ขอเล่าเรื่องตื่นเต้นให้ฟังค่ะ. เรากับเพื่อนเข้าพักที่โรงแรมนี้ ระหว่างที่กำลังหลับอย่างสบายนั้น ประมาณเที่ยงคืนพวกเราสะดุ้งตื่นกัน
เพราะว่าได้ยินเสียงสัญญาณเตือนเป็นภาษาญี่ปุ่น หรอหราสิคะ เพื่อนบอกว่าเอากระเป๋าไปด้วย ด้วยสภาพพึ่งตื่น + สติไม่เต็มร้อย คว้าได้เป้
ติดตัวของตัวเองและเพื่อนคนละใบ +รองเท้าที่โรงแรมให้ใส่ในห้อง + แว่นตา *** จุดพีคคือว่าเราไม่ได้ใส่เครื่องในนอน!! จะออกไปแบบโล่งโทงเทงก็ไม่ไหว
เลยหยิบเสื้อคลุมที่ใส่แล้วมาใส่*** ด้วยห้องเราเปิดประตูเป็นห้องแรกๆ สภาพเราทั้งคู่คือแบบเฟื้องมาก!! การมาญี่ปุ่นครั้งแรกของฉัน
## นึกภาพตามค่ะ หัวฟู +หน้าสด+ กางเกงนอนแม่บ้าน +เสื้อคลุมยีนแขนยาว+รองเท้าเดินในบ้านสะพายเป้!! หมดกัน
สักพักเพื่อนร่วมชะตากรรม เริ่มทะยอยออกมาทีละห้อง. แต่ละคนนี่แบบ พร็อบจัดเต็มมาก!!! ใส่รองเท้าผ้าใบค่ะ คือแบบพร้อมวิ่งทุกเมื่อ แล้วตรูละ รองเท้าโรงแรมกระดาษ
ต่อค่ะ เพื่อนถามห้องตรงข้ามว่าเกิดอะไรขึ้น (ภาษาอังกฤษ) เขาดันไม่ตอบซะนี่. เรารีบไปบันไดหนีไฟ แต่ประเด็นคือ ประตูเปิดไม่ได้!!!!!
ขวัญหายสิคะ ใจสั่น แต่ละคน ที่มีชะตากรรมเดียวกันเริ่มมองหน้ากันไปมา เอาไงดี ซึ่งขณะนั้นเราเห็นว่าประตูโรงแรมยังเปิดไม่ได้
เลยกะจะเปลี่ยนรองเท้าผ้าใบ ทีนี้ประตูห้องก็เปิดไม่ได้!! ว๊ายยยยย..ตายแล้ว..wifi ล้มค่ะทีนี้ สัญญาณไฟเตือนก็ยังกระพริบอยู่
เอาไงดีทีนี้เรา...แปบนึงห้องเปิดได้แต่ประตูหนีไฟยังเปิดไม่ออกเลยรีบมาเปลี่ยนรองเท้า พอใส่รองเท้าเสร็จก็รีบวิ่งไปข้างนอก
มีห้องนึงที่เขาโทรำปถามข้างล่างว่าเกิดอะไรขึ้น. เขาก็มาอธิบายต่อ ว่า มีใครไม่รู้ชั้นเรื่องทำอะไรสักอย่างแต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่แก้ไขได้แล้ว
ไม่ต้องตกใจ เหตุการณ์เลยคลี่คลาย...
สักพักเจ้าหน้าที่วิ่งมาเหงื่อซกเลยก็มันชั้น7นี่นาบอกว่าไม่มีไฟไหม้แก้ปัญหาแล้วอย่ากังวล..
