เนื้อข่าว
ตำรวจระดมกำลัง 9ทีม พลิกแผ่นดินล่า "ฆาตกามต่อเนื่อง" ก่อเหตุบุกข่มขืนหญิงชราวัย 70 เป็นรายที่ 10 ในพื้นที่นครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินหลบหนี
จากเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ รูปร่าง สูงใหญ่ มีพฤติกรรมออกก่อเหตุข่มขืนและชิงทรัพย์ ในพื้นที่ จ.นครปฐม และจ.สมุทรสาคร หลายอำเภอ โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิงสูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียว ถูกคนร้ายข่มขืนและบางรายที่ขัดขืนจะถูกฆ่าตาย ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจดีเอ็นเอจากอสุจิที่เก็บจากเหยื่อ 8 ราย พบว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกัน จนทำให้ตำรวจ กองปราบปราม สนธิกำลังกับตำรวจภูธรภาค 7 ออกไล่ล่าคนร้ายรายนี้นั้น
ล่าสุด เวลา 03.00 น. วันที่ 25 ม.ค.ว่า มีหญิงชราตกเป็นเหยื่อข่มขืนอีกเป็นรายที่ 10 เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่บ้านผู้เสียหาย และสอบสวนทราบว่า มีคนร้ายเป็นชายใช้ยาเบื่อผสมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ให้สุนัขกิน ก่อนงัดหน้าต่างบ้านชั้นล่างแล้วใช้มือล้วงเข้าไปปลดกลอนหน้าต่าง ใช้มีดจ่อคอหญิงชราวัย 72 ปี เจ้าของบ้าน แล้วลงมือข่มขืน ก่อนรื้อค้นกระเป๋าเงินที่วางอยู่หน้าทีวี แล้วนำเอาทรัพย์สินในกระเป๋าไป ประกอบด้วย พระเลี่ยมทอง 1 องค์, เงินสดจำนสน 5,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์ไปบอกลูกชายให้โทรแจ้งตำรวจ
ด้านตำรวจได้บันทึกปากคำในเบื้องต้นทั้งแม่และลูกไว้ จากนั้นได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศูนย์นครปฐม เพื่อหาร่องรอยการข่มขืน และตรวจดีเอ็นเอของคนร้ายเก็บไว้
ทั้งนี้จากปากคำผู้เสียหายทราบว่า คนร้ายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ร่างกายบึกบึน มีกล้ามเนื้อซิกแพคบริเวณท้อง ซึ่งตรงกับรูปพรรณคนร้ายที่ก่อคดี ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะส่วนสูง ที่เหมือนกับที่ผู้เสียหายรายอื่นๆ ได้ให้การมา ตำรวจจึงได้แจกภาพสเกตช์ที่สเกตช์ภาพจากคำบอกเล่าของผู้เสียหายหลายราย
ด้าน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ร่วมประชุมกับตำรวจกองปราบปราม หารือเกี่ยวกับการไล่ล่าฆาตรกรต่อเนื่องคดีข่มขืน โดยพบลักษณะการก่อเหตุนั้น คือก่อเหตุในเวลาเที่ยงคืน และเลือกเหยื่อ หรือเป้าหมายที่มีอายุมากอาศัยอยู่คนเดียว และใช้อุปกรณ์งัดหน้าต่างหรือประตูเข้ามาลักทรัพย์ เหยื่อบางรายก็จะถูกข่มขืนและทำร้ายเจ้าทรัพย์หลังก่อเหตุก็จะหลบหนีไปเหมือนกับทุกรายโดยไม่เอาอุปกรณ์สื่อสารของเจ้าทุกข์เช่นโทรศัพท์ไปด้วย จึงยากแก่การติดตามเหมือนคนร้ายมีความรู้และเชี่ยวชาญ แต่ตำรวจกำลังเร่งทำงานอย่างต่อเนื่องคาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆนี้
หลังจากนั้นช่วงบ่าย พลตำรวจตรี ฐิติราช หนองหาร-พิทักษ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย กำลังตำรวจกองปราบปราม เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุที่ถูกคนร้ายก่อเหตุรายล่าสุด ในเขต ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาทางการติดตามคนร้าย ตรวจสอบพบว่ามีสุนัขตายภายในวัดอีก 1 ตัว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายใช้ยาฆ่ายาชนิดแรง วางยาสุนัข และจากการสอบถามชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า เมื่อหลายวันก่อนมีชายลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่อยู่ในรูปสเกตช์มาอาศัยวัดใกล้บ้านผู้เสียหายและมาอาศัยอยู่ขอข้าววัดกินแต่ชาวบ้านไม่สนใจจนมาวันนี้ได้หายตัวไป
ทั้งนี้ตำรวจกองปราบปรามได้ระดมชุดติดตามคดีจำนวน 9 ชุดแบ่งไปตามคดีที่เกิดขึ้นทั้ง 9 คดี และลุยแกะรอยล่าฆาตกามหื่นต่อเนื่องที่อาละวาดข่มขืน หญิงชราลอยนวลนานกว่า 5 ปี และ เตรียมสอบปากคำเหยื่อที่รอดชีวิต อย่างละเอียด ซึ่งแผนประทุษกรรมที่สงสัยของคนร้ายและการก่อเหตุที่เน้นบ้านที่อยู่ในสวนมีติดคลองและผู้หญิงสูงอายุอยู่บ้านคนเดียว ในเขตรอยต่อสมุทรสงคราม-นครปฐม
