สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หลังจากที่อ่านพันทิปมานาน
แนะนำตัวนิดนึง จขกท. ชื่อ ' จีน ' เราเป็นนักเรียนสายศิลป์-คำนวณ แต่ไม่ได้เก่งภาษามาก (คณิตก็เช่นกัน 555 ) ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา เราได้หาข้อมูลที่จะไปเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ( แอบแฝงด้วยความอยากเที่ยว 5555 ) เราเลือกที่ไหนก็ได้ที่ไม่แพง + อากาศเย็น ๆ ในขณะที่เรากำลังหาข้อมูล เรื่อย ๆ ก็ได้เจอกับเมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศจีนชื่อว่า ' ฮาร์บิน ' ตอนนั้นความรู้สึกมายก้อดมาก สังคมคล้ายยุโรป ค่าครองชีพไม่แพง คนต่างชาติเยอะ ที่นี่แหล่ะแจ่มแมว !!
เราตามหาโครงการต่าง ๆ จนได้เจอกับพี่เจล พี่เจลน่ารักมาก เขาจัดการให้เราทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น สมัครเรียน , ขอVISA , จองตั๋วเครื่องบิน , รับ - ส่งสนามบิน ฯลฯ เราเลือกไปเรียนแลกเปลี่ยน 1 เดือน ( ตาม visa ที่ได้มาคือ 29 วัน ) แลกเปลี่ยนนานมั้ย ไม่รู้ แต่ที่รู้ ต้องใช้เวลาให้คุ้ม Go Go Go !!
การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้
02.00 am. 43 A เป็นอะไรที่ดีงามมากสำหรับคนชอบเดินทางตอนกลางคืนอย่างเรา แต่คงต้องเหนื่อยหน่อยกับการต่อเครื่อง เพราะไม่มีไฟลท์ไหนที่บินตรงจากไทยไปฮาร์บิน ( ร้องไห้หนักมาก )
Plan ของเที่ยวบินรอบครั้งแรกในชีวิต
1. กรุงเทพ - กวางโจว 02.00 am - 04.30 am ( ไม่ต้องเช็คอิน , รับกระเป๋าปลายทาง )
2. กวางโจว - ฮาร์บิน 07.30 am - 11.30 am ( 4 ชม. ;___; )
รายละเอียดสัมภาระ
1. กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 2 ใบ แต่ละใบน้ำหนักไม่เกิน 23 Kg. เราใช้กระเป๋า 29 นิ้ว 2 ใบ
- ใบสีชมพู = เสื้อผ้า , รองเท้า ( แพคให้ดีไม่งั้นกลิ่นออก -..- )
- ใบสีเงิน = ของใช้ส่วนตัวต่างๆ , สเก็ตบอร์ด ( เอาไว้เล่น 555 ) , ขาตั้งกล้อง , อาหารแห้ง ( เผื่อคิดถึงอาหารไทย)
- ใบกระเป๋าสีเงินเราจะเหลืออีกฝั่งไว้ใส่ของฝาก ( อย่าลืมชั่งน้ำหนักกระเป๋า สำคัญสุด !!! )
2.กระเป๋าขึ้นเครื่อง 1 ใบ ไม่เกิน 10 Kg.
- เราจะใส่ของที่มีค่า เช่น กล้องถ่ายภาพ , โน้ตบุ๊ต , โทรศัพท์ , พาวเวอร์แบงค์ , กระเป๋าตังค์ , พาสปอร์ต - ตั๋วเครื่องบิน
สมุด - กล่องดินสอ และเครื่องสำอางค์ 555555
หลังจากผ่าน ตม. ของไทยมาแล้ว .... ระยะทางเดินในการหา Gate ไม่ใช่เรื่องตลก ;___; ไกลแค่ไหนถามใจดู T^T
โชคดีที่ขึ้นเครื่องทัน รู้สึกโคตรตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศ และเป็นครั้งแรกของการต่อเครื่องเช่นกัน 5555 ความโชคดีของการนั่งริมหน้าต่างคือ แสงไฟตอนกลางคืนสวยมากกก ใช้เวลาบนเครื่องบินให้คุ้ม ดูวิววนไปค่ะ !!!
หลังจากลงเครื่องและผ่านตม.ของกว่างโจวมาเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องรีบวิ่งไปดูตารางเที่ยวบิน เพราะในตั๋วจะบอกแค่เกท ไม่ได้บอกตัวเลขไว้
How to หาตารางเที่ยวบิน
- หลังจากผ่าน ตม. , นั่งรถรับ-ส่ง ในสนามบินเรียบร้อย ตารางเที่ยวบินจะอยู่ชั้น 2
- หลังจากรู้เที่ยวบินแล้วเราหาเกทไม่เจอ ท่องไว้เลยว่าต้องรีบวิ่งไปอีกตึก วิ่งวนไปค่ะ !!!
- ในสนามบินจะมีรถกอล์ฟขนาดเล็กคอยรับส่งถึงที่ แค่ยื่นไฟล์ทให้เขาดู ( ค่าบริการ 10 หยวนนะจ๊ะ แต่ถ้าไม่อยากเสียเงิน วิ่งโลดด )
และก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ทุกอย่างเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไฟลท์นี้มีอาหาร
ไฟลท์นี้จะรีวิวอาหารกัน เราเลือกก๋วยเตี๋ยวไก่ ( จะมี 2 เมนูให้เลือก ) และจะมีกล่องของหวาน เช่น ขนมปัง , โยเกิร์ต , ถั่วลิสง , ส้ม , พริกดอง (กินไม่เป็น 5555) เรื่องรสชาติ เราให้ 8 / 10 ตัดคะแนนความมัน เยิ้มเลยค่ะ แต่ตอนนั้นคือหิวจริง สภาพนี่ปอบลง 55555 เอาจริง ๆ รสชาติก็ไม่ได้แย่นะ ถือว่ากินได้
วิวระหว่างทางเราว่าสวยไม่แพ้ตอนกลางคืนเลยนะ เป็นอะไรที่ดีงามพระรามแปดมากก ถ่ายรูปวนไปค่ะ !! 555555
ในที่สุด สวรรค์ก็มาโปรด เจอพี่เจลแล้วววว T^T ระหว่างนั่งบนรถ นางก็คุยกับคนขับเป็นภาษาจีน เราก็นิ่ง ๆ ไปค่ะ พูดไม่เป็น 5555 วิวข้างทางเมืองฮาร์บินสวยมากกก ถึงสักที ตลอด 10 ชม. ในการเดินทาง
สวัสดีฮาร์บิน อั๊วมาเลี้ยววว !!!
รีวิวหอพัก
พอมาถึงมหา ฯ ลัย พี่เจลก็จะพาเราไปลงทะเบียนที่หอพักไว้ก่อน ที่นี่มีหอพักเยอะมาก แต่เรารู้จักอยู่ 3 หอหลัก ๆ คือ หอ 6 หอ 10 และหอ 13 ซึ่งแต่ละหอก็จะอยู่ใกล้ ๆ กัน เราได้อยู่หอ 10 ค่ะ จะสบายหน่อยก็ตรงที่มีที่จ่ายค่าไฟอยู่ข้างล่าง อยู่ใกล้ตึกเรียน และซุปเปอร์มาร์เก็ตมากกว่าหออื่น ๆ เดิน 5-10 นาทีก็ถึง
หลังจากที่ลงทะเบียนเข้าหอเสร็จแล้ว ก็จะได้บัตรหอมา 1 ใบ ซึ่งบัตรนี้จะใช้ในการเข้า - ออกหอ , จ่ายเงินโรงอาหาร -
ซุปเปอร์มาร์เก็ต และเอาไว้เขียนชื่อตัวเองเวลาลืมชื่อ 5555
รูปนี้เป็นที่จ่ายค่าไฟค่ะ
ห้องพักของหอ10 จะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง ( 1 ห้องนอน จะมี 2 คน สรุปคือ 1 ห้องใหญ่ จะมี 4 คน ) ส่วนห้องน้ำจะแบ่งเป็น 2 ห้อง คือ ห้องอาบน้ำ และห้องถ่าย ( ขรี้ -..- ) เราลืมถ่ายรูปไว้ เลยเขียนแผนผังให้ดูค่ะ
ปล . แต่ละห้องจะมีเฟอร์นิเจอร์ / ขนาดห้องที่แตกต่างกัน
