สวัสดีค่ะ จขกทก็เป็นคนหนึ่งที่เรียนภาษาจีนอยู่ ศิลปศาสตร์ปี3 พูดจีนได้นิดหน่อยและด้วยความที่เรียนภาษาจีนนี่แหละเลยอยากไปเหยียบประเทศจีนสักครั้งให้ชื่นใจ555 ก็เลยเริ่มหาข้อมูลว่าจะไปเมืองไหนดี เซียงไฮ้เหรอค่าครองชีพแพ๊งแพง ปักกิ่งก็ด้วย หรือว่าจะไปฉงชิ่งกับมหาลัยดีแต่ไม่เอาอ่ะ อยากเห็นหิมะเลยตัดสินใจเลยว่าไปฮาร์บินนี่แหละดีสุดแล้ว ได้เจอหิมะแน่ๆ ประกอบกับเพื่อนเคยไปมาแล้วด้วย แบบนี่ก็คงไม่ยากหรอก หลังจากนั้นก็ลองหาข้อมูลคนที่เคยรีวิวฮาร์บินไว้ปรากฏมีแต่น้ำแข็งๆ555 และการเดินทางครั้งนี้ จขกทเลือกที่จะไปคนเดียวเพราะไปคนเดียวนี่คงได้อะไรเยอะกว่า ได้พูดภาษาจีนเยอะแน่ๆ และการไปครั้งนี้เพื่อนเจ้าของกระทู้แนะนำพี่คนไทยที่เรียนอยู่ที่ฮาร์บินให้ จขกทเลยติดต่อพี่เขาไปพี่เค้าชื่อพี่เจล น่ารักมากคอยดูแลตลอดเลยให้คำปรึกษาได้ทุกอย่างเลย จขกทไปเรียนในช่วงสั้นๆ 1 เดือนเท่านั้น แงๆ อ๋อ ลืมบอกจขกทให้พี่เจลดำเนินการให้ทั้งหมดเลย ทั้งสมัครเรียน จองตั๋ว และอีกบลาๆ
บ่นมาเยอะแล้วเริ่มกันเลยดีกว่า Let’s go
และแล้ววันเดินทางก็มาถึงเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกด้วย ตื่นเต้นเป็นบ้าในใจขออย่างเดียวอย่าตกเครื่องล่ะกัน ไฟล์บินของเขาตี 1 บินจากสุวรรณภูมิ-เซียงไฮ้ และต่อเครื่องจากเซียงไฮ้ไปฮาร์บิน และการไปรอที่สนามบินเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากยิ่งไม่มีคนไปส่งด้วย ยิ่งเบื่อไปอีก เราร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่สนามบิน 555+ และแล้วก็ได้บินสักที จขกทไปถึงสนามบินปูดองหรือจะเรียกให้ถูกก็สนามบินผู่ตง ประมาณ7โมงกว่าๆ ใช้เวลาบิน4ชั่วโมงนิดๆ และต้องบินต่อตอน 8.40 กว่าจะผ่านตม.ไปได้ และยังต้องรับกระเป๋าอีก พวกแกคิดว่ามันจะทันไหมใช่แล้วมันไม่ทันวินาทีที่เจ้าหน้าที่เช็คอินบอกยูมันไปไม่ทันแล้วนะประตูเกทมันปิดไปแล้วยังไงก็ไม่ทัน จขกทนี่แทบก้มลงกราบขอให้ฉันไปได้ไหม นางบอกว่ายังไงก็ไม่ได้เธอต้องเปลี่ยนไฟล์นะ ห๊า!!! เปลี่ยนก็เปลี่ยนว่ะ พอเปลี่ยนไฟล์เสร็จก็ไปขอยืมโทรศัพท์เจ้าหน้าที่เพื่อโทรหาพี่เจลเห็นไหมคนจีนก็ใจดีเหมือนกันนะ พี่เจลบอกกว่าจะบินก็อีกตั้งหลายชั่วโมงออกไปเที่ยวเถอะดีกว่านอนที่สนามบินนะ 555 แกก็แนะนำว่าไปแบบนี้นะๆ
ก่อนไปเที่ยวจขกทเดินหาที่รับฝากกระเป๋าหานานมากกว่าจะเจอ
