จับอดีตนักโทษคดีข่มขืนได้ขณะขนยาไอซ์ สารภาพเพิ่งข่มขืนสาวขี่จยย.ในที่เปลี่ยวมาอีก 2 ครั้ง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่ สภ.ปราณบุรี พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขนยาเสพติด แถมยังรับสารภาพก่อเหตุข่มขื่นเหยื่อสาว ที่ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านตามเส้นทางเปลี่ยวในเขต อ.หัวหิน มาแล้วถึง 2 ราย แถมรับเคยถูกจำคุกในคดีข่มขืนต้องโทษมาแล้ว 5 ปี ด้วย
ผู้ต้องหารายนี้คือ นายอัครราช หรือ เอส รัตนดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/7 ซ.หมู่บ้านบ่อฝ้าย ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพ่อค้ากล้วยปิ้งใน อ.หัวหิน ซึ่งนายเอส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรประจวบคีรีขันธ์ จับกุมได้ ขณะกำลังลงจากรถตู้ที่บริเวณป้ายรถเมล์ สี่แยกปราณ อ.ปราณบุรี โดยนายเอส เพิ่งกลับจากไปรับยาไอซ์ ที่กรุงเทพฯ โดยขนยาไอซ์มาด้วยแบ่งเป็น 2 ถุง น้ำหนัก 24.03 กรัม และ น้ำหนัก 26.65 กรัม รวม 50.68 กรัม มูลค่า 101,360 บาท ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายหนังสีดำ มีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียที่ใช้ในการติดต่อรับยาอีก 1 เครื่อง
จากการสอบสวนทราบว่า นายเอส มีพฤติกรรมในการจำหน่ายยาไอซ์ หรือยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ให้กับกลุ่มวัยรุ่น โดยเพิ่งไปรับคำสั่งจากพ่อค้ายาใน อ.บางสะพาน ให้ไปรับยาไอซ์มาจากกรุงเทพฯ แล้วนำมาส่งขายให้กับลูกค้าที่ อ.ปราณบุรี 1 ถุง ที่เหลือ นำไปส่งให้กับลูกค้าที่ อ.บางสะพาน เพื่อส่งขายในพื้นที่อำเภอโซนใต้ กระจายไปยัง พื้นที่รอยต่อกับ จ.ชุมพร เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า นายเอส เคยถูกจับกุมในคดีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเดือนมีนาคม 2551 และพ้นโทษมาเมื่อเดือน กรกฎาคม 2556
ทั้งนี้ เมื่อทำการสอบปากคำผู้ต้องหา ยอมรับว่า เพิ่งก่อเหตุ อีก 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 เวลาประมาณ 00.45 โดยข่มขื่นหญิงสาวที่ บริเวณริมถนนหัวหิน-ห้วยมงคล ม.4 ต.หินเหล็กไฟ และ วันที่ 19 มิถุนายน 2557 เวลา 23.30 ก่อเหตุที่บริเวณถนนบ้านหนองขอน-หนองพรานพุก ม.1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน
และว่า ทั้ง 2 ราย กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อเห็นหน้าเหยื่อ ก็เกิดอารมณ์ทางเพศทันที จึงขับตามประกบ เมื่อสบโอกาสได้ตรงเข้าไปบิดกุญแจรถให้ดับ จนหญิงสาวตกใจ รถจักรยานยนต์ล้มลง จากนั้นได้ตรงเข้าไปใช้กำลังลากเหยื่อเข้าข้างทางเพื่อข่มขื่นกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่มาแล้วทั้ง 2 ราย
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าอันตรายอย่างมาก ที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุหญิงสาวถูกข่มขืน มีทั้งที่มาแจ้งความและไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากความอาย แม้ตำรวจจะเฝ้าระวังแต่ยังติดตามจับกุมไม่ได้ ทำให้เกิดความหวาดผวาในพื้นที่ อ.หัวหิน อย่างมาก โดยหลังจากจับกุมได้ จะต้องส่งผู้ต้องหาไปตรวจสอบสภาพจิตใจด้วยว่าป่วยทางจิตด้วยหรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่ก่อส่อไปในทางจิตไม่ปกติ โดยหลังจากนี้จะส่งตัวให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตรงจุดเกิดเหตุ และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05UZ3lOell3T1E9PQ%3D%3D
นี่ไง ตย.อาชญากรข่มขืน "ภัยของผู้หญิง" พอออกจากคุกก็มาข่มขืนต่ออีก ไม่กลัวอาญา..ท่านผู้มีอำนาจ จะเอาไงดี!!