วิวจากหน้าต่างในห้องเรา ( จุดสีขาวเล็ก ๆ คือหิมะ )
เราได้เมทเป็นรุ่นน้องคนไทย ชื่อ ' กุ๊งกิ๊ง ' น้องน่ารักมากก คุยไปคุยมา อ้าวอยู่ในจังหวัดเดียวกัน 5555 ส่วนห้องข้าง ๆ มีเมท 1 คนค่ะ เป็นคนมองโกเรีย หน้าเกาหลีมากกและน่ารักมากก ชื่อมุกกี้ เรียนป . โท
สวัสดีครับเมททั้ง 2
รีวิว HIT University
สถาบันเทคโนโลยีฮาร์บิน (Harbin Institute of Technology: HIT) เป็นมหา ฯ ลัยอยู่ในกลุ่ม C9 อยู่ใน Top 10 ของประเทศจีน
อันดับ 1 ของฮาร์บิน เด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์ และภาษา ก่อนที่จะเข้าเรียน ก็จะมีสอบวัดระดับภาษา เพราะงั้นคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน ก็สามารถมาเรียนได้เหมือนกันค่ะ เพราะจะได้เรียนตั้งแต่ พยัญชนะ สระ พินยิน วิธีอ่าน ในการเรียนภาษาของที่นี่จะมี 7 ระดับ คือ A , B , C , C+ , D , E , F ซึ่ง F คือระดับสูงสุด ( ระดับ c ถ้าเทียบกับการสอบ HSK คือระดับ 4 ) ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะสอบเข้าเรียนระดับไหน แต่ถ้าคะแนนไม่ถึง 50 ก็ต้องเรียนในระดับที่ต่ำกว่า และสามารถสอบเลื่อนระดับได้
เราเลือกสอบระดับ C แต่ได้คะแนนอยู่ที่ 41 เลยต้องเรียน ระดับ B ซึ่งจะเน้นไวยากรณ์ส่วนใหญ่ เราได้อยู่ B4 ที่มหา ฯ ลัย จะเรียน 2 ชม. / วิชา = 4 ชม. / วัน คือ 8.00 am - 12.00 am และ 13.00 am -17.00 am แต่ละชั่วโมงจะมีพักเบรค 10 นาที แล้วแต่ตารางเรียนของแต่ละ Class ที่นี่มีความตรงต่อเวลามาก กริ่งดังปุ๊ป เลิกเรียนปั๊ป ถ้าสอบอยู่ ก็เอาข้อสอบไปทำเป็นการบ้านแทน 5555
2 คนที่งีบอยู่เป็นรุ่นน้องที่เรียนห้องเดียวกับเราค่ะ น้องน่ารักมากก
ที่นี่สามารถเอาน้ำขึ้นมากินได้ค่ะ ขนมกินได้ในตอนพักเบรค
บางวันห้องเรียนของเราก็ไม่สามารถใช้ได้ คุณครูก็จะแจ้งมาใน We chat กลุ่มว่าเรียนห้องไหน ซึ่ง Class เรา จะมีการย้ายห้องเรียนบ่อยสุด เดินหาห้องเรียนวนไปค่ะ -..-
ส่วนเรื่องการบ้านนี่ไม่ต้องพูดถึง พี่จีนเขามาแรงแซงทางโค้งมาก น้องไทยนี่ชิดซ้าย ;____;
ในห้องของแต่ละ class จะมีกิจกรรมจัดบอร์ด ให้เราได้รู้จัก และสนิทกันมากขึ้นค่ะ
ในเรื่องของกิจกรรม มหา ฯ ลัย จะจัดงานจิบน้ำชาทุกวันศุกร์ คล้าย ๆ กับงานหาเพื่อน นักเรียนต่างชาติจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชั้น 1 ของตึกที่เราเรียน งานนี้จะมีพวกน้ำและขนมให้ อร่อยมั้ยต้องลองดู 5555
วันไหนโชคดีหน่อยก็ไปเรียนพร้อมกับหิมะ
