The Twilight Samurai : Tasogare Seibei (Japan)
“ เรียบง่าย ประณีต แต่ลึกซึ้งคมคายในทุกอิริยาบถ ”
The Twilight Samurai เป็นหนังญี่ปุ่นอีกเรื่องที่ผมเพิ่งได้ดู หนังเรื่องนี้มีดีกรีถึงขนาดเข้าชิง
ออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ปี 2004 และยังกวาดรางวัลจากเวทีออสการ์ญี่ปุ่นได้ถึง 12 รางวัลใหญ่ ซึ่งก็ถือว่าสมควรได้จริงๆ เพราะ เป็นหนังที่ลึกซึ้งและคมคายมาก ความลึกซึ้งของหนังยังสามารถกระตุกใจไปได้ถึงแก่นเลยทีเดียว
The Twilight Samurai ได้รับการกำกับโดย
Yôji Yamada ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมของญี่ปุ่น ซึ่ง The Twilight Samurai นี้เป็นหนึ่งใน Samurai trilogy ของ Yoji อันได้แก่
The Twilight Samurai, The Hidden Blade และ Love and Honor (ทั้งสามเรื่องได้รับคำชมและกระแสวิจารณ์เชิงบวกมากมาย)
ในส่วนของหนังเรื่อง
The Twilight Samurai มีเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเซเบย์ ซามูไรหนุ่ม ผู้ยึดมั่นในความยุติธรรมและมีจิตใจเข้มแข็งดั่งภูผาหิน ตัวเขาต้องแบกรับปัญหาต่างๆ และด้วยการที่เขามีบุคลิคนิสัยไม่เหมือนใคร ชอบปลีกวิเวกจากความวุ่นวาย ก็ยังทำโดนตั้งฉายาว่า
" เซเบย์ ยามสายัณฑ์ (Tasagore Seibei) " อีกด้วย เขาเผชิญกับปัญหาต่างๆมากมายและสามารถผ่านมันไปได้ ด้วยการใช้คุณธรรมและการดำรงตนอยู่ในวิถีแห่งซามูไร ทั้งในเรื่องของความรัก หน้าที่การงานและในการต่อสู้
The Twilight Samurai เป็นหนังที่คารวะหนังซามูไรยุคเก่า
The Twilight Samurai มีสไตล์เรื่องที่คล้ายกับหนังซามูไรยุคเก่า สไตล์พล็อตเรื่องดราม่าเกี่ยวกับชีวิตที่ลำเค็ญ แต่พระเอกก็ยังเป็นคนดี ยึดมั่นในคุณธรรม มักน้อย สันโดษ (จริงๆคาแรคเตอร์ก็ดูคล้ายๆกับ
มิยาโมโตะ มุซาชิ นะครับ) รวมถึงที่พิเศษอีกอย่าง คือ การออกแบบโทนหนังให้ออกมาเหมือนหนังซามูไรยุคเก่า ทั้งมุมกล้อง โทนภาพทุกอย่าง ด้วยความละเอียดประณีต งดงาม คล้ายกับหนังญี่ปุ่นยุคเก่ามาก (เนียนจริงๆ)
เรียบง่าย ประณีต แต่ลึกซึ้งคมคายในทุกอิริยาบถ
แม้ว่าพล็อตเรื่องจะเดิมๆ อย่างที่รู้ๆกัน แต่หนังกลับมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ทำให้เราหวนรำลึกไปถึงหนังยุคเก่า สำหรับการดำเนินเรื่อง ก็ทำได้ดี ไม่น่าเบื่อเลย หนังเป็นแนวเรื่อยๆ บางทีอาจจะดูเนือยๆ เงียบๆ แต่ก็แฝงด้วยความคมคายในทุกอิริยาบถของหนัง เหมือนดาบซามูไรที่คมกริบ ไม่ว่าจะอยู่เฉยๆหรือจะนำมันไปฟัน มันก็คมเสมอ ในบางฉากก็เล่นเอาน้ำตาแทบไหลด้วยความอัดอั้น ความเจ็บปวดที่ซ่อนลึกในใจ รวมถึงฉากต่อสู้ ก็ทำได้ดีมากๆ สมจริงคล้ายๆกับเวลาที่ซามูไรต้องประดาบกัน คือ ไม่เน้นฟันกันเยอะ แต่ทุกครั้งที่ลงดาบ มันมีความหมายในการต่อสู้เสมอ ไม่มีการฟันกันพร่ำเพรื่อ
