ตอนจบแล้วครับ และเป็นเรื่องสุดท้ายของผมที่เขียน Spoil ด้วย ยาวนานจริงๆ(ได้อู้ล่ะ 555) แต่ก็ยังสิงอยู่ที่นี่เหมือนเดิมนะไม่ได้หายจากไปไหน แต่คงไม่ได้ทำ Spoil ล่ะ พอดีไปช่วยดูแลเวปแมวดุ้นแทน
ต่อจากตอนที่แล้ว รถคันหนึ่งที่กำลังวิ่งอยู่ที่ถนนในป่าแห่งหนึ่ง นั้นคือรถของพ่อแม่ฮายาเตะที่กำลังคุยกันว่ารอบนี้ยังใช้งานฮายาเตะเพื่อให้รวยไม่ได้สักที พ่อก็บอกถึงรอบนี้จะช่วยไม่ได้แต่ฮายาเตะก็ยังมีชีวิตอยู่ จึงคิดว่าไว้คราวหน้าค่อยไปใช้ฮายาเตะอีกครั้ง
ขณะที่คุยกันในรถนั้นเอง จู่ๆก็มีมือขนาดยักษ์เข้ามาขวางรถจนรถเสียหลักจนไปชนราวกั้นถนนจนหยุด ทันทีที่รถหยุดก็ปรากฎฮิซุยโดดลงมาที่กระโปรงหน้ารถคุยกับพ่อแม่ฮายาเตะผ่านกระจก บอกว่าเจอตัวแล้ว "เจ้าพวกขยะ" ฮิซุยพูดว่าเป้าหมายของเธอพังหมดก็เพราะพ่อแม่ฮายาเตะเพราะงั้นก็เลยจะขอตอบแทนหน่อย แล้วฮิซุยก็ใช้พลังเรียกมือทั้งสี่ออกมา พ่อฮายาเตะกลัวจัดก็เลยชิงหนีออกจากรถไปทิ้งแม่ฮายาเตะไว้ ฮิซุยปล่อยพ่อฮายาเตะไปแต่คนแม่นั้นไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด แม่ก็พยายามขอร้องชีวิตแต่ก็โดนฮิซุยดักก่อนเลยว่าไม่ต้องการเงิน ตรงข้ามจะใช้เงินส่งแม่ฮายาเตะไปนรกแทน
ด้านพ่อฮายาเตะที่หนีมาได้ก็วิ่งเข้าป่าโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย แต่ก็คาดไม่ถึงเมื่อเจอกำปั้นขวาตรงต่อยเข้าที่เต็มๆหน้าจนล้มกลิ้งไปหลายตลบกระแทกกับต้นไม้จนถึงกับงงว่าเกิดอะไรขึ้น นั้นคือฝีมือของพี่ฮายาเตะที่มาจัดการคนพ่อต่อโดยบอกว่าในฐานะที่เป็นไลฟ์เซฟเวอร์ที่คอยปกป้องคนก็จะไม่ฆ่าก็แล้วกัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังลั่นภายในป่านั้น

อีกด้านที่ใต้หอนาฬิกา มิโคโตะพูดถึงเหตุการณ์ภายในรอยัลการ์เด้นให้ฮิเมงามิฟัง บอกว่านอกจากฮายาเตะแล้วอิสึมิกับคนอื่นๆก็ช่วยปลดปล่อยออร์มัซต์นาจาทำให้พลังของรอยัลการ์เด้นหายไปจากโลก และยิ่งไปกว่านั้นมิโคโตะขอบอกฮิเมงามิให้รู้ด้วยว่าต่อให้ฮิเมงามิทำตามแผนที่วางไว้ได้แต่ก็ไม่อาจใช้พลังทำให้ใครสักคนฟื้นคืนชีพกลับมาได้อยู่ดี ต่อให้ต้องใช้อายุขัยเข้าแลกก็ตาม หากเป็นไปได้มิโคโตะบอกเธอคงทำไปนานแล้ว ฮิเมงามิที่เศร้าซึมก็พูดว่าถ้างั้นแล้วเขาจะสู้ไปเพื่ออะไร แต่มิโคโตะยังมีข่าวดีบอกให้ว่าสิ่งที่ยูคาริโกะขอกับออร์มัซต์นาจานั้นมีสองอย่าง อย่างแรกเพื่อนางิ อีกอย่างนั้นเป็นการขอร้องเมื่อออร์มัซต์นาจาเป็นอิสระแล้ว ขอร้องในฐานะเพื่อน สิ่งที่ยูคาริโกะขอในช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้นคือ... ช่วยคืนอายุขัย 50 ปีให้กับฮิเมงามิ พอฮิเมงามิได้ยินแบบนี้ก็ได้แต่พูดว่า "เธอไม่ได้ลืมผมสินะ" ด้วยเรื่องนี้มิโคโตะรู้สึกอิจฉาแทนเลย

หลายเดือนต่อมา เปิดภาคเรียนใหม่ ซากุระเริ่มบานรวมถึงภายในโรงเรียนฮาคุโอ บนหอนาฬิกา ฮินะที่ยืนมองวิวที่ระเบียงหอนาฬิกา(หายกลัวความสูงแล้วสินะ) และพวกเซงาวะคุยเรื่องของแต่ละคน นางิกับฮายาเตะก็จากลากันไปแล้ว จิฮารุโดนดรอปการเรียนเพราะไม่มีค่าเทอมจ่าย นางิเองก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนมัธยมต้นธรรมดาแล้ว... และไม่มีใครรู้ว่าฮายาเตะอยู่ที่ไหน มิกิบอกใครจะไปรู้ว่าอนาคตมันจะออกมาแบบนี่ แต่ริสะทุบโต๊ะบอกเลยว่าเพราะงั้นปัจจุบันจึงสำคัญไงล่ะ ต้องทำให้ปัจจุบันดีที่สุด เพราะงั่นต้องสนุกในฐานะ Youtuber บันทึกฉากนู้ดของฮินะและ....(จู่ๆเนียนซะงั้น) แต่ฮินะที่ไม่ได้สนใจฟังก็ขอตัวก่อนบอกมีธุระ ริสะที่กำลังพูดอยู่เลยโวยว่าธุระอะไร ฮินะก็บอกว่า...
ฮินะ: ไม่มีอะไรมากหรอก
ฮินะ: แค่ฉันจะ... ไปสารภาพรักผู้ชายที่ฉันรักอยู่เท่านั้นเอง
ริสะ: หืม?
เซงาวะ: เอ๊ะ!?
มิกิ: โอ้ว รีบไปเลย
มิกิ: เฮ้ยเดี๋ยว ฮินะ!
เซงาวะ: ฮินะจัง!? ฮินะจางงงงง!!
แล้วฮินะก็วิ่งไปตามทางเดินที่กลีบซากุระร่วงโรย คิดอยู่ว่าหากมองกลับไปในวันที่ผ่านๆมา ตัวเธอคิดอะไรอยู่ จะเสียใจไหมหากความปรารถนานี้ไม่สำเร็จ หรือจะชมเชยตัวเองถ้าสำเร็จ ถึงจะผิดหวังในแต่ละวันของชีวิต ไม่ว่าจะเกิดมายังไง(ภาพอาเธเน่ไปอยู่อิตาลี) จะเป็นค่ำคืนที่โศกเศร้า(ภาพมิคาโดะกับเคลาส์ยืนอยู่หน้าหลุมศพยูคาริโกะ) ไม่ว่าจะเจอปัญหาจนท้อแท้ยังไง(ภาพพวกฟุมิกับบาทหลวงในเขตก่อสร้าง เดาว่ารื้อสร้างอพาร์ทเมนท์ใหม่) ได้ัรบรอยยิ้มในทุกเช้า(ภาพวาตารุกับซากิที่มีแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย) ภาระที่ต้องทำ(ภาพลุกะยังวุ่นกับงานไอดอล) แม้จะได้รับความรู้สึกที่หนักหน่วงในบางคืนแต่ก็ยังต้องการวันนี้(ภาพที่ทามะกับชิรานุอิไร้ที่อยู่แต่ได้อิสึมิกับซาคุยะรับไปดูแลต่อ) ที่ส่องสว่างดุดประกายทองในทะเลทรายหากได้หันกลับมามองความทรงจำนั้น
ฮินะที่วิ่งมาและเจอฮายาเตะที่กำลังเดินอยู่จึง....