โรงอาหารของมหา ฯ ลัย จะมี 3 ที่ แต่ละที่ก็จะอยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งโรงอาหารที่อยู่ตึกเดียวกับ Supermarket จะมีจุดเติมเงินอยู่ชั้น 1 ในช่วง 11 โมง คนจะแน่นมากในโรงอาหาร ถ้าเกิดหาที่นั่งไม่ได้ เราก็สามารถไปนั่งกับคนอื่นแทน no worry มันคือ Culture ของพี่จีนเขา 5555
อันนี้เป็นที่เติมเงินบัตรนักเรียนค่ะ
Supermarket ในมหา ฯ ลัย จะคล้ายกับ Big C mini หรือ Lotus Express ของไทย ที่นี่เป็นที่เปิด sim มือถือ เวลาซื้อของสามารถใช้เงินสด หรือเงินในบัตรหอจ่ายได้ แต่จะไม่มีถุงหิ้วให้ เราสามารถซื้อถุงใส่ของได้ ราคา 0.2 หยวน หรือจะเอาถุงไปใส่เองก็ได้ ( ยืมรูปพี่เจลมาก่อนนะครับ >< )
ในมหาลัยจะมีสนามบาสและสนามเทนนิสอยู่ใกล้ ๆ กับหอ ยังมีโดมสนามกีฬา และสระว่ายน้ำ โดยรอบ ๆ เราว่าที่นี่สะอาดมาก กระทู้นี้ขอจบรีวิวมหาลัยด้วยภาพวิวใน HIT ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสถานที่ในมหาลัยเราจะแนบลิงค์ให้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/pg/jjjj.harbin/photos/?tab=album&album_id=659733594174482 แล้วเจอกัน ep.2 ใน comment ค้าบบบ ( ตัวอักษรจะเกินจำกัดแล้วว 5555 )
[CR] โคตรมหากาพย์รีวิว นักเรียนแลกเปลี่ยน ' ฮาร์บิน ' เมืองเอเชีย สไตล์ยุโรป ค่าครองชีพ BKK ( รายละเอียด + รูปเยอะ )
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หลังจากที่อ่านพันทิปมานาน แนะนำตัวนิดนึง จขกท. ชื่อ ' จีน ' เราเป็นนักเรียนสายศิลป์-คำนวณ แต่ไม่ได้เก่งภาษามาก (คณิตก็เช่นกัน 555 ) ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา เราได้หาข้อมูลที่จะไปเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ( แอบแฝงด้วยความอยากเที่ยว 5555 ) เราเลือกที่ไหนก็ได้ที่ไม่แพง + อากาศเย็น ๆ ในขณะที่เรากำลังหาข้อมูล เรื่อย ๆ ก็ได้เจอกับเมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศจีนชื่อว่า ' ฮาร์บิน ' ตอนนั้นความรู้สึกมายก้อดมาก สังคมคล้ายยุโรป ค่าครองชีพไม่แพง คนต่างชาติเยอะ ที่นี่แหล่ะแจ่มแมว !!
เราตามหาโครงการต่าง ๆ จนได้เจอกับพี่เจล พี่เจลน่ารักมาก เขาจัดการให้เราทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น สมัครเรียน , ขอVISA , จองตั๋วเครื่องบิน , รับ - ส่งสนามบิน ฯลฯ เราเลือกไปเรียนแลกเปลี่ยน 1 เดือน ( ตาม visa ที่ได้มาคือ 29 วัน ) แลกเปลี่ยนนานมั้ย ไม่รู้ แต่ที่รู้ ต้องใช้เวลาให้คุ้ม Go Go Go !!
การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้
02.00 am. 43 A เป็นอะไรที่ดีงามมากสำหรับคนชอบเดินทางตอนกลางคืนอย่างเรา แต่คงต้องเหนื่อยหน่อยกับการต่อเครื่อง เพราะไม่มีไฟลท์ไหนที่บินตรงจากไทยไปฮาร์บิน ( ร้องไห้หนักมาก )
Plan ของเที่ยวบินรอบครั้งแรกในชีวิต
1. กรุงเทพ - กวางโจว 02.00 am - 04.30 am ( ไม่ต้องเช็คอิน , รับกระเป๋าปลายทาง )
2. กวางโจว - ฮาร์บิน 07.30 am - 11.30 am ( 4 ชม. ;___; )
รายละเอียดสัมภาระ
1. กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 2 ใบ แต่ละใบน้ำหนักไม่เกิน 23 Kg. เราใช้กระเป๋า 29 นิ้ว 2 ใบ
- ใบสีชมพู = เสื้อผ้า , รองเท้า ( แพคให้ดีไม่งั้นกลิ่นออก -..- )
- ใบสีเงิน = ของใช้ส่วนตัวต่างๆ , สเก็ตบอร์ด ( เอาไว้เล่น 555 ) , ขาตั้งกล้อง , อาหารแห้ง ( เผื่อคิดถึงอาหารไทย)
- ใบกระเป๋าสีเงินเราจะเหลืออีกฝั่งไว้ใส่ของฝาก ( อย่าลืมชั่งน้ำหนักกระเป๋า สำคัญสุด !!! )
2.กระเป๋าขึ้นเครื่อง 1 ใบ ไม่เกิน 10 Kg.
- เราจะใส่ของที่มีค่า เช่น กล้องถ่ายภาพ , โน้ตบุ๊ต , โทรศัพท์ , พาวเวอร์แบงค์ , กระเป๋าตังค์ , พาสปอร์ต - ตั๋วเครื่องบิน
สมุด - กล่องดินสอ และเครื่องสำอางค์ 555555
หลังจากผ่าน ตม. ของไทยมาแล้ว .... ระยะทางเดินในการหา Gate ไม่ใช่เรื่องตลก ;___; ไกลแค่ไหนถามใจดู T^T
โชคดีที่ขึ้นเครื่องทัน รู้สึกโคตรตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศ และเป็นครั้งแรกของการต่อเครื่องเช่นกัน 5555 ความโชคดีของการนั่งริมหน้าต่างคือ แสงไฟตอนกลางคืนสวยมากกก ใช้เวลาบนเครื่องบินให้คุ้ม ดูวิววนไปค่ะ !!!
หลังจากลงเครื่องและผ่านตม.ของกว่างโจวมาเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องรีบวิ่งไปดูตารางเที่ยวบิน เพราะในตั๋วจะบอกแค่เกท ไม่ได้บอกตัวเลขไว้
How to หาตารางเที่ยวบิน
- หลังจากผ่าน ตม. , นั่งรถรับ-ส่ง ในสนามบินเรียบร้อย ตารางเที่ยวบินจะอยู่ชั้น 2
- หลังจากรู้เที่ยวบินแล้วเราหาเกทไม่เจอ ท่องไว้เลยว่าต้องรีบวิ่งไปอีกตึก วิ่งวนไปค่ะ !!!
- ในสนามบินจะมีรถกอล์ฟขนาดเล็กคอยรับส่งถึงที่ แค่ยื่นไฟล์ทให้เขาดู ( ค่าบริการ 10 หยวนนะจ๊ะ แต่ถ้าไม่อยากเสียเงิน วิ่งโลดด )
และก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ทุกอย่างเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไฟลท์นี้มีอาหาร ไฟลท์นี้จะรีวิวอาหารกัน เราเลือกก๋วยเตี๋ยวไก่ ( จะมี 2 เมนูให้เลือก ) และจะมีกล่องของหวาน เช่น ขนมปัง , โยเกิร์ต , ถั่วลิสง , ส้ม , พริกดอง (กินไม่เป็น 5555) เรื่องรสชาติ เราให้ 8 / 10 ตัดคะแนนความมัน เยิ้มเลยค่ะ แต่ตอนนั้นคือหิวจริง สภาพนี่ปอบลง 55555 เอาจริง ๆ รสชาติก็ไม่ได้แย่นะ ถือว่ากินได้
วิวระหว่างทางเราว่าสวยไม่แพ้ตอนกลางคืนเลยนะ เป็นอะไรที่ดีงามพระรามแปดมากก ถ่ายรูปวนไปค่ะ !! 555555
ในที่สุด สวรรค์ก็มาโปรด เจอพี่เจลแล้วววว T^T ระหว่างนั่งบนรถ นางก็คุยกับคนขับเป็นภาษาจีน เราก็นิ่ง ๆ ไปค่ะ พูดไม่เป็น 5555 วิวข้างทางเมืองฮาร์บินสวยมากกก ถึงสักที ตลอด 10 ชม. ในการเดินทาง สวัสดีฮาร์บิน อั๊วมาเลี้ยววว !!!