ฝากเสร็จเราจะได้ใบเสร็จกับคีย์การ์ดมา ค่าฝากกระเป๋าไม่แพงเลย จำราคาไม่ได้แล้ว ฝากกระเป๋าเสร็จแล้วเราออกไปเที่ยวกันเถอะ
การเที่ยวครั้งนี้เราจะนั่งรถไฟฟ้าไป การเดินทางสะดวกมาก เขานั่งประมาณชั่วโมงหนึ่งก็ถึงหอไข่มุกแล้ว
แกของจริงสวยมากกกกกกก ก ไก่ล้านตัว อากาศก็ดีงามพระรามแปดและด้วยเขาไม่รู้ว่าจะตกเครื่อง555และจะได้มาเที่ยวในตัวเมืองเซียงไฮ้เลยไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาเลย สะเตือนไต เลยเดินเล่นอยู่แถวนั้นแกเอ๋ยสะพานลอยที่นั่นมีบันไดเลื่อนด้วย เขาตื่นเต้น555
และมื้อแรกของเราก็คงหนีไม่พ้น mc กินง่ายสุดแล้วสั่งไม่ยากด้วยแค่ชี้ๆเอาเราก็ได้กินแล้วหิวมากมาย
เขาเดินเล่นอยู่สักพักมองนาฬิกาแล้วกลับสนามบินดีกว่าไม่อยากตกเครื่องอีก
พอมาถึงสนามบินฮาร์บิน วินาทีที่เห็นหน้าพี่เจลแล้วอยากร้องไห้มากเลย ด้วยความที่เหนื่อยมา1วันเต็มๆให้ความรู้สึกเหมือนเจอพี่สาวเพราะพี่เจลเป็นที่พึ่งคนเดียวของเราจริงๆ ตอนเจอนี่กอดแกเลยอบอุ่นมากและด้วยเค้าไปถึงก็ดึกมากแล้วพี่เจลก็จัดการไปส่งเราที่หอ ตอนแรกหอ13 ซึ่งเป็นหอนักศึกษาต่างชาติเต็ม เขาก็เลยได้ไปอยู่หอ6 เป็นหอนักศึกษาต่างชาติเหมือนกันแต่เก่ากว่าหน่อย (หรือไม่หน่อยนะ) วันรุ่งขึ้นพี่เจลก็พาไปซื้อเสื้อผ้า เพราะเราไม่เอาเสื้อผ้าไปเลยมีแค่ชุดที่ใส่ไป555 strongจริงๆ แล้วก็ได้ไปสอบเพื่อวัดระดับว่าเราจะได้เรียนห้องไหน ใครที่จะมาเรียนที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าจะเรียนไม่ได้นะ อาจารย์เค้าจะมีเทคนิคในการสอนซึ่งเข้าใจง่ายมาก ตอนที่เรียนที่ไทยเค้าท้อและไม่ชอบภาษาจีนแล้ว แต่ทำไงได้ยังไงก็ต้องเรียนต่อ แต่ที่นี่ทำให้เรากลับมารักภาษาจีนอีกครั้งและรักมากกว่าเดิมด้วย
พอมาถึงละหิมะตกพอดี มันตื่นเต้นมากเลย แกเข้าใจไหมเรามาเพื่อสิ่งนี้555 และเป็นหิมะสุดท้ายด้วย โชคดีมากๆ
นี่เป็นบรรยากาศในห้องเรียน และตอนว่างๆเรามักจะเล่นอูโน่กันการเรียนที่นี่จะเรียนแค่ครึ่งวันเท่านั้นและจะพักทุกๆ 50 นาทีเรารักบรรยากาศการเรียนที่นี่มาก อ่อ ที่นี่จะเริ่มตั้งแต่คลาส A - F และแต่ละคลาสก็จะมีแบ่งออกไปหลายห้องจขกทได้อยู่คลาส C+4 เพื่อนๆน่ารักทุกคนเลย ตอนแรกจขกทคิดว่าไปคนเดียวแบบนี้เหงาแน่เลย เราจะมีเพื่อนมั้ย เราจะคุยกับเพื่อนรู้เรื่องมั้ย แต่พอได้มาจริงๆเพื่อนที่นี่น่ารักมากและเป็นกันเองมากเลย ตอนเที่ยงก็ไปกินข้าวด้วยกัน วันไหนว่างๆก็ไปเที่ยวด้วยกันแต่เราออกไปเที่ยวทุกวันเลย เพราะเรามีเวลาอยู่ที่ฮาร์บินแค่1เดือนเอง ต้องเที่ยวให้คุ้ม เรื่องเรียนค่อยว่ากัน5555