ฮินะ: ฮายาเตะคุง!!
ฮินะ: ฉัน...
ฮินะ: ฉันชอ....
เพราะงั้นจงกล้าหาญเพื่อก้าวไปยังก้าวสุดท้าย
2 ปีต่อมา ณ อพาร์ทเมนต์ใหม่ จิฮารุโดนปลุกจนจิฮารุตกเตียงเลยด่าว่าทำอะไรนะ แต่คนที่ปลุกจิฮารุบอกว่านั้นเป็นคำพูดของฉันต่างหาก นั้นคือนางิที่บ่นว่าแต่ละวันๆจิฮารุเอาแต่นอนดึกๆดื่นๆแบบนี้มันเดือดร้อนคนทำอย่างเธอนะ เพราะงั้นจึงบอกให้จิฮารุตื่นมากินข้าวเช้าได้แล้ว จิฮารุบอกยุ่งน่าตัวเธอเองก็ใกล้เส้นตายแล้ว นางิเลยแซวว่ากำลังคิดว่าตัวเองเป็นนักเขียนชื่อดังเพราะไลท์โนเวลเล่มแรกขายดีอยู่สินะ จิฮารุก็เถียงว่าไม่ใช่ แต่จะยังไงนางิก็บอกว่าเธอทำข้าวเช้าแล้วต้องมากินตอนร้อนๆเท่านั้น และขอตัวไปซ้อมก่อน แต่ก่อนจะไปจิฮารุบอกว่าวันนี้มีปาร์ตี้คริสต์มาสให้รีบกลับจากงานพิเศษด้วย นางิบอกรู้แล้วและถามก่อนว่าคงไม่จัดถึงเช้าใช่ไหมล่ะ จิฮารุบอกใช่และบอกลุกะจะมาด้วย นางิจึงบอกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะรีบขายเค้กให้หมดและรีบกลับเลย จิฮารุรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยว่านางิจะฟิตอะไรขนาดนี้ คายุระบอกก็ช่วยไม่ได้นิ..ก็วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟนิน่า

ในความคิดของนางิ ผ่านมา 2 ปีแล้วที่ไม่มีฮายาเตะ ตัวเธอนั้นเติบโตขึ้น ดูแลงานบ้านได้ด้วยตัวเองและยังจัดการชีวิตประจำวันด้วยตัวเองได้ ไปเรียนด้วยตัวเองและยังเล่นกีฬาได้แล้วด้วย ได้ออกกำลังทุกวันจนได้รู้ว่าตัวเองก็มีพรสวรรค์ด้านกีฬาพอสมควร ยากที่จะเชื่อแต่ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทำอาหาร ทำความสะอาดและซักผ้าได้ แน่นอนว่าก็ไม่ได้ทำได้ดีไปหมดทุกอย่าง บางคืนตัวเธอก็ยังนอนร้องไห้อย่างโดดเดี่ยวถือรูปตัวเธอ ฮายาเตะและมาเรีย แต่ด้วยความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัดในตัว จึงรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ลุกขึ้นมาได้ด้วยตัวเองโดยที่ฮายาเตะไม่ต้องมาปกป้องอีก แต่ไม่รู้ทำไม พอถึงช่วงนี่ของปีทีไรก็รู้สึกเจ็บปวดใจนิดหน่อย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่นั้นตัวเธอก็ยัง...

นางิที่กำลังกลับและมาแวะกดน้ำกระป๋องดื่มที่สวนสาธารณะในช่วงค่ำ จู่ๆก็มีผู้ชายสองคนเข้ามาทักบอกนางิอยู่คนเดียวแบบนี้ในวันคริสต์มาสอีฟคงเพราะไม่รู้จะไปไหนสินะ ก็เลยจะมาชวนไปด้วย... แต่พอกำลังจะแตะนางิ นางิก็ป้องกันตัวเองด้วยอุปกรณ์กีฬาที่ถือมาด้วย(ไม่รู้ชื่อเรียกเจ้าไม้นี้แฮะ) เตือนทั้งสองคนเลยว่าเข้ามาใกล้อีกก้าวเดียวได้มีสีเดียวกับซานต้าบนเสื้อแน่ ทั้งสองคนก็เลยหลัวจนหนีไป จากนั้น....