รีวิวหอพัก
พอมาถึงมหา ฯ ลัย พี่เจลก็จะพาเราไปลงทะเบียนที่หอพักไว้ก่อน ที่นี่มีหอพักเยอะมาก แต่เรารู้จักอยู่ 3 หอหลัก ๆ คือ หอ 6 หอ 10 และหอ 13 ซึ่งแต่ละหอก็จะอยู่ใกล้ ๆ กัน เราได้อยู่หอ 10 ค่ะ จะสบายหน่อยก็ตรงที่มีที่จ่ายค่าไฟอยู่ข้างล่าง อยู่ใกล้ตึกเรียน และซุปเปอร์มาร์เก็ตมากกว่าหออื่น ๆ เดิน 5-10 นาทีก็ถึง
หลังจากที่ลงทะเบียนเข้าหอเสร็จแล้ว ก็จะได้บัตรหอมา 1 ใบ ซึ่งบัตรนี้จะใช้ในการเข้า - ออกหอ , จ่ายเงินโรงอาหาร -
ซุปเปอร์มาร์เก็ต และเอาไว้เขียนชื่อตัวเองเวลาลืมชื่อ 5555
รูปนี้เป็นที่จ่ายค่าไฟค่ะ
ห้องพักของหอ10 จะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง ( 1 ห้องนอน จะมี 2 คน สรุปคือ 1 ห้องใหญ่ จะมี 4 คน ) ส่วนห้องน้ำจะแบ่งเป็น 2 ห้อง คือ ห้องอาบน้ำ และห้องถ่าย ( ขรี้ -..- ) เราลืมถ่ายรูปไว้ เลยเขียนแผนผังให้ดูค่ะ
ปล . แต่ละห้องจะมีเฟอร์นิเจอร์ / ขนาดห้องที่แตกต่างกัน
วิวจากหน้าต่างในห้องเรา ( จุดสีขาวเล็ก ๆ คือหิมะ )
เราได้เมทเป็นรุ่นน้องคนไทย ชื่อ ' กุ๊งกิ๊ง ' น้องน่ารักมากก คุยไปคุยมา อ้าวอยู่ในจังหวัดเดียวกัน 5555 ส่วนห้องข้าง ๆ มีเมท 1 คนค่ะ เป็นคนมองโกเรีย หน้าเกาหลีมากกและน่ารักมากก ชื่อมุกกี้ เรียนป . โท สวัสดีครับเมททั้ง 2
รีวิว HIT University
สถาบันเทคโนโลยีฮาร์บิน (Harbin Institute of Technology: HIT) เป็นมหา ฯ ลัยอยู่ในกลุ่ม C9 อยู่ใน Top 10 ของประเทศจีน
อันดับ 1 ของฮาร์บิน เด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์ และภาษา ก่อนที่จะเข้าเรียน ก็จะมีสอบวัดระดับภาษา เพราะงั้นคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน ก็สามารถมาเรียนได้เหมือนกันค่ะ เพราะจะได้เรียนตั้งแต่ พยัญชนะ สระ พินยิน วิธีอ่าน ในการเรียนภาษาของที่นี่จะมี 7 ระดับ คือ A , B , C , C+ , D , E , F ซึ่ง F คือระดับสูงสุด ( ระดับ c ถ้าเทียบกับการสอบ HSK คือระดับ 4 ) ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะสอบเข้าเรียนระดับไหน แต่ถ้าคะแนนไม่ถึง 50 ก็ต้องเรียนในระดับที่ต่ำกว่า และสามารถสอบเลื่อนระดับได้
