= นางบอกว่า นิยามของนาง ไม่ใช่เมียน้อย แต่ ไอ้การที่มาแอบคบหาอยู่กันฉันท์ผัวเมีย ภายใต้ทะเบียนสมรสนี่คือ ต้องวางนางไว้ในตำแหน่งไหนเหรอ ??? =

เริ่มจาก

สามีไปศึกษาต่อต่างประเทศค่ะ พอกลับมาก็มาพร้อมข่าวร้ายของครอบครัวเรา ที่ผ่านมาผู้หญิงคนนั้น ราวี และ อยากเปิดตัวมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราถามสามีไป และเขาบอกไม่มีอะไร ok เราไม่ขุดคุ้ย ที่ผ่านมาสามีเป็นคนเจ้าชู้มากกกกก ถึงมากที่สุด เราอยากเลิกมากกกก ถึงมากที่สุด เคยขอเลิกหลายครั้ง แต่เพราะคำว่าลูก และ สถานะทางสังคมเรามันไม่สามารถทำแบบนั้นตามใจตัวเองได้ เราก็ทำใจ ดูแลลูก ให้ดีที่สุด เรามีรายได้มากกว่าสามี แต่งานของเราจะเป็นธุรกิจส่วนตัว สามีกลัวเรื่องภาษี เลยชวนหย่ากันทางธุรกิจ แล้วก็บอกว่าไม่อยากหย่า สักพักก็บอกหย่ากันทางธุรกิจไว้ก่อน เราก็เฉยๆนะ

สามีเรากลับมา และ ผู้หญิงคนนั้นก็ตามกลับมา แต่นางยังเรียนไม่จบนะคะ คือพักการเรียนไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ คือต้องยอมรับว่า ช่วงที่เราห่างสามี นั้นก็ได้นางคนนี้แหล่ะ เป็นตัวแก้ขัด เป็นคู่นอน และ ดูแลสามีเรา ด้วยภารกิจ " ต้องแย่งให้ได้ " เพราะสามีเราหล่อค่ะ หน้าตาดี โปรไฟล์ดี งานดี รายได้สูง ส่วนนางคือ ไม่ได้อคตินะคะ เอารูปที่เรามีให้คนอื่นดู แค่ถามนะคะว่า ผู้หญิงคนนี้หน้าตาเป็นไง เอาว่า สูง 150 หนัก 72 ผิวขาวค่ะ หน้ากราม ตาเหลิน สรุปนะคะ ไม่มีความสวยเลย คืออัปลักษณ์ครบองค์ประกอบ แต่ เราไม่คิดว่าอันนั้นคือสาระสำคัญ คนเราถ้าจะรักกัน แต่งงานกัน รักกันแบบถูกต้อง ไม่ได้แย่งใครมา จะหน้าตายังไง มันก็คือ ความถูกต้องไม่ใช่แย่ง หรือ รู้ทั้งรู้ ว่าเขามีลูกเมียแล้ว ก็ยังจะเอา มันไม่ใช่นะ

ปากผู้หญิงคนนี้เขาบอกค่ะว่า สงสารเด็กน้อย ( ลูกของเรา ) แต่ทำไมนางถึงมีแนวคิดที่ว่า ...

เราได้คุยกับนาง แบบสุภาพๆ ( ก่อนหน้านี้ นางด่าเรา ด่าคุณย่า แบบหยาบคาย แชทด่าแบบ คำพูดนี่อ่านละ แบบ .... ) นางบอกว่า นางกับเขา ( สามีเรา ) รักกัน ทั้งๆที่วันที่นางเอา face ที่นางตั้งขึ้นมาเพื่อด่าเราโดยเฉพาะ แชทด่าเรา และ พูดถึงสามีเราแบบ เหมือนตัวอะไรสักอย่าง เดี๋ยวมีแชทให้ดูค่ะ ยาวมากๆ แต่จะให้ดูบางส่วน เอ๊ะ. ไม่สามารถลงรูปได้ค่ะ แต่จะพิมพ์ให้อ่านนะคะ

" ผัว มะรึง กูจะเรียกมาบำเรอกูเมื่อไหร่ก็ได้ "


