมีหกคนถ้ารวมเราด้วยก็เจ็ดคน
ตอนแรกเพื่อนคนนึงชื่อเอทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มชื่อบีกับซีเขาเลยมาอยู่กับเราสองคนตอนนั้น สักพักเอก็คืนดีกับพวกบีกับซีเราเลยไปอยู่ด้วย ตอนแรกก็เกร๊งๆกลัวจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้มนุษย์สัมพันดีนัก เพราะบีเป็นเด็กเรียนเรียนก็เก่ง ส่วนซีก็เฟรนลี่ก็เลยทำให้เข้ากับกลุ่มได้เร็ว แล้วหลังจากนั้นมาสักพัก ก็มีสมาชิกเพิ่มมาอีกสามคน แต่แรกไอเราก็รู้สึกไม่โอเคนัก เราจะแทนคือคนแรกว่า ดี คือสนิทสุดในสามคนนั้น ต่อมาก็ อี เอฟ เราก็สนิทกับดีมากที่สุดตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามอหนึ่งมามีไรก็ปรึกษาได้ทุกอย่างเสียใจก็ไปปล่อยโฮกับนาง แต่ที่หน้าแปลกคือ อีเอฟ เคยให้เราอยู่ในกลุ่มด้วยตอนที่เราทะเลาะกับเพื่อนสนิทตอนมอหนึ่งนางก็ให้เราอยู่ด้วย แต่เหมือนพวกนางจะไม่ได้แคร์เรามากนัก ตอนที่เออยู่กับเราพวก อี เอฟ ก็ไม่ชอบเอ เราเลยแยกไปอยู่กับเอสองคนในตอนนั้น เอาเป็นว่าคราวๆพอ5555555เดี๋ยวจะยาวเกินไปเน๊อะ
หลังจากสามคนนั้นเข้ามาสักพักนึงเราก็โอเค แต่เราไม่ค่อยสนิทกับ เอฟ มากนัก ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราสนิทกับซีเป็นพิเศษไปเที่ยวไหนไปกันทุกที่ นางเป็นคนสอนเราใช้ชีวิตนอกกะลาบ้าน ถถถถ เมื่อก่อนเราเป็นคนไม่เคยออกนอกบ้านไกลๆเลย แต่เรากล้าจะทำเพราะนางเป็นคนสอนเรา มีอะไรก็ช่วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเราที่เป็นคนค่อนข้างเห็นแก่ตัวในตอนนั้นเรายังไม่เห็คุณค่าในตัวนางที่มีให้เรา
แล้วหลังจากนั้นสักพักใหย่เกือบค่อนปี เราก็รู้ได้ว่าเราเปลี่ยนไปเรามักจะผู้ในสิ่งที่เราจิตนาการในสิ่งที่เราอยากให้เป็นแล้วมันก็กลายเป็นคำว่า"โกหก"ที่เรียกง่ายๆนั้นเอง ซึ่งเราก็โกหกได้เป็นปีเลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนก็ฟังเรื่องพล่อยๆของเราได้ทุกวันซึ่งตอนนั้นมันภาคภูมิใจมากกับเรื่องพวกนี้
และแน่นอนว่าไม่นานก็ช้าเพื่อนก็ต้องรู้ แล้ววันนั้นมันก็มาถึงค้ะ เราไม่ยอมรับสิ่งที่เราทำด้วยแถมยังพูดได้อีก เราแค่รู้สึกว่าเรื่องพวกนนั้นมันเป้นเรื่องจริงๆที่เราคิดไปแล้ววว่ามันคือเรื่อง(เราอาาจะดูโรคจิตไปหน่อยเนอะ ถถถ) มีแวบนึงในความคิดที่จะพูดออกไป แต่มันก็ชะงักลงเพราะเพื่อนเริ่มรุ่มพูดๆด่าๆ ตอนนนั้นมันเลยไม่ออกมา เรายอมรับว่าเราแย่มาก แถมพอเราออกจากกลุ่มนั้นก็หมายความว่าเราตอนนั้น ไม่มีเพื่อนแล้ว เพราะเพื่อนสมัยประถมก็ไมไ่ด้อะไรกันแล้ว เพื่อนของเราหมายถึงคือที่อยุ่ด้วยแล้วเป็นตัวเอง
ตั้งแต่นั้นมาเราก็อยู่คนเดียวตลอด โนวเอนี่เฟรนน
ตอนนนี้เราพึงมาเห็นค่าคำว่าเพื่อนที่ให้เรามาแต่เรากลับไม่สนใจมันตอนที่เราท้อเราพูดว่าเราไม่เหลือใครก็มีเพื่อนพวกนี้คอยอยู่ใกล้ๆในวันที่เราร้องไห้ที่เราไม่สามารถบอกให้ผู้ใหญ่นั้นรับรู้ได้ก็มีเพื่อนพวกนี้ที่เข้าใจเราและยืนข้างๆเราตลอดเราอยากรู้อะไรหรือไมู่้อะไรพวกนี้ก็จะคอยบอกแนะนำให้อยู่ตลอดแต่มีแต่เราเนียแหละที่ไม่เคยเห็นค่าาสิ่งพวกนี้เลย ตั้งแต่ที่เราอยู่คนเดียวก็ทำให้รู้ว่ามันไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลยแถมทุกอย่างก็แย่ลง
ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายเดือนมากๆแล้วคงไม่มีวันนั้นแล้ว
ขอพื้นที่ให้เด็กคนนึงระบายด้วยคร้าาาาาาาา
ขอวิธีลืมเพื่อนสนิทหน่อยค่ะ(ยาว)+(บ่น)