แต่ละห้องจะมีบอร์ดสมาชิกของแต่ละห้องที่ทุกคนจะช่วยกันทำ เป็นอีกกิจกรรมที่ทำให้สนิทกับเพื่อนง่ายขึ้น
การเรียนในแต่ละคาบนั้นเหลาซือจะมีกิจกรรมให้ทำอยู่ตลอด การเรียนที่HITไม่น่าเบื่อเลยสนุกกับการเรียนมากๆ
เราไปเดินเล่นรอบมอ กันเถอะ
เด็กที่ฮร์บินน่ารักมาก จขกทมีความรักเด็ก555
ออกไปข้างนอกกันบ้าง
นี่เป็นโบสถ์เซนโซเฟีย เป็นเหมือนแลนมาร์คของฮาร์บิน ที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูป
กลางคืนก็สวยนะ
และอีกที่หนึ่งคือถนนจงหยาง อารมณ์แบบสยามบ้านเราเลย แต่อาคารต่างๆจะเป็นแบบรัสเซีย อันนี้หารูปไม่เจอล่ะ
อนุสรณ์สถานน้ำท่วม ต้องเดินไปจนสุดถนนจงหยางแล้วจะเจอต้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ให้ได้นะแก
นี่เป็นแม่น้ำแต่ตอนนี้มันกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว หุหุ ตอนก่อนที่จขกทจะมาบริเวณนี้จะมีกิจกรรมให้เล่นเยอะแยะเลย เสียดายมาก
มาดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็นๆนี่โรแมนติกมาก ไปเป็นคู่ถึงจะดี จขกท ไปคนเดียวก็อดไป รอบหน้าต้องพามาให้ได้5555
และของกินที่พลาดไม่ได้เมื่อมาจงหยางนั่นก็คือ ไอติมฮาร์บินกับทางหูลู่ หนาวแค่ไหนเราก็จะกินไอติมอยากบอกว่ามันอร่อยมากควรค่าอย่างยิ่งที่จะลิ้มลอง ส่วนทางหูลู่ก็ประมาณผลไม้เชื่อมน้ำตาลบ้านเราแอบแข็งไปหน่อยกัดไม่เข้ายายแก่แล้วฟันไม่ค่อยดี
ข้างหลังจะเป็นตึกสีเหลืองของจริงสวยมาก อยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเลย
มีที่เที่ยวอีกที่หนึ่งคือตลาดเฮยเตี้ยน จะมีตอนเย็นๆและปิดประมาณ3ทุ่ม ของกินเยอะมาก เสื้อผ้า ของใช้ก็มีนะ ซึ่งตลาดจะยาวมาก
นี่คือมันเผา มันเผาที่นี่อร่อยมาก ยิ่งอากาศหนาวได้มันเผาอุ่นๆสักอันนี่มันสุดยอดและเห็นข้างหลังนั่นมั้ยมันคือโบสถ์ แหม่โรแมนติกไปอีก
จานนี้เป็นเมนูขึ้นชื่อของฮาร์บินที่ทุกคนไม่ควรพลาด
อาหารจีนอื่นๆรสชาติอาจไม่ค่อยถูกปากคนไทยนัก แต่ก็มีบางอย่างที่อร่อยนะ ต้องค่อยๆหากันไป
