ขอขอบคุณ..คอลัมน์ กวนน้ำให้ใส จาก นสพ.แนวหน้าค่ะ..
เชิญติดตามเลยนะคะ....👇
🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢
เมื่อวานนี้ กองทัพเรือแจกแจงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ละเอียดยิบ
แถมเปิดให้สื่อมวลชนซักถามแบบเต็มเหนี่ยว
ขนาดว่าในยุครัฐบาลชุดก่อน ที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง เมื่ออนุมัติจัดซื้ออาวุธ ก็ไม่เคยชี้แจงแถลงไข เปิดให้ซักถามได้ขนาดนี้
1. กองทัพเรือยืนยัน เรือดำน้ำตอบโจทย์ภารกิจงานความมั่นคง
กระบวนการคัดเลือกละเอียดยิบ ก่อนจะลงเอยที่เรือจีน โดยฝ่ายกลาโหมของจีนยืนยันพร้อมสนับสนุนบริการหลังการขายด้วย เปรียบเทียบแล้ว เห็นว่าคุ้ม จึงเลือก
สรุปประเด็นน่าสนใจทางเทคนิคคร่าวๆ เช่น
เรือดำน้ำแบบ S26T มีขีดความสามารถในการซ่อนพรางตัวเองสูงมาก อยู่ใต้น้ำได้นานกว่าถึง 5 เท่า เนื่องจากมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนที่ไม่ใช้อากาศจากภายนอก หรือระบบ AIP (Air Independent Propulsion System) หรือหมายถึงไม่ขึ้นมาหายใจ แต่สามารถเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขณะดำอยู่ใต้น้ำได้ ทำให้ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม เพราะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกำลังทางเรือฝ่ายตรงข้ามได้
ระบบอาวุธมีหลากหลายและรุนแรง ตอร์ปิโดยิงจากท่อตอร์ปิโด สามารถยิงอาวุธปล่อยนำวิถีใต้น้ำสู่พื้นหรือสู่เป้าหมายบนฝั่งได้ด้วย รวมทั้งยังออกแบบให้สามารถวางทุ่นระเบิดได้อีก จะทำให้กองทัพเรือมีขีดความสามารถในการสู้รบเพิ่มมากขึ้นอย่างยิ่ง
ด้านความปลอดภัยของคนทำงานในเรือดำน้ำ ภายในตัวเรือดำน้ำแบบ S26T ได้ออกแบบให้แบ่งเป็นห้องหรือ Compartment ย่อยๆ ที่กันน้ำ เมื่อมีเหตุการณ์น้ำเข้าเรือห้องใดห้องหนึ่งเรือก็ยังมีแรงลอยตัวสำรองมากพอที่สามารถนำเรือขึ้นสู่ผิวน้ำได้ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นในห้องใดห้องหนึ่ง กำลังพลของเรือก็ยังสามารถย้ายไปยังห้องอื่น เพื่อรอคอยความช่วยเหลือจากยานกู้ภัยเรือดำน้ำหรือจากหน่วยที่ให้ความช่วยเหลือได้ ปัจจุบัน ยานช่วยชีวิตหรือยานกู้ภัยเรือดำน้ำสามารถให้การช่วยเหลือเรือดำน้ำที่ประสบเหตุได้ถึงความลึก กว่า 500 เมตร โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหนีออกจากเรือดำน้ำ เนื่องจากการหนีออกจากเรือดำน้ำเองนั้นเสี่ยงอันตรายมาก
ด้านการฝึกอบรมกำลังพล จะได้รับการฝึกอบรมเป็นขั้นเป็นตอนจากกองทัพเรือจีน ซึ่งมีประสบการณ์การฝึกอบรมมากว่า 60 ปี มีกำลังพลที่ผ่านการอบรมแล้วกว่า 80,000 นาย กองทัพจีนจะทำการฝึกและควบคุมการฝึก ตลอดระยะเวลาการฝึกอบรมทั้งสิ้นประมาณ 2 ปี
นอกจากการรับประกันหลังการส่งมอบระยะเวลา 2 ปี ที่บริษัทอื่นไม่ได้เสนอแล้ว มีการรับประกันเปลี่ยนอะไหล่ที่ชำรุด ในวงรอบ 8 ปี รวมการสนับสนุนอะไหล่ที่ต้องการสำหรับการทำการตรวจสภาพเรือตามวงรอบถึง 5 ครั้ง (3 Dock check และ 2 Minor overhaul) สนับสนุนเจ้าหน้าที่เทคนิคมาประจำที่กองเรือดำน้ำ ตลอดช่วงเวลารับประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี
2. กองทัพเรือยังชี้แจงข้อมูลการพัฒนากำลังรบของประเทศที่มีเขตแดนติดกับประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ระบุว่า มาเลเซียจะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี 20 ลำ เรือดำน้ำ 2 ลำ, สิงคโปร์จะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี
12 ลำ เรือดำน้ำ 6 ลำ, เวียดนามจะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี 20 ลำ เรือดำน้ำ
6 ลำ, เมียนมาจะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี 38 ลำ เรือดำน้ำ 4 ลำ
3. แต่ประเด็นที่น่าสนใจหลังจากนี้ แม้จะยอมรับว่ามีความจำเป็น จะต้องจัดซื้อ และกองทัพเรือระบุว่า จะเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจีจากจีน
แต่คำถามล่าสุด คือ กระบวนการจัดซื้อถูกต้องหรือไม่?