ที่สำคัญของหนังเรื่องนี้ คือ การแฝงแนวคิดอันลึกซึ้งในระดับที่กระตุกแก่นมนุษย์ขึ้นมาได้เลย เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างสมถะ ไม่โลภและยึดมั่นในคุณธรรม เช่นเดียวกับ เซเบย์ที่ยึดถือเกียรติแห่งซามูไรไว้เสมอ เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของซามูไรคนหนึ่งในยุคเอโดะที่มักน้อย ถ่อมตน สันโดษ ที่ต้องเจอมรสุมในชีวิต แต่เขาก็ยังยืนหยัดในวิถีแห่งซามูไรได้อย่างมั่นคง และไม่มีความโลภ ความทะเยอทะยานใดๆทั้งสิ้น ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและคำดูถูก รวมถึงความรักอันงดงามและปรัชญาการใช้ชีวิตที่ว่า
'เราจะใช้ชีวิตนี้ให้มีเกียรติและคุ้มค่าได้อย่างไร'
มีอีกหนึ่งประเด็นที่ผมคิดว่าหนังสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีมาก คือ การสอนคนให้ใฝ่รู้ และการแฝงประเด็นเรื่องเพศ ในยุคที่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนหนังสือ เพราะ พอโตก็โดนจับไปแต่งงานแล้ว (ยุคนั้นในสังคมญี่ปุ่น ยังมีความเหลื่อมล้ำทางเพศอยู่สูง) เซเบย์ก็ยังสอนลูกสาวเขาเสมอให้รักในการเรียนรู้ เพราะ สิ่งที่เซเบย์อยากให้ลูกสาวทั้งสองได้รับมากที่สุดจากการเรียน คือ เรื่อง "ความคิด" การเรียนเย็บปักถักร้อย ช่วยให้สามารถทำมาหากินได้ แต่การเรียนหนังสือ จะทำให้เรามีความคิด ความคิดที่จะทำให้เราเอาตัวรอดได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
หนังยังแฝงแนวคิดเกี่ยวกับการบรรลุปรัชญาแห่งซามูไร การดำรงตนตามแนวทางขงจื้อ วิถีเซน ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ ก็ได้สอนเราอย่างลึกซึ้งผ่านหนังและยังทำให้เราเข้าใจได้ว่า
" จิตใจที่มั่นคง จะทำให้เราชนะได้ทุกสิ่ง และคุณธรรม คือ สิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ "
นักแสดง
ในส่วนนักแสดง สำหรับผมแสดงดีทุกคน โดยไฮไลท์สำคัญ ได้แก่
ผู้รับบทเซเบย์ (Hiroyuki Sanada) พี่แกแสดงได้เนี้ยบจริงๆ ทั้งแววตา สีหน้า อันเยือกเย็น ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆ
ที่ขาดไม่ได้อีกอย่าง ก็คือ
โทโมเอะ (Rie Miyazawa) และลูกสาวทั้งสองของเซเบย์
(Erina Hashiguchi , Reiko Kusamura) ทั้งสามคนแสดงได้ดีมากๆ (Rie สวยมาก 555)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์
ในส่วนเพลงประกอบที่น่าสนใจ มีอยู่ 2 เพลง คือ
เพลงฉาก End Credit ของ Yosui Inoue ที่เล่นทำเอาผมแทบน้ำตาซึม รู้สึกเศร้าแต่ก็อิ่มเอมใจในตอนจบ ทำให้เราสามารถสัมผัสได้ความลึกซึ้งและความงดงามของหนังได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้น ส่วนอีกเพลงที่น่าสนใจ ก็คือ
Seibei's Theme อันเป็นธีมประจำตัวของเซเบย์ ด้วยการใช้เครื่องดนตรีญี่ปุ่นและสร้างทำนองออกมาในธีมญี่ปุ่นโบราณ ให้ความรู้สึกถึงตัวเซเบย์ อันมีคุณลักษณะของความเยือกเย็น นิ่ง แต่กล้าหาญและเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งซามูไร
황혼의 사무라이(Twilight Samurai Main theme) - Yosui Inoue
The Twilight Samurai (2002) Soundtrack (OST) - 12. Seibei's Theme
สรุป
สำหรับ
The Twilight Samurai ผมให้คะแนน
9.5/10 (ดีเยี่ยม อมตะและทรงคุณค่า) สำหรับคนที่ชื่นชอบในหนังญี่ปุ่น หนังซามูไร
