ตามอ่าน เวอร์ชั่นเต็มได้ตามลิ้ง
http://soccerrecap.com/story/15
อ่าน ในวันที่ลีโฮและรัชพลปิดทองที่ SCG Stadium (ภาค 2-2)
http://soccerrecap.com/story/16
ต่อจากภาค 1 นะครับ
จากเกมที่เมืองทองเอาชนะบริสเบนไป 3-0 เราเรียนรู้อะไรจากเกมส์ระดับ ACL นี้บ้างนะครับ
เริ่มเกมมา เมืองทองมาในระบบ 4-5-1 และจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของเกม
เริ่มเกมส์มา โค้ชแบน ให้นักเตะเมืองเพรสซิ่ง สูง หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า high pressure
ลักษณะของ high pressure จะเป็นไปตามรูป
การยืนในลักษณะนี้จะดันแผงกองหน้าและกองกลาง(เกินเส้นกลางสนามไปโดยประมาณ 15 เมตร) เข้ากดดันกองหลังทีมตรงข้าม เพื่อแย่งบอลมาให้ได้ ซึ่งจะทำให้กองหลังทีมตรงข้ามเล่นบอลยากเพราะมีพื้นที่เล่นน้อย การเล่นในลักษณะนี้โค้ชมักจะใช้เฉพาะช่วงต้นเกมส์ เพื่อกดดันทีมตรงข้ามเพื่อไม่ให้ได้ตั้งตัว และท้ายเกมส์เมื่อฝ่ายตรงข้ามเหนื่อยหล้าซึ่งเราเคยเห็นมาแล้วในช่วงท้ายเกมส์ของนัดชิงฟุตบอลโลกปี 2006 ที่เยอรมันนี ฝรั่งเศสนำโดย ซีดาน เพรสซิ่งสูงใส่อิตาลีจนเกือบไปไม่เป็น (อิตาลีเอาตัวรอดได้จนได้แชมป์) หรืออาจจะเพรสซิ่งสูงทั้งเกมส์ถ้าเจอทีมที่ระดับต่างกัน ทีมชาติไทยเราคุ้นเคยดีครับ ตอนเจอกับทีมชาติญี่ปุ่น คัดบอลโลกล่าสุดนี่เอง หรืออยากจะใช้เมื่อไร่ก็ใช้ตามอารมณ์ เช่น ลิเวอร์พูลยุค คอล์ป เป็นต้น (ล้อเล่นนะคับ คอบ์ปใช้เพรสซิ่งได้ฉลาดมาก)
แต่ข้อเสียของการเล่นเพลสสูงก็คือ นักเตะต้องใช้แรงเยอะเพราะต้องเพรสซิ่งในพื้นที่ที่ใหญ่ จะยืนระยะไม่ไหวเอา และการดันสูงแบบนี้มีสิทธ์โดนโยนข้ามกองกลังเอาง่าย ๆ เสี่ยงต่อการเสียประตูมากครับ และการเพรสชนิดนี้ถ้าหากคนใดคนหนึ่งไม่วิ่งหรือ position ไม่ดี การเพรสซิ่งจะไม่มีประสิทธิภาพเลย
ดังนั้น ตะวันจึงสั่งให้ทีม เปลี่ยนมาเพรสซิ่งแดนกลาง สลับเพรสซิ่งสูง - midfield pressing เพรสซิ่งที่นิยมที่สุด เพราะไล่ในพื้นที่เล็กกว่าและเซฟแรงนักเตะได้มากกว่า
การเพรสซิ่งลักษณะนี้จะเริ่มเพรสตั้งแต่บริเวณกลางสนามเป็นต้นไป และจะไม่เกิน 15 เมตรจากเส้นกลางสนาม
และแน่นอนเราก็ได้เห็นรัชพลวิ่งค่อยดักทางบอลอยู่ข้างหลัง
มาดูทางฝั่งบริสเบน
- แน่นอนทางฝั่งบริสเบนได้ศึกษาเกมของเมืองทองมาเป็นอย่างดี และรู้ว่าธรรมชาตินักเตะไทยไม่ชอบบอล pressing บริสเบนจึงจัดมาให้ชุดใหญ่ในตอนต้นเกม
เปิดตำราเล่มไหนถ้าเล่นบอลกับทีมไทยก็ต้อง pressing อยู่ดี
ตามอ่าน เวอร์ชั่นเต็มได้ตามลิ้ง
http://soccerrecap.com/story/15
อ่าน ในวันที่ลีโฮและรัชพลปิดทองที่ SCG Stadium (ภาค 2-2)
http://soccerrecap.com/story/16
ตามอ่านการวิเคราะห์ฟุตบอลแนวความรู้เจาะลึกได้ใน www.soccerrecap.com
สำหรับผู้ที่อยากติดตามผลงานเขียนของผม สามารถสมัครสมาชิกแล้ว follow ผมได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ
ปล. ผมยืมไอดีมาโพสต์นะครับ (กำลังรอ approve ไอดีของตัวเองอยู่ครับผม)