เป็นจีทูจีที่ถูกต้อง หรือไม่?
สำนักข่าวอิศราได้แย้มข้อมูลที่น่าค้นหา เรื่อง “ตัวเบื้องหลังความสำเร็จแห่งการ “ดำ” อย่างโปร่งใส”
ผู้เขียนชื่อ “มนัส”
ใจความสำคัญบางตอน ระบุว่า แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารเรือและคณะกำลังจะบินด่วนไปลงนามในสัญญาที่สาธารณรัฐประชาชนจีนทันที ภายหลังจากการชี้แจงของกองทัพเรือในวันที่ 1 พ.ค. นี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเร่งรัดให้โครงการดังกล่าวเป็นพันธะผูกพันโดยเร็วที่สุด
“เปิดตัวเบื้องหลังความสำเร็จ...
นายสันติ อำนวยพล และนายชินะวัฒน์ อำนวยพล ตัวแทนบริษัท ณัติพล จำกัด ที่เป็นตัวกลางของบริษัท CSOC ขายเรือดำน้ำจีนให้กองทัพเรือ
บริษัท ณัติพล จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทตัวแทนขายลูกปืนรายใหญ่ให้กับกองทัพ จดทะเบียนเมื่อ 15 มิ.ย. 2516 ทุน 3 ล้านบาท
ประกอบธุรกิจ ให้เช่าอาคาร รับเหมาก่อสร้างอาคาร
ผู้ถือหุ้นใหญ่คือนายอาณัติ อำนวยพล และนางเทพินทร์ ทัฬหิกรณ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ที่ตั้งเลขที่ 1371 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
โดยนายอาณัติ อำนวยพล เคยทำธุรกิจร่วมกับ บริษัท สหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายสมบัติ พานิชชีวะ เจ้าของดอนเมืองโทลล์เวย์ และนายทหารระดับสูงคนหนึ่ง เคยขายกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 17,086,473 นัด วงเงิน 188 ล้านบาท เมื่อ 31 มี.ค. 2553
ในวันที่ 15 ธ.ค. 2555 นายอาณัติ อำนวยพล ได้บริจาคเงินจำนวน 2 ล้านบาท ให้กับ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เป็นผู้รับมอบ”
คำถาม คือ บริษัทดังกล่าว เป็นตัวแทนรัฐบาลจีนหรือไม่?
การจัดซื้อครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับบริษัทข้างต้นหรือไม่? อย่างไร?
หากการซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ มีตัวกลางผ่านบริษัทดังกล่าว ถือว่าเป็นจีทูจีหรือไม่?
ประเด็นเหล่านี้ จะต้องมีคำชี้แจงต่อไป
4. น่าสนใจว่า หากจะเทียบเคียงการซื้อเรือดำน้ำจีทูจีจากจีน ในยุคนี้ กับการขายข้าวจีทูจีให้จีน ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะเป็นอย่างไร?
ประการสำคัญ จีทูจียุคยิ่งลักษณ์ถูก ป.ป.ช.ไต่สวนชี้มูลแล้วด้วยมติเอกฉันท์ว่า จีทูจีเก๊ ข้าวไม่ได้ส่งออกไปจีนจริงๆ แต่ขายให้พ่อค้าข้าวในประเทศ โดยไม่เปิดประมูลต่ำกว่าราคาตลาด เกิดความเสียหายแก่รัฐกว่า 20,000 ล้านบาท
(ลอตแรก) ส่วนอีกลอตใหญ่ ป.ป.ช.ยังไต่สวนอยู่
แต่กรณีซื้อเรือดำน้ำจีทูจีจากจีน ยังไม่ได้เซ็นสัญญา ยังไม่ได้ถูกตรวจสอบว่าจีทูจีจริงถูกต้องหรือไม่?