ค่ะ วันนั้นสามีเราโทร หาและแชทบอกเลิก กับนาง นางบอกนางรวยค่ะ คุณย่า ( แม่สามี ) และเราเลยว่า จริงๆแล้ว ผัวเนี่ย เราไม่เอาก็ได้นะ แต่ ลูกเราอย่ามายุ่ง นางบอกนางไม่ได้มาเกาะสามีเรา นางบอกนางรวย นางบอกเศษเงินนะที่เอามาใช้กินอยู่ ( ห้องเช่า ) กับสามีเรา เราบอกเสมอว่า ช่วยมาเอาเขาไปทีนะ ไปเลยไปอยู่ด้วยกันอย่ามาวุ่นวาย และ ช่วยเอาเงินมาซื้อเขาไปด้วยถ้ารวยน่ะ เราได้อ่านที่สามีเราเปิดไลน์ให้ดู คือ นางบอกว่า นางทำไมต้องจ่ายด้วย สามีเราตอบว่า ก็มาทีหลังก็อยากได้เขาไปก็ต้องจ่ายเงินซื้อสิ เงินนี้เก็บให้ลูกเขา นางก็ว่า จะให้ไปขายที่ดินมาให้เหรอ นางบอกไม่มีเงิน อืม สรุป มีหรือไม่มีเงิน อันนี้ คิดเอาค่ะ

เราก็อ่านต่อ --- สามีเรา บอกว่าจะอยู่กับครอบครัว เลือกครอบครัว ปล่อยเราไปเถอะ .... นางก็ว่า นางน่าสงสารนะ ปล่อยให้พวกนั้น ( เราและแม่สามี ) ไปด่านางทำไม สามีเราบอกว่า เขาไม่ได้ด่า เขาพูดความจริง นางก็ว่า มีคนเตือนนางละ ว่าสามีเราจะหลอกนาง .... คืองี้ค่ะ ที่ผ่านมา สามีเราโกหกนางค่ะว่า มีปัญหากับ ภรรยา จะเลิกกันละ ... นางสั่งห้ามไม่ให้สามีเรานอนกับเรา นางบอกสามีเราแยกห้องนอนกับเรา แต่ .... สามีเราไม่เคยทำตามค่ะ เขาดูแลเรากับลูกปกติ เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้แทรกเข้ามา

วันที่นางแชทมาราวี เราไม่ขอทนเราแชทตอบโต้ เราโทรไปทาง fb. นางไม่กล้ารับสายค่ะ เราท้านางว่า ถ้านางไม่เคยราวีเราไม่เคยด่าเรา ไม่ก่อกวนเรา ขอให้นางเจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าเป็นนางที่มาก่อกวนเราด่าเราราวีเราขอให้นางวิบัติ ตายโหง ขึ้นเครื่องบินตกตายครอบครัวนางก็ให้วิบัติ นางไม่กล้าสาบานค่ะ นางด่าเรากลับมา อ่ะ ... ถ้าไม่ได้ทำจะกลัวอะไรแค่จุดธูปสาบาน



สามีเราบอกว่า ก็บอกเลิกผู้หญิงคนนี้มาตลอด แต่นาง หน้าตาไม่สวยไงคะ เกิดมามีแต่แฟนหน้าตาเหมือนนางเอง พอเจอคนหล่อ มีฐานะ มีอนาคต นางเลยจับไม่ปล่อย สามีเราเขาพยายามห่างแล้ว แต่นางคนนี้ไม่ยอมเข้าใจ ไม่ยอมเลิก คือ เรื่องแบบนี้ สามีเราก็ไม่เด็ดขาด แถมไปเปิดช่องไว้เยอะ เขากลัวมันจะตีกลับ ผู้หญิงคนนี้รู้ข้อมูลลูกๆเราทุกคน เรียนไหน เวลาไหน รู้หมด สามีเรามาเอะใจก็สายไปแล้ว เขามาห่วงลูกตอนนี้จะสายไปไหมคะ คือทำอะไรไม่คิดน่ะ สามีเราเฝ้าบอกเลิกนางหลายครั้งเพราะเขาไม่อยากปวดหัว คือ ตอนแรกคิดว่าจะฟันเล่นๆ เพราะแก้ขัด แถมนางคนนี้ก็ดูแลเอาใจใส่ดี เลยสลัดหลุดยาก เราก็ดูแลดี เขาก็ยอมรับ แต่มาเจอนางคนนี้มันไม่ปล่อยค่ะ วันนี้ประโยคเด็ด มันบอกว่า