The Twilight Samurai ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง หรือใครที่ชื่นชอบแนวหนังนอกกระแส หนังรางวัลหรือหนังปรัชญาที่ลึกซึ้ง The Twilight Samurai ก็ถือเป็นหนังที่ควรดูเป็นอย่างยิ่ง ยกเว้นกลุ่มคอหนังปกติหรือคอหนังแอ็คชันมันส์ๆ อันนี้บางทีอาจจะหลับได้ แต่ยังไงก็ดูเถอะ หนังโคตรดี (ถ้าอยากดูหนังซามูไรมันส์ๆ ก็แนะนำ
13 Assassins (2011) อันนี้มันส์มาก แต่ยังไงก็ผมชื่นชอบแนวทางแบบ The Twilight Samurai มากกว่า)
ส่วนตัวผม ยกให้เรื่องนี้เป็นหนังญี่ปุ่นขึ้นหิ้งเลย เป็นหนังที่งดงามและลึกซึ้ง ใครยังไม่เคยดู ก็แนะนำให้ดูกันนะครับ
" จิตใจที่มั่นคง จะทำให้เราชนะได้ทุกสิ่ง และคุณธรรม คือ สิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ "
9.5/10
----------------------------------------------------------------------
Tasogare Seibei (2002)(Imdb)
A 19th-century samurai tries to protect a battered wife.
Director: Yôji Yamada
Writers: Shûhei Fujisawa (novels), Yôji Yamada (screenplay) | 1 more credit »
Stars: Hiroyuki Sanada, Rie Miyazawa, Nenji Kobayashi | See full cast & crew »
----------------------------------------------------------------------
ป.ล.สำหรับคนที่ดูแล้ว ก็สามารถมาคุยกันได้นะครับ นี่เป็นหนึ่งในหนังที่ผมยกขึ้นหิ้งเลย ประทับใจมากๆ ชอบฉากไหน ประทับใจเรื่องใด ก็มาคุยแลกเปลี่ยนกันได้เลยครับ
ป.ล.2 อีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำซึ่งเป็นหนังของ
Yoji Yamada ก็คือเรื่อง
About her brother (2010) เป็นหนังที่ดีมากเช่นกัน ใครสนใจอยากติดตามก็แนะนำลองไปดูกันได้นะครับ
ป.ล.3 อีกหนึ่งช่องทาง หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุยกันนะครับ
[CR] (Review หนังเก่า) The Twilight Samurai (2002) : เรียบง่าย แต่คมคายในทุกอิริยาบถ
The Twilight Samurai เป็นหนังญี่ปุ่นอีกเรื่องที่ผมเพิ่งได้ดู หนังเรื่องนี้มีดีกรีถึงขนาดเข้าชิง ออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ปี 2004 และยังกวาดรางวัลจากเวทีออสการ์ญี่ปุ่นได้ถึง 12 รางวัลใหญ่ ซึ่งก็ถือว่าสมควรได้จริงๆ เพราะ เป็นหนังที่ลึกซึ้งและคมคายมาก ความลึกซึ้งของหนังยังสามารถกระตุกใจไปได้ถึงแก่นเลยทีเดียว
The Twilight Samurai ได้รับการกำกับโดย Yôji Yamada ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมของญี่ปุ่น ซึ่ง The Twilight Samurai นี้เป็นหนึ่งใน Samurai trilogy ของ Yoji อันได้แก่ The Twilight Samurai, The Hidden Blade และ Love and Honor (ทั้งสามเรื่องได้รับคำชมและกระแสวิจารณ์เชิงบวกมากมาย)
ในส่วนของหนังเรื่อง The Twilight Samurai มีเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเซเบย์ ซามูไรหนุ่ม ผู้ยึดมั่นในความยุติธรรมและมีจิตใจเข้มแข็งดั่งภูผาหิน ตัวเขาต้องแบกรับปัญหาต่างๆ และด้วยการที่เขามีบุคลิคนิสัยไม่เหมือนใคร ชอบปลีกวิเวกจากความวุ่นวาย ก็ยังทำโดนตั้งฉายาว่า " เซเบย์ ยามสายัณฑ์ (Tasagore Seibei) " อีกด้วย เขาเผชิญกับปัญหาต่างๆมากมายและสามารถผ่านมันไปได้ ด้วยการใช้คุณธรรมและการดำรงตนอยู่ในวิถีแห่งซามูไร ทั้งในเรื่องของความรัก หน้าที่การงานและในการต่อสู้
The Twilight Samurai เป็นหนังที่คารวะหนังซามูไรยุคเก่า
The Twilight Samurai มีสไตล์เรื่องที่คล้ายกับหนังซามูไรยุคเก่า สไตล์พล็อตเรื่องดราม่าเกี่ยวกับชีวิตที่ลำเค็ญ แต่พระเอกก็ยังเป็นคนดี ยึดมั่นในคุณธรรม มักน้อย สันโดษ (จริงๆคาแรคเตอร์ก็ดูคล้ายๆกับมิยาโมโตะ มุซาชิ นะครับ) รวมถึงที่พิเศษอีกอย่าง คือ การออกแบบโทนหนังให้ออกมาเหมือนหนังซามูไรยุคเก่า ทั้งมุมกล้อง โทนภาพทุกอย่าง ด้วยความละเอียดประณีต งดงาม คล้ายกับหนังญี่ปุ่นยุคเก่ามาก (เนียนจริงๆ)
เรียบง่าย ประณีต แต่ลึกซึ้งคมคายในทุกอิริยาบถ
แม้ว่าพล็อตเรื่องจะเดิมๆ อย่างที่รู้ๆกัน แต่หนังกลับมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ทำให้เราหวนรำลึกไปถึงหนังยุคเก่า สำหรับการดำเนินเรื่อง ก็ทำได้ดี ไม่น่าเบื่อเลย หนังเป็นแนวเรื่อยๆ บางทีอาจจะดูเนือยๆ เงียบๆ แต่ก็แฝงด้วยความคมคายในทุกอิริยาบถของหนัง เหมือนดาบซามูไรที่คมกริบ ไม่ว่าจะอยู่เฉยๆหรือจะนำมันไปฟัน มันก็คมเสมอ ในบางฉากก็เล่นเอาน้ำตาแทบไหลด้วยความอัดอั้น ความเจ็บปวดที่ซ่อนลึกในใจ รวมถึงฉากต่อสู้ ก็ทำได้ดีมากๆ สมจริงคล้ายๆกับเวลาที่ซามูไรต้องประดาบกัน คือ ไม่เน้นฟันกันเยอะ แต่ทุกครั้งที่ลงดาบ มันมีความหมายในการต่อสู้เสมอ ไม่มีการฟันกันพร่ำเพรื่อ
ที่สำคัญของหนังเรื่องนี้ คือ การแฝงแนวคิดอันลึกซึ้งในระดับที่กระตุกแก่นมนุษย์ขึ้นมาได้เลย เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างสมถะ ไม่โลภและยึดมั่นในคุณธรรม เช่นเดียวกับ เซเบย์ที่ยึดถือเกียรติแห่งซามูไรไว้เสมอ เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของซามูไรคนหนึ่งในยุคเอโดะที่มักน้อย ถ่อมตน สันโดษ ที่ต้องเจอมรสุมในชีวิต แต่เขาก็ยังยืนหยัดในวิถีแห่งซามูไรได้อย่างมั่นคง และไม่มีความโลภ ความทะเยอทะยานใดๆทั้งสิ้น ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและคำดูถูก รวมถึงความรักอันงดงามและปรัชญาการใช้ชีวิตที่ว่า 'เราจะใช้ชีวิตนี้ให้มีเกียรติและคุ้มค่าได้อย่างไร'
มีอีกหนึ่งประเด็นที่ผมคิดว่าหนังสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีมาก คือ การสอนคนให้ใฝ่รู้ และการแฝงประเด็นเรื่องเพศ ในยุคที่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนหนังสือ เพราะ พอโตก็โดนจับไปแต่งงานแล้ว (ยุคนั้นในสังคมญี่ปุ่น ยังมีความเหลื่อมล้ำทางเพศอยู่สูง) เซเบย์ก็ยังสอนลูกสาวเขาเสมอให้รักในการเรียนรู้ เพราะ สิ่งที่เซเบย์อยากให้ลูกสาวทั้งสองได้รับมากที่สุดจากการเรียน คือ เรื่อง "ความคิด" การเรียนเย็บปักถักร้อย ช่วยให้สามารถทำมาหากินได้ แต่การเรียนหนังสือ จะทำให้เรามีความคิด ความคิดที่จะทำให้เราเอาตัวรอดได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
หนังยังแฝงแนวคิดเกี่ยวกับการบรรลุปรัชญาแห่งซามูไร การดำรงตนตามแนวทางขงจื้อ วิถีเซน ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ ก็ได้สอนเราอย่างลึกซึ้งผ่านหนังและยังทำให้เราเข้าใจได้ว่า
นักแสดง
ในส่วนนักแสดง สำหรับผมแสดงดีทุกคน โดยไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ ผู้รับบทเซเบย์ (Hiroyuki Sanada) พี่แกแสดงได้เนี้ยบจริงๆ ทั้งแววตา สีหน้า อันเยือกเย็น ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆ
ที่ขาดไม่ได้อีกอย่าง ก็คือ โทโมเอะ (Rie Miyazawa) และลูกสาวทั้งสองของเซเบย์ (Erina Hashiguchi , Reiko Kusamura) ทั้งสามคนแสดงได้ดีมากๆ (Rie สวยมาก 555)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์
ในส่วนเพลงประกอบที่น่าสนใจ มีอยู่ 2 เพลง คือ เพลงฉาก End Credit ของ Yosui Inoue ที่เล่นทำเอาผมแทบน้ำตาซึม รู้สึกเศร้าแต่ก็อิ่มเอมใจในตอนจบ ทำให้เราสามารถสัมผัสได้ความลึกซึ้งและความงดงามของหนังได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้น ส่วนอีกเพลงที่น่าสนใจ ก็คือ Seibei's Theme อันเป็นธีมประจำตัวของเซเบย์ ด้วยการใช้เครื่องดนตรีญี่ปุ่นและสร้างทำนองออกมาในธีมญี่ปุ่นโบราณ ให้ความรู้สึกถึงตัวเซเบย์ อันมีคุณลักษณะของความเยือกเย็น นิ่ง แต่กล้าหาญและเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งซามูไร
สรุป
สำหรับ The Twilight Samurai ผมให้คะแนน 9.5/10 (ดีเยี่ยม อมตะและทรงคุณค่า) สำหรับคนที่ชื่นชอบในหนังญี่ปุ่น หนังซามูไร The Twilight Samurai ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง หรือใครที่ชื่นชอบแนวหนังนอกกระแส หนังรางวัลหรือหนังปรัชญาที่ลึกซึ้ง The Twilight Samurai ก็ถือเป็นหนังที่ควรดูเป็นอย่างยิ่ง ยกเว้นกลุ่มคอหนังปกติหรือคอหนังแอ็คชันมันส์ๆ อันนี้บางทีอาจจะหลับได้ แต่ยังไงก็ดูเถอะ หนังโคตรดี (ถ้าอยากดูหนังซามูไรมันส์ๆ ก็แนะนำ 13 Assassins (2011) อันนี้มันส์มาก แต่ยังไงก็ผมชื่นชอบแนวทางแบบ The Twilight Samurai มากกว่า)
ส่วนตัวผม ยกให้เรื่องนี้เป็นหนังญี่ปุ่นขึ้นหิ้งเลย เป็นหนังที่งดงามและลึกซึ้ง ใครยังไม่เคยดู ก็แนะนำให้ดูกันนะครับ
Tasogare Seibei (2002)(Imdb)
A 19th-century samurai tries to protect a battered wife.
Director: Yôji Yamada
Writers: Shûhei Fujisawa (novels), Yôji Yamada (screenplay) | 1 more credit »
Stars: Hiroyuki Sanada, Rie Miyazawa, Nenji Kobayashi | See full cast & crew »
ป.ล.สำหรับคนที่ดูแล้ว ก็สามารถมาคุยกันได้นะครับ นี่เป็นหนึ่งในหนังที่ผมยกขึ้นหิ้งเลย ประทับใจมากๆ ชอบฉากไหน ประทับใจเรื่องใด ก็มาคุยแลกเปลี่ยนกันได้เลยครับ
ป.ล.2 อีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำซึ่งเป็นหนังของ Yoji Yamada ก็คือเรื่อง About her brother (2010) เป็นหนังที่ดีมากเช่นกัน ใครสนใจอยากติดตามก็แนะนำลองไปดูกันได้นะครับ
ป.ล.3 อีกหนึ่งช่องทาง หากชอบรีวิวหรืออยากติดตามพูดคุยกันนะครับ