ข้อสังเกต คือ ถ้าไม่ใช่จีทูจีจริง กองทัพจีนจะยอมขายให้กองทัพเรือหรอกหรือ?
หากมีข้อสงสัย ก็สามารถยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบได้
ส่วนกรณีข้าวจีทูจียุครัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ในการไต่สวนของ ป.ป.ช. พบว่า มีการทุจริตการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) กับบริษัทไห่หนาน และบริษัทกวางตุ้ง
พูดง่ายๆ ว่า แสดงเป็นการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีบังหน้า แต่แท้จริงเป็นการหากินกับข้าวในโครงการของรัฐโดยนักธุรกิจใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล อาศัยการเอื้ออำนวยประโยชน์ของคนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ซื้อข้าวจากรัฐราคาต่ำกว่า
ท้องตลาดแล้วนำไปขายต่อในประเทศ ทำให้รัฐเสียหาย เพราะได้เงินค่าข้าวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียนกลับมาใช้จ่ายในโครงการจำนำข้าว ไม่มีเงินไปจ่ายค่าข้าวชาวนา ทำให้โครงการจำนำข้าวขาดทุนมากกว่าที่ควรจะเป็น
ขณะนี้ คดีอาญากรณีข้าวจีทูจี ยังอยู่ในชั้นศาล
ส่วนการเรียกค่าสินไหมทดแทนกว่า 20,000 ล้านบาท ก็อยู่ในขั้นตอนการบังคับคดี โดยมีการอายัดการทำนิติกรรมทรัพย์สินของนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง จำนวนหลายรายการ
หากการซื้อเรือดำน้ำจีทูจีจากจีน ลำแรก 13,500 ล้านบาท บังอาจว่ามีการจีทูจีเก๊ ก็จะต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี บนมาตรฐานเดียวกันต่อไป
แต่ขณะนี้ กองทัพเรือยืนยันว่าเป็นจีทูจีที่จะดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
สารส้ม
http://m.naewna.com/view/columntoday/29535
((มาลาริน)) ^_^ วันนี้ขอเสนอบทความน่าอ่านสำหรับผู้สนใจค่ะ...แตกต่างกันอย่างไร...ซื้อเรือดำน้ำจีทูจี กับขายข้าวจีทูจี
เชิญติดตามเลยนะคะ....👇
🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢🚢
เมื่อวานนี้ กองทัพเรือแจกแจงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ละเอียดยิบ
แถมเปิดให้สื่อมวลชนซักถามแบบเต็มเหนี่ยว
ขนาดว่าในยุครัฐบาลชุดก่อน ที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง เมื่ออนุมัติจัดซื้ออาวุธ ก็ไม่เคยชี้แจงแถลงไข เปิดให้ซักถามได้ขนาดนี้
1. กองทัพเรือยืนยัน เรือดำน้ำตอบโจทย์ภารกิจงานความมั่นคง
กระบวนการคัดเลือกละเอียดยิบ ก่อนจะลงเอยที่เรือจีน โดยฝ่ายกลาโหมของจีนยืนยันพร้อมสนับสนุนบริการหลังการขายด้วย เปรียบเทียบแล้ว เห็นว่าคุ้ม จึงเลือก
สรุปประเด็นน่าสนใจทางเทคนิคคร่าวๆ เช่น
เรือดำน้ำแบบ S26T มีขีดความสามารถในการซ่อนพรางตัวเองสูงมาก อยู่ใต้น้ำได้นานกว่าถึง 5 เท่า เนื่องจากมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนที่ไม่ใช้อากาศจากภายนอก หรือระบบ AIP (Air Independent Propulsion System) หรือหมายถึงไม่ขึ้นมาหายใจ แต่สามารถเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขณะดำอยู่ใต้น้ำได้ ทำให้ได้เปรียบฝ่ายตรงข้าม เพราะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกำลังทางเรือฝ่ายตรงข้ามได้
