แฟนรู้สึกว่าเรากำลังเป็นตัวถ่วงชีวิตเขา

เรากับแฟนคบกันมาได้ ประมาน 4 ปี ตั้งแต่เรียนมหาลัยจนตอนนี้ได้ทำงานกันแล้ว เรื่องมีอยู่ว่าเขาไปสอบเข้าได้ที่ทำงานแห่งหนึ่งของรัฐซึ่งมีโอกาสยากมากที่จะเปิดสอบ (ที่ทำงานเก่าเป็นหน่วยงานราชการอยู่แล้วแต่ได้เงินเดือนน้อยกว่า) ก่อนไปรายงานตัวเขาดูลังเล แต่สุดท้ายเรากับเขาสรุปกันได้ว่าถ้าที่ๆได้ทำงานเป็นที่ๆไม่ได้เงินเดือนเพิ่มก็จะสละสิทธิ์  ปรากฏว่าเขาสละสิทธิ์เพราะที่ที่เขาจะได้ทำงานนั้นอยู่จังหวัดที่ไกลจากเราและครอบครัวเขามากและโอกาสได้เงินเพิ่มจากเดิมคือต้องรอหลังทำงานได้ 2 ปี  หลังจากนั้นไม่นานเขาเริ่มมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานและหลายๆปัญหารุมเร้า แล้วเริ่มรู้สึกเสียใจที่สละสิทธิ์ เราก็คอยรับฟังตลอดแม้ว่าเขาจะบ่นเรื่องเดิมๆอยู่ทุกวัน (เรากับแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกันนัดเจอกัน1-2สัปดาห์ครั้ง) บางครั้งเขาก็บ่นว่าไม่น่าเชื่อเราเลย ทำไมเราไม่เเนะนำสิ่งดีๆให้เขา เราทำให้เขาตัดสินใจผิดพลาด ดูถูกงานที่กำลังทำว่ากระจอก เขาพุดแบบนี้ทุกครั้งที่มาระบายเรื่องเครียดๆให้เราฟัง ซึ่งเราเสียใจแต่ก็ทนเพราะพยายามเข้าใจว่าเขากำลังเสียใจ แต่การได้ฟังแบบนี้ทุกวันทำให้เราบอกเขาว่า ถ้างานที่ทำอยู่มันไม่มีค่า ก็ลาออกแล้วยอมไปเป็นลูกจ้างเพื่อจะได้มีโอกาสสอบเข้าอีกครั้ง เขาโมโหมาก ผิดหวังในตัวเรามาก บอกว่าไม่คิดว่าแฟนตัวเองจะสิ้นคิดได้ขนาดนี้

ตอนที่เรานัดเจอกัน เขาก็ดูจะคิดเรื่องนั้นน้อยลง แต่พอกลับไปเขาก็เป็นเหมือนเดิม จนอยากไปพบจิตแพทย์แต่พอจะไปจริงๆจังๆ ก็ไม่ไปสักที หลังๆมานี้เขาเริ่มลามไปเรื่องแต่งงาน บ่นว่าจะแต่งกับเราคงยาก เพราะพ่อแม่เราคงคิดว่าเรามีค่ามาก ต้องเรียกค่าสินสอดแพงแน่นอน เราคงลำบากไปกับเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่มีอะไรติดตัวมา ต้องหาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมด ทั้งๆที่เขาก็ไม่เคยมาบ้านเราอย่างเป็นทางการสักที พ่อแม่เราอยากให้มาทำความรู้จักที่บ้านก็ไม่เคยมา  อ้างว่าอยากมีรถก่อน เราก็ออกหน้าแทนตลอด แต่เราเคยพาไปเปิดตัวตามงานแต่งญาติบ้าง 2-3 ครั้ง

วันก่อนเราคุยเรื่องเพื่อนคนหนึ่งที่เพิ่งเลิกกับแฟนเก่าไปคบแฟนใหม่ เขาก็บอกว่าที่เลิกถูกแล้วเพราะคนใหม่ดีกว่า สวยกว่า ฐานะทางบ้านก็ธรรมดาเหมือนกันแล้วก็ลามมาบอกเราว่าเขาก็อยากได้แบบนั้นที่ฐานะพอๆกัน  กับเราคงไม่มีวันได้แต่งหรอก แล้วบอกเป็นนัยๆว่าเราขัดขวางความเจริญเขา เขาอยากทเป็นเหมือน 3-4 ปีก่อน ที่เขาตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง (หรือง่ายๆคือยังไม่มีเราหรือเปล่า)

ตอนที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น เราเสียใจมาก เหมือนโดนบอกเลิกแบบอ้อมๆ (ในใจก็อยากจะคอยให้กำลังใจเขาให้เขาฝ่าฟันมันไปได้แต่เหมือนเขาจะไม่ต้องการ) วันนี้เราต้องนัดเจอกันแต่เขาก็ไม่มา เราควรทำยังไงดีคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่