" เขารัก ....( ชื่อมัน )  นะคะไม่ได้รักพี่ ถ้าพี่ยอมปล่อยเขา เขาออกมาจากพี่แน่ "

" ไม่เคยรั้งไว้นะ เขาจะไปก็ไปสิ แต่ลูกต้องอยู่ในความดูแล ของฉัน "

" ไม่ได้สิคะ เขารักลูก พี่ก็เอาเรื่องลูกมาอ้างตลอด "

" อะไรเรียกว่าอ้าง ลูกคือ ลูกฉันกับเขา แต่ถ้าเขาจะไปก็ไปแต่ตัว สิ จะมาอะไรกับเราหล่ะ "

" ไม่ได้ค่ะ พี่ต้องให้ลูกเขาไปเลี้ยงสิ เขาถึงจะเลิกกับพี่"

" ลูกๆ ไม่มีใครไปอยู่กับพ่อสักคน จะให้ทำไง "

" พี่ต้องบอกลูกไปอยู่กับพ่อสิ .... จะช่วยเขาเลี้ยงดูเอง "

" เอิ่ม. ลูกฉัน 2 คน อุ้มท้องมา 9 เดือน เธอพูดแบบนี้ งั้นฉันจะหาคำตอบให้เธอนะ ว่า แม่ๆ คนอื่นๆ เขาจะว่ายังไง  แต่ที่แน่ๆ เธอคือ ส่วนเกินในชีวิตครอบครัวเรา ครอบครัวประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ไม่มีแม่น้อย แม่เล็ก นะ ถ้าเธอ สงสารเด็กๆจริงอย่างปากพูด เธอควรออกไปจากชีวิตเราซะ "

" ไม่ค่ะ .... ไม่เลิกกับเขา เรารักกัน เราจะอยู่ด้วยกัน พี่นั่นแหละ เลิกไปสิ ยังไง ... ก็เลิกรักเขาไม่ได้ "

" ถ้าเธอรักเขานะ เธอต้องออกจากชีวิตเรา เธอจะทำให้ผู้ชายคนที่เธอรักขึ้นชื่อว่า เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ไร้ความรับผิดชอบ งั้นหรือ ฟังนะ ถ้าเขากล้าทิ้งครอบครัวได้ เขาก็เขี่ยเธอทิ้งได้เหมือนกัน "

คืองี้ค่ะ สามีเรา เขาไปทำหมันให้ตามที่เราขอ นางคนนั้นมันก็รู้แก่ใจค่ะ เพราะนางไม่ได้ต้องการมีลูก ให้เป็นภาระ นางไม่ได้ต้องการเลี้ยงเด็ก สิ่งที่นางต้องการคือ เงิน ความสุขสบาย ในอนาคต เท่านั้น

ค่ะ เราเองรู้จักสันดานสามีเราดี ว่ายังไงซะเขาก็ไม่ทิ้งครอบครัว แต่จะมาคาราคาซังอยู่แบบนี้ ก็ไม่ไหวค่ะ และมีอีกหลายประเด็นที่เราขอไม่พูดนะคะ เพราะมันจะทำให้ลูกๆรู้สึกแย่ หากเขาทราบว่า พ่อที่เขารัก พ่อที่เคยเป็น ฮีโร่ เป็นคนเก่งมากๆในสายตาเขา สุดท้ายเป็นคนแบบไหน เรากลัวลูกจะเจ็บ จริงๆแล้วเราคิดผิดหรือเปล่าไม่รู้ว่าทำไมนะ ถึงไม่บินไปจัดการเรื่องทุกอย่างตั้งแต่ปี 2558 โน่น ไม่น่าให้มันล่วงเลยมาถึงตรงนี้ แต่ก็นะ ถ้าเราบินไปจัดการ หน้าที่การงานสามีคงดิ่งเหว เพราะนักเรียนทุนประพฤติชั่วๆแบบนี้ทางเครือใหญ่ไม่เอาไว้หรอก คือ แค่เขาคิดจะใช้เส้นสายที่ว่า .... ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนกับหลานชาย ผู้บริหารระดับสูง แล้วจะช่วยให้สามีเราก้าวหน้าในงานนั้น พูดเลยนะคะ เรารู้สึก

