"เตือยภัยผู้ที่จะขอกู้สินเชื่อซื้อบ้าน!!!

   ดิฉัน ได้ยื่นขอกู้สินเชื่อซื้อบ้านมือสองกับธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาลาดพร้าว โดยมีพนง. เป็นคนรับเรื่องและดำเนินการให้ ตั้งแต่วันที่28 มี.ค.ซึ่งทางดิฉันแจ้งความจำนงค์ว่าขอให้ช่วยดูแลให้อย่างเร่งด่วนนะคะ 

  เนื่องจากเจ้าของบ้านที่เช่าอยู่ปัจจุบัน แจ้งให้ดิฉันย้ายออกภายในวันที่12 เม.ย. พนง.รับปากอย่างดีว่าทันแน่นอน ทำมาหลายเคสแล้ว ไม่มีปัญหา พิจารณาเอกสารทั้งหมดแล้วผ่านเกณฑ์การกู้ และมีการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ โดยแจ้งว่า 

  1.จ่ายให้ผู้ใหญ่ในธนาคาร 5%

  2.พนง. ในฐานะผู้ดำเนินการ 2% รวมทั้งหมด 7%

โดยเรียกเก็บค่ามัดจำล่วงหน้า 5,000 บาท ดิฉันก็จ่ายไป (พนง.แจ้งว่าเพื่อความรวดเร็วในการเดินเอกสาร)

  วันที่ 10เม.ย. มีการนัดประเมินบ้าน พนง.แจ้งว่าค่าประเมิน 6,500บาท แล้วลูกค้าไม่ต้องไปที่บ้านด้วยก็ได้ ถ้าติดงาน จะจัดการให้ แต่ดิฉันไป พนักงานประเมินเรียกเก็บหน้างาน 3,210บาท จึงได้รู้ว่าเค้าเรียกเก็บเกิน (ดีที่ไหวตัวทัน จ่ายโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ประเมินเลย)

  วันที่12เม.ย. พนง.โทรมาแจ้งว่าธนาคารทำให้ไม่ทันโอน เลยขอเบอร์ติดต่อเจ้าของบ้านที่ดิฉันอยู่ เพื่อคุยขอเวลาการอยู่ต่อ และจะขอรับผิดชอบค่าเช่า และค่าปรับทั้งหมดที่เกิดขึ้นจนถึงวันที่ธนาคารทำเรื่องเสร็จ และแจ้งว่าธนาคารจะเร่งเรื่องให้เสร็จสิ้นแน่นอนภายในวันที่ 20 เม.ย.

 *วันที่ 19 เม.ย.โทรมา confirm ว่า 20 เม.ย.โอนบ้าน ให้ดิฉันไปลางาน รวมถึง ผู้ขายด้วย ขอเบอร์ผู้ขายไปคุยเรื่องเช็คที่จะออกเป็นชื่อผู้ขายใบเดียว ในยอด 2.85ล้าน และจะให้ดิฉันไปขอเงินส่วนต่างคืนจากผู้ขายเอง (ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอคะ ตีเช็คใบเดียว ให้ไปขอเงินส่วนต่างจากผู้ขายเอง แล้วถ้าเกิดเค้าไม่คืนล่ะ จะเรียกร้องจากใคร)

  *ราคาซื้อขายบ้านอยู่ที่ 2.5ล้าน ประเมินตีราคา 2.6ล้าน ยื่นกู้เพิ่มตกแต่งบ้าน 1.5แสน แจ้งว่าทำเพอซัลนอลโลนให้อีก 1แสนบ้าน* 

  วันที่ 20เม.ย.โทรไปถามว่าโอนกี่โมงพนง.แจ้งว่าบ่ายโมง ทุกคนกำลังจะไปกรมที่ดิน เวลา 11โมงกว่า พนง.ธนาคารอีกคน โทรมาแจ้งว่า เจ้านายให้โทรมาแจ้งว่าทำให้ไม่ทันนะคะ  และ พนง.ไม่มีการรับสายหรือติดต่อกลับมาอีกเลย 

  จนถึงเวลา 5ทุ่ม ดิฉันโทรหา พนง. เค้ารับสาย เพื่อแจ้งว่าจะขอยกเลิกการกู้ (ขอเบอร์ติดต่อส่วนตัวไว้) เนื่องจากผิดนัด พูดไม่เป็นคำพูดมาหลายครั้งและทำให้ดิฉัน แฟน และผู้ขาย เดือดร้อน เสียเวลาและขาดรายได้ 