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ไม่อยากกลับบ้าน อยากขอซื้อตั๋วอยู่เพิ่ม 1 เดือนมันน้อยไปจริงๆ อยากมีเวลาอยู่กับเพื่อนต่อ ก่อนกลับเพื่อนๆและเหลาซือมีการเลี้ยงส่งเรา เป็นอะไรที่ประทับใจจริงๆ ทุกคนดีกับเรามาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอเพื่อนที่ดีแบบนี้มาก่อน ตอนนี้กลับมาแล้วก็ยังคิดถึงเพื่อนทุกวัน
ฮาร์บินเหมาะกับใคร เราว่าเหมาะกับคนที่เรียนภาษาจีนมานาน แต่พูดไม่ได้และไม่กล้าพูด เขาก็เป็นหนึ่งในนั้น เรียนมา3ปีแล้วยังไม่กล้าพูด พูดแล้วตื่นเต้นทุกครั้ง ตัวนี่สั่น555 และเขาแนะนำให้มาคนเดียวไปเลยจะได้ปะสบการณ์ใหม่ๆเยอะมาก ท้าทายสุดๆ อยู่นี่ได้เจออะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้ภาษาจีนอยู่ตลอดเวลาทำให้ภาษาจีนพัฒนาขึ้นเยอะมาก เมื่อก่อนเรากลัวที่จะพูด แต่ตอนนี้เหรอไม่กลัวแล้วมาเลยฉันพร้อมเต็มที่ ฮาร์บินเหมาะกับคนที่อยากหนีอากาศร้อนของประเทศไทย เพราะฮาร์บินหนาวมากได้เจอหิมะด้วย และฮาร์บินให้อะไรเยอะมากใครคิดว่าไปแค่1เดือนจะไม่ได้อะไรบอกเลยคุณคิดผิด ฮาร์บินเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ต้องห้ามพลาด
ถ้ามีเพื่อนสนใจถามเราหลังไมค์ได้นะ หรือเฟสบุ๊ค J.harbin เรียนต่อจีน ได้เลย เรายินดีให้คำแนะนำ
เราอยากขอบคุณพี่เจลมากๆที่คอยดูแลเราเป็นอย่างดี พี่แกดูแลเราเหมือนคนในครอบครัวเลย อบอุ่นจริงๆ คอยรับโทรศัพท์ตลอดเวลาที่เราหลงทาง555 ไว้เจอกันที่ไทยนะค่ะ
รูปนี้ถ่ายที่ถนนจงหยาง บรรยากาศดีมาก
***ของที่ต้องพกไปด้วย***
1.มาม่า เครื่องปรุงต่างๆ ที่หอจะสามารทำอาหารได้ ทุกคนจะคิดถึงอาหารไทยแน่นอน
2.ทิชชู่เปียก เรื่องห้องน้ำทุกคนก็รู้ๆอยู่ว่าเป็นยังไง เตรียมไปดีกว่า แต่ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ที่นู้นมีขาย
3.ผ้าอนามัย
4.โลชั่น โรออน เพราะที่จีนจะไม่มีขายพกไปเยอะๆเลย
5.น้ำมันออย ที่นั่นอากาศหนาวมาก ผิวจะแตกและแห้งแบบจขกท ได้ซึ่งน่าเกลียดมาก ออยจะช่วยคุณได้ ที่นั่นก็มีขายนะแต่แพงกว่าไทยเยอะมาก
6.ถ้าใครอยากย้อมผม แนะนำให้พกไปดีกว่า เพราะที่จีนแพงมาก แพงกว่า1เท่าเลยทีเดียวฃ
7.USB ตอนเรียนนี่ต้องใช้นะ จขกทลืมพกไปไปซื้อเอาที่นู้นคุณภาพไม่ดีเท่าไหร่ พกไว้ดีกว่า
8.รองเท้าแตะต้องมีนะจะได้ใช้ตอนเข้าห้องน้ำ ถ้าไม่มีนี่ไม่กล้าเข้าห้องน้ำจริงๆ (ไปซื้อที่นู้น)