นางิ: เห็นไหม? ไม่ต้องให้นายมาปกป้องอีกต่อไปแล้ว
นางิ: เพราะงั้น... เลิกมาแอบดูฉันจากตรงพุ่มไม้ตรงนั้นได้แล้ว
นั้นคือฮายาเตะที่ยอมออกมาและหัวเราะบอกรู้จนได้ นางิก็ยิ้มนิดๆบอกว่าบอกแล้วไงว่าไม่ใช่พ่อบ้านแล้ว และไม่มีเงินจะจ่ายให้ด้วย ฮายาเตะบอกเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องลักพาตัวนางิเพื่อเงินด้วย
นางิบอกเหมือนอย่างที่ฮายาเตะบอกไว้ ตัวเธอสามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ ทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง จะไปร้านเนื้อย่างหรือไปไมฮามะเองก็ได้แล้ว
นางิ: ฉันทำได้ทุกอย่าง
นางิ: ทุกอย่าง...ด้วยตัวคนเดียว
นางิ: เพราะงั้นนะ...ฮายาเตะ
ฮายาเตะ: เพราะงั้น...
ฮายาเตะ: ผมจึงอยากอยู่กับคุณ
ฮายาเตะ: เป็นความต้องการของผมเอง...ที่จะปกป้องอนาคตของคุณ...
ฮายาเตะ: เป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้จะผ่านมา 2 ปี
นางิ: หืม..อย่างนั้นเหรอ
ฮายาเตะ: หนทางของพวกเรานับจากนี้
ฮายาเตะ: มีสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณ...
ฮายาเตะ: ภายใต้หมู่ดาวที่นับไม่ถ้วนของท้องฟ้านี้
นางิ: ก็ดีนะ ยังพึ่งค่ำเองด้วย
นางิ: มาใช้เวลา...คุยกัน
อวสาน
[Spoil] Hayate no Gotoku! - 568 [THE END]
ต่อจากตอนที่แล้ว รถคันหนึ่งที่กำลังวิ่งอยู่ที่ถนนในป่าแห่งหนึ่ง นั้นคือรถของพ่อแม่ฮายาเตะที่กำลังคุยกันว่ารอบนี้ยังใช้งานฮายาเตะเพื่อให้รวยไม่ได้สักที พ่อก็บอกถึงรอบนี้จะช่วยไม่ได้แต่ฮายาเตะก็ยังมีชีวิตอยู่ จึงคิดว่าไว้คราวหน้าค่อยไปใช้ฮายาเตะอีกครั้ง
ขณะที่คุยกันในรถนั้นเอง จู่ๆก็มีมือขนาดยักษ์เข้ามาขวางรถจนรถเสียหลักจนไปชนราวกั้นถนนจนหยุด ทันทีที่รถหยุดก็ปรากฎฮิซุยโดดลงมาที่กระโปรงหน้ารถคุยกับพ่อแม่ฮายาเตะผ่านกระจก บอกว่าเจอตัวแล้ว "เจ้าพวกขยะ" ฮิซุยพูดว่าเป้าหมายของเธอพังหมดก็เพราะพ่อแม่ฮายาเตะเพราะงั้นก็เลยจะขอตอบแทนหน่อย แล้วฮิซุยก็ใช้พลังเรียกมือทั้งสี่ออกมา พ่อฮายาเตะกลัวจัดก็เลยชิงหนีออกจากรถไปทิ้งแม่ฮายาเตะไว้ ฮิซุยปล่อยพ่อฮายาเตะไปแต่คนแม่นั้นไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด แม่ก็พยายามขอร้องชีวิตแต่ก็โดนฮิซุยดักก่อนเลยว่าไม่ต้องการเงิน ตรงข้ามจะใช้เงินส่งแม่ฮายาเตะไปนรกแทน
