ทำของหายที่ต่างประเทศ เค้าส่งกลับมาให้ แต่โดนศุลกากรเรียกเก็บภาษี แบบนี้เรื่องปกติหรือเปล่าครับ

ทำกระเป๋าหายที่สถานีรถไฟต่างประเทศ มีของใช้จุกจิก กับกล้องถ่ายรูป เค้าเจอก็ส่งมาให้ เสียค่าส่งพอสมควร แต่ก็ถือว่าคุ้มให้ส่งมา ปรากฎว่าโดนศุลกากรกักไว้  fedex บอกว่าผู้ส่งแจ้งมูลค่าไม่ตรงกับของที่ส่งมา ให้เราส่งใบเสร็จราคาจริงของมา เขาจะได้ประเมินภาษี แต่เราก็อธิบายให้เค้าเข้าใจว่า เป็นของหาย ของทุกอย่างเป็นของใช้แล้ว ซื้อที่ไทย ไม่ได้สั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศ มีเมล์โต้ตอบเรื่องของหาย มีใบเสร็จกล้องตอนที่ซื้อในไทย ทาง fedex ก็เข้าใจให้เราส่งใบเสร็จไปให้ดู แล้วก็ส่งเมล์ที่คุยกับทางต่างประเทศเรื่องของหายไป สรุปโดนศุลกากรเรียกเก็บเงินเพิ่มพันแปด เค้าบอกว่าของที่เอาออกจากประเทศแล้วส่งกลับเข้ามาใหม่ ยังไงก็ต้องเสียภาษี ก็เลยงง ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ เพราะคิดว่าศุลกากรน่าจะจับพวกของที่สั่งจากต่างประเทศโดยตรง ที่ไม่เสียภาษีนำเข้าในไทย แต่ของที่ซื้อแล้วเสียภาษีในไทยไปแล้ว ไม่ควรต้องมาจ่ายอีก แบบนี้เราไปต่างประเทศของทุกอย่างที่เอาไปตอนกลับมาก็เข้าข่ายต้องเสียภาษีซ้ำ ใครมีความรู้หรือประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่าครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
จ่ายไปหรือยังครับ ถ้ายัง ไปขอพบเจ้าหน้าที่ศุลกากรด้วยตัวเอง
เอาเอกสารหลักฐานทุกอย่างที่มี เช่นใบเสร็จที่ซื้อกล้องมาเมื่อไหร่ยังไง ใบเสร็จที่ซื้อของจุกจิกต่าง ๆ เท่าที่มี
หรือหลักฐานที่แสดงว่าคุณซื้อของพวกนี้ตั้งแต่ก่อนไปเที่ยว  ผมดูแล้วไม่น่าจะเสียภาษีนะครับ

ขอให้ทำความเข้าใจอย่างหนี่งว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรไม่อาจจะทราบได้ว่าของที่คุณอ้างนั้น เป็นจริงหรือไม่
คุณซื้อมาจริงหรือเปล่า หรือเป็นของใครส่งมาให้ ซื้อมาให้ หรือไปประมูลมือสองมาอะไรทำนองนั้น
ถูกต้องไหมครับ  จะเหมารวมว่าศุลกากรก็คงไม่ถูก  ดังนั้น ก็ว่ากันไปตามหลักฐานครับ

เจ้าหน้าที่เคลียร์ของ ก็ไม่ใช่ว่าเก่งทุกคน หรือรู้มาก รู้น้อย  คนที่คุณคุยด้วยเอาเอกสารส่งไป
บางทีเค้าอาจจะไม่ได้เอาไปให้ศุลกากรก็ได้  เพราะการจ่ายภาษีมันง่ายกว่ามาโต้แย้งครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่