Harley-Davidson Street Rod พร้อมทะยาน ด้วยการควบคุมที่คล่องตัว
Harley-Davidson นับได้ว่าเป็นแบรนด์นึงที่เติบโตมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1903 หรือนับได้ถึงปัจจุบัน (ปี 2017) ก็ 114 ขวบเต็ม
กับการก้าวข้ามผ่านช่วงเวลา และพบกับมรสุมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก
ซึ่งทำให้ Harley-Davidson ได้มีส่วนร่วมในการบันทึกประวัติศาสตร์ของอเมริกาผ่านมอเตอร์ไซค์ของตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง
จนนับได้ว่าถ้านึกถึงมอเตอร์ไซค์จากอเมริกา ต้องนึกถึง Harley-Davidson เป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว
Harley-Davidson นับได้ว่าเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์แบรนด์นึงที่ฝังรากลึกของคำว่า “ปลายทาง” ของมอเตอร์ไซค์
อยู่ในใจของใครหลายๆคน และน่าจะเป็นแบรนด์ไม่กี่แบรนด์ที่ผู้ขับขี่ เต็มใจ ที่จะใช้โลโก้ของ Harley-Davidson
มาประดับไปในอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการสักลงบนร่างกายของตัวเอง
หลายๆคนอาจจะมองภาพลักษณ์ของ Harley-Davidson ว่าจะต้องเป็นกลุ่มผู้ขับขี่ร่างกายสูงใหญ่ หน้าโหดๆ ใส่ชุดหนัง
พร้อมเสียงคำรามของเครื่องยนต์ ล่องลอยไป ..บนถนนหนทาง ซุปเปอร์ไฮเวย์ .. (เดี๋ยว !!!) ซึ่งเป็นส่วนนึงที่ทำให้
ในช่วงปี 2014 มีการเปิดตัว Harley-Davidson Street 750 ที่มุ่งเน้นไปกับการใช้งานขับขี่ที่ครอบคลุม หลากหลาย
ใช้งานได้จริงมากขึ้นในชีวิตประจำวัน พร้อมส่งอารมณ์ และการขับขี่บนแบรนด์ที่จะเรียกว่า “ตำนานที่เต็มเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์”
ให้กับเหล่าผู้ขับขี่ได้เข้ามาสัมผัสได้ง่ายขึ้น
หลังจากที่ Street 750 ลงขายในตลาดโลกได้ไม่นาน Harley-Davidson ก็มีความคิดขึ้นมาว่า “ถ้าเราคัสตอม Street 750 หล่ะ?”
ซึ่งได้ออกมาเป็นรถ 3 คันที่ใช้ชื่อว่า Garage, Urban Custom และ RDX 800 ซึ่งเจ้า RDX 800 นี่เองแหล่ะครับ
ที่กลายมาเป็นต้นแบบของ Street Rod หรือจะมองว่าเป็น Street 750 Gen 2 ก็ไม่ผิดนัก ที่ตกแต่งคัสตอมจนออกมาขายจริงในปีนี้นี่เอง
ในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ Harley-Davidson Thailand และ Harley-Davidson Asia ที่ให้เกียรติกับผม
ได้เป็นส่วนนึงในการออกไปเดินทางเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ครั้งแรกในเอเชีย และร่วมการขับขี่ไปบนเกาะที่ชื่อว่า สิงค์โปร์
ในแบบ “ทั่วทั้งเกาะ” ให้ได้ฝ่าการจราจรที่ติดขัด ออกไปหาเส้นทางที่ร่มรื่นสลับทางโค้ง และเส้นทางเลียบชายทะเลที่สวยงาม
นอกจากนั้นยังนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของผมเองเลยหล่ะครับที่ได้ขึ้นมาอยู่บนเครื่องยนต์ V-Twin
จากแบรนด์ที่ชื่อ Harley-Davidson อย่างเป็นทางการ
สำหรับเส้นทางในคราวนี้เท่าที่ผมพอจะจำได้นะครับ เนื่องจากขับขี่ไม่ตรงกับ Route ที่วางไว้มีการวิ่งอ้อมบ้างเล็กน้อย
เพื่อหลบหลีกสายฝนที่กำลังกระหน่ำช่วงบริเวณกลางเกาะ (เรียกว่าได้ขี่เพิ่มขึ้นอีกนิดนึง นิดเดียว)
คราวนี้มากับหัวข้อที่ครอบคลุมไปบน Harley-Davidson Street Rod คันนี้ ตามนี้เลย
* รูปลักษณ์ทั่วไป
* รายละเอียดทางเทคนิคที่น่าสนใจ
* สัดส่วนคน และรถ
* การขับขี่ในสภาพถนนต่างๆ
* อัตราสิ้นเปลือง
* ข้อดี/ข้อเสีย/ข้อสังเกต
* น่าจะเหมาะกับ
* สรุป