ค่ะไม่กังวลแต่เราใส่ชั้นในนอน+วางกระเป๋ากับรองเท้าใกล้ตัวและยังหลับตาไม่ลงตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ประมาณ 1ชั่วโมงแล้ว
ปล. พรุ่งนี้ต้องถามพนักงานให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และใครพักที่โรงแรมนี้บ้าง?? หาเพื่อนร่วมชะตากรรม
เรื่องตื่นเต้น ที่โรงแรม Nishitetsu inn shinsaibashi 30/04/2017
เพราะว่าได้ยินเสียงสัญญาณเตือนเป็นภาษาญี่ปุ่น หรอหราสิคะ เพื่อนบอกว่าเอากระเป๋าไปด้วย ด้วยสภาพพึ่งตื่น + สติไม่เต็มร้อย คว้าได้เป้
ติดตัวของตัวเองและเพื่อนคนละใบ +รองเท้าที่โรงแรมให้ใส่ในห้อง + แว่นตา *** จุดพีคคือว่าเราไม่ได้ใส่เครื่องในนอน!! จะออกไปแบบโล่งโทงเทงก็ไม่ไหว
เลยหยิบเสื้อคลุมที่ใส่แล้วมาใส่*** ด้วยห้องเราเปิดประตูเป็นห้องแรกๆ สภาพเราทั้งคู่คือแบบเฟื้องมาก!! การมาญี่ปุ่นครั้งแรกของฉัน
## นึกภาพตามค่ะ หัวฟู +หน้าสด+ กางเกงนอนแม่บ้าน +เสื้อคลุมยีนแขนยาว+รองเท้าเดินในบ้านสะพายเป้!! หมดกัน
สักพักเพื่อนร่วมชะตากรรม เริ่มทะยอยออกมาทีละห้อง. แต่ละคนนี่แบบ พร็อบจัดเต็มมาก!!! ใส่รองเท้าผ้าใบค่ะ คือแบบพร้อมวิ่งทุกเมื่อ แล้วตรูละ รองเท้าโรงแรมกระดาษ
ต่อค่ะ เพื่อนถามห้องตรงข้ามว่าเกิดอะไรขึ้น (ภาษาอังกฤษ) เขาดันไม่ตอบซะนี่. เรารีบไปบันไดหนีไฟ แต่ประเด็นคือ ประตูเปิดไม่ได้!!!!!
ขวัญหายสิคะ ใจสั่น แต่ละคน ที่มีชะตากรรมเดียวกันเริ่มมองหน้ากันไปมา เอาไงดี ซึ่งขณะนั้นเราเห็นว่าประตูโรงแรมยังเปิดไม่ได้
เลยกะจะเปลี่ยนรองเท้าผ้าใบ ทีนี้ประตูห้องก็เปิดไม่ได้!! ว๊ายยยยย..ตายแล้ว..wifi ล้มค่ะทีนี้ สัญญาณไฟเตือนก็ยังกระพริบอยู่
เอาไงดีทีนี้เรา...แปบนึงห้องเปิดได้แต่ประตูหนีไฟยังเปิดไม่ออกเลยรีบมาเปลี่ยนรองเท้า พอใส่รองเท้าเสร็จก็รีบวิ่งไปข้างนอก
มีห้องนึงที่เขาโทรำปถามข้างล่างว่าเกิดอะไรขึ้น. เขาก็มาอธิบายต่อ ว่า มีใครไม่รู้ชั้นเรื่องทำอะไรสักอย่างแต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่แก้ไขได้แล้ว
ไม่ต้องตกใจ เหตุการณ์เลยคลี่คลาย...
สักพักเจ้าหน้าที่วิ่งมาเหงื่อซกเลยก็มันชั้น7นี่นาบอกว่าไม่มีไฟไหม้แก้ปัญหาแล้วอย่ากังวล..
ค่ะไม่กังวลแต่เราใส่ชั้นในนอน+วางกระเป๋ากับรองเท้าใกล้ตัวและยังหลับตาไม่ลงตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ประมาณ 1ชั่วโมงแล้ว
ปล. พรุ่งนี้ต้องถามพนักงานให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และใครพักที่โรงแรมนี้บ้าง?? หาเพื่อนร่วมชะตากรรม