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่ สภ.ปราณบุรี พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาขนยาเสพติด แถมยังรับสารภาพก่อเหตุข่มขื่นเหยื่อสาว ที่ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านตามเส้นทางเปลี่ยวในเขต อ.หัวหิน มาแล้วถึง 2 ราย แถมรับเคยถูกจำคุกในคดีข่มขืนต้องโทษมาแล้ว 5 ปี ด้วย
ผู้ต้องหารายนี้คือ นายอัครราช หรือ เอส รัตนดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/7 ซ.หมู่บ้านบ่อฝ้าย ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพ่อค้ากล้วยปิ้งใน อ.หัวหิน ซึ่งนายเอส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรประจวบคีรีขันธ์ จับกุมได้ ขณะกำลังลงจากรถตู้ที่บริเวณป้ายรถเมล์ สี่แยกปราณ อ.ปราณบุรี โดยนายเอส เพิ่งกลับจากไปรับยาไอซ์ ที่กรุงเทพฯ โดยขนยาไอซ์มาด้วยแบ่งเป็น 2 ถุง น้ำหนัก 24.03 กรัม และ น้ำหนัก 26.65 กรัม รวม 50.68 กรัม มูลค่า 101,360 บาท ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายหนังสีดำ มีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียที่ใช้ในการติดต่อรับยาอีก 1 เครื่อง
จากการสอบสวนทราบว่า นายเอส มีพฤติกรรมในการจำหน่ายยาไอซ์ หรือยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ให้กับกลุ่มวัยรุ่น โดยเพิ่งไปรับคำสั่งจากพ่อค้ายาใน อ.บางสะพาน ให้ไปรับยาไอซ์มาจากกรุงเทพฯ แล้วนำมาส่งขายให้กับลูกค้าที่ อ.ปราณบุรี 1 ถุง ที่เหลือ นำไปส่งให้กับลูกค้าที่ อ.บางสะพาน เพื่อส่งขายในพื้นที่อำเภอโซนใต้ กระจายไปยัง พื้นที่รอยต่อกับ จ.ชุมพร เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า นายเอส เคยถูกจับกุมในคดีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเดือนมีนาคม 2551 และพ้นโทษมาเมื่อเดือน กรกฎาคม 2556
ทั้งนี้ เมื่อทำการสอบปากคำผู้ต้องหา ยอมรับว่า เพิ่งก่อเหตุ อีก 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 เวลาประมาณ 00.45 โดยข่มขื่นหญิงสาวที่ บริเวณริมถนนหัวหิน-ห้วยมงคล ม.4 ต.หินเหล็กไฟ และ วันที่ 19 มิถุนายน 2557 เวลา 23.30 ก่อเหตุที่บริเวณถนนบ้านหนองขอน-หนองพรานพุก ม.1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน
และว่า ทั้ง 2 ราย กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อเห็นหน้าเหยื่อ ก็เกิดอารมณ์ทางเพศทันที จึงขับตามประกบ เมื่อสบโอกาสได้ตรงเข้าไปบิดกุญแจรถให้ดับ จนหญิงสาวตกใจ รถจักรยานยนต์ล้มลง จากนั้นได้ตรงเข้าไปใช้กำลังลากเหยื่อเข้าข้างทางเพื่อข่มขื่นกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่มาแล้วทั้ง 2 ราย
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าอันตรายอย่างมาก ที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุหญิงสาวถูกข่มขืน มีทั้งที่มาแจ้งความและไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากความอาย แม้ตำรวจจะเฝ้าระวังแต่ยังติดตามจับกุมไม่ได้ ทำให้เกิดความหวาดผวาในพื้นที่ อ.หัวหิน อย่างมาก โดยหลังจากจับกุมได้ จะต้องส่งผู้ต้องหาไปตรวจสอบสภาพจิตใจด้วยว่าป่วยทางจิตด้วยหรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่ก่อส่อไปในทางจิตไม่ปกติ โดยหลังจากนี้จะส่งตัวให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตรงจุดเกิดเหตุ และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05UZ3lOell3T1E9PQ%3D%3D