  พนง.พยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้ยกเลิก เพราะดิฉันจะเสียเครดิตที่จะกู้ครั้งต่อไป เพราะไปปฏิเสธการอนุมัติของธนาคาร ตอนนี้เสร็จทุกขั้นตอนแล้ว เหลือแค่เซ็นต์เอกสารและโอนเท่านั้น และผู้ใหญ่ที่เซ็นต์อนุมัติให้เค้าก็เสียหาย เสียเวลา หากจะยกเลิก จะขอเรียกเก็บเงิน 50,000บาท

  ดิฉันก็ไม่มีการติดต่อกับพนง.คนเดิมอีกเลย

  วันที่ 21 เม.ย.  ผจก.สาขาลาดพร้าว โทรหาดิฉัน เพื่อขอทราบเรื่องราวทั้งหมด และแจ้งว่า พนง.คนที่ดำเนินเรื่องให้คุณตั้งแต่แรก เป็นแค่
out source ของธนาคารเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ทำเอกสาร หรือไปนัดโอนลูกค้าทั้งสิ้น และธนาคารไม่มีการเรียกเก็บค่าดำเนิน 7% ผมไม่ได้รู้เห็นเรื่องนี้ด้วย ทางผมจะตักเตือนเค้าไปว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง ธนาคารเสียหายจากการที่คุณเอาไปแอบอ้าง และจะลงมารับเคสนี้ทำต่อด้วยตัวเองและจะเร่งให้เสร็จภายในเดือนเม.ย.นี้ เพราะเห็นใจดิฉันมาก ผมคิดว่า 27เม.ย. อนุมัติ 28เม.ย.โอนบ้าน ดิฉันก็ยินดีทำต่อ ระหว่างนี้มีการพูดคุยอยู่ตลอดกับ ผจก.ยังยืนยันว่า27เม.ย. เสร็จแน่นอน

  25 เม.ย. ดิฉันขอคำยืนยันอีกครั้งว่าอนุมัติชัวร์นะ ผจก. แจ้งว่าอย่าเพิ่งไปconfirm ผู้ขายนะ จะขอคุยกับสนง.ใหญ่ก่อนว่าชัวร์มั้ย         20.30น. ผจก.โทรกลับมาแจ้งดิฉันว่ายังไงก็เสร็จไม่ทันเดือนนี้แน่ เพราะเกิดปัญหาที่เอกสาร พนง.(outsource) แจ้งยอดกู้ไป 3.2ล้าน แจ้งว่าราคาซื้อบ้านคือ 2.8ล้าน มีส่วนต่างอยู่4แสน ถ้าวันที่25เม.ย. ธนาคารโทรมาให้พูดไปตามน้ำกับยอดนี้ เพราะแก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว ดิฉันไม่เข้าใจว่า เอกสารอยู่กับผจก. มาตลอด เหตุใดจึงไม่ตรวจสอบให้ถูกต้อง ทำไมจึงปล่อยผ่านไปจนถึงสนง.ใหญ่ แล้วมาแจ้งปัญหานี้ภายหลัง และในเมื่อรู้ความจริงทั้งหมดแล้วเมื่อวันที่21เม.ยทำไมเพิ่งมาแจ้งวันที่25เม.ย. แต่ดิฉันยืนยันจะพูดความจริงกับธนาคารเท่านั้น ว่ายอดซื้อขายคือ จริงๆคือ2.5ล้าน

   *วันที่ 26 เม.ย. เวลา 9.30น. ผจก.โทรมาแจ้งว่า ได้คุยกับทางผู้ใหญ่แล้ว พิจารณาว่า "ไม่สามารถอนุมัติการกู้ให้ได้" เนื่องจากดิฉันไม่มีคุณสมบัติในการกู้ได้ แต่ไม่สามารถบอกเหตุผลได้ว่าติดที่เรื่องใด เพราะผมจะโดนต่อว่าไปด้วย เป็นเรื่องภายในของธนาคาร จะมีเอกสารแจ้งมาที่บ้านภายใน30วัน

   ดิฉันจึงถามว่า คุณสมบัติผู้กู้ต้องพิจารณาตั้งแต่แรกก่อนว่า ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ผ่านจะให้ดิฉันมาเสียเวลาทำไม ประเมินบ้านทำไม จะได้ไปยื่นกู้กับธนาคารอื่น แต่ทางผจก.แจ้งตั้งแต่วันที่21 เม.ย.แล้วว่า เอกสารไม่ติดปัญหาอะไร เหลือแค่ทำตามขั้นตอน รอเซ็นต์อนุมัติและโอนเท่านั้น 