ระบบอาวุธมีหลากหลายและรุนแรง ตอร์ปิโดยิงจากท่อตอร์ปิโด สามารถยิงอาวุธปล่อยนำวิถีใต้น้ำสู่พื้นหรือสู่เป้าหมายบนฝั่งได้ด้วย รวมทั้งยังออกแบบให้สามารถวางทุ่นระเบิดได้อีก จะทำให้กองทัพเรือมีขีดความสามารถในการสู้รบเพิ่มมากขึ้นอย่างยิ่ง
ด้านความปลอดภัยของคนทำงานในเรือดำน้ำ ภายในตัวเรือดำน้ำแบบ S26T ได้ออกแบบให้แบ่งเป็นห้องหรือ Compartment ย่อยๆ ที่กันน้ำ เมื่อมีเหตุการณ์น้ำเข้าเรือห้องใดห้องหนึ่งเรือก็ยังมีแรงลอยตัวสำรองมากพอที่สามารถนำเรือขึ้นสู่ผิวน้ำได้ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นในห้องใดห้องหนึ่ง กำลังพลของเรือก็ยังสามารถย้ายไปยังห้องอื่น เพื่อรอคอยความช่วยเหลือจากยานกู้ภัยเรือดำน้ำหรือจากหน่วยที่ให้ความช่วยเหลือได้ ปัจจุบัน ยานช่วยชีวิตหรือยานกู้ภัยเรือดำน้ำสามารถให้การช่วยเหลือเรือดำน้ำที่ประสบเหตุได้ถึงความลึก กว่า 500 เมตร โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหนีออกจากเรือดำน้ำ เนื่องจากการหนีออกจากเรือดำน้ำเองนั้นเสี่ยงอันตรายมาก
ด้านการฝึกอบรมกำลังพล จะได้รับการฝึกอบรมเป็นขั้นเป็นตอนจากกองทัพเรือจีน ซึ่งมีประสบการณ์การฝึกอบรมมากว่า 60 ปี มีกำลังพลที่ผ่านการอบรมแล้วกว่า 80,000 นาย กองทัพจีนจะทำการฝึกและควบคุมการฝึก ตลอดระยะเวลาการฝึกอบรมทั้งสิ้นประมาณ 2 ปี
นอกจากการรับประกันหลังการส่งมอบระยะเวลา 2 ปี ที่บริษัทอื่นไม่ได้เสนอแล้ว มีการรับประกันเปลี่ยนอะไหล่ที่ชำรุด ในวงรอบ 8 ปี รวมการสนับสนุนอะไหล่ที่ต้องการสำหรับการทำการตรวจสภาพเรือตามวงรอบถึง 5 ครั้ง (3 Dock check และ 2 Minor overhaul) สนับสนุนเจ้าหน้าที่เทคนิคมาประจำที่กองเรือดำน้ำ ตลอดช่วงเวลารับประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี
2. กองทัพเรือยังชี้แจงข้อมูลการพัฒนากำลังรบของประเทศที่มีเขตแดนติดกับประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ระบุว่า มาเลเซียจะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี 20 ลำ เรือดำน้ำ 2 ลำ, สิงคโปร์จะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี
12 ลำ เรือดำน้ำ 6 ลำ, เวียดนามจะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี 20 ลำ เรือดำน้ำ
6 ลำ, เมียนมาจะมีเรือผิวน้ำติดอาวุธปล่อยนำวิถี 38 ลำ เรือดำน้ำ 4 ลำ
3. แต่ประเด็นที่น่าสนใจหลังจากนี้ แม้จะยอมรับว่ามีความจำเป็น จะต้องจัดซื้อ และกองทัพเรือระบุว่า จะเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจีจากจีน
แต่คำถามล่าสุด คือ กระบวนการจัดซื้อถูกต้องหรือไม่?
เป็นจีทูจีที่ถูกต้อง หรือไม่?
สำนักข่าวอิศราได้แย้มข้อมูลที่น่าค้นหา เรื่อง “ตัวเบื้องหลังความสำเร็จแห่งการ “ดำ” อย่างโปร่งใส”
ผู้เขียนชื่อ “มนัส”
ใจความสำคัญบางตอน ระบุว่า แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารเรือและคณะกำลังจะบินด่วนไปลงนามในสัญญาที่สาธารณรัฐประชาชนจีนทันที ภายหลังจากการชี้แจงของกองทัพเรือในวันที่ 1 พ.ค. นี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเร่งรัดให้โครงการดังกล่าวเป็นพันธะผูกพันโดยเร็วที่สุด
“เปิดตัวเบื้องหลังความสำเร็จ...
