http://www.thairath.co.th/content/433263
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี สามารถออกอากาศได้เพิ่มเติมอีก 72 ช่อง ส่งผลให้ช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ที่สามารถออกอากาศได้ทั้งหมด 497 ช่อง ส่วนที่เหลืออีก 30 ช่อง ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการเนื้อหาและคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คาดว่าสัปดาห์หน้าจะนำเสนอบอร์ด กสท.พิจารณาอนุมัติได้ ส่วนอีก 14 ช่อง ที่ถูกปิดตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ก็อยู่ในกระบวนการ ซึ่งต้องรอคำสั่ง คสช.เท่านั้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังยืนยันสั่งปรับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กรณีรายการไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ ตอนสิทธัตถะ มูลค่า 500,000 บาท
และสั่งปรับบริษัท ซีทีเอช จำกัด บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ที่ออกอากาศรายการซีรีส์เด็กซ์เตอร์ เพราะมีเนื้อหารุนแรง สั่งปรับรายละ 50,000 บาท โดยกรณีนี้ที่ประชุมได้หารือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นซีรีส์ต่างประเทศ เป็นลิขสิทธิ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นผู้ที่จะนำเรื่องดังกล่าวมาฉายต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากเนื้อหาไม่เหมาะสม ก็ไม่ควรซื้อลิขสิทธิ์ และควรนำเรื่องที่เหมาะสมมาเผยแพร่ในประเทศ
“การอนุญาตให้ช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีต่างๆ กลับมาออกอากาศอีกครั้ง กสทช.ได้ระบุเงื่อนไขไว้ชัดเจนว่าแต่ละรายดำเนินการอย่างไรและต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามเงื่อนไขใบอนุญาต เช่น มีการโฆษณาสินค้าไม่ผ่านกฎหมายอาหารและยา มีคำสั่งทางปกครอง เป็นต้น ซึ่งแต่ละรายจะรับทราบอนุญาตของตัวเองว่าต้องปรับปรุงอย่างไร และต่อไปนี้หากมีเนื้อหาไม่เหมาะสมผู้ให้บริการโครงข่ายจะต้องร่วมรับผิดชอบและจ่ายค่าปรับด้วย เพื่อสร้างความรับผิดชอบร่วมกัน”
*** ซีรี่ส์แนว Dexter ต่อไปคงหมดสิทธิ์ฉายในในทีวีประเทศไทยสินะ กสทช. เขาว่าเนื้อหารุนแรงเกิน ***
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี สามารถออกอากาศได้เพิ่มเติมอีก 72 ช่อง ส่งผลให้ช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ที่สามารถออกอากาศได้ทั้งหมด 497 ช่อง ส่วนที่เหลืออีก 30 ช่อง ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการเนื้อหาและคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คาดว่าสัปดาห์หน้าจะนำเสนอบอร์ด กสท.พิจารณาอนุมัติได้ ส่วนอีก 14 ช่อง ที่ถูกปิดตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ก็อยู่ในกระบวนการ ซึ่งต้องรอคำสั่ง คสช.เท่านั้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังยืนยันสั่งปรับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กรณีรายการไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ ตอนสิทธัตถะ มูลค่า 500,000 บาท และสั่งปรับบริษัท ซีทีเอช จำกัด บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ที่ออกอากาศรายการซีรีส์เด็กซ์เตอร์ เพราะมีเนื้อหารุนแรง สั่งปรับรายละ 50,000 บาท โดยกรณีนี้ที่ประชุมได้หารือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นซีรีส์ต่างประเทศ เป็นลิขสิทธิ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นผู้ที่จะนำเรื่องดังกล่าวมาฉายต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากเนื้อหาไม่เหมาะสม ก็ไม่ควรซื้อลิขสิทธิ์ และควรนำเรื่องที่เหมาะสมมาเผยแพร่ในประเทศ
“การอนุญาตให้ช่องรายการทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีต่างๆ กลับมาออกอากาศอีกครั้ง กสทช.ได้ระบุเงื่อนไขไว้ชัดเจนว่าแต่ละรายดำเนินการอย่างไรและต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามเงื่อนไขใบอนุญาต เช่น มีการโฆษณาสินค้าไม่ผ่านกฎหมายอาหารและยา มีคำสั่งทางปกครอง เป็นต้น ซึ่งแต่ละรายจะรับทราบอนุญาตของตัวเองว่าต้องปรับปรุงอย่างไร และต่อไปนี้หากมีเนื้อหาไม่เหมาะสมผู้ให้บริการโครงข่ายจะต้องร่วมรับผิดชอบและจ่ายค่าปรับด้วย เพื่อสร้างความรับผิดชอบร่วมกัน”