ด้านพ่อฮายาเตะที่หนีมาได้ก็วิ่งเข้าป่าโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย แต่ก็คาดไม่ถึงเมื่อเจอกำปั้นขวาตรงต่อยเข้าที่เต็มๆหน้าจนล้มกลิ้งไปหลายตลบกระแทกกับต้นไม้จนถึงกับงงว่าเกิดอะไรขึ้น นั้นคือฝีมือของพี่ฮายาเตะที่มาจัดการคนพ่อต่อโดยบอกว่าในฐานะที่เป็นไลฟ์เซฟเวอร์ที่คอยปกป้องคนก็จะไม่ฆ่าก็แล้วกัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังลั่นภายในป่านั้น
อีกด้านที่ใต้หอนาฬิกา มิโคโตะพูดถึงเหตุการณ์ภายในรอยัลการ์เด้นให้ฮิเมงามิฟัง บอกว่านอกจากฮายาเตะแล้วอิสึมิกับคนอื่นๆก็ช่วยปลดปล่อยออร์มัซต์นาจาทำให้พลังของรอยัลการ์เด้นหายไปจากโลก และยิ่งไปกว่านั้นมิโคโตะขอบอกฮิเมงามิให้รู้ด้วยว่าต่อให้ฮิเมงามิทำตามแผนที่วางไว้ได้แต่ก็ไม่อาจใช้พลังทำให้ใครสักคนฟื้นคืนชีพกลับมาได้อยู่ดี ต่อให้ต้องใช้อายุขัยเข้าแลกก็ตาม หากเป็นไปได้มิโคโตะบอกเธอคงทำไปนานแล้ว ฮิเมงามิที่เศร้าซึมก็พูดว่าถ้างั้นแล้วเขาจะสู้ไปเพื่ออะไร แต่มิโคโตะยังมีข่าวดีบอกให้ว่าสิ่งที่ยูคาริโกะขอกับออร์มัซต์นาจานั้นมีสองอย่าง อย่างแรกเพื่อนางิ อีกอย่างนั้นเป็นการขอร้องเมื่อออร์มัซต์นาจาเป็นอิสระแล้ว ขอร้องในฐานะเพื่อน สิ่งที่ยูคาริโกะขอในช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้นคือ... ช่วยคืนอายุขัย 50 ปีให้กับฮิเมงามิ พอฮิเมงามิได้ยินแบบนี้ก็ได้แต่พูดว่า "เธอไม่ได้ลืมผมสินะ" ด้วยเรื่องนี้มิโคโตะรู้สึกอิจฉาแทนเลย
หลายเดือนต่อมา เปิดภาคเรียนใหม่ ซากุระเริ่มบานรวมถึงภายในโรงเรียนฮาคุโอ บนหอนาฬิกา ฮินะที่ยืนมองวิวที่ระเบียงหอนาฬิกา(หายกลัวความสูงแล้วสินะ) และพวกเซงาวะคุยเรื่องของแต่ละคน นางิกับฮายาเตะก็จากลากันไปแล้ว จิฮารุโดนดรอปการเรียนเพราะไม่มีค่าเทอมจ่าย นางิเองก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนมัธยมต้นธรรมดาแล้ว... และไม่มีใครรู้ว่าฮายาเตะอยู่ที่ไหน มิกิบอกใครจะไปรู้ว่าอนาคตมันจะออกมาแบบนี่ แต่ริสะทุบโต๊ะบอกเลยว่าเพราะงั้นปัจจุบันจึงสำคัญไงล่ะ ต้องทำให้ปัจจุบันดีที่สุด เพราะงั่นต้องสนุกในฐานะ Youtuber บันทึกฉากนู้ดของฮินะและ....(จู่ๆเนียนซะงั้น) แต่ฮินะที่ไม่ได้สนใจฟังก็ขอตัวก่อนบอกมีธุระ ริสะที่กำลังพูดอยู่เลยโวยว่าธุระอะไร ฮินะก็บอกว่า...