จิ้ม "+" เบาๆด้านล่างซ้าย นับว่าเป็นกำลังใจได้อย่างดีเลยหล่ะครับ
[SR] [Review] รีวิว Haryley-Davidson Street Rod บนการขับขี่สั้นๆ รอบเกาะเล็กๆ แต่ครบครันกับทุกสภาพการใช้งาน
Harley-Davidson นับได้ว่าเป็นแบรนด์นึงที่เติบโตมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1903 หรือนับได้ถึงปัจจุบัน (ปี 2017) ก็ 114 ขวบเต็ม
กับการก้าวข้ามผ่านช่วงเวลา และพบกับมรสุมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก
ซึ่งทำให้ Harley-Davidson ได้มีส่วนร่วมในการบันทึกประวัติศาสตร์ของอเมริกาผ่านมอเตอร์ไซค์ของตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง
จนนับได้ว่าถ้านึกถึงมอเตอร์ไซค์จากอเมริกา ต้องนึกถึง Harley-Davidson เป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว
Harley-Davidson นับได้ว่าเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์แบรนด์นึงที่ฝังรากลึกของคำว่า “ปลายทาง” ของมอเตอร์ไซค์
อยู่ในใจของใครหลายๆคน และน่าจะเป็นแบรนด์ไม่กี่แบรนด์ที่ผู้ขับขี่ เต็มใจ ที่จะใช้โลโก้ของ Harley-Davidson
มาประดับไปในอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการสักลงบนร่างกายของตัวเอง
หลายๆคนอาจจะมองภาพลักษณ์ของ Harley-Davidson ว่าจะต้องเป็นกลุ่มผู้ขับขี่ร่างกายสูงใหญ่ หน้าโหดๆ ใส่ชุดหนัง
พร้อมเสียงคำรามของเครื่องยนต์ ล่องลอยไป ..บนถนนหนทาง ซุปเปอร์ไฮเวย์ .. (เดี๋ยว !!!) ซึ่งเป็นส่วนนึงที่ทำให้
ในช่วงปี 2014 มีการเปิดตัว Harley-Davidson Street 750 ที่มุ่งเน้นไปกับการใช้งานขับขี่ที่ครอบคลุม หลากหลาย
ใช้งานได้จริงมากขึ้นในชีวิตประจำวัน พร้อมส่งอารมณ์ และการขับขี่บนแบรนด์ที่จะเรียกว่า “ตำนานที่เต็มเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์”
ให้กับเหล่าผู้ขับขี่ได้เข้ามาสัมผัสได้ง่ายขึ้น
หลังจากที่ Street 750 ลงขายในตลาดโลกได้ไม่นาน Harley-Davidson ก็มีความคิดขึ้นมาว่า “ถ้าเราคัสตอม Street 750 หล่ะ?”
ซึ่งได้ออกมาเป็นรถ 3 คันที่ใช้ชื่อว่า Garage, Urban Custom และ RDX 800 ซึ่งเจ้า RDX 800 นี่เองแหล่ะครับ
ที่กลายมาเป็นต้นแบบของ Street Rod หรือจะมองว่าเป็น Street 750 Gen 2 ก็ไม่ผิดนัก ที่ตกแต่งคัสตอมจนออกมาขายจริงในปีนี้นี่เอง
ในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ Harley-Davidson Thailand และ Harley-Davidson Asia ที่ให้เกียรติกับผม
ได้เป็นส่วนนึงในการออกไปเดินทางเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ครั้งแรกในเอเชีย และร่วมการขับขี่ไปบนเกาะที่ชื่อว่า สิงค์โปร์
ในแบบ “ทั่วทั้งเกาะ” ให้ได้ฝ่าการจราจรที่ติดขัด ออกไปหาเส้นทางที่ร่มรื่นสลับทางโค้ง และเส้นทางเลียบชายทะเลที่สวยงาม
นอกจากนั้นยังนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของผมเองเลยหล่ะครับที่ได้ขึ้นมาอยู่บนเครื่องยนต์ V-Twin
จากแบรนด์ที่ชื่อ Harley-Davidson อย่างเป็นทางการ
สำหรับเส้นทางในคราวนี้เท่าที่ผมพอจะจำได้นะครับ เนื่องจากขับขี่ไม่ตรงกับ Route ที่วางไว้มีการวิ่งอ้อมบ้างเล็กน้อย
เพื่อหลบหลีกสายฝนที่กำลังกระหน่ำช่วงบริเวณกลางเกาะ (เรียกว่าได้ขี่เพิ่มขึ้นอีกนิดนึง นิดเดียว)
* รูปลักษณ์ทั่วไป
* รายละเอียดทางเทคนิคที่น่าสนใจ
* สัดส่วนคน และรถ
* การขับขี่ในสภาพถนนต่างๆ
* อัตราสิ้นเปลือง
* ข้อดี/ข้อเสีย/ข้อสังเกต
* น่าจะเหมาะกับ
* สรุป