1. เป็นเพื่อนจริงป่าวไม่รู้ อ่ะ ต่อให้เป็นเพื่อน แล้วยังไงแค่เพื่อนนะ ไม่งามมั้งคะ ไปขออะไรแบบนี้

2. ถ้าผู้บริหาร คิดจะช่วยสนับสนุนเพราะเป็นเพื่อนหลาน อันนี้ องค์กร จะยังยุติธรรมกับพนักงานคนอื่นๆไหมหล่ะ เสื่อมศรัทธา ไหม แน่นอน ว่า เราและลูกได้ประโยชน์แน่ๆ นั่นมันหมายความว่ารายได้มากขึ้น แต่เงินหาเมื่อไหร่ก็ได้นะ แต่ สิ่งที่พวกเราสูญเสียครั้งใหญ่ในครั้งนี้แล้วไม่สามารถเรียกร้องกลับมาได้เลยคือ
- ลูกๆเสียศรัทธาจากพ่อ
- ภรรยาเสียศรัทธาจากสามี
- สามีเราเสียศักดิ์ศรีความเป็นคน

3 สิ่งคือตราบาปในชีวิตที่แก้ไม่ได้ ลบล้างไม่ได้ เงินในกระเป๋าหมดลง เราหาใหม่ได้ แต่ศักดิ์ศรี หมดลง จะเอาจากไหนมาเติมเต็ม คำว่า เกาะชายกระโปรงผู้หญิงขึ้นไปก้าวหน้า ต่อให้เราไม่พูด ตัวคนที่ทำก็รู้แก่ใจ

❌ สิ่งที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นเสมอในการที่ใครสักคนจะก้าวหน้าในงานหรือไม่นั้น มันอยู่ที่ตัวคนนั้น และ ท้ายที่สุด คนที่ล้มเหลวในครอบครัว และการบริหารครอบครัว จะไปบริหารองค์กรให้ดี มันเป็นเรื่องที่ยากมาก เราบอกสามีเสมอว่า แค่ทางเครือ ให้โอกาสให้ทุนไปเรียนต่อนี่ ก็เป็นกำไรชีวิตแล้ว จะทะเยอทะยานอะไรนักหนา ถึงเวลามันก็ได้เอง ทำหน้าที่ของตัวเองไปเถอะ ....

มานั่งคิดนะ เราเองโง่ หรือ บ้า หรือ รักครอบครัวเกินไปไหม บ้านกี่หลังๆ เราโปะจนหมด สินสมรส และทรัพย์สินกว่า 80% มาจากเงินเราทั้งนั้น ไปเที่ยวยุโรป เอเชีย หลายๆทริปมานี่ 3-4 ล้านบาท ละ ก็เงินเรา เขาไม่เคยต้องช่วยออกเงิน เราคิดแต่ว่าอยากช่วยสามี ทำมาหากิน แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ สามีบอกตลอดว่า ช่วยกัน เรานี่เกินคำว่าช่วย มันน้อยใจไหม มากค่ะ สุดๆ เลย ถ้าสังคมที่อยู่ทุกวันนี้ไม่เป็นแบบนี้นะ ความทุกข์ที่มันค้ำคอเรานี่ เราสลัดไปนานแล้ว ถามว่า เรากะสามีอยู่กันมา สิบกว่าปี มีปัญหาปากเสียงกันไหม ก็เรื่องปกติค่ะ แต่เราก็เคลียร์กันเข้าใจทุกครั้ง และที่ผ่านมามันต่างกะครั้งนี้คือ

1. กิ๊กสามีเรา พอเขาพบว่าสามีเรามีครอบครัวเขาก็เลิกกันทุกคนไม่มีใครเกาะติดแบบ นางนี่

2. กิ๊กสามีเราทุกคนที่ผ่านมา สวยทุกคน มีนางนี่ขี้เหร่คนเดียว

เหนื่อยใจค่ะ หน่ายมากๆ มาเจออะไรแบบนี้