[CR] 10 ที่ห้ามพลาดในเวนิส

ประสบการณ์ตรงคือหาข้อมูลเกี่ยวกับเวนิสเวอร์ชันภาษาไทยได้น้อยมากๆ ก็เลยมารีวิวสถานที่ที่ไม่ควรพลาดถ้าได้ไปเวนิส อันนี้กลั่นกรองมาแล้วจากที่ไปมา 5 วัน
แต่เอาจริงๆในเวนิสยังมีสถานที่น่าไปอีกเยอะโดยเฉพาะพวกพิพิธภัณฑ์เช่น  Galleria dell'accademia  ที่ว่ากันว่าไม่เป็นสองรองจาก Uffizi ที่ฟลอเรนซ์ แต่ว่าแต่ละที่ต้องใช้เวลาเยอะ อย่างน้อยก็ครึ่งวัน

เริ่มกันเลยดีกว่า

1. Piazza San Marco
    

    ทำความเข้าใจกันก่อนว่า San Marco กับ Saint Mark ก็คือคนเดียวกันแค่เป็นชื่ออิตาลีกับอังกฤษ ตรงบริเวณจตุรัสนี้มีสถานที่น่าสนใจคือ
    Basilica San Marco หรือมหาวิหารซานมาโค
    
    ภาพพื้นหลังสีทองที่เห็นนั้นเป็นการเรียงจากกระเบื้องโมเสก

    มหาวิหารนี้โดดเด่นด้วยรูปประดับทั้งหมด ที่สร้างจากกระเบื้องโมเสกชิ้นเล็กๆเรียงกันมี ตัวมหาวิหารเป็นศิลปะแบบไบเซนไทน์เนื่องด้วยสมัยเวนิสรุ่งเรืองนั้นมีการติดต่อกับไบเซนไทน์อย่างต่อเนื่อง
    ตัวมหาวิหารนั้นดูฟรี ส่วนที่ต้องเสียเงินมี 3 ส่วนคือ
     St. Mark Treasury ขุมสมบัติของเซนต์มาร์ค จริงๆก็ไม่มีอะไรมากๆมายหนักไปทางเครื่องประดับ เครื่องใช้ที่เป็นทอง บอกไว้ก่อนว่าคงไม่ได้ถึงกับร้องว้าว ค่าเข้าชมตรงนี้ 3 Euro
     Palla d'o  ฉากทองหลังแท่นบูชาที่ประดับไปด้วยอัญมณีมากมายตกแต่งเป็นภาพที่สวยงาม ค่าชม 2 Euro
     Museum & Terrace 5 Euro อันนี้ควรชมมากแม้ต้องเดินขึ้นบันไดสูงชันขึ้นไป เพราะจะได้พบกับม้าของเซนต์มาร์คที่เอามาจากกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ลในสงครามครูเสดครั้งที่ 4  ตัวที่ตั้งอยู่ข้างในคือของจริงส่วนที่อยู่ตรงระเบียงคือของจำลอง บนนี้จะมีแบบจำลองสถาปัตยกรรมด้านโครงสร้างของมหาวิหารและศิลปะวัตถุโบราณต่างๆ นอกจากนี้ยังจะได้ดูภาพใหญ่ๆเกิดจากการเอากระเบื้องโมเสกมาเรียงแบบชัดๆใกล้ๆอีกด้วย
    แนะนำให้เดินดูมหาวิหารก่อนถ้าสนใจก็จ่ายเป็นส่วนๆไป
  
Museo Correr พิพิธภัณฑ์กอแรร์ ทางเข้าตั้งอยู่บนจตุรัสด้านทิศตะวันตกตรงที่เรียกว่า  นโปเลียนวิง สร้างสมัยพระเจ้านโปเลียนบุกมายึดเวนิส
        พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทั้งโบราณวัตถุและศิลปะวัตถุของเวนิสแบบครบๆ
    ห้ามพลาดกับภาพพิมพ์แผนที่เวนิสโบราณ ที่พิมพ์จากบล็อกไม้แกะเป็นรูปแผนที่ขนาดใหญ่ 4 ชิ้น และห้องนโปเลียนบอลรูม
      ภาพ:เพดานห้องนโปเลียนบอลรูม

   ควรซื้อตั๋วล่วงหน้าเพราะคิวค่อนข้างยาวแม้ไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น
   
Palazzo Ducale  หรือวังผู้ครองนคร ภาษาอังกฤษคือ Doge Palace แต่จริงๆเป็นทั้งที่ประชุมสภา ศาล ที่พัก
   ตำแหน่ง Doge นั้นก็คือผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐเวนิสในตอนนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้างในจะโอ่อ่าเพียงใด
   ห้ามพลาดกับห้องประชุมสภา ส่วนใครที่ชื่นชอบการรบของฝั่งยุโรปก็มีพวกอาวุธสมัยโบราณให้ชมด้วย
   


   ภาพล่าง: มุมมองไปข้างนอกจากสะพานเชื่อมคุกกับ Palace ที่ชื่อ Bridge of Sighs สะพานถอนหายใจ นักโทษจะได้ดูท้องฟ้าและทะเลเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อข้ามสะพานนี้ที่ต่อไปยังคุกที่เคยขังคนดังอย่างคาสโนว่ามาแล้ว
   
  แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าเพราะขนาดไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นคิวยังค่อนข้างยาว