   ทำไม...
จึงเปลี่ยนแปลงคำพูด และแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการไม่อนุมัติให้ผ่านคะ จากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นทางดิฉันทำผิดอะไร ดิฉันเป็นลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเข้ามาขอกู้สินเชื่อซื้อบ้านหลังแรก กับธนาคาร และทำตามขั้นตอนที่พนง.แนะนำทุกอย่าง เมื่อเกิดความเสียหายครั้งแรก ก็ยังให้โอกาส ผจก. พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ด้วยการทำให้แล้วเสร็จแต่ก็ไม่เสร็จ แต่พนง.ธนาคาร และ outsource สร้างความเสียหายและเดือดร้อนให้เป็นอย่างมาก และไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น และบ้านที่จะซื้อก็ไม่ได้ เพราะทางผู้ขายแจ้งว่ามีคนมาติดต่อจะซื้อคนอื่นรออยู่  ทางธนาคารจะสามารถช่วยเหลือและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไรบ้างคะ
    ดิฉันพยายามติดต่อธนาคารทุกช่องทาง ทั้งร้องเรียนเข้าไปที่ call center ติดต่อเจ้าหน้าที่แต่ละระดับจนถึงบนสุด ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากธนาคารเลย และไม่มีแม้กระทั่งพนง.โทรมาconfirm ว่าได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วนะ เงียบมากกกก

ตอนนี้มืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้จะทำยังต่อไป ใครมีข้อแนะนำ หรือพบเจอประสบการณ์แบบนี้บ้าง ช่วยให้คำปรึกษาหน่อยค่ะ

***ทางเราก็เก็บหลักฐานไว้ทุกอย่าง หากใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าธนาคารไหน หลังไมค์มาได้เลยค่ะ จะได้คิดตัดสินใจกันให้ดีๆก่อนจะไปกู้ ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำซ้อนอีก ***ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
5-7% นี้ยังไม่ได้จ่ายใช่ไหมครับ แต่จ่ายไปเบื้องต้นคือ 5,000 กับค่าประเมิน

มันแย่ตั้งแต่เก็บค่าดำเนินการ 5-7% ด้วย เกิดมาพึ่งเคยเจอครับ และตลกที่สุดคือมีค่ายกเลิกด้วย 50,000 บาท พนักงานคนนั้นช่างกล้า ... 5 หมื่นนี่มันค่าโง่และค่าขู่กรรโชกชัดๆ

เป็นบทเรียนไว้ครับครั้งหน้าเราต้องยึดผลประโยชน์ของเราไว้ก่อนครับด้วยการยื่นกู้หลายๆแห่งแล้วเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด อย่าไปเชื่อลมปากใครครับ
ความคิดเห็นที่ 27
จขกท. คือตัวปัญหาที่เป็นบ่อเกิดการ "คอรัปชั่น" ในประเทศไทยทุกระดับ ไม่เพียงแค่ภาครัฐแต่ยังลามถึงเอกชนด้วย

1. จ่ายให้ผู้ใหญ่ในธนาคาร 5%
2. พนง. ในฐานะผู้ดำเนินการ 2% รวมทั้งหมด 7%
โดยเรียกเก็บค่ามัดจำล่วงหน้า 5,000 บาท ดิฉันก็จ่ายไป (พนง.แจ้งว่าเพื่อความรวดเร็วในการเดินเอกสาร)


คุณทำใจจ่ายไปได้ยังไงครับ ทั้งที่รู้ว่าเรื่องนี้คือการ "โกง" ภายในบริษัทฯ ?

ค่าใช้จ่ายพวกนี้เรียกเก็บโดยที่ไม่สามารถออกใบเสร็จได้ ธนาคารไม่ได้ประโยชน์ ผู้ถือหุ้นไม่ได้ประโยชน์ รัฐไม่ได้ภาษี ฯลฯ
มันคือการ "โกง" กันภายในองค์กรโดยที่ จขกท. มีส่วนรู้เห็นทราบและสนับสนุนด้วยซ้ำ แถมยังพลอยทำให้คนอื่นเสียไปด้วย
ลองคิดว่ามีคนกู้บ้าน 100 คน เล่นจ่ายใต้โต๊ะไป 90 คน อีก 10 คน เขาคงจะได้เงินหรอก เผลอกลายเป็นธรรมเนียมปฎิบัติผิด ๆ
ฝังเหง้ารากลึกไปในสังคมไทยพอกับ "เงินใส่ซองพิเศษสำหรับหมอทำคลอด" ทีนี้พอคนหลัง ๆ มาไม่ใส่กลายเป็นเรื่องผิดทันที

ฝากเอาไปคิดด้วยครับ คอรัปชั่นร้ายแรงกว่าที่คุณคิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่