ผมพยายามจะตีความให้เข้าใจให้ได้ แต่ก็ยังงง ๆ อยู่ เท่าที่ผมเข้าใจคือยมทูตมาทำหน้าที่ของมันคือมาเอาชีวิตของคนที่ถึงเวลาไป ซึ่งก็คืออัศวินที่ผ่านสงครามมา แต่อัศวินต่อรองโดยขอเล่นหมากรุก และถ้าชนะจะขอต่อชีวิตไประยะหนึ่ง แล้วอัศวินก็ชนะ

          คราวนี้พอเขาได้เข้าเมืองและได้พบเจอผู้คนที่มีเรื่องราวไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่สามารถหนีรอดความตายที่ยมทูตเอามาให้ และฉากใกล้จบที่อัศวินแกล้งล้มกระดาน แต่ยมทูตก็รื้อขึ้นมาและเล่นหมากรุกชนะอัศวินได้พร้อมกับปล่อยไปและบอกว่า "ถ้าเจอคราวหน้า ข้าจะเอาชีวิตเจ้ากับเพื่อน ๆ" และตอนจบที่ทุกคนก็ได้พบกับยมทูต ยกเว้นแค่ผัวเมียและลูกคณะละครที่หลบหนียมทูตและรอดชีวิตไปได้ ก่อนที่จะถูกยมทูตเอาชีวิตไป อัศวินสวดร้องขอพระเจ้า แต่องครักษ์ก็บอกว่า "เรียกร้องหาพระเจ้าในตอนที่เลวร้ายจะไม่มีใครได้ยินหรอก" แต่ผัวเมียและลูกคณะละครรอดชีวิตได้ เพราะเขาศรัทธาและร้องหาพระเจ้าเสมอ โดยเฉพาะฉากต้น ๆ เรื่อง ที่เขาเห็นนิมิตว่าพระแม่มารีย์เดินผ่านเขาไป แม้จะถูกเมียด่าว่าเพ้อเจ้อแต่เขาก็ยังเรียกหาเสมอจนศรัทธาช่วยให้ชีวิตคงอยู่ได้

          เหมือนสอนว่า "ทุกคนล้วนต้องพบเจอกับความตาย" และออกเชิงศาสนาถึงความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า แบบนี้หรือเปล่าครับ?
          รู้สึกว่าดูเรื่องนี้แล้วท้าทายการรับชมมาก ขอ Tag ศาสนาคริสต์ด้วยนะครับ เผื่อมีชาวคริสต์เคยชมเรื่องนี้ด้วย