ในวันที่ลีโฮและรัชพลปิดทองที่ SCG Stadium (ภาค 2-1) (อ่าน 642 ครั้ง)
อ่าน ในวันที่ลีโฮและรัชพลปิดทองที่ SCG Stadium (ภาค 2-2) http://soccerrecap.com/story/16
ต่อจากภาค 1 นะครับ
จากเกมที่เมืองทองเอาชนะบริสเบนไป 3-0 เราเรียนรู้อะไรจากเกมส์ระดับ ACL นี้บ้างนะครับ
เริ่มเกมมา เมืองทองมาในระบบ 4-5-1 และจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของเกม
เริ่มเกมส์มา โค้ชแบน ให้นักเตะเมืองเพรสซิ่ง สูง หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า high pressure
ลักษณะของ high pressure จะเป็นไปตามรูป
การยืนในลักษณะนี้จะดันแผงกองหน้าและกองกลาง(เกินเส้นกลางสนามไปโดยประมาณ 15 เมตร) เข้ากดดันกองหลังทีมตรงข้าม เพื่อแย่งบอลมาให้ได้ ซึ่งจะทำให้กองหลังทีมตรงข้ามเล่นบอลยากเพราะมีพื้นที่เล่นน้อย การเล่นในลักษณะนี้โค้ชมักจะใช้เฉพาะช่วงต้นเกมส์ เพื่อกดดันทีมตรงข้ามเพื่อไม่ให้ได้ตั้งตัว และท้ายเกมส์เมื่อฝ่ายตรงข้ามเหนื่อยหล้าซึ่งเราเคยเห็นมาแล้วในช่วงท้ายเกมส์ของนัดชิงฟุตบอลโลกปี 2006 ที่เยอรมันนี ฝรั่งเศสนำโดย ซีดาน เพรสซิ่งสูงใส่อิตาลีจนเกือบไปไม่เป็น (อิตาลีเอาตัวรอดได้จนได้แชมป์) หรืออาจจะเพรสซิ่งสูงทั้งเกมส์ถ้าเจอทีมที่ระดับต่างกัน ทีมชาติไทยเราคุ้นเคยดีครับ ตอนเจอกับทีมชาติญี่ปุ่น คัดบอลโลกล่าสุดนี่เอง หรืออยากจะใช้เมื่อไร่ก็ใช้ตามอารมณ์ เช่น ลิเวอร์พูลยุค คอล์ป เป็นต้น (ล้อเล่นนะคับ คอบ์ปใช้เพรสซิ่งได้ฉลาดมาก)
แต่ข้อเสียของการเล่นเพลสสูงก็คือ นักเตะต้องใช้แรงเยอะเพราะต้องเพรสซิ่งในพื้นที่ที่ใหญ่ จะยืนระยะไม่ไหวเอา และการดันสูงแบบนี้มีสิทธ์โดนโยนข้ามกองกลังเอาง่าย ๆ เสี่ยงต่อการเสียประตูมากครับ และการเพรสชนิดนี้ถ้าหากคนใดคนหนึ่งไม่วิ่งหรือ position ไม่ดี การเพรสซิ่งจะไม่มีประสิทธิภาพเลย
ดังนั้น ตะวันจึงสั่งให้ทีม เปลี่ยนมาเพรสซิ่งแดนกลาง สลับเพรสซิ่งสูง - midfield pressing เพรสซิ่งที่นิยมที่สุด เพราะไล่ในพื้นที่เล็กกว่าและเซฟแรงนักเตะได้มากกว่า
การเพรสซิ่งลักษณะนี้จะเริ่มเพรสตั้งแต่บริเวณกลางสนามเป็นต้นไป และจะไม่เกิน 15 เมตรจากเส้นกลางสนาม
และแน่นอนเราก็ได้เห็นรัชพลวิ่งค่อยดักทางบอลอยู่ข้างหลัง
มาดูทางฝั่งบริสเบน
- แน่นอนทางฝั่งบริสเบนได้ศึกษาเกมของเมืองทองมาเป็นอย่างดี และรู้ว่าธรรมชาตินักเตะไทยไม่ชอบบอล pressing บริสเบนจึงจัดมาให้ชุดใหญ่ในตอนต้นเกม
เปิดตำราเล่มไหนถ้าเล่นบอลกับทีมไทยก็ต้อง pressing อยู่ดี
ตามอ่าน เวอร์ชั่นเต็มได้ตามลิ้ง http://soccerrecap.com/story/15
อ่าน ในวันที่ลีโฮและรัชพลปิดทองที่ SCG Stadium (ภาค 2-2) http://soccerrecap.com/story/16
ตามอ่านการวิเคราะห์ฟุตบอลแนวความรู้เจาะลึกได้ใน www.soccerrecap.com
สำหรับผู้ที่อยากติดตามผลงานเขียนของผม สามารถสมัครสมาชิกแล้ว follow ผมได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ
ปล. ผมยืมไอดีมาโพสต์นะครับ (กำลังรอ approve ไอดีของตัวเองอยู่ครับผม)