2. Basilica di santa Maria Gloriosa dei Frari
   โบสต์สไตล์กอธิกที่การตกแต่งภายนอกเห็นเพียงแค่ก้อนอิฐเรียงกันแต่ข้างในนั้นไม่ธรรมดา
    The Assumption of The Virgin ภาพพระแม่มารีสู่สวรรค์ผลงานของ ทีเชียน ที่ตั้งอยู่บนแท่นบูชานั้นสะกดสายตาได้เป็นอย่างดี
        นอกจากนี้ยังมีผลงานของศิลปินดังๆอย่าง Bellini (Madonna and the child) รูปปั้นเซนต์จอห์นโดย ดอนนาเทลโล
    Choir Stall แถวที่นั่งแกะสลักจากไม้ผลงานของ Marco Cozzi  
    หอระฆังของที่นี่ยังสูงเป็นอันดับสองของเวนิสอีกด้วยโดยเป็นรองเฉพาะหอระฆังซานมาโค


3. Basilica San Giorgio Maggiore
        โบสต์อีกแห่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมข้ามฟากมาจากซานมาโคได้เลย ตัววิหารออกแบบโดย อันเดรีย พาลาดิโอ สถาปนิกชื่อดังแห่งยุค ซึ่งถ้าใครเคยไปเมืองวิเซนซา เกือบทุกตึกที่เป็น landmarks ออกแบบโดยพาลาดิโอคนนี้
    ห้ามพลาด
    ภาพ The Last Supper ของตินโตเรตโตที่ใช้การสื่อสารแบบสมจริงคือมีกลุ่ม human ในภาพที่ก็ทำหน้าที่ต่อไปโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และ กลุ่ม unhuman ที่มีเทพ พระเยซูและสาวกที่มีรังสีเรืองรอง
    หอระฆังที่สามารถชมเวนิสในมุมที่ดีที่สุด
        ภาพ: วิวจากหอระฆัง
    รู้หรือไม่? ในช่วงที่นโปเลียนยึดกรุงโรม การเลือกตั้งพระสันตปาปามีขึ้นที่นี่
    
4. Chiesa di San Sebastiano
   โบสต์ขนาดกลางนี้ เป็นโบสต์ที่รวมภาพศิลปินมากสุดก็ว่าได้ ผลงานโดยส่วนใหญ่เป็นของศิลปินชาวเวนิส เปาโล เวโรเนสเส (ภาพเพดาน) นอกจากนี้ก็มีภาพของตินโตเรตโต, ทิเชียน, ปารีส บอโดเน, จาคอปโป ซานโซวิเน
   เสียดายตอนไปโบสต์กำลังซ่อมแซม
      ภาพ:เพดานโบสต์

5. Fondamenta Sacca
    พื้นที่ริมทะเลแห่งนี้เหมาะกับการมาดูพระอาทิตย์ตกมากๆ หากว่าอากาศดีๆจะมองไปได้ไกลถึง Dolomite  ส่วนหนึ่งของ Alp ใต้เลยทีเดียว และด้วยความที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวหลัก คนที่ชื่นชอบความเงียบสงบจะต้องรักที่นี่ และถ้ามาเป็นคู่จะฟินขึ้นอีกแน่นอน

6. Burano

   ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากเวนิส เป็นเกาะที่โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสีสดใส ระวังเมมโมรี่กล้องจะหมดไม่รู้ตัว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ผ้าลูกไม้อันเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่อีกด้วย

7. Scala Contarini del Bovolo
      Palace หลังเล็กของตระกูล Contarini ที่เคยเป็น Doge ของเวนิสมาแล้ว ตัวอาคารซ่อนอยู่ในตรอกแคบๆ โดดเด่นด้วยบันไดวนเชื่อมระหว่างชั้น ชั้นบนสุดสามารถมองไปได้ถึงมหาวิหารและหอระฆังแห่งซานมาโค
  
8. Rialto Market
    ว่ากันว่าถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศแท้ๆของเมืองนั้นๆ ให้ไปที่ตลาดของเมืองนั้นๆ คนส่วนใหญ่มักจะไปแค่สะพานริอัลโตแต่ตลาดเช้าริอัลโตนี่ห้ามพลาดมากๆ เป็นตลาดที่แทบจะยกทะเลมาไว้เลย ที่นี่จะเห็นหมึกที่เอาไปทำพาสต้าซอสหมึกดำทั้งหลาย ปลาตาเดียวตัวใหญ่เบ้ง นอกจากนี้ก็จะมีผักผลไม้ ของแห้งบ้างประปราย

9. Santa Maria della Salute

โบสต์โรมันคาทอลิกนี้สร้างขึ้นเพื่อพระแม่มารีในคราวที่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ในเวนิสคร่าชีวิตพลเมืองไปกว่า 1 ใน 3 ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่มีคำว่า  Salute ที่แปลว่าสดุดีต่อท้ายชื่อ  เป็นที่มาของชื่อที่เรียกกันสั้นๆว่า Salute  
รูปสำคัญคือ  Madonna and the child  อยู่ที่แท่นบูชา
เป็นรูปที่เป็นบรรณาการจากการสงบศึกสงคราม Candia กับเติร์ก มีอายุราวคริสต์ศตวรรษที่ 12
  
10. Ponte dell'Accademia
ส่วนตัวยกให้สะพานนี้เป็นจุดชม Grand Canal ที่สวยที่สุดในเวนิส Facade ที่สวยงามของตึกต่างๆไล่เรียงไปถึง Salute โดยมีเรือต่างๆแล่นมาในคลองเป็นระยะๆ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะไปเที่ยวเวนิสด้วยตัวเองไม่มากก็น้อยนะครับ ถ้ามีคำถามเกี่ยวกัเวนิสก็ถามมาได้ครับ มีข้อมูลจะตอบให้ครับผม
ชื่อสินค้า:   10 ที่ห้ามพลาดในเวนิส
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่