ฮินะ: ไม่มีอะไรมากหรอก
ฮินะ: แค่ฉันจะ... ไปสารภาพรักผู้ชายที่ฉันรักอยู่เท่านั้นเอง
ริสะ: หืม?
เซงาวะ: เอ๊ะ!?
มิกิ: โอ้ว รีบไปเลย
มิกิ: เฮ้ยเดี๋ยว ฮินะ!
เซงาวะ: ฮินะจัง!? ฮินะจางงงงง!!
แล้วฮินะก็วิ่งไปตามทางเดินที่กลีบซากุระร่วงโรย คิดอยู่ว่าหากมองกลับไปในวันที่ผ่านๆมา ตัวเธอคิดอะไรอยู่ จะเสียใจไหมหากความปรารถนานี้ไม่สำเร็จ หรือจะชมเชยตัวเองถ้าสำเร็จ ถึงจะผิดหวังในแต่ละวันของชีวิต ไม่ว่าจะเกิดมายังไง(ภาพอาเธเน่ไปอยู่อิตาลี) จะเป็นค่ำคืนที่โศกเศร้า(ภาพมิคาโดะกับเคลาส์ยืนอยู่หน้าหลุมศพยูคาริโกะ) ไม่ว่าจะเจอปัญหาจนท้อแท้ยังไง(ภาพพวกฟุมิกับบาทหลวงในเขตก่อสร้าง เดาว่ารื้อสร้างอพาร์ทเมนท์ใหม่) ได้ัรบรอยยิ้มในทุกเช้า(ภาพวาตารุกับซากิที่มีแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย) ภาระที่ต้องทำ(ภาพลุกะยังวุ่นกับงานไอดอล) แม้จะได้รับความรู้สึกที่หนักหน่วงในบางคืนแต่ก็ยังต้องการวันนี้(ภาพที่ทามะกับชิรานุอิไร้ที่อยู่แต่ได้อิสึมิกับซาคุยะรับไปดูแลต่อ) ที่ส่องสว่างดุดประกายทองในทะเลทรายหากได้หันกลับมามองความทรงจำนั้น
ฮินะที่วิ่งมาและเจอฮายาเตะที่กำลังเดินอยู่จึง....
ฮินะ: ฮายาเตะคุง!!
ฮินะ: ฉัน...
ฮินะ: ฉันชอ....
เพราะงั้นจงกล้าหาญเพื่อก้าวไปยังก้าวสุดท้าย
2 ปีต่อมา ณ อพาร์ทเมนต์ใหม่ จิฮารุโดนปลุกจนจิฮารุตกเตียงเลยด่าว่าทำอะไรนะ แต่คนที่ปลุกจิฮารุบอกว่านั้นเป็นคำพูดของฉันต่างหาก นั้นคือนางิที่บ่นว่าแต่ละวันๆจิฮารุเอาแต่นอนดึกๆดื่นๆแบบนี้มันเดือดร้อนคนทำอย่างเธอนะ เพราะงั้นจึงบอกให้จิฮารุตื่นมากินข้าวเช้าได้แล้ว จิฮารุบอกยุ่งน่าตัวเธอเองก็ใกล้เส้นตายแล้ว นางิเลยแซวว่ากำลังคิดว่าตัวเองเป็นนักเขียนชื่อดังเพราะไลท์โนเวลเล่มแรกขายดีอยู่สินะ จิฮารุก็เถียงว่าไม่ใช่ แต่จะยังไงนางิก็บอกว่าเธอทำข้าวเช้าแล้วต้องมากินตอนร้อนๆเท่านั้น และขอตัวไปซ้อมก่อน แต่ก่อนจะไปจิฮารุบอกว่าวันนี้มีปาร์ตี้คริสต์มาสให้รีบกลับจากงานพิเศษด้วย นางิบอกรู้แล้วและถามก่อนว่าคงไม่จัดถึงเช้าใช่ไหมล่ะ จิฮารุบอกใช่และบอกลุกะจะมาด้วย นางิจึงบอกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะรีบขายเค้กให้หมดและรีบกลับเลย จิฮารุรู้สึกไม่อยากเชื่อเลยว่านางิจะฟิตอะไรขนาดนี้ คายุระบอกก็ช่วยไม่ได้นิ..ก็วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟนิน่า
