~ สวัสดีจ้าาาา กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่แชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวแล้วเจอที่พักที่ชอบบบบบมากกกครั้งแรก หากผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ ~

เราไปเที่ยวทริปนี้กันช่วงหน้าร้อนค่ะ วันที่ 14 เมษายน 2560

เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี - ที่พัก: แพบ้านกล้วย

ช่วงที่ไปเป็นช่วงหน้าร้อน ฉะนั้นรูปที่ถ่ายออกมาเราจะไม่ตกแต่งรูปใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ

ทางไปแพบ้านกล้วยสามารถไปได้ 2 ทางค่ะ คือไปทางน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งทางนี้ไม่ต้องข้ามแพยนต์ค่ะ กับไปทางที่จะต้องข้ามแพยนต์ 2 ครั้ง มาพูดถึงปทางน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นก่อนนะคะ พอถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแล้ว ให้เราขับตรงขึ้นไปเลยค่ะ ไม่ต้องเลี้ยวเข้าอุทยาน ตรงไปเรื่อย ๆ ยาว ๆ จนไปเจอทางลูกรัง ซึ่งทางลูกรังค่อนข้างจะลำบากนิดนึง เนื่องจากทางค่อนข้างแคบและข้างทางเป็นป่าไผ่ ตอนเราไปต้นไผ่เป็นสีน้ำตาลหมดแล้วเนื่องจากแดดร้อนมาก หากไปช่วงปลายฝนต้นหนาวคงสวยน่าดู ทางลูกรังเป็นหินค่อนข้างใหญ่ รถโหลดต่ำนี่ไม่แนะนำเลยค่ะ ระยะทางลูกรังน่าจะซักประมาณ 7 กิโลเมตร ขับไปเรื่อยๆตามป้ายบอกทางเลยค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้เลย เนื่องจากเราเมารถมาก มือนี่จับแต่ยาดมอย่างเดียวเลย) แพจะอยู่ทางซ้ายมือนะคะ มาถึงทางไปอีกทางค่ะ เป็นทางที่ต้องข้ามแพ ถ้าเราขับมาเจอแยกที่จะไปน้ำตกเอราวัณ ให้เราขับตรงขึ้นเขาไปค่ะไม่ต้องเข้าน้ำตก ขับตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอป้ายบอกว่าไปแพยานยานยนต์ ใช้เวลาข้ามแพ 15-20 นาที เสียค่าข้ามรถเก๋งรถกระบะคันละ 60 บาท พอขึ้นจากแพยานยนต์ขับตรงไปเรื่อย ๆ ซ้ายมือจะเจอทางไปแพขนานยนต์ ทางเข้าเป็นทางลูกรัง แต่หินจะเล็กมากไม่โหดเหมือนกับทางแรก ใช้เวลาข้ามประมาณ 40-60 นาที เสียค่าข้ามคันละ 200 บาท ขับไปถึงแพจะเจอจุดเช็คอินค่ะ จุดเช็คอินที่นี่บอกเลยว่า Open Air มาก ๆ ธรรมชาติฝุด ๆ จุดเช็คอินบรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่าไปตอนหน้าร้อน หญ้าที่เห็นคือแห้งหมดเลย แต่บอกเลยว่าบรรยากาศฟินมากกกกกถึงมากที่สุด ลานกว้าง ๆ ตรงนั้นคุณลุงเจ้าของแพเอาไว้ให้น้องแพะวิ่งเล่นค่ะ รูปนี้เราถ่ายตอนวันกลับ เค้ายังไม่ปล่อยแพะออกมาเลย ไปค่ะไปดูที่พักกัน เนื่องจากทริปนี้ไปกัน 4 คน เลยได้นอนแพหลังเล็กน่ารักฝุด ๆ หลังซ้ายมือคือที่นอนคืนนี้ค่ะ หน้าบ้านสามารถลงเล่นน้ำได้เลย มีแพไม้ไผ่และเรือคายัคให้บ้านละลำค่ะ มีเสื้อชูชีพให้ตามจำนวนคนค่ะ น้ำหน้าบ้านสะอาดมากกก แพแต่ละหลังอยู่ห่างกันค่ะ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเสียงเราจะไปรบกวนแพหลังข้าง ๆ เลย แต่ว่าก็อย่าเสียงดังมากเกินไปนะคะ หน้าบ้านจะมีโต๊ะตัวเล็กกับเก้าอี้ให้ มีเปลให้นอนด้วยค่ะ ฟินอีกแล้ววว ><~   มาค่ะ เข้ามาดูด้านในกัน ห้องนอนน้อย ๆ ของพวกเรา ที่นอนขนาด 5 ฟุต 2 หลัง พัดลม 2 ตัว ที่นอนสะอาดมากกกก มีมุ้งกันยุงให้ค่ะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องใช้ก็ได้ค่ะ เนื่องจากว่าไม่มียุงเลย (หมอนข้างเน่าไม่เกี่ยวนะคะ >_<) ที่นี่เค้าจะเปิดให้ใช้ไฟตอน 6 โมงเย็น ถึง 7 โมงเช้านะคะ แต่ตอนเราไปถึง 4 โมงเย็น คุณลุงก็เปิดไฟให้ใช้แล้วค่ะ ในแพจะมีปลั๊กไฟให้ 2 เต้าค่ะ แล้วก็มีปลั๊กสามตาให้ 1 อัน  มาค่ะไปดูห้องน้ำกัน ห้องน้ำสะอาด มีชักโครกให้ มีฝักบัวให้ แต่น้ำไหลช้านิดนึงค่ะ ที่นี่มีครีมอาบน้ำกับยาสระผมให้ค่ะ ส่วนผ้าขนหนูต้องนำมาเองนะคะ ไม่ได้ถ่ายในส่วนของครัวมาให้ดูเลยยย ในครัวจะมีซิงค์ล้างจาน อุปกรณ์ล้างจาน แก้วน้ำ จานชาม กระทะ ตะหลิว หม้อหุงต้ม เตาถ่าน ถ่าน น้ำดื่มถังใหญ่ 1 ถัง ถังใส่น้ำแข็งถังใหญ่ และถังใส่น้ำแข็งถังเล็ก ถ่าน 1 ถุง 40 บาทค่ะ ถ่านที่นี่ติดไฟดีมากเลยบอกกก น้ำดื่มถังใหญ่ 1 ถัง ราคา 40 บาทค่ะ ส่วนน้ำแข็งขายเป็นกิโลค่ะ กิโลละ 7 บาท ส่วนพวกน้ำขวด สุรา ขนมต่างๆ ราคาไมาชาร์ตนะคะ คุณลุงเค้าขายให้เท่ากับราคาคนในพื้นที่เลยค่ะ ข้าวไข่เจียวราคา 30 บาท อาหารต่างๆ ราคาไม่แพงค่ะ สามารถสั่งได้เลย คุณลุงเค้าแปะเบอร์ไว้ให้ ครัวปิด 1 ทุ่มนะคะ ไปดูบรรยากาศรอบ ๆ กันค่ะ วิวหน้าแพค่ะ ถ่ายตอนเวลา 4 โมงครึ่ง วิวทางซ้ายของแพ ค่ะ วิวทางขวาของแพค่ะ วิวจากหลังแพค่ะ ถ่ายไปตอนน้องแพะอยู่ วิวรอบ ๆ ที่พักค่ะ ไปช่วงหน้าร้อนอากาศตอนเช้ากำลังดีค่ะ อุ่น ๆ แต่ว่าตอนนอนแนะนำว่าให้เปิดประตูนอนค่ะ เนื่องจากอากาศร้อนมากพัดลมเอาไม่อยู่ ตอนนอนเราเปิดทั้งหน้าต่างและประตูทิ้งไว้เลยค่ะ ให้ลมเย็น ๆ พัดเข้ามา ทิ้งท้ายด้วยรูปตอนพระอาทิตย์ขึ้นนะคะ ไว้เดือนตุลาช่วงปลายฝนต้นหนาวเราจะไปเยือนอีก ขอบคุณคุณลุงเจ้าของค่ะ ใจดีมาก ตอนกลับบ้านยังให้กล้วยสดๆกลับไปกินอีก