ขอบอกแต่เนินๆว่าเราเป็นพวกติสๆ คิดว่าอย่างงั้นนะ เราเคยมีเพื่อนสนิทกลุ่มนึงมีหกคนถ้ารวมเราด้วยก็เจ็ดคน
ตอนแรกเพื่อนคนนึงชื่อเอทะเลาะกับเพื่อนในกลุ่มชื่อบีกับซีเขาเลยมาอยู่กับเราสองคนตอนนั้น สักพักเอก็คืนดีกับพวกบีกับซีเราเลยไปอยู่ด้วย ตอนแรกก็เกร๊งๆกลัวจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้มนุษย์สัมพันดีนัก เพราะบีเป็นเด็กเรียนเรียนก็เก่ง ส่วนซีก็เฟรนลี่ก็เลยทำให้เข้ากับกลุ่มได้เร็ว แล้วหลังจากนั้นมาสักพัก ก็มีสมาชิกเพิ่มมาอีกสามคน แต่แรกไอเราก็รู้สึกไม่โอเคนัก เราจะแทนคือคนแรกว่า ดี คือสนิทสุดในสามคนนั้น ต่อมาก็ อี เอฟ เราก็สนิทกับดีมากที่สุดตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามอหนึ่งมามีไรก็ปรึกษาได้ทุกอย่างเสียใจก็ไปปล่อยโฮกับนาง แต่ที่หน้าแปลกคือ อีเอฟ เคยให้เราอยู่ในกลุ่มด้วยตอนที่เราทะเลาะกับเพื่อนสนิทตอนมอหนึ่งนางก็ให้เราอยู่ด้วย แต่เหมือนพวกนางจะไม่ได้แคร์เรามากนัก ตอนที่เออยู่กับเราพวก อี เอฟ ก็ไม่ชอบเอ เราเลยแยกไปอยู่กับเอสองคนในตอนนั้น เอาเป็นว่าคราวๆพอ5555555เดี๋ยวจะยาวเกินไปเน๊อะ
หลังจากสามคนนั้นเข้ามาสักพักนึงเราก็โอเค แต่เราไม่ค่อยสนิทกับ เอฟ มากนัก ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราสนิทกับซีเป็นพิเศษไปเที่ยวไหนไปกันทุกที่ นางเป็นคนสอนเราใช้ชีวิตนอกกะลาบ้าน ถถถถ เมื่อก่อนเราเป็นคนไม่เคยออกนอกบ้านไกลๆเลย แต่เรากล้าจะทำเพราะนางเป็นคนสอนเรา มีอะไรก็ช่วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเราที่เป็นคนค่อนข้างเห็นแก่ตัวในตอนนั้นเรายังไม่เห็คุณค่าในตัวนางที่มีให้เรา
แล้วหลังจากนั้นสักพักใหย่เกือบค่อนปี เราก็รู้ได้ว่าเราเปลี่ยนไปเรามักจะผู้ในสิ่งที่เราจิตนาการในสิ่งที่เราอยากให้เป็นแล้วมันก็กลายเป็นคำว่า"โกหก"ที่เรียกง่ายๆนั้นเอง ซึ่งเราก็โกหกได้เป็นปีเลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนก็ฟังเรื่องพล่อยๆของเราได้ทุกวันซึ่งตอนนั้นมันภาคภูมิใจมากกับเรื่องพวกนี้
และแน่นอนว่าไม่นานก็ช้าเพื่อนก็ต้องรู้ แล้ววันนั้นมันก็มาถึงค้ะ เราไม่ยอมรับสิ่งที่เราทำด้วยแถมยังพูดได้อีก เราแค่รู้สึกว่าเรื่องพวกนนั้นมันเป้นเรื่องจริงๆที่เราคิดไปแล้ววว่ามันคือเรื่อง(เราอาาจะดูโรคจิตไปหน่อยเนอะ ถถถ) มีแวบนึงในความคิดที่จะพูดออกไป แต่มันก็ชะงักลงเพราะเพื่อนเริ่มรุ่มพูดๆด่าๆ ตอนนนั้นมันเลยไม่ออกมา เรายอมรับว่าเราแย่มาก แถมพอเราออกจากกลุ่มนั้นก็หมายความว่าเราตอนนั้น ไม่มีเพื่อนแล้ว เพราะเพื่อนสมัยประถมก็ไมไ่ด้อะไรกันแล้ว เพื่อนของเราหมายถึงคือที่อยุ่ด้วยแล้วเป็นตัวเอง
ตั้งแต่นั้นมาเราก็อยู่คนเดียวตลอด โนวเอนี่เฟรนน
ตอนนนี้เราพึงมาเห็นค่าคำว่าเพื่อนที่ให้เรามาแต่เรากลับไม่สนใจมันตอนที่เราท้อเราพูดว่าเราไม่เหลือใครก็มีเพื่อนพวกนี้คอยอยู่ใกล้ๆในวันที่เราร้องไห้ที่เราไม่สามารถบอกให้ผู้ใหญ่นั้นรับรู้ได้ก็มีเพื่อนพวกนี้ที่เข้าใจเราและยืนข้างๆเราตลอดเราอยากรู้อะไรหรือไมู่้อะไรพวกนี้ก็จะคอยบอกแนะนำให้อยู่ตลอดแต่มีแต่เราเนียแหละที่ไม่เคยเห็นค่าาสิ่งพวกนี้เลย ตั้งแต่ที่เราอยู่คนเดียวก็ทำให้รู้ว่ามันไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลยแถมทุกอย่างก็แย่ลง
ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายเดือนมากๆแล้วคงไม่มีวันนั้นแล้ว
ขอพื้นที่ให้เด็กคนนึงระบายด้วยคร้าาาาาาาา