ในความคิดของนางิ ผ่านมา 2 ปีแล้วที่ไม่มีฮายาเตะ ตัวเธอนั้นเติบโตขึ้น ดูแลงานบ้านได้ด้วยตัวเองและยังจัดการชีวิตประจำวันด้วยตัวเองได้ ไปเรียนด้วยตัวเองและยังเล่นกีฬาได้แล้วด้วย ได้ออกกำลังทุกวันจนได้รู้ว่าตัวเองก็มีพรสวรรค์ด้านกีฬาพอสมควร ยากที่จะเชื่อแต่ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทำอาหาร ทำความสะอาดและซักผ้าได้ แน่นอนว่าก็ไม่ได้ทำได้ดีไปหมดทุกอย่าง บางคืนตัวเธอก็ยังนอนร้องไห้อย่างโดดเดี่ยวถือรูปตัวเธอ ฮายาเตะและมาเรีย แต่ด้วยความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัดในตัว จึงรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ลุกขึ้นมาได้ด้วยตัวเองโดยที่ฮายาเตะไม่ต้องมาปกป้องอีก แต่ไม่รู้ทำไม พอถึงช่วงนี่ของปีทีไรก็รู้สึกเจ็บปวดใจนิดหน่อย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่นั้นตัวเธอก็ยัง...
นางิที่กำลังกลับและมาแวะกดน้ำกระป๋องดื่มที่สวนสาธารณะในช่วงค่ำ จู่ๆก็มีผู้ชายสองคนเข้ามาทักบอกนางิอยู่คนเดียวแบบนี้ในวันคริสต์มาสอีฟคงเพราะไม่รู้จะไปไหนสินะ ก็เลยจะมาชวนไปด้วย... แต่พอกำลังจะแตะนางิ นางิก็ป้องกันตัวเองด้วยอุปกรณ์กีฬาที่ถือมาด้วย(ไม่รู้ชื่อเรียกเจ้าไม้นี้แฮะ) เตือนทั้งสองคนเลยว่าเข้ามาใกล้อีกก้าวเดียวได้มีสีเดียวกับซานต้าบนเสื้อแน่ ทั้งสองคนก็เลยหลัวจนหนีไป จากนั้น....
นางิ: เห็นไหม? ไม่ต้องให้นายมาปกป้องอีกต่อไปแล้ว
นางิ: เพราะงั้น... เลิกมาแอบดูฉันจากตรงพุ่มไม้ตรงนั้นได้แล้ว
นั้นคือฮายาเตะที่ยอมออกมาและหัวเราะบอกรู้จนได้ นางิก็ยิ้มนิดๆบอกว่าบอกแล้วไงว่าไม่ใช่พ่อบ้านแล้ว และไม่มีเงินจะจ่ายให้ด้วย ฮายาเตะบอกเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องลักพาตัวนางิเพื่อเงินด้วย
นางิบอกเหมือนอย่างที่ฮายาเตะบอกไว้ ตัวเธอสามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ ทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง จะไปร้านเนื้อย่างหรือไปไมฮามะเองก็ได้แล้ว
นางิ: ฉันทำได้ทุกอย่าง
นางิ: ทุกอย่าง...ด้วยตัวคนเดียว
นางิ: เพราะงั้นนะ...ฮายาเตะ
ฮายาเตะ: เพราะงั้น...
ฮายาเตะ: ผมจึงอยากอยู่กับคุณ
ฮายาเตะ: เป็นความต้องการของผมเอง...ที่จะปกป้องอนาคตของคุณ...
ฮายาเตะ: เป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้จะผ่านมา 2 ปี
นางิ: หืม..อย่างนั้นเหรอ
ฮายาเตะ: หนทางของพวกเรานับจากนี้
ฮายาเตะ: มีสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณ...
ฮายาเตะ: ภายใต้หมู่ดาวที่นับไม่ถ้วนของท้องฟ้านี้
นางิ: ก็ดีนะ ยังพึ่งค่ำเองด้วย
นางิ: มาใช้เวลา...คุยกัน
อวสาน