คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
การสงวนสิทธิบอกเลิกสัญญา ยกเลิกสัญญา หรือใช้สิทธิเจรจาเงื่อนไขกันใหม่เมื่อเกิด "force majeure" หรือเหตุสุดวิสัย จัดเป็นเงื่อนไขปกติทั่วไป (boilerplate covenant) ในการทำสัญญาแทบทุกชนิด เพราะคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครมองเห็นอนาคตได้ว่า จะเกิดเหตุสุดวิสัยอะไรที่ทำให้การทำตามสัญญา "ไม่คุ้มค่า" หรือ "เสียหาย" หรือเปลี่ยนลำดับความสำคัญอะไรหรือไม่
การก้มหน้าจ่ายเงินตามสัญญาต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง แม้ในภาวะที่เกิด force majeure ที่กระทบต่อฐานะทางการเงินของผู้จ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่ "ไร้เหตุผล" อย่างสิ้นเชิง จึงนับเป็น "เบาะแส" ชั้นดีที่ส่อพิรุธว่า อาจมีความไม่ชอบมาพากลหรือการทุจริตในการทำสัญญา
สัญญาซื้อขายอาวุธก็เช่นกัน
การก้มหน้าจ่ายเงินตามสัญญาต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง แม้ในภาวะที่เกิด force majeure ที่กระทบต่อฐานะทางการเงินของผู้จ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่ "ไร้เหตุผล" อย่างสิ้นเชิง จึงนับเป็น "เบาะแส" ชั้นดีที่ส่อพิรุธว่า อาจมีความไม่ชอบมาพากลหรือการทุจริตในการทำสัญญา
สัญญาซื้อขายอาวุธก็เช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
ศรีสุวรรณ ขย้ำผบ.ทร.ถอยเรือยกพลขึ้นบก จี้นายกฯปลดเซ่นซื้อจีน
https://www.naewna.com/politic/483216
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีปรากฏการเผยแพร่เอกสารการนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในวันที่ 31 มี.ค.63 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดหาเรือเอนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำมูลค่า มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 6,200 ล้านบาท) จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไทยอยู่ในขณะนี้นั้น
การเสนอใช้เงินภาษีของประชาชนจำนวนมหาศาลไม่ใช่เรื่องใหม่ของกองทัพเรือในยุคนี้ แม้ประเทศจะมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพงก็ตาม หากแต่กองทัพเรือกลับไม่ยี่หระต่อข้อครหาของประชาชน ยังเดินหน้าขอจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำมูลค่า 36,000 ล้านบาท(ลำแรกราคา 13,500 ล้านบาท) รวมทั้งการสร้างบ้านพักรับรอง ผบ.ทร.ริมแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่า 112 ล้านบาทอีกด้วย ดังนั้นการจัดซื้อจัดหาเรือลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก (Landing Platform Dock หรือ LPD) จากจีนจึงไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย และได้ลงนามซื้อไปแล้วเมื่อ 9 ก.ย.62 แม้ที่ผ่านมา กองทัพเรือไทยมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบกขนาดใหญ่อยู่ลำหนึ่งอยู่แล้วคือ เรือหลวงอ่างทองก็ตาม
กองทัพเรือเคยได้รับคำชื่นชมจากประชาชนอยู่เสมอๆในความเป็นสุภาพบุรุษในวิกฤตการณ์ทางการเมืองหลายๆครั้งที่ผ่านมา แต่ในยามที่คนไทยทั้งประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ กลับมีความพยายามที่จะนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการในเรื่องต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดหาเรือลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก เพื่อรองรับเรือดำน้ำที่ผู้คนก่นด่ากันทั้งแผ่นดินให้จงได้ แม้จะพยายามออกมาแก้ข่าวว่าได้ถอนเรื่องออกไปจาก ครม.แล้วก็ตาม แต่ ณ วันหนึ่งก็ต้องนำเรื่องเข้า ครม.อีก ไม่ได้เลิกไปโดยถาวร
https://www.nationtv.tv/main/content/378768210/?utm_source=grf-eng&utm_medium=partner&utm_campaign=giraff.io
ด่าเละ....หลังชง ครม.ซื้อ "เรือยกพลขึ้นบก" ถามเหมาะสมหรือ?
https://www.youtube.com/watch?v=Q1tg-8oAr2k <---
สื่อสลิ่มรายงาน มีการซื้อ เรือ มูลค่า 6 พันล้าน จริง สาธารณะชนเพิ่งให้ความสนใจ
สรุปว่า ไม่ Fake news นะครับ
หุ หุ