พลิกแผ่นดินล่า!! ฆาตกามต่อเนื่อง ข่มขืนหญิงชรา 10 คดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตำรวจระดมกำลัง 9ทีม พลิกแผ่นดินล่า "ฆาตกามต่อเนื่อง" ก่อเหตุบุกข่มขืนหญิงชราวัย 70 เป็นรายที่ 10 ในพื้นที่นครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินหลบหนี
จากเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ รูปร่าง สูงใหญ่ มีพฤติกรรมออกก่อเหตุข่มขืนและชิงทรัพย์ ในพื้นที่ จ.นครปฐม และจ.สมุทรสาคร หลายอำเภอ โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิงสูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียว ถูกคนร้ายข่มขืนและบางรายที่ขัดขืนจะถูกฆ่าตาย ซึ่งที่ผ่านมามีการตรวจดีเอ็นเอจากอสุจิที่เก็บจากเหยื่อ 8 ราย พบว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกัน จนทำให้ตำรวจ กองปราบปราม สนธิกำลังกับตำรวจภูธรภาค 7 ออกไล่ล่าคนร้ายรายนี้นั้น
ล่าสุด เวลา 03.00 น. วันที่ 25 ม.ค.ว่า มีหญิงชราตกเป็นเหยื่อข่มขืนอีกเป็นรายที่ 10 เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่บ้านผู้เสียหาย และสอบสวนทราบว่า มีคนร้ายเป็นชายใช้ยาเบื่อผสมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ให้สุนัขกิน ก่อนงัดหน้าต่างบ้านชั้นล่างแล้วใช้มือล้วงเข้าไปปลดกลอนหน้าต่าง ใช้มีดจ่อคอหญิงชราวัย 72 ปี เจ้าของบ้าน แล้วลงมือข่มขืน ก่อนรื้อค้นกระเป๋าเงินที่วางอยู่หน้าทีวี แล้วนำเอาทรัพย์สินในกระเป๋าไป ประกอบด้วย พระเลี่ยมทอง 1 องค์, เงินสดจำนสน 5,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์ไปบอกลูกชายให้โทรแจ้งตำรวจ
ด้านตำรวจได้บันทึกปากคำในเบื้องต้นทั้งแม่และลูกไว้ จากนั้นได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ศูนย์นครปฐม เพื่อหาร่องรอยการข่มขืน และตรวจดีเอ็นเอของคนร้ายเก็บไว้
ทั้งนี้จากปากคำผู้เสียหายทราบว่า คนร้ายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ร่างกายบึกบึน มีกล้ามเนื้อซิกแพคบริเวณท้อง ซึ่งตรงกับรูปพรรณคนร้ายที่ก่อคดี ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะส่วนสูง ที่เหมือนกับที่ผู้เสียหายรายอื่นๆ ได้ให้การมา ตำรวจจึงได้แจกภาพสเกตช์ที่สเกตช์ภาพจากคำบอกเล่าของผู้เสียหายหลายราย
ด้าน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ร่วมประชุมกับตำรวจกองปราบปราม หารือเกี่ยวกับการไล่ล่าฆาตรกรต่อเนื่องคดีข่มขืน โดยพบลักษณะการก่อเหตุนั้น คือก่อเหตุในเวลาเที่ยงคืน และเลือกเหยื่อ หรือเป้าหมายที่มีอายุมากอาศัยอยู่คนเดียว และใช้อุปกรณ์งัดหน้าต่างหรือประตูเข้ามาลักทรัพย์ เหยื่อบางรายก็จะถูกข่มขืนและทำร้ายเจ้าทรัพย์หลังก่อเหตุก็จะหลบหนีไปเหมือนกับทุกรายโดยไม่เอาอุปกรณ์สื่อสารของเจ้าทุกข์เช่นโทรศัพท์ไปด้วย จึงยากแก่การติดตามเหมือนคนร้ายมีความรู้และเชี่ยวชาญ แต่ตำรวจกำลังเร่งทำงานอย่างต่อเนื่องคาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆนี้
หลังจากนั้นช่วงบ่าย พลตำรวจตรี ฐิติราช หนองหาร-พิทักษ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย กำลังตำรวจกองปราบปราม เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุที่ถูกคนร้ายก่อเหตุรายล่าสุด ในเขต ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาทางการติดตามคนร้าย ตรวจสอบพบว่ามีสุนัขตายภายในวัดอีก 1 ตัว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายใช้ยาฆ่ายาชนิดแรง วางยาสุนัข และจากการสอบถามชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า เมื่อหลายวันก่อนมีชายลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่อยู่ในรูปสเกตช์มาอาศัยวัดใกล้บ้านผู้เสียหายและมาอาศัยอยู่ขอข้าววัดกินแต่ชาวบ้านไม่สนใจจนมาวันนี้ได้หายตัวไป
ทั้งนี้ตำรวจกองปราบปรามได้ระดมชุดติดตามคดีจำนวน 9 ชุดแบ่งไปตามคดีที่เกิดขึ้นทั้ง 9 คดี และลุยแกะรอยล่าฆาตกามหื่นต่อเนื่องที่อาละวาดข่มขืน หญิงชราลอยนวลนานกว่า 5 ปี และ เตรียมสอบปากคำเหยื่อที่รอดชีวิต อย่างละเอียด ซึ่งแผนประทุษกรรมที่สงสัยของคนร้ายและการก่อเหตุที่เน้นบ้านที่อยู่ในสวนมีติดคลองและผู้หญิงสูงอายุอยู่บ้านคนเดียว ในเขตรอยต่อสมุทรสงคราม-นครปฐม