เล่าประสบการณ์เรียนภาษาจีนที่ฮาร์บิน (ละเอียด)
สวัสดีค่ะ จขกทก็เป็นคนหนึ่งที่เรียนภาษาจีนอยู่ ศิลปศาสตร์ปี3 พูดจีนได้นิดหน่อยและด้วยความที่เรียนภาษาจีนนี่แหละเลยอยากไปเหยียบประเทศจีนสักครั้งให้ชื่นใจ555 ก็เลยเริ่มหาข้อมูลว่าจะไปเมืองไหนดี เซียงไฮ้เหรอค่าครองชีพแพ๊งแพง ปักกิ่งก็ด้วย หรือว่าจะไปฉงชิ่งกับมหาลัยดีแต่ไม่เอาอ่ะ อยากเห็นหิมะเลยตัดสินใจเลยว่าไปฮาร์บินนี่แหละดีสุดแล้ว ได้เจอหิมะแน่ๆ ประกอบกับเพื่อนเคยไปมาแล้วด้วย แบบนี่ก็คงไม่ยากหรอก หลังจากนั้นก็ลองหาข้อมูลคนที่เคยรีวิวฮาร์บินไว้ปรากฏมีแต่น้ำแข็งๆ555 และการเดินทางครั้งนี้ จขกทเลือกที่จะไปคนเดียวเพราะไปคนเดียวนี่คงได้อะไรเยอะกว่า ได้พูดภาษาจีนเยอะแน่ๆ และการไปครั้งนี้เพื่อนเจ้าของกระทู้แนะนำพี่คนไทยที่เรียนอยู่ที่ฮาร์บินให้ จขกทเลยติดต่อพี่เขาไปพี่เค้าชื่อพี่เจล น่ารักมากคอยดูแลตลอดเลยให้คำปรึกษาได้ทุกอย่างเลย จขกทไปเรียนในช่วงสั้นๆ 1 เดือนเท่านั้น แงๆ อ๋อ ลืมบอกจขกทให้พี่เจลดำเนินการให้ทั้งหมดเลย ทั้งสมัครเรียน จองตั๋ว และอีกบลาๆ
บ่นมาเยอะแล้วเริ่มกันเลยดีกว่า Let’s go
และแล้ววันเดินทางก็มาถึงเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกด้วย ตื่นเต้นเป็นบ้าในใจขออย่างเดียวอย่าตกเครื่องล่ะกัน ไฟล์บินของเขาตี 1 บินจากสุวรรณภูมิ-เซียงไฮ้ และต่อเครื่องจากเซียงไฮ้ไปฮาร์บิน และการไปรอที่สนามบินเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากยิ่งไม่มีคนไปส่งด้วย ยิ่งเบื่อไปอีก เราร้องไห้ตั้งแต่อยู่ที่สนามบิน 555+ และแล้วก็ได้บินสักที จขกทไปถึงสนามบินปูดองหรือจะเรียกให้ถูกก็สนามบินผู่ตง ประมาณ7โมงกว่าๆ ใช้เวลาบิน4ชั่วโมงนิดๆ และต้องบินต่อตอน 8.40 กว่าจะผ่านตม.ไปได้ และยังต้องรับกระเป๋าอีก พวกแกคิดว่ามันจะทันไหมใช่แล้วมันไม่ทันวินาทีที่เจ้าหน้าที่เช็คอินบอกยูมันไปไม่ทันแล้วนะประตูเกทมันปิดไปแล้วยังไงก็ไม่ทัน จขกทนี่แทบก้มลงกราบขอให้ฉันไปได้ไหม นางบอกว่ายังไงก็ไม่ได้เธอต้องเปลี่ยนไฟล์นะ ห๊า!!! เปลี่ยนก็เปลี่ยนว่ะ พอเปลี่ยนไฟล์เสร็จก็ไปขอยืมโทรศัพท์เจ้าหน้าที่เพื่อโทรหาพี่เจลเห็นไหมคนจีนก็ใจดีเหมือนกันนะ พี่เจลบอกกว่าจะบินก็อีกตั้งหลายชั่วโมงออกไปเที่ยวเถอะดีกว่านอนที่สนามบินนะ 555 แกก็แนะนำว่าไปแบบนี้นะๆ