เราเลือกสอบระดับ C แต่ได้คะแนนอยู่ที่ 41 เลยต้องเรียน ระดับ B ซึ่งจะเน้นไวยากรณ์ส่วนใหญ่ เราได้อยู่ B4 ที่มหา ฯ ลัย จะเรียน 2 ชม. / วิชา = 4 ชม. / วัน คือ 8.00 am - 12.00 am และ 13.00 am -17.00 am แต่ละชั่วโมงจะมีพักเบรค 10 นาที แล้วแต่ตารางเรียนของแต่ละ Class ที่นี่มีความตรงต่อเวลามาก กริ่งดังปุ๊ป เลิกเรียนปั๊ป ถ้าสอบอยู่ ก็เอาข้อสอบไปทำเป็นการบ้านแทน 5555
2 คนที่งีบอยู่เป็นรุ่นน้องที่เรียนห้องเดียวกับเราค่ะ น้องน่ารักมากก
ที่นี่สามารถเอาน้ำขึ้นมากินได้ค่ะ ขนมกินได้ในตอนพักเบรค
บางวันห้องเรียนของเราก็ไม่สามารถใช้ได้ คุณครูก็จะแจ้งมาใน We chat กลุ่มว่าเรียนห้องไหน ซึ่ง Class เรา จะมีการย้ายห้องเรียนบ่อยสุด เดินหาห้องเรียนวนไปค่ะ -..-
ส่วนเรื่องการบ้านนี่ไม่ต้องพูดถึง พี่จีนเขามาแรงแซงทางโค้งมาก น้องไทยนี่ชิดซ้าย ;____;
ในห้องของแต่ละ class จะมีกิจกรรมจัดบอร์ด ให้เราได้รู้จัก และสนิทกันมากขึ้นค่ะ
ในเรื่องของกิจกรรม มหา ฯ ลัย จะจัดงานจิบน้ำชาทุกวันศุกร์ คล้าย ๆ กับงานหาเพื่อน นักเรียนต่างชาติจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชั้น 1 ของตึกที่เราเรียน งานนี้จะมีพวกน้ำและขนมให้ อร่อยมั้ยต้องลองดู 5555
วันไหนโชคดีหน่อยก็ไปเรียนพร้อมกับหิมะ
โรงอาหารของมหา ฯ ลัย จะมี 3 ที่ แต่ละที่ก็จะอยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งโรงอาหารที่อยู่ตึกเดียวกับ Supermarket จะมีจุดเติมเงินอยู่ชั้น 1 ในช่วง 11 โมง คนจะแน่นมากในโรงอาหาร ถ้าเกิดหาที่นั่งไม่ได้ เราก็สามารถไปนั่งกับคนอื่นแทน no worry มันคือ Culture ของพี่จีนเขา 5555
อันนี้เป็นที่เติมเงินบัตรนักเรียนค่ะ
Supermarket ในมหา ฯ ลัย จะคล้ายกับ Big C mini หรือ Lotus Express ของไทย ที่นี่เป็นที่เปิด sim มือถือ เวลาซื้อของสามารถใช้เงินสด หรือเงินในบัตรหอจ่ายได้ แต่จะไม่มีถุงหิ้วให้ เราสามารถซื้อถุงใส่ของได้ ราคา 0.2 หยวน หรือจะเอาถุงไปใส่เองก็ได้ ( ยืมรูปพี่เจลมาก่อนนะครับ >< )
ในมหาลัยจะมีสนามบาสและสนามเทนนิสอยู่ใกล้ ๆ กับหอ ยังมีโดมสนามกีฬา และสระว่ายน้ำ โดยรอบ ๆ เราว่าที่นี่สะอาดมาก กระทู้นี้ขอจบรีวิวมหาลัยด้วยภาพวิวใน HIT ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสถานที่ในมหาลัยเราจะแนบลิงค์ให้นะคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แล้วเจอกัน ep.2 ใน comment ค้าบบบ ( ตัวอักษรจะเกินจำกัดแล้วว 5555 )
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น