นายสันติ อำนวยพล และนายชินะวัฒน์ อำนวยพล ตัวแทนบริษัท ณัติพล จำกัด ที่เป็นตัวกลางของบริษัท CSOC ขายเรือดำน้ำจีนให้กองทัพเรือ
บริษัท ณัติพล จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทตัวแทนขายลูกปืนรายใหญ่ให้กับกองทัพ จดทะเบียนเมื่อ 15 มิ.ย. 2516 ทุน 3 ล้านบาท
ประกอบธุรกิจ ให้เช่าอาคาร รับเหมาก่อสร้างอาคาร
ผู้ถือหุ้นใหญ่คือนายอาณัติ อำนวยพล และนางเทพินทร์ ทัฬหิกรณ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ที่ตั้งเลขที่ 1371 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
โดยนายอาณัติ อำนวยพล เคยทำธุรกิจร่วมกับ บริษัท สหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายสมบัติ พานิชชีวะ เจ้าของดอนเมืองโทลล์เวย์ และนายทหารระดับสูงคนหนึ่ง เคยขายกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 17,086,473 นัด วงเงิน 188 ล้านบาท เมื่อ 31 มี.ค. 2553
ในวันที่ 15 ธ.ค. 2555 นายอาณัติ อำนวยพล ได้บริจาคเงินจำนวน 2 ล้านบาท ให้กับ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เป็นผู้รับมอบ”
คำถาม คือ บริษัทดังกล่าว เป็นตัวแทนรัฐบาลจีนหรือไม่?
การจัดซื้อครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับบริษัทข้างต้นหรือไม่? อย่างไร?
หากการซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ มีตัวกลางผ่านบริษัทดังกล่าว ถือว่าเป็นจีทูจีหรือไม่?
ประเด็นเหล่านี้ จะต้องมีคำชี้แจงต่อไป
4. น่าสนใจว่า หากจะเทียบเคียงการซื้อเรือดำน้ำจีทูจีจากจีน ในยุคนี้ กับการขายข้าวจีทูจีให้จีน ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะเป็นอย่างไร?
ประการสำคัญ จีทูจียุคยิ่งลักษณ์ถูก ป.ป.ช.ไต่สวนชี้มูลแล้วด้วยมติเอกฉันท์ว่า จีทูจีเก๊ ข้าวไม่ได้ส่งออกไปจีนจริงๆ แต่ขายให้พ่อค้าข้าวในประเทศ โดยไม่เปิดประมูลต่ำกว่าราคาตลาด เกิดความเสียหายแก่รัฐกว่า 20,000 ล้านบาท
(ลอตแรก) ส่วนอีกลอตใหญ่ ป.ป.ช.ยังไต่สวนอยู่
แต่กรณีซื้อเรือดำน้ำจีทูจีจากจีน ยังไม่ได้เซ็นสัญญา ยังไม่ได้ถูกตรวจสอบว่าจีทูจีจริงถูกต้องหรือไม่?
ข้อสังเกต คือ ถ้าไม่ใช่จีทูจีจริง กองทัพจีนจะยอมขายให้กองทัพเรือหรอกหรือ?
หากมีข้อสงสัย ก็สามารถยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบได้
ส่วนกรณีข้าวจีทูจียุครัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ในการไต่สวนของ ป.ป.ช. พบว่า มีการทุจริตการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) กับบริษัทไห่หนาน และบริษัทกวางตุ้ง
พูดง่ายๆ ว่า แสดงเป็นการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีบังหน้า แต่แท้จริงเป็นการหากินกับข้าวในโครงการของรัฐโดยนักธุรกิจใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาล อาศัยการเอื้ออำนวยประโยชน์ของคนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ซื้อข้าวจากรัฐราคาต่ำกว่า
ท้องตลาดแล้วนำไปขายต่อในประเทศ ทำให้รัฐเสียหาย เพราะได้เงินค่าข้าวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียนกลับมาใช้จ่ายในโครงการจำนำข้าว ไม่มีเงินไปจ่ายค่าข้าวชาวนา ทำให้โครงการจำนำข้าวขาดทุนมากกว่าที่ควรจะเป็น
ขณะนี้ คดีอาญากรณีข้าวจีทูจี ยังอยู่ในชั้นศาล
ส่วนการเรียกค่าสินไหมทดแทนกว่า 20,000 ล้านบาท ก็อยู่ในขั้นตอนการบังคับคดี โดยมีการอายัดการทำนิติกรรมทรัพย์สินของนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง จำนวนหลายรายการ
หากการซื้อเรือดำน้ำจีทูจีจากจีน ลำแรก 13,500 ล้านบาท บังอาจว่ามีการจีทูจีเก๊ ก็จะต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี บนมาตรฐานเดียวกันต่อไป
แต่ขณะนี้ กองทัพเรือยืนยันว่าเป็นจีทูจีที่จะดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
สารส้ม
http://m.naewna.com/view/columntoday/29535