สงสัย ? ทำไมบุคคลอันตรายแบบนี้จึงมาขับแท็กซี่ได้ ? แล้วทำไมติดคุกแค่ไม่กี่ปีก็ออกมาก่อคดีอีก ?

อีกแล้ว!! 'แท็กซี่หื่น' มีคดีข่มขืนติดตัว 2 คดี

เปิดประวัติอาชญากร พบ'แท็กซี่หื่น' เป็นบุคคลอันตราย มีคดีข่มขืนติดตัวถึง 2 คดี

กรณีหญิงสาวชาวต่างชาติถูก'แทกซี่หื่น'ลวงไปข่มขืมที่ดงป่ายูคาลิปตัส
หมู่ 8 ต.ทุ่งคอก จังหวัดสุพรรณบุรี และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับคุมคนร้ายรายนี้ได้

คือ นายค้ำคูณเจริญ ค้อนจัตุรัส อายุ 44 ปี นั้น

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่า เป็น 'บุคคลอันตรายมาก' เนื่องจากมีคดีข่มขืนติดตัวอยู่ถึง 2 คดี

          คดีแรก  เกิดขึ้นเมื่อ 24 ก.ย.51 ได้ขืนใจหญิงสาวชาวไทย อายุ 20 ปี ที่บริเวณริมถนน 340
(ตลิ่งชัน-สุพรรณ) ต.หน้าไม้ ท้องที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

          คดีที่สอง เกิดขึ้นเมื่อ 9 ม.ค.56 ได้ขืนใจสาวชาวพม่า วัย 25 ปี บริเวณถนนกำแพงเพชร 6
พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง กระทั่งมาลงมือกับเหยื่อรายนี้

ขณะที่ประวัติของผู้ต้องหาคนนี้พบว่า เพิ่งพ้นโทษออกมาเพียงไม่นาน ก่อนจะเช่ารถแท็กซี่ขับเลี้ยงชีพ
แต่มาก่อเหตุซ้ำเดิมอีกครั้งกับนักท่องเที่ยวสาวคนดังกล่าว

เบื้องต้นพบว่า นายค้ำคูณเจริญ ต้องคดีข่มขืนกระทำชำเรามา 2 คดี เหยื่อรายแรกเป็นหญิงชาวไทย เมื่อปี 2551
ต้องโทษจำคุก 4 ปี ส่วนเหยื่ออีกรายเป็นสาวชาวเมียนมา ก่อเหตุเมื่อปี 2556 หลังพ้นโทษเพียงไม่กี่เดือน
เมื่อพ้นโทษครั้งที่ 2 ก็ก่อเหตุซ้ำอีกครั้งกับเหยื่อสาวชาวบราซิลคนดังกล่าว

          สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจาก   ร.ต.อ.สมเกียรติ ศรีสังวาลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี
ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีสาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายและทิ้งอยู่ดงป่ายูคาลิปตัส หมู่ 8 ต.ทุ่งคอก
หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบสาวชาวต่างชาติ  อายุ 23 ปี ถูกทำร้ายทุบตีใบหน้าเขียวช้ำ
เสื้อผ้าขาด จึงนำตัวส่งรพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17

         จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สาวชาวต่างชาติรายดังกล่าว นั่งเครื่องบินจากมาเลเซียมาลงที่ดอนเมือง
เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 25 เม.ย.60 จากนั้นจึงเรียกแท๊กซี่สีเหลืองคาดเขียว ไม่ทราบทะเบียนให้ไปส่งที่ซอยทองหล่อ
แต่แท๊กซี่เห็นเหยื่อสาว มีใบหน้าสวย จึงพาขับออกนอกเส้นทางไปชานเมือง ก่อนพาเลี้ยวเข้าป่ายูคาลิปตัสและพยายามลงมือข่มขืน
เหยื่อขัดขืนฮึดสู้ จึงถูกทำร้ายรุนแรง เมื่อคนร้ายลงมือข่มขืนจากนั้นจึงทิ้งเหยื่อไว้ในป่าดังกล่าว

           ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปสอบปากคำเหยื่อเคราะห์ร้าย เพื่อสเก็ตภาพใบหน้าคนขับแท๊กซี่หื่น
นำไปขออนุมัติหมายจับ นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณตามจุดต่าง ๆ หาเบาะแสคนร้ายอีกด้วย

            โดยชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่ารถแท็กซี่ที่นักท่องเที่ยวสาว
นั่งโดยสารเป็นรถยนต์แท็กซี่สีเหลืองหมายเลขทะเบียน ทย 4448 กรุงเทพมหานคร ชุดสืบสวนจึงออกติดตาม

             กระทั่งมีรายงานล่าสุด ว่า ชุดสืบสวนสามารถจับผู้ก่อเหตุตามหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี
คือ นายค้ำคูณเจริญ ค้อนจัตุรัส อายุ 44 ปี พร้อมรถยนต์แท็กซี่สีเหลือง ทะเบียน ทย 4448 กรุงเทพมหานคร
ซึ่งเป็นยานพาหนะใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น กักขังหน่วงเหนี่ยว
ชิงทรัพย์ทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะ

ที่มา http://www.komchadluek.net/news/crime/273692
ที่มา http://news.sanook.com/2206286/
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เท่าที่เคยเห็นจากหลายเคส อย่างล่าสุดก็คุณป้าขาโหด

พวกที่มีประวัติหรือคดีติดตัว จะไม่ไปต่อใบขับขี่สาธารณะ เพราจะไม่ผ่าน

พวกนี้จะมาขับแบบผิดกฎหมาย คือไม่มีใบขับขี่สาธารณะ แต่ไปขอเช่ารถกับอู่ทั้งอย่างนั้น

เพราะฉะนั้นที่ต้องเอาผิดให้หนักก็คือพวกอู่ที่ให้เช่าขับนี่แหละ นอกเหนือจากคนขับแล้ว

อีกอย่างที่มักจะเห็นในเคสแบบนี้ก็คือ รถที่ถูกปล่อยเช่ามา มักจะเป็นรถที่หมดอายุแล้วเหมือนกัน

คือเป็นรถที่ขาดต่อภาษีเพราะต่อไม่ได้แล้ว หมดอายุการใช้งานแล้วตามกฎหมาย ต้องปลดป้ายเป็นรถป้ายขาว

แต่พวกเจ้าอู่เห็นแก่เงิน ก็มักจะยอมปล่อยให้คนแบบนี้แหละเช่า ไม่ก็ขายให้ถูก ๆ

เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่ว่ากฎหมายปล่อยปละละเลยยอมให้คนมีคดีมาขับได้

เพียงแต่อาจจะไม่เข้มงวดกวดขันพอในการตรวจจับพวกนี้ ก็เลยยังขับกันได้อยู่ เพราะมีอู่เห็นแก่เงินคอยสนับสนุน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่