ก่อนไปเที่ยวจขกทเดินหาที่รับฝากกระเป๋าหานานมากกว่าจะเจอ
ฝากเสร็จเราจะได้ใบเสร็จกับคีย์การ์ดมา ค่าฝากกระเป๋าไม่แพงเลย จำราคาไม่ได้แล้ว ฝากกระเป๋าเสร็จแล้วเราออกไปเที่ยวกันเถอะ
การเที่ยวครั้งนี้เราจะนั่งรถไฟฟ้าไป การเดินทางสะดวกมาก เขานั่งประมาณชั่วโมงหนึ่งก็ถึงหอไข่มุกแล้ว
แกของจริงสวยมากกกกกกก ก ไก่ล้านตัว อากาศก็ดีงามพระรามแปดและด้วยเขาไม่รู้ว่าจะตกเครื่อง555และจะได้มาเที่ยวในตัวเมืองเซียงไฮ้เลยไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาเลย สะเตือนไต เลยเดินเล่นอยู่แถวนั้นแกเอ๋ยสะพานลอยที่นั่นมีบันไดเลื่อนด้วย เขาตื่นเต้น555
และมื้อแรกของเราก็คงหนีไม่พ้น mc กินง่ายสุดแล้วสั่งไม่ยากด้วยแค่ชี้ๆเอาเราก็ได้กินแล้วหิวมากมาย
เขาเดินเล่นอยู่สักพักมองนาฬิกาแล้วกลับสนามบินดีกว่าไม่อยากตกเครื่องอีก
พอมาถึงสนามบินฮาร์บิน วินาทีที่เห็นหน้าพี่เจลแล้วอยากร้องไห้มากเลย ด้วยความที่เหนื่อยมา1วันเต็มๆให้ความรู้สึกเหมือนเจอพี่สาวเพราะพี่เจลเป็นที่พึ่งคนเดียวของเราจริงๆ ตอนเจอนี่กอดแกเลยอบอุ่นมากและด้วยเค้าไปถึงก็ดึกมากแล้วพี่เจลก็จัดการไปส่งเราที่หอ ตอนแรกหอ13 ซึ่งเป็นหอนักศึกษาต่างชาติเต็ม เขาก็เลยได้ไปอยู่หอ6 เป็นหอนักศึกษาต่างชาติเหมือนกันแต่เก่ากว่าหน่อย (หรือไม่หน่อยนะ) วันรุ่งขึ้นพี่เจลก็พาไปซื้อเสื้อผ้า เพราะเราไม่เอาเสื้อผ้าไปเลยมีแค่ชุดที่ใส่ไป555 strongจริงๆ แล้วก็ได้ไปสอบเพื่อวัดระดับว่าเราจะได้เรียนห้องไหน ใครที่จะมาเรียนที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าจะเรียนไม่ได้นะ อาจารย์เค้าจะมีเทคนิคในการสอนซึ่งเข้าใจง่ายมาก ตอนที่เรียนที่ไทยเค้าท้อและไม่ชอบภาษาจีนแล้ว แต่ทำไงได้ยังไงก็ต้องเรียนต่อ แต่ที่นี่ทำให้เรากลับมารักภาษาจีนอีกครั้งและรักมากกว่าเดิมด้วย
พอมาถึงละหิมะตกพอดี มันตื่นเต้นมากเลย แกเข้าใจไหมเรามาเพื่อสิ่งนี้555 และเป็นหิมะสุดท้ายด้วย โชคดีมากๆ
นี่เป็นบรรยากาศในห้องเรียน และตอนว่างๆเรามักจะเล่นอูโน่กันการเรียนที่นี่จะเรียนแค่ครึ่งวันเท่านั้นและจะพักทุกๆ 50 นาทีเรารักบรรยากาศการเรียนที่นี่มาก อ่อ ที่นี่จะเริ่มตั้งแต่คลาส A - F และแต่ละคลาสก็จะมีแบ่งออกไปหลายห้องจขกทได้อยู่คลาส C+4 เพื่อนๆน่ารักทุกคนเลย ตอนแรกจขกทคิดว่าไปคนเดียวแบบนี้เหงาแน่เลย เราจะมีเพื่อนมั้ย เราจะคุยกับเพื่อนรู้เรื่องมั้ย แต่พอได้มาจริงๆเพื่อนที่นี่น่ารักมากและเป็นกันเองมากเลย ตอนเที่ยงก็ไปกินข้าวด้วยกัน วันไหนว่างๆก็ไปเที่ยวด้วยกันแต่เราออกไปเที่ยวทุกวันเลย เพราะเรามีเวลาอยู่ที่ฮาร์บินแค่1เดือนเอง ต้องเที่ยวให้คุ้ม เรื่องเรียนค่อยว่ากัน5555
แต่ละห้องจะมีบอร์ดสมาชิกของแต่ละห้องที่ทุกคนจะช่วยกันทำ เป็นอีกกิจกรรมที่ทำให้สนิทกับเพื่อนง่ายขึ้น
การเรียนในแต่ละคาบนั้นเหลาซือจะมีกิจกรรมให้ทำอยู่ตลอด การเรียนที่HITไม่น่าเบื่อเลยสนุกกับการเรียนมากๆ
เราไปเดินเล่นรอบมอ กันเถอะ
เด็กที่ฮร์บินน่ารักมาก จขกทมีความรักเด็ก555
ออกไปข้างนอกกันบ้าง
นี่เป็นโบสถ์เซนโซเฟีย เป็นเหมือนแลนมาร์คของฮาร์บิน ที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูป
กลางคืนก็สวยนะ
และอีกที่หนึ่งคือถนนจงหยาง อารมณ์แบบสยามบ้านเราเลย แต่อาคารต่างๆจะเป็นแบบรัสเซีย อันนี้หารูปไม่เจอล่ะ
อนุสรณ์สถานน้ำท่วม ต้องเดินไปจนสุดถนนจงหยางแล้วจะเจอต้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ให้ได้นะแก
นี่เป็นแม่น้ำแต่ตอนนี้มันกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว หุหุ ตอนก่อนที่จขกทจะมาบริเวณนี้จะมีกิจกรรมให้เล่นเยอะแยะเลย เสียดายมาก
มาดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็นๆนี่โรแมนติกมาก ไปเป็นคู่ถึงจะดี จขกท ไปคนเดียวก็อดไป รอบหน้าต้องพามาให้ได้5555
และของกินที่พลาดไม่ได้เมื่อมาจงหยางนั่นก็คือ ไอติมฮาร์บินกับทางหูลู่ หนาวแค่ไหนเราก็จะกินไอติมอยากบอกว่ามันอร่อยมากควรค่าอย่างยิ่งที่จะลิ้มลอง ส่วนทางหูลู่ก็ประมาณผลไม้เชื่อมน้ำตาลบ้านเราแอบแข็งไปหน่อยกัดไม่เข้ายายแก่แล้วฟันไม่ค่อยดี
ข้างหลังจะเป็นตึกสีเหลืองของจริงสวยมาก อยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเลย
มีที่เที่ยวอีกที่หนึ่งคือตลาดเฮยเตี้ยน จะมีตอนเย็นๆและปิดประมาณ3ทุ่ม ของกินเยอะมาก เสื้อผ้า ของใช้ก็มีนะ ซึ่งตลาดจะยาวมาก
นี่คือมันเผา มันเผาที่นี่อร่อยมาก ยิ่งอากาศหนาวได้มันเผาอุ่นๆสักอันนี่มันสุดยอดและเห็นข้างหลังนั่นมั้ยมันคือโบสถ์ แหม่โรแมนติกไปอีก
จานนี้เป็นเมนูขึ้นชื่อของฮาร์บินที่ทุกคนไม่ควรพลาด
อาหารจีนอื่นๆรสชาติอาจไม่ค่อยถูกปากคนไทยนัก แต่ก็มีบางอย่างที่อร่อยนะ ต้องค่อยๆหากันไป
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ไม่อยากกลับบ้าน อยากขอซื้อตั๋วอยู่เพิ่ม 1 เดือนมันน้อยไปจริงๆ อยากมีเวลาอยู่กับเพื่อนต่อ ก่อนกลับเพื่อนๆและเหลาซือมีการเลี้ยงส่งเรา เป็นอะไรที่ประทับใจจริงๆ ทุกคนดีกับเรามาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอเพื่อนที่ดีแบบนี้มาก่อน ตอนนี้กลับมาแล้วก็ยังคิดถึงเพื่อนทุกวัน
ฮาร์บินเหมาะกับใคร เราว่าเหมาะกับคนที่เรียนภาษาจีนมานาน แต่พูดไม่ได้และไม่กล้าพูด เขาก็เป็นหนึ่งในนั้น เรียนมา3ปีแล้วยังไม่กล้าพูด พูดแล้วตื่นเต้นทุกครั้ง ตัวนี่สั่น555 และเขาแนะนำให้มาคนเดียวไปเลยจะได้ปะสบการณ์ใหม่ๆเยอะมาก ท้าทายสุดๆ อยู่นี่ได้เจออะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้ภาษาจีนอยู่ตลอดเวลาทำให้ภาษาจีนพัฒนาขึ้นเยอะมาก เมื่อก่อนเรากลัวที่จะพูด แต่ตอนนี้เหรอไม่กลัวแล้วมาเลยฉันพร้อมเต็มที่ ฮาร์บินเหมาะกับคนที่อยากหนีอากาศร้อนของประเทศไทย เพราะฮาร์บินหนาวมากได้เจอหิมะด้วย และฮาร์บินให้อะไรเยอะมากใครคิดว่าไปแค่1เดือนจะไม่ได้อะไรบอกเลยคุณคิดผิด ฮาร์บินเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ต้องห้ามพลาด
ถ้ามีเพื่อนสนใจถามเราหลังไมค์ได้นะ หรือเฟสบุ๊ค J.harbin เรียนต่อจีน ได้เลย เรายินดีให้คำแนะนำ
เราอยากขอบคุณพี่เจลมากๆที่คอยดูแลเราเป็นอย่างดี พี่แกดูแลเราเหมือนคนในครอบครัวเลย อบอุ่นจริงๆ คอยรับโทรศัพท์ตลอดเวลาที่เราหลงทาง555 ไว้เจอกันที่ไทยนะค่ะ
รูปนี้ถ่ายที่ถนนจงหยาง บรรยากาศดีมาก
***ของที่ต้องพกไปด้วย***
1.มาม่า เครื่องปรุงต่างๆ ที่หอจะสามารทำอาหารได้ ทุกคนจะคิดถึงอาหารไทยแน่นอน
2.ทิชชู่เปียก เรื่องห้องน้ำทุกคนก็รู้ๆอยู่ว่าเป็นยังไง เตรียมไปดีกว่า แต่ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ที่นู้นมีขาย
3.ผ้าอนามัย
4.โลชั่น โรออน เพราะที่จีนจะไม่มีขายพกไปเยอะๆเลย
5.น้ำมันออย ที่นั่นอากาศหนาวมาก ผิวจะแตกและแห้งแบบจขกท ได้ซึ่งน่าเกลียดมาก ออยจะช่วยคุณได้ ที่นั่นก็มีขายนะแต่แพงกว่าไทยเยอะมาก
6.ถ้าใครอยากย้อมผม แนะนำให้พกไปดีกว่า เพราะที่จีนแพงมาก แพงกว่า1เท่าเลยทีเดียวฃ
7.USB ตอนเรียนนี่ต้องใช้นะ จขกทลืมพกไปไปซื้อเอาที่นู้นคุณภาพไม่ดีเท่าไหร่ พกไว้ดีกว่า
8.รองเท้าแตะต้องมีนะจะได้ใช้ตอนเข้าห้องน้ำ ถ้าไม่มีนี่ไม่กล้าเข้าห้องน้ำจริงๆ (ไปซื้อที่นู้น)