ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ร้องเรียน กสทช. หลังได้ผลกระทบจากการออกอากาศเนื้อหาผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊กไลฟ์ ว่ามีผลต่อการแข่งขันไม่เป็นธรรม และส่งผลต่อจำนวนผู้ชมผ่านโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. จึงเตรียมตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อหาทางกำกับดูแลการออกอากาศออนไลน์
วันนี้ (25 เม.ย.2560) พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กสทช.วาระพิเศษ เมื่อวานนี้ว่า ที่ประชุม กสทช.มีมติเห็นควรให้บริการธุรกิจโอเวอร์ เดอะ ท็อป ( OTT) หรือ กิจการแพร่ภาพและเสียงบนโครงข่ายอื่น ให้เป็นกิจการที่อยู่ภายใต้ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสทช.ยังมีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหาแนวทางกำกับกิจการแพร่ภาพและเสียงบนโครงข่ายอื่น 1 คณะ โดยแต่งตั้ง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการ และมีคณะอนุกรรมการอีก 10 คน ระยะเวลาการทำงานเป็นเวลา 1 ปี คาดว่าจะได้รายชื่อในวันศุกร์นี้
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ ไม่ได้มีความพยายามที่จะควบคุมเนื้อหาการออกอากาศ OTT แต่การแพร่ภาพและเสียงบนโครงข่ายอื่น ทำให้ผู้ประกอบการโทรทัศน์ภาคพื้นดินบนระบบดิจิทัลร้องเรียนมาหลายรายว่าทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมกระทบต่อลิขสิทธิ์
การตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาดูแลก็เพื่อประโยชน์สาธารณะ เนื่องจากประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการสามารถรับข้อมูลข่าวสาร แต่การประกอบกิจการก็ควรต้องมีความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
มีรายงานว่าผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงตัวอย่างของ OTT ว่า เป็นในลักษณะการออกอากาศทาง Facebook Live Youtube / You Tube live หรือ Line TV ใช่หรือไม่ แต่ซึ่ง พ.อ.นที ยังไม่ขอยกตัวอย่างว่าเป็นกิจการใดที่เข้าข่าย OTT จนกว่าที่ประชุมจะมีมติในคำจำกัดความออกมาอย่างเป็นทางการเสียก่อน
ก่อนหน้านี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับองค์กรกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมในอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย และได้มีประเด็นหารือ เกี่ยวกับธุรกิจโอเวอร์ เดอะ ท็อป (OTT) หรือธุรกิจที่ใช้ความสามารถของแอพพลิชั่น ผนวกเข้ากับช่องทางการสื่อสารในธุรกิจโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมกระจายเสียงแพร่ภาพ อาทิ ไลน์ เฟซบุ๊ก อะโกด้า แอร์เอ็นบีเอ็นบี ที่มีผลกระทบกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโครงข่ายสื่อสาร แต่ใช้แอร์ไทม์ของผู้ให้บริการในการทำธุรกิจ โดยไม่ได้มีการแบ่งส่วนแบ่งรายได้หรือหักภาษี ซึ่งที่ประชุมได้แสดงความเป็นห่วงถึงผลกระทบของธุรกิจต่ออุตสาหกรรม และเห็นว่าควรวางแนวในการกำกับดูแลเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจ
ที่มา
http://news.thaipbs.or.th/content/261898
กสทช. เตรียมคุมการออกอากาศเนื้อหาออนไลน์ เช่นเฟซบุกไลฟ์ หลังได้รับร้องเรียนว่ามีผลต่อการแข่งขันไม่เป็นธรรม
วันนี้ (25 เม.ย.2560) พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กสทช.วาระพิเศษ เมื่อวานนี้ว่า ที่ประชุม กสทช.มีมติเห็นควรให้บริการธุรกิจโอเวอร์ เดอะ ท็อป ( OTT) หรือ กิจการแพร่ภาพและเสียงบนโครงข่ายอื่น ให้เป็นกิจการที่อยู่ภายใต้ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
นอกจากนี้ ที่ประชุม กสทช.ยังมีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหาแนวทางกำกับกิจการแพร่ภาพและเสียงบนโครงข่ายอื่น 1 คณะ โดยแต่งตั้ง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการ และมีคณะอนุกรรมการอีก 10 คน ระยะเวลาการทำงานเป็นเวลา 1 ปี คาดว่าจะได้รายชื่อในวันศุกร์นี้
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ ไม่ได้มีความพยายามที่จะควบคุมเนื้อหาการออกอากาศ OTT แต่การแพร่ภาพและเสียงบนโครงข่ายอื่น ทำให้ผู้ประกอบการโทรทัศน์ภาคพื้นดินบนระบบดิจิทัลร้องเรียนมาหลายรายว่าทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมกระทบต่อลิขสิทธิ์
การตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาดูแลก็เพื่อประโยชน์สาธารณะ เนื่องจากประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการสามารถรับข้อมูลข่าวสาร แต่การประกอบกิจการก็ควรต้องมีความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
มีรายงานว่าผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงตัวอย่างของ OTT ว่า เป็นในลักษณะการออกอากาศทาง Facebook Live Youtube / You Tube live หรือ Line TV ใช่หรือไม่ แต่ซึ่ง พ.อ.นที ยังไม่ขอยกตัวอย่างว่าเป็นกิจการใดที่เข้าข่าย OTT จนกว่าที่ประชุมจะมีมติในคำจำกัดความออกมาอย่างเป็นทางการเสียก่อน
ก่อนหน้านี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับองค์กรกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมในอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย และได้มีประเด็นหารือ เกี่ยวกับธุรกิจโอเวอร์ เดอะ ท็อป (OTT) หรือธุรกิจที่ใช้ความสามารถของแอพพลิชั่น ผนวกเข้ากับช่องทางการสื่อสารในธุรกิจโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมกระจายเสียงแพร่ภาพ อาทิ ไลน์ เฟซบุ๊ก อะโกด้า แอร์เอ็นบีเอ็นบี ที่มีผลกระทบกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโครงข่ายสื่อสาร แต่ใช้แอร์ไทม์ของผู้ให้บริการในการทำธุรกิจ โดยไม่ได้มีการแบ่งส่วนแบ่งรายได้หรือหักภาษี ซึ่งที่ประชุมได้แสดงความเป็นห่วงถึงผลกระทบของธุรกิจต่ออุตสาหกรรม และเห็นว่าควรวางแนวในการกำกับดูแลเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจ
ที่มา http://news